เด็กมันยั่วเลยหลวมตัวหลงรัก ตอนที่ 1

2340 คำ
เด็กหญิงมาหยา หัสวีมองเพื่อนร่วมห้องนามว่า      ดาริน เลิศตระกูลกำลังโดนเพื่อนร่วมชั้นรังแกก็รีบเข้าไปช่วยในทันที “นายเขตต์แกล้งเพื่อนอีกแล้วนะ ไอ้อ้วนหมูตอนนิสัยไม่ดี” มาหยาเข้าไปขวางเอาไว้ ในขณะที่ดารินหลบไปอยู่ทางด้านหลัง ดารินเป็นเพื่อนใหม่ของทุกคนรวมถึงมาหยาด้วยเพราะเพิ่งย้ายมาเรียนที่โรงเรียนอนุบาลแห่งนี้ในชั้นอนุบาลสาม “ถอยไปยายหน้าซาลาเปา โอ๊ย!” มาหยาไม่ชอบให้ใครเรียกว่าหน้าซาลาเปา หมัดน้อยๆ ต่อยเข้าที่ใบหน้าของเด็กชายเขตต์ เทพพัชรโยธินเต็มๆ จนเลือดกำเดาไหล “เลือด! เลือด! ครูครับยายหน้าซาลาเปาต่อยผมเลือดไหล ฮือๆๆ” เขตต์วิ่งไปฟ้องครูประจำชั้นเมื่อเห็นเลือด “ตายแล้วมาหยาหนูต่อยเพื่อนทำไมลูก เลือดไหลเต็มเลย คุณครูพี่ส้มรีบมาช่วยปฐมพยาบาลน้องเขตต์ก่อนค่ะ” คุณครูนงลักษณ์ตกใจ รีบให้เด็กชายตัวน้อยเงยหน้าขึ้น รีบให้ครูพี่เลี้ยงใช้น้ำแข็งประคบที่หน้าผากเพื่อให้เลือดกำเดาหยุดไหล “ไอ้หมูตอนเขตต์แกล้งเพื่อนใหม่ค่ะคุณครู” มาหยาพูดจาฉะฉานไม่กลัวครูดุ ด้วยว่าเขตต์ชอบแกล้งเพื่อนในห้อง “จริงเหรอครับ น้องเขตต์แกล้งเพื่อนเหรอลูก” คุณครูนงลักษณ์เป็นคนยุติธรรมและรักเด็ก ไม่ทำโทษเด็กสุ่มสี่สุ่มห้า เธอรีบเอ่ยถามทันทีหลังจากที่เลือดกำเดาของเขตต์หลุดไหลแล้ว “ผมเปล่านะครับ” เขตต์ตอบปฏิเสธแต่ไม่กล้ามองหน้าครู “ไอ้หมูตอนแกล้งดารินค่ะคุณครู ไอ้หมอนี่เป็นผู้ร้ายปากแข็ง แกล้งเปิดกระโปรงแล้วดึงกางเกงในของดารินออกมาด้วย ไม่เป็นสุภาพบุรุษเอาเสียเลย” มาหยาเท้าสะเอวด่าเขตต์จนอีกฝ่ายเถียงไม่ออก “เราเป็นผู้ชายไปแกล้งผู้หญิงแบบนั้นได้ยังไงครับ ขอโทษดารินเดี๋ยวนี้เลยนะ” ครูนงลักษณ์หันไปดุเด็กชาย เขตต์หน้าจ๋อย มาหยาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ พอคุณครูหันมาก็ยืนนิ่งด้วยท่าทีอย่างเรียบร้อย “ขอโทษก็ได้” เด็กชายตัวอ้วนพูดอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก ดารินที่หลบอยู่ด้านหลังของเพื่อนใหม่ขยับใบหน้าออกมาดูเล็กน้อยก่อนจะหลบไปอีก “ไม่ต้องไปกลัวไอ้หมูตอนหรอกริน ชิชะชอบแกล้งผู้หญิง วันหลังถ้าแกล้งกันอีกจะเอากระโปรงครอบหัวให้เลย ไม่เชื่อคอยดูไปสิ แต่ถ้ายังไม่หยุดอีกได้เตะก้านคอแน่ๆ” มาหยากอดอกแยกเขี้ยวใส่เขตต์ “ตายแล้วมาหยา หนูเป็นผู้หญิงนะลูก ทำแบบนั้นมันไม่งาม” ครูนงลักษณ์ยกมือขึ้นทาบอก “คุณพ่อบอกว่าถ้าโดนแกล้งให้เตะก้านคอไปเลยค่ะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นคุณพ่อจะรับผิดชอบเอง” “ตายแล้วอกอีแป้นจะแตก” “เป็นผู้หญิงแล้วทำไมคะครู จะปล่อยให้เด็กผู้ชายมารังแกฝ่ายเดียวเหรอ คุณพ่อสอนว่าผู้หญิงกับผู้ชายสิทธิเท่าเทียมกันค่ะ” “แต่หนูทำรุนแรงกับเพื่อนนะคะ ยังไงก็ต้องขอโทษ” คุณครูนงลักษณ์ตัดสิน ไม่มีการทุบตีทำร้ายเด็ก เพราะเด็กยังเป็นแค่เด็กอนุบาลตัวเล็กๆ ถ้าทำผิดก็จะให้เด็กๆ ขอโทษกันแล้วเลิกแล้วต่อกัน เด็กๆ ทะเลาะกันไม่กี่วันก็ดีกันกลับมาเล่นกันใหม่ เขตต์กับมาหยาทะเลาะกันตั้งแต่อนุบาลหนึ่งเพราะครูประจำชั้นเคยมาเล่าให้ฟัง เธอจึงเห็นเป็นเรื่องคุ้นชินและไกล่เกลี่ยนกันได้ ผู้ปกครองของทั้งสองฝั่งก็ค่อนข้างจะมีเหตุผลไม่ใช้แต่อารมณ์จึงไม่หนักใจเท่าใดนัก เขตต์แลบลิ้นปลิ้นตาใส่บ้าง มาหยาเห็นดังนั้นก็แยกเขี้ยวกลับไป จนโดนคุณครูดุ “มาหยา ทำกิริยาแบบนั้นไม่น่ารักเลยนะคะ” “ก็ไอ้อ้วนหมูตอน เอ๊ย! นายเขตต์แลบลิ้นปลิ้นตาใส่หนูก่อน” มาหยาฟ้องคุณครู พอคุณครูหันไปมอง เขตต์ก็หยุดทำเสีย “ยายหน้าซาลาเปา เอ๊ย! มาหยาใส่ความผมครับ” “เอาละๆ ผิดก็ว่ากันไปตามผิด ถูกก็ว่ากันไปตามถูก มาหยาต้องขอโทษเขตต์ที่ต่อยเพื่อนจนเลือดกำเดาไหลนะจ๊ะ” “ขอโทษก็ได้ค่ะ” มาหยาขอโทษอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก “วันนี้ผู้ปกครองมารับ ครูจะต้องแจ้งเรื่องนี้กับผู้ปกครองของพวกเรา โดยเฉพาะเขตต์ เราเป็นผู้ชายต้องให้เกียรติผู้หญิงนะรู้ไหม เล่นไปถลกกระโปรงดึงกางเกงในผู้หญิงแบบนั้นมันไม่ดี” เขตต์หน้าสลดลงทันทีที่โดนครูดุ ในเย็นวันนั้นเขื่อนไปรับหลานชายที่โรงเรียนอนุบาลและได้รู้ว่าหลานชายไปแกล้งเพื่อนร่วมห้อง เขารีบเอ่ยขอโทษขอโพยเด็กหญิงดารินเป็นการใหญ่ “อาเขื่อนครับ ผมโดนยายหน้าซาลาเปาต่อยด้วยครับ” เขตต์รีบฟ้องคุณอาหนุ่ม “โดนต่อยเหรอ” เขานึกว่าหลานชายโดนเด็กผู้ชายในห้องเรียนต่อยเสียอีก  ยังคิดว่ามันเกินไปที่เด็กตัวเล็กๆ แบบนี้ จะทำร้ายร่างกายกันจนเลือดตกยางออก “น้องเขตต์ไปแกล้งดารินก่อนน่ะค่ะ เลยโดนมาหยาต่อยหน้าเข้าให้” คุณครูนงลักษณ์ดึงมาหยามายืนอยู่ใกล้ๆ เขื่อนถึงกับกะพริบตาปริบๆ ที่หลานชายโดนเด็กหญิงตัวน้อยข้างบ้านต่อยเอาแบบนี้ บ้านของเขากับมาหยานั้นมีรั้วบ้านติดกันเพราะอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน บิดามารดาของเธอเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของเขา บ้านหลังนี้เดิมทีเป็นของบิดามารดาที่ยกให้เขามาพักอาศัยขณะที่เรียนหมอในมหาวิทยาลัยชั้นนำของภาคใต้ ในขณะที่ท่านย้ายไปอยู่ภาคเหนือกับพี่ชายคนรอง ส่วนเขตต์นั้นเป็นลูกชายของพี่ชายคนโตที่เสียชีวิตไปพร้อมกับพี่สะใภ้ของเขาเมื่อหลานปีก่อน ทิ้งหลานชายเอาไว้ให้ครอบครัวดูแล และเขตต์ก็ติดเขามากจึงพามาอยู่ด้วยกัน ทุกวันเขาจึงต้องมารับส่งหลานชายตัวน้อยที่โรงเรียน “หยาต่อยหลานอาเหรอครับ” เขื่อนเอ่ยถาม เขากะพริบตามองเด็กน้อยแก้มใส ปากแดง น่ารัก ถักเปียกสองข้าง อยู่ในชุดอนุบาลด้วยความเอ็นดูเหลือล้น “ไอ้หมูตอนชอบแกล้งเปิดกระโปรงเด็กผู้หญิงในห้องค่ะ ถ้าวันหลังทำอีก หยาจะเอากระโปรงครอบหัวเลยคอยดู ไม่มีใครสั่งสอนหรือไงกันนะ” เขื่อนสะดุ้ง รู้สึกคล้ายจะโดนเด็กด่า “อาขอโทษด้วยนะครับ ต่อไปจะไม่ให้หลานของอาแกล้งใครอีกแล้ว” เขื่อนนั่งลงตรงหน้าของเด็กหญิงมาหยา เขาเผยยิ้มเมื่อเห็นความเฉลียวฉลาดกล้าหาญของเธอที่ปกป้องเพื่อนโดยไม่เกรงกลัวใคร เขาเห็นเธอมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย จึงรู้ดีว่าเธอน่ะซนน่าดู บิดามารดาเลี้ยงแบบตามใจและให้ความรักเต็มเปี่ยมเธอเลยไม่เกรงกลัวใคร แต่ถ้าสิ่งไหนผิดหรือไม่ดีบิดามารดาของเธอก็ไม่ได้ตามใจไปเสียทุกเรื่อง “อ้าวเขื่อนมารับหลานเหรอจ๊ะ” รติรสเอ่ยทักทายเขื่อน ทำให้มาหยารีบวิ่งไปหามารดาในทันที “คุณแม่ขาวันนี้นายหมูตอนอ้วนเหมือนลูกบอลแกล้งรินด้วยค่ะ”               มาหยารีบฟ้อง “เราไม่ได้ชื่อนายอ้วน เราชื่อเขตต์” เด็กชายแยกเขี้ยวใส่ทันที “เราก็ไม่ได้ชื่อยายซาลาเปาเราชื่อมาหยา” มาหยาแยกเขี้ยวกลับ “เอาละเด็กๆ อย่าทะเลาะกันเลยจ้ะ เอาเป็นว่าเย็นนี้แม่จะทำอาหารอร่อยๆ ให้กินดีไหม แล้วก็คืนดีกันซะนะจ๊ะ อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงทะเลาะกันไม่ดีนะ” “ใช่ครับ ทะเลาะกันไม่ดี ดูสิเลือดตกยางออกเลย” เขื่อนเห็นด้วย “ใครเลือดตกยางออกกันจ๊ะ” “หนูหยาน่ะสิคะ ต่อยน้องเขตต์จนเลือดกำเดาไหล” คุณครูเป็นคนเล่า “ตายแล้ว! ทำไมหนูทำรุนแรงกับเพื่อนแบบนั้นล่ะจ๊ะ” “ก็นายหมูตอน เอ๊ย! นายเขตต์ชอบแกล้งเพื่อนในห้องค่ะ ทำตัวเป็นเด็กมีปัญหา” “อย่าว่าเพื่อนแบบนั้นสิหยา นี่ขอโทษกันหรือยัง” “ขอโทษแล้วค่ะ ขอโทษที่ต่อยน่ะค่ะ” บุตรสาวตอบแบบนั้นก็ทำให้พงศ์อินทร์ถึงกับอมยิ้ม “ดีแล้ว ถ้าผิดก็ต้องขอโทษนั่นเป็นสิ่งที่หนูควรทำ เดี๋ยวเขื่อนพาเขตต์มากินข้าวเย็นที่บ้านนะจ๊ะ วันนี้พี่ทำกับข้าวเอาไว้เยอะเลย เราจะได้คุยกัน” รติรสรีบเอ่ยชวน เด็กทะเลาะกันเป็นเรื่องธรรมดา เธอเป็นพ่อแม่ไม่ควรไปทะเลาะด้วย “ขอบคุณครับพี่รส” เขื่อนขอบคุณในน้ำใจของอีกฝ่าย ก่อนจะพาหลานชายขึ้นรถ  “ดารินกลับบ้านยังไงเหรอ” มาหยาเอ่ยถามเพื่อนใหม่ที่เธอถูกชะตาด้วยเป็นที่สุด ดารินนั้นไม่มีแม่มีแต่พ่อที่ไม่ค่อยเห็นหน้าค่าตานัก “รถโรงเรียนจ้ะ” ดารินรีบบอกเพื่อนใหม่อย่างกระตือรือร้น เธอยกมือไหว้บิดามารดาของมาหยาและอาของเขตต์อย่างฝากเนื้อฝากตัว สร้างความเอ็นดูแก่ผู้ใหญ่เป็นอันมาก “บ้านรินอยู่ใกล้ๆ กับเรา ชวนรินไปกินข้าวที่บ้านด้วยได้ไหมคะคุณพ่อคุณแม่” มาหยารีบเอ่ยขอบิดามารดา “ต้องไปขออนุญาตพ่อของรินก่อนนะจ๊ะ เดี๋ยวเขาจะหาว่าลูกของเขาหายไป” รติรสคิดว่าจะทำอะไรต้องบอกต้องกล่าวกันก่อนเพราะดารินไปกลับรถโรงเรียน ถ้ารถไม่ไปส่งที่บ้านเหมือนเช่นทุกวันก็จะทำให้บิดาของดารินเป็นห่วงเอาได้ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ หนูเกรงใจ” “ไม่ต้องเกรงใจหรอกจ้ะ บ้านใกล้เรือนเคียงกันก็ต้องมีน้ำใจช่วยเหลือกัน หนูรินเป็นเพื่อนกับหยา หยากลับบ้านไป พูดถึงหนูให้ฟังบ่อยๆ เลยรู้ไหม ถ้ามีการบ้านหรืองานอะไรก็ไปทำที่บ้านน้าได้เลยนะ” รติรสพูดอย่างมีน้ำใจ “ขอบคุณค่ะ” ดารินยกมือไหว้อย่างน่ารัก รติรสจึงให้ทางโรงเรียนโทร. ไปแจ้งทางบ้านของดารินเรื่องที่ไม่ได้เดินทางกลับกับรถโรงเรียน ซึ่งประภพเองก็ไม่ได้ว่าอะไร พงศ์อินทร์และรติรสขับรถไปจอดหน้าบ้านของประภพ ทั้งสองเอ่ยขออนุญาตพาดารินไปที่บ้าน ประภพเอ่ยอนุญาตเพราะเห็นว่าสองสามีภรรยาเป็นคนอัธยาศัยดีและมีน้ำใจเสมอมา “เดี๋ยวจะพามาส่งนะคะ” รติรสเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “ฝากยายรินด้วยนะครับ” ประภพฝากฝัง “ได้ค่ะ” รติรสพาเด็กหญิงทั้งสองขึ้นรถ ก่อนที่สามีจะมุ่งหน้ากลับบ้าน พอถึงบ้าน เจ้าของบ้านตัวน้อยรีบดึงมือเพื่อนวิ่งขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็วโดยมีเสียงมารดาพูดไล่หลังมาว่าให้เดินดีๆ อย่าวิ่งเดี๋ยวสะดุดหกล้มเอา “นี่ห้องนอนของเราเอง” มาหยาอวดห้องนอนสีโอลด์โรสให้เพื่อนดู “ห้องน่ารักจังเลยจ้ะ” ดารินวางกระเป๋าเป้ลายการ์ตูนลงบนเตียงนอนน่ารักของเพื่อน ด้านในมีชุดที่นำมาเปลี่ยนด้วย “แม่ของเราทำกับข้าวอร่อยที่หนึ่งเลย” “อิจฉาคนมีแม่จัง เราไม่มีแม่ พ่อก็ไม่เคยทำกับข้าวให้กิน” ดารินพูดตามที่คิด “ไม่ต้องอิจฉาหรอก เดี๋ยวเราแบ่งแม่เราให้เป็นแม่ของดารินด้วยดีไหม” “จริงเหรอ” ดารินเขย่ามือเพื่อนอย่างดีใจ “จริงสิ เราไม่มีพี่น้อง ถ้ารินมาเป็นลูกของแม่เรา เราก็จะได้เป็นพี่น้องกันไง”  มาหยารู้สึกถูกชะตากับเพื่อนตัวน้อยวัยเดียวกันเป็นอันมาก “ดีจัง” “ไปอาบน้ำกันเถอะจ้ะเด็กๆ” เสียงของรติรสเดินเข้ามาในห้องก่อนจะต้อนเด็กน้อยทั้งสองไปอาบน้ำ “คุณแม่ขาเป็นแม่ของดารินด้วยนะคะ ดารินอยากมีแม่” มาหยาเอ่ยขึ้นขณะที่มารดาฟอกสบู่ให้ “ได้สิจ๊ะ” “คุณแม่” ดารินเรียกอย่างดีใจ มีความสุขที่รติรสช่วยอาบน้ำให้ ตอนอยู่บ้านพี่เลี้ยงหรือสาวใช้ที่บิดาจ้างมาเป็นคนอาบน้ำให้ แต่คนพวกนั้นไม่ได้มีท่าทีรักเธอเหมือนอย่างที่รติรสผู้เป็นมารดาของมาหยาทำเลยสักนิด นั่นทำให้เด็กน้อยคิดเปรียบเทียบอยู่ในใจ “ขอบคุณนะคะ” ดารินยกมือไหว้หลังจากที่รติรสเช็ดเนื้อเช็ดตัวและสวมเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ “ขอบคุณอะไรแม่จ๊ะ” “ที่ยอมเป็นแม่ของหนูน่ะค่ะ หยาใจดีจังแบ่งแม่ให้เราด้วย” “แม่เรากอดได้ด้วยนะ กอดอุ่นด้วย” มาหยาอวดแม่ โผเข้ากอดให้ดู ดารินมองอย่างอิจฉานิดๆ รติรสดึงเด็กน้อยมากอดด้วยเช่นกัน ดารินหลับตาพริ้มรู้สึกว่าอ้อมแขนนี้ช่างอบอุ่นเหลือกำลัง อาหารเย็นที่บ้านของมาหยาทำให้ดารินมีความสุขเป็นอันมาก ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา แม้แต่เขตต์ที่ชอบแกล้งเพื่อนก็ยังเล่นกับมาหยาอย่างสนุกสนานเหมือนกับว่าทั้งสองไม่เคยทะเลาะกันมาก่อน คนสอนการบ้านไม่ใช่ใครอื่น พงศ์อินทร์กับรติรสยกให้เป็นหน้าที่ของเขื่อน นักศึกษาปีสุดท้ายคณะแพทย์ศาสตร์วัยยี่สิบสี่ที่ค่อนข้างเอ็นดูเด็กๆ การเรียนอนุบาลสามนั้นมีการเรียนภาษาไทยผ่านนิทานกับเพลง เริ่มเขียนคำที่มีสระ จับคู่คำโดยเชื่อมโยงภาพเข้ากับคำและใจความ ส่วนวิชาคณิตศาสตร์นั้นเด็กจะเริ่มรู้จักค่าและเปรียบเทียบความมากน้อยตั้งแต่ 1-50 การบวกลบหนึ่งถึงสองหลัก จากสิ่งของและรูปภาพต่างๆ   
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม