บทที่ 1
บริษัทของภพธร
“สวัสดีค่ะคุณจูน” เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์คนสวยทักทายหญิงสาวที่คุ้นหน้าเป็นอย่างดี
“สวัสดีค่ะ พี่ใหญ่อยู่ไหมคะ”
“พี่อยู่นี่” ชายหนุ่มเจ้าของชื่อที่เพิ่งเดินไปได้ไม่ไกล ได้ยินเสียงใส ๆ คุ้นหูก็รีบหันไปตอบรับ
“พี่ใหญ่” เจมีน่ารีบวิ่งไปหาชายหนุ่มที่ยืนยิ้มรออยู่ พร้อมน้ำตาที่ไหลพรากในทันที
“เป็นอะไรน้องจูน!” ภพธรตกใจมากรีบกอดตอบร่างระหงที่กอดตนไว้แน่น ไม่สนใจสายตาของพนักงานในบริษัท หยิบผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาให้เธอแล้วพาขึ้นไปที่ห้องทำงาน
ภพธรปล่อยให้น้องสาวร้องไห้กับอก ลูบหลังปลอบใจไม่พูดไม่จา รอจนเสียงร้องไห้เริ่มซา
“ไหนบอกพี่ซิว่าเป็นอะไร” ถามน้ำเสียงอ่อนโยน อยากรู้ว่าเรื่องอะไรที่ทำให้เธอเสียใจจนถึงกับสะอื้นหนักขนาดนี้
เจมีน่าไม่ตอบ แต่เปิดกระเป๋าหยิบโทรศัพท์มือถือมากดหาบางอย่างก่อนยื่นไปให้พี่ชายดู
ภพธรหน้านิ่วดั่งยักษ์วัดแจ้ง เมื่อเห็นภาพในมือถือของน้องสาว
“แล้วสามีเราว่าไง.. เงียบ ๆ อย่าร้อง ๆ โอ๋ ๆ” รีบปรับน้ำเสียงดุดันให้เป็นอ่อนโยน ปลอบใจน้องสาวที่เอาแต่ส่ายหน้าและโผกอดเขาไว้แน่นทั้งน้ำตานองหน้า
“พี่ใหญ่ขา จูนจะทำยังไงดีคะ” ร้องไห้อยู่พักใหญ่จึงถามพี่ชายด้วยเสียงที่เจือสะอื้น
“แล้วจูนคุยกับพี่ปูนเขาหรือยัง”
“ยังเลยค่ะ พอจูนได้ภาพนี้มา ได้คุยกับผู้หญิงคนนั้น จูนก็รีบมาหาพี่ใหญ่ก่อนเลยค่ะ”
“เธอโทรมาหาด้วยเหรอ! แล้วเธอว่าไงบ้าง” เห็นน้องสาวพยักหน้ารับจึงถามต่อ
“เธอบอกถ้าไม่อยากให้เป็นข่าวดัง ให้จูนจ่ายค่าทำขวัญให้เธอห้าล้านค่ะ”
“แล้วจูนจะให้ไหม”
“จูนบอกถ้าอยากดังก็ทำไป แต่อย่าคิดว่าจะจบง่าย ๆ จูนไม่ยอมแน่” เธอเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มอีกครั้ง “จูนรู้ว่าควรจะพูดจาดี ๆ กับเธอ แต่จูนโมโหนี่คะพี่ใหญ่”
“พี่เข้าใจ จูนไม่ผิดหรอก” เขาเองแค่เห็นภาพยังเลือดขึ้นหน้า แล้วเธอที่เป็นภรรยาจะไม่โกรธได้อย่างไร “แล้วตอนนี้คุณปูนเขาอยู่ไหน”
“ลาวค่ะ เพิ่งไปเมื่อเช้านี้เอง”
“แล้วเราจะไม่คุยกับเขาหน่อยเหรอ”
“จูนพูดไม่ออกหรอกค่ะพี่ใหญ่” มือเรียวกดที่หน้าอกตัวเอง น้ำตาไหลพรากหนักกว่าเดิม “มันเจ็บนะคะพี่ใหญ่”
“ไม่ต้องร้อง” ภพธรเจ็บปวดใจนักที่ต้องมาเห็นน้ำตาเป็นหาบของน้องสาว ดึงเธอมากอดปลอบ “กลับบ้านกันเถอะ แล้วก็ไม่ต้องคิดมาก เรื่องนี้พี่จะจัดการให้เอง”
ประเทศลาว
ภพธรเดินเข้าไปในคาสิโนระดับห้าดาวแห่งใหม่ของน้องเขย ที่เขาเองก็เพิ่งมาเป็นครั้งแรก เขากวาดสายตามองความอลังการของการตกแต่งสถานที่ แล้วจึงเดินไปที่เคาน์เตอร์ต้อนรับ
“ผมมาพบคุณภาสกร บอกว่าภพธรต้องการพบด่วน”
พนักงานสาวเหมือนจะยิ้มค้างไปเล็กน้อย มองเขาชั่วอึดใจก่อนจะรีบตอบรับด้วยคำว่ารอสักครู่ และยกหูโทรศัพท์ต่อสายไปที่ใดที่หนึ่ง ถ่ายทอดคำพูดของเขาลงไปสักครู่ก็วางสาย
“ตอนนี้คุณภาสกรไม่ได้อยู่ที่ห้องทำงานค่ะ แต่กำลังติดต่อท่านให้อยู่ เชิญคุณภพธรนั่งรอที่ล็อบบีก่อนนะคะ” พนักงานสาวเชื้อเชิญอย่างสุภาพ
“ขอบคุณครับ”
ภาสกรเดินออกมาจากลิฟต์ กำลังจะเดินไปถามพนักงานที่เคาน์เตอร์ แต่เห็นภพธรกำลังเดินตรงมาหาจึงส่งยิ้มให้
“ไปไงมาไงครับเนี่ยคุณใหญ่” ทักอีกฝ่ายที่กำลังเดินใกล้เข้ามาพร้อมรอยยิ้มเป็นมิตร
หลังจากส่งน้องสาวกลับบ้าน ภพธรก็ตรงดิ่งไปที่สนามบิน หาซื้อตั๋วเดินทางเที่ยวที่เร็วที่สุดจนมาถึงที่นี่ เขาไม่ตอบคำถามของน้องเขย แต่ง้างหมัดประเคนใส่ใบหน้ายิ้มแย้มเต็มแรง
ผลัวะ!
ภาสกรหน้าสะบัด เซถลาไปตามแรงหมัด รีบตั้งหลักและปัดป้องหมัดที่ตามมารัว ๆ พยายามไม่โต้กลับ
“อย่า!” รีบห้ามลูกน้องที่เข้ามากระชากภพธรออกไปแล้วทำท่าจะลงมือ “ปล่อยเขา แล้วก็ออกไปให้หมด” เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าซับเลือดที่ไหลออกจากรูจมูก รอจนลูกน้องเดินห่างออกไปจึงตั้งคำถามที่คับข้องใจ “นี่มันเรื่องอะไรกันครับคุณใหญ่ ช่วยอธิบายให้ผมเข้าใจหน่อยเถอะ”
“คุณเคยสัญญาไว้ว่าจะรักและดูแลทะนุถนอมน้องสาวของผมอย่างดี จะไม่ทำให้เธอเสียใจ แล้วทำไมถึงไม่รักษาคำพูด” ภพธรชี้หน้าถามอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด แต่ไม่ดังจนกลายเป็นตะคอก
เจอคำถามของพี่เมียเข้าไป ภาสกรถึงกับทำหน้าตาตื่น เมื่อเช้าตอนอยู่บนเตียงเขายังพลอดรักฝากรอยสวาท ก่อนจากกันเขากับเธอยังรักกันดี เธอยังกอดออดอ้อนบอกว่าให้รีบกลับเพราะไม่อยากนอนคนเดียว แล้วยังจูบลาตอนส่งขึ้นรถต่อหน้าลูกน้องเขาอีกด้วย
“ตกใจมากเลยเหรอครับที่ความลับถูกเปิดเผย” ภพธรถากถางเมื่อได้เห็นหน้าตาแตกตื่นของน้องเขย
“ใจเย็น ๆ ก่อนนะครับคุณใหญ่” ภาสกรยกมือห้ามความเข้าใจผิดของพี่เมีย “คุณใหญ่เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ผมกับเมียไม่ได้มีปัญหาอะไรกันนะครับ เรายังรักกันดี”
“หึ! เมียคนไหนครับที่รักกันดี เมียเก่าหรือเมียใหม่”
“ผมมีจูนเป็นเมียคนเดียว คุณใหญ่พูดแบบนี้หมายความว่าไง” ภาสกรเริ่มหงุดหงิด ถามเสียงแข็งเมื่อถูกอีกฝ่ายทำท่าดูแคลนความรักเดียวใจเดียวของเขา “เรากลับไปคุยกันที่ห้องทำงานผมดีกว่านะ คุยตรงนี้มันไม่ค่อยเหมาะ”
“ไม่ดีกว่าครับคุณปูน ที่ผมมาถึงที่นี่ก็แค่ต้องการบอกให้คุณรู้ ว่าผู้หญิงของคุณไประรานน้องสาวของผม น้องสาวผมเสียใจร้องไห้จะเป็นจะตายก็เพราะการกระทำของคุณ ดังนั้น”
“เดี๋ยวนะครับคุณใหญ่!” ภาสกรตกใจตาตั้ง “ผมว่าคุณใหญ่เข้าใจผิดไปใหญ่โตแล้วนะครับ ตั้งแต่ผมมีจูน ผมไม่เคยนอกใจจูนสักครั้ง นี่คือความสัตย์จริง คุณใหญ่จะพิสูจน์ยังไงก็ได้ ผมยินดีให้ความร่วมมือทุกเรื่อง”
สายตาท่าทางของน้องเขยทำให้ภพธรเริ่มลังเล จริง ๆ แล้วเขาก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกัน ว่าภาสกรจะกล้านอกใจเมีย เพราะเท่าที่เห็นมาตลอดหลายปี เขารักเธอเอามาก ๆ แต่ภาพมันฟ้องซะขนาดนั้น จะไม่ให้เชื่อได้อย่างไร
“คุณแน่ใจนะครับคุณปูน ถ้าผมพิสูจน์ว่าคุณนอกใจน้องสาวผมได้ คุณเต็มใจที่จะหย่ากับเธอไหม”
“ผมไม่หย่า ผมรักเมียผมคนเดียวเท่านั้น ให้ผมไปตายยังง่ายกว่ามั้งคุณใหญ่” เขาสวนกลับ ทำไมเขาต้องหย่าในเมื่อเขาไม่เคยนอกใจเธอสักครั้ง
“ดูคุณมั่นใจมากเลยนะคุณปูน” ถ้าไม่ได้เห็นภาพเขาคงซาบซึ้งกับคำพูดนั้น
“ผมลูกผู้ชายพอนะคุณใหญ่ ถ้าผมทำผิดผมกล้ายอมรับแน่นอน” ภาสกรกล่าวหนักแน่น ประสานสายตาเด็ดเดี่ยวกับอีกฝ่าย
“ถ้าคุณกล้ายืนยันหนักแน่นขนาดนี้ ผมก็จะเชื่อใจคุณสักครั้ง” แล้วภพธรก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้น้องเขยฟัง