เด็กมันยั่วเลยหลวมตัวหลงรัก ตอนที่ 3

1712 คำ
“ไก่ย่าง ผลไม้ มีแต่ของกิน ไม่สงสัยเลยว่าทำไมอ้วนตุ๊บเป็นหมูตอนแบบนี้” มาหยาหัวเราะร่วน “อย่ามาว่าเราอ้วนนะยายหน้าซาลาเปา” “เราไม่ได้หน้าซาลาเปานะ” มาหยาแยกเขี้ยวใส่ทันที “ไม่เอาครับอย่าทะเลาะกัน หยาก็วาดสวย เขตต์ก็วาดสวย” เขื่อนยุติปัญหาด้วยการหอมแก้มคนละที ศึกหย่อมๆ จึงยุติลงอย่างง่ายดาย หลังจากเด็กๆ ทำการบ้านกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว รติรสก็พาดารินไปส่งบ้าน วงเหล้าของประภพยังไม่เลิกรา รติรสจึงขออนุญาตพาดารินขึ้นไปส่งบนห้องนอนเพราะดารินรบเร้าอยากให้ไปส่งขึ้นนอน “ห้องของรินน่ารักเหมือนกัน รินชอบสีฟ้าเหรอ” มาหยาที่ตามติดมารดามาส่งเพื่อนตัวน้อยเอ่ยถามขึ้น “จ้ะ มันสดใสดี” “ก่อนนอนหนูต้องแปรงฟันก่อนนะจ๊ะ ตอนทำการบ้านหนูกินขนมเข้าไปเยอะมาก ไหนจะน้ำหวานอีก ไม่งั้นฟันจะผุเอาได้” รติรสรีบบอกเด็กน้อย ดารินรีบทำตามอย่างว่าง่าย “ราตรีสวัสดิ์นะจ๊ะ” รติรสจุ๊บหน้าผากของดาริน มาหยาก็หอมแก้มเพื่อนด้วย “ค่ะ” ดารินรับคำเมื่อมารดาของเพื่อนห่มผ้าให้จนถึงต้นคอ ก่อนที่อีกฝ่ายจะงับประตูปิดอย่างเบามือ “ลุงภพชอบดื่มเหล้า” มาหยาเอ่ยขึ้นหลังออกมาจากบ้านของดารินเรียบร้อยแล้ว “หนูรู้ได้ยังไงจ๊ะ” รติรสเอ่ยถามบุตรสาวขณะเดินกลับบ้านกับมารดา “ก็รินเล่าให้ฟัง แต่คุณพ่อของหยาไม่ชอบดื่มเหล้า” “ดื่มเหล้าไม่ดีต่อสุขภาพจ้ะ” “ไม่ดีแล้วทำไมคุณพ่อของรินถึงดื่มล่ะคะ” “อาจจะมีเพื่อนฝูงมาหา เลยจำเป็นต้องดื่มสังสรรค์น่ะจ้ะ โตขึ้นหนูจะเข้าใจเองแหละ แต่สิ่งไหนที่ไม่ดีต่อสุขภาพเราก็ไม่ควรที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวนะจ๊ะ” “ค่ะคุณแม่” มาหยาเข้านอนพร้อมด้วยนิทานก่อนนอนที่มารดาเล่าให้ฟังทุกคืน เธอกอดตุ๊กตาหมีน้อยตัวโปรดที่บิดามารดาซื้อให้ พงศ์อินทร์และรติรสหอมแก้มของบุตรสาวตัวน้อยเบาๆ ก่อนจะห่มผ้าให้จนถึงคอและปิดไฟในห้องนอนให้ วันรุ่งขึ้นมาหยาทำตามสัญญาที่ให้ไว้ นำหมูปิ้งนมสดที่มารดาใส่ปิ่นโตมาให้เขตต์กับดารินรับประทาน “แม่เธอทำกับข้าวอร่อย” เขตต์กินหมูปิ้งอย่างเอร็ดอร่อย “จริงๆ ด้วย” ตอนนี้ดาริน เขตต์และมาหยาเป็นเพื่อนกันเป็นที่เรียบบร้อยแล้ว ดารินค้นพบว่ามาหยากับเขตต์ชอบทะเลาะกัน ไม่นานก็ญาติดีกันเหมือนเดิมแบบนี้ทุกวัน ตกเย็นเด็กๆ มาเล่นกันที่สนามเด็กเล่นอย่างสนุกสนาน มาหยาเอ่ยถามดารินว่าวันนี้กลับยังไง “วันนี้กลับยังไงเหรอริน” “คุณพ่อบอกว่าจะมารับ” “งั้นเดี๋ยวเรารอเป็นเพื่อน” มาหยาเล่นชิงช้ากับดารินอย่างสนุกสนานในขณะที่เขตต์เล่นกับเด็กผู้ชายอยู่อีกด้าน “นั่นอาของเรามาแล้ว” เขตต์ร้องขึ้นอย่างดีใจ “หยากลับกับอานะ วันนี้พ่อกับแม่ติดธุระเลยฝากฝังให้อามารับแทน” เขื่อนหันไปพูดกับเด็กน้อย “แล้วรินล่ะคะ หยาไม่อยากทิ้งเพื่อนไว้คนเดียว” เพราะว่าเด็กๆ หลายคนกลับบ้านกันหมดแล้ว ครูเวรก็ต้องยืนรอจนเด็กๆ กลับบ้าน จะทิ้งเด็กเอาไว้คนเดียวก็ไม่ได้ “พ่อบอกว่าจะมารับ” ดารินพูดแล้วทำท่าจะร้องไห้เนื่องจากกลัวเพื่อนทิ้ง “ไม่ร้องนะริน โทร. หาพ่อเลย” มาหยารีบบอกเพื่อน ดารินรีบกดโทรศัพท์หาบิดาทันที ปลายสายกดรับเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์โทร. ของบุตรสาว “รินเหรอลูก พ่อยังไม่เสร็จงานเลย รออีกหน่อยได้ไหม” “พ่อบอกว่าให้รอค่ะ” ดารินบอกเขื่อนแต่สายตาบ่งบอกว่าไม่อยากอยู่คนเดียว “อาหมอพารินกลับบ้านด้วยนะ” มาหยาขอร้อง “ใช่ครับอาเขื่อนสงสารริน” เห็นดารินตาแดงๆ เขตต์ก็นึกสงสารไม่น้อย “เดี๋ยวกลับกับอาแล้วกัน เอาโทรศัพท์มาให้อาสิครับ อาจะคุยกับพ่อของรินเอง” ว่าที่คุณหมอหนุ่มรับโทรศัพท์จากเด็กหญิงมาคุยกับปลายสาย ประภพขอบอกขอบใจเป็นการใหญ่รีบฝากฝังบุตรสาวเอาไว้กับเขื่อนในทันที “งั้นไปกันเลยครับ เดี๋ยวพาไปกินไอศกรีมอร่อยๆ” “เย่... อาหมอใจดีจังเลย” มาหยากระโดดไชโยอย่างดีใจ ดารินยิ้มออกไม่ร้องไห้อีก เขื่อนนั่งลงตรงหน้าเด็กๆ แก้มของเขาถูกปากแดงๆ หอมกันคนละฟอดสองฟอด “หยาจะกินไอติมช็อกโกแลต” มาหยาพูดหลังจากขึ้นไปนั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว ส่วนเบาะหน้าข้างคนขับนั้นเป็นที่ประจำของเด็กชายตัวอ้วนอย่างเขตต์ เขื่อนรัดเข็มขัดนิรภัยให้เด็กๆ อย่างใส่ใจ หลังจากอุ้มเด็กๆ ขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว เขื่อนขึ้นไปนั่งประจำที่คนขับ ทำอะไรต้องทำอย่างเท่าเทียมเด็กๆ ทั้งสามอ้อนให้อุ้ม เขาก็ต้องอุ้มทุกคน แม้ว่าเจ้าหลานชายตัวอ้วนจะน้ำหนักเยอะจนเอวแทบเคล็ดก็ตามที ดารินนั่งอยู่ทางเบาะหลังใกล้ๆ กับมาหยา เด็กหญิงทั้งสองคุยกันอย่างสนุกสนาน เขตต์เองก็หันไปคุยกับเพื่อนทั้งสองทางเบาะหลังด้วย เขื่อนพาเด็กๆ มารับประทานอาหารและไอศกรีมอร่อยๆ ก่อนกลับบ้าน เย็นนี้เขาต้องรับหน้าที่สอนเด็กๆ ทำการบ้านอีกเช่นเคย “อร่อยจังเลย อาหมอชิมดูสิคะ” มาหยาตักไอศกรีมป้อนให้เขื่อน “อร่อยจริงๆ ด้วยครับ” “ไอ้หมูตอน นั่นวารุณีนี่นา” มาหยาเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเอาแต่ก้มหน้าก้มตากินไอศกรีม “ไหน” เขตต์รีบเงยหน้าขึ้นมองหน้าตาเลิ่กลั่ก “คิกๆ” เสียงหัวเราะของมาหยาทำให้เขตต์หันขวับไปมอง ทำสีหน้าบึ้งตึงใส่ทันที “ยายหน้าซาลาเปานี่เธอหลอกเราเหรอ” “แล้วตัวเองยอมรับเหรอว่าเป็นไอ้หมูตอน” “ยายหน้าซาลาเปา!” เขตต์พูดอย่างโกรธๆ “เราไม่ได้หน้าซาลาเปา เราไม่รับ” มาหยาแยกเขี้ยวใส่ “วารุณีคือใครเหรอครับ” เขื่อนนั่งมองเด็กๆ อยู่นานเลยเอ่ยถาม “เพื่อนในห้องน่ะค่ะ นายหมูตอน เอ๊ย! นายเขตต์แอบชอบอยู่” วารุณีเป็นเด็กหญิงหน้าตาน่ารักพ่อแม่เป็นเศรษฐีร่ำรวย ที่มาหยาและทุกคนรู้เพราะว่าวารุณีชอบอวดรวยไม่เหมือนเด็กคนอื่นๆ และค่อนข้างหัวสูงเป็นอันมาก เวลาเขตต์เห็นวารุณีก็จะมีท่าทีเขินๆ ไม่กล้ามองตรงๆ แถมเป็นเด็กหญิงคนเดียวในห้องที่เขตต์ไม่แกล้งอีกด้วย “ตัวกะเปี๊ยกเดียวจะมีแฟนแล้วเหรอ” เขื่อนโยกศีรษะหลานชายอย่างเอ็นดู “ไม่ใช่ซะหน่อยครับอาเขื่อน ยายหน้าซาลาเปาชอบใส่ความผม” เขตต์รีบปฏิเสธหน้าแดงหูแดงไปหมด เขื่อนกะพริบตาปริบๆ เด็กเดี๋ยวนี้หนอ... แก่แดดเสียเหลือเกิน สมัยก่อนเขาอายุเท่านี้ยังนั่งเล่นเป่ากบอยู่เลย อาจเพราะเด็กสมัยนี้เล่นโทรศัพท์มือถือเป็นแล้ว มีอินเตอร์เน็ตจึงเข้าถึงสื่อต่างๆ ได้ง่าย ทั้งการ์ตูน นักร้อง ศิลปินที่ชอบ หนังหรือละครที่ชอบ แม้กระทั่งเกมออนไลน์ที่มีให้เล่นมากมาย เขาจึงพยายามเลี้ยงหลานชายอย่างระมัดระวังไม่ให้เป็นเด็กติดเกมโดยหากิจกรรมอย่างอื่นให้ทำร่วมกันบ่อยๆ ไม่ปล่อยให้อยู่กับโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ เขื่อนพาเด็กๆ มาสอนการบ้านเพราะถูกฝากฝังเอาไว้ เด็กน้อยในชุดอนุบาลวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน “เขตต์... พวกเราอยากไปดูห้องนาย” มาหยาเอ่ยขึ้น ดารินนั้นไม่ค่อยพูด มาหยาทำอะไรก็ทำตาม “ห้องเรามีของเล่นเยอะแยะเลย จะพาไปดู” เด็กชายตัวอ้วนอวดนิดๆ พาเพื่อนทั้งสองวิ่งขึ้นไปที่ห้องของตัวเอง “อย่าวิ่งครับเดี๋ยวตกบันได” เขื่อนส่ายหน้าไปมา มองตามขึ้นไปอย่างเอ็นดูไม่น้อย พอได้ยินประโยคนั้นเด็กๆ ก็เปลี่ยนจากวิ่งเป็นเดินเบาๆ แทน “นี่คือห้องของเรา” เขตต์กระโดดขึ้นไปนอนบนเตียงกลิ้งตัวไปมาอย่างมีความสุข พร้อมกับอวดของเล่นมากมาย “อาเขื่อนกับคุณปู่คุณย่าซื้อให้เรา” ของเล่นแบบเด็กผู้ชายคือหุ่นยนต์ รถบังคับและเครื่องบินบังคับ “พวกเธอมีแบบเราไหม” เขตต์เอ่ยถาม “เต็มเลย บ้านเรามีตุ๊กตาหลายตัวเลย” มาหยาอวดบ้าง “แหวะ! เราไม่เล่นตุ๊กตา” “เราก็ไม่เล่นหุ่นยนต์” มาหยาส่ายหน้าไปมา “แต่เราเล่นได้หมดเลยนะ พ่อก็ซื้อให้” ถึงแม้ว่าบิดาจะไม่ค่อยมีเวลาและชอบผิดสัญญาบ่อยๆ แต่บิดาก็ใจดีให้เงินทีละเยอะๆ รวมถึงซื้อของเล่นให้ไม่อั้น แต่เงินของเธอโดนพี่เลี้ยงริบไปหมด โดยพี่เลี้ยงให้เหตุผลว่าจะเป็นคนให้เงินเองทีละนิด เธอจะได้ไม่ใช้เงินเกินตัว ดารินไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็ยอมทำตามอย่างว่าง่าย ยิ่งเวลาพี่เลี้ยงเล่าให้ฟังว่าเดือดร้อนเรื่องเงินต้องส่งเงินไปที่บ้านเพราะบิดามารดาป่วย เธอก็ยิ่งเห็นใจตามประสาเด็ก “วันเกิดปีนี้อาเขื่อนซื้อชุดซูเปอร์แมนให้เราด้วย” เขตต์หนีหายเข้าห้องน้ำ เพื่อไปเปลี่ยนชุดก่อนจะออกมาด้วยชุดซูเปอร์แมน “ซูเปอร์แมนมาแล้ว แคว่ก!” เสียงเป้ากางเกงขาดทำให้เด็กหญิงทั้งสองหันไปมอง “นายเขตต์เป้าขาด นายเขตต์ใส่กางเกงในสีชมพู คิกๆ” มาหยาชี้ไปยังเป้ากางเกงของเขตต์ เพราะชุดที่ผู้เป็นอาซื้อให้มันหลายเดือนมาแล้ว เขตต์กินจนน้ำหนักขึ้นจึงต้องยัดชุดซูเปอร์แมนตอนสวมใส่ พอฉีกแข้งฉีกขาทำท่าเหมือนฮีโร่ในหนังก็เลยเป้าขาด “อย่ามองนะอย่ามอง” เขตต์ยกมือขึ้นปิดเป้าวิ่งหนีเข้าห้องน้ำไป  
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม