เมื่อส่งข้าวหอมถึงหน้าประตูเรียบร้อยแล้วจอมเดชก็ขับรถออกมาจากบ้านอัศวะโยธินอย่างช้าๆ ซึ่งในระหว่างนั้นเขาก็ไม่วายที่จะช้อนสายตามองตามแผ่นหลังเล็กๆของเธอที่กำลังเดินเข้าไปภายในบ้านอย่างอ้อยอิ่ง....
"ปากน้องข้าวหอมโคตรนิ่ม แม่งน่าจับจูบจริงๆเลยพวกมึงคิดเหมือนกูไหมวะ"เมื่อนึกถึงปากเรียวนุ่มๆที่พรหมจูบลงที่แก้มของเขาแล้วทำให้จอมเดชก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้น
"อื้ม น่าจูบมาก มึงเห็นไหมวะว่าเสื้อนักศึกษาของน้องแม่งกระดุมแทบปริ กูแอบเห็นหน้าอกน้องนะแม่งใหญ่สัสๆ ผิวก็ขาวแถมยังหอมอีกด้วย แม่งโคตรอิจฉาไอ้ทัพที่ได้ใกล้ชิดน้องขนาดนั้น"จอมพลเอ่ยขึ้นพร้อมกับส่ายหน้าไปมาอย่างนึกเสียดาย ผู้หญิงสวยๆขาวๆเขาก็เจอมาเยอะแล้วแต่จะหาแบบขาวสะอาดใสๆแบบข้าวหอมก็คงไม่มีง่ายๆ
"พอเลยพวกมึงเดี๋ยวกระต่ายน้อยก็ตื่นตูมพอดี เรื่องนี้มันต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไปเว้ย"เมื่อรู้สึกได้ว่าต่อมหื่นกามของน้องชายเริ่มทำงานจอมทัพก็รีบเอ่ยปากเตือนน้องชายทั้งสองคนตามสไตล์พี่ใหญ่ทันที
"มึงก็ช่างพูดแล้วใครกันละวะที่เป็นคนวางแผน ทั้งอาสามาส่งน้อง ทั้งอ้างความเป็นพี่ชายหลอกให้น้องหอมแก้ม ทั้งหมดก็มาจากมึงทั้งนั้นเลยนะไอ้ทัพ"จอมพลอดไม่ได้ที่จะพูดแซะพี่ชายที่วางตัวเป็นคนดีแต่ความจริงเขานี่แหละตัวต้นคิดเรื่องของเรื่องเลย
"ไม่ดีรึไง หรือพวกมึงไม่ชอบวะ"จอมทัพสวนกลับทันทีเมื่อได้ยินคำแซะจากน้องชายราวกับว่าไม่เห็นด้วยกับความคิดของเขา
"ชอบดิวะ!!"จอมพลกับจอมเดชเอ่ยขึ้นพร้อมกัน ถึงพวกเขาจะชอบต่อว่าพี่ชายอยู่ตลอด แต่ก็ต้องรับยอมว่าไม่มีใครวางแผนได้แนบเนียนเหมือนเขาอีกแล้ว
เมื่อสิ้นสุดคำตอบของน้องชายทั้งสองคนจอมทัพก็ได้แต่นั่งยิ้มอยู่เงียบๆโดยไม่ได้พูดอะไรต่อ ส่วนจอมเดชก็ตั้งหน้าตั้งตาขับรถตรงไปยังบ้านสุวรรณเดชาอย่างเงียบๆเช่นกันเพราะวันนี้พวกเขามีนัดทานข้าวกับครอบครัวจึงไม่ได้กลับคอนโด
'ฝั่งข้าวหอม'
เมื่อเดินขึ้นมาถึงห้องนอนของตัวเองแล้วมือเรียวก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อส่งข้อความไปหาเจ้าขุนพี่ชายของเธอทันที
ข้าวหอม : พี่เจ้าขุนคะ ข้าวหอมมาถึงบ้านแล้วนะคะ
ทันทีที่ข้อความของน้องสาวเด้งขึ้นบนหน้าจอเจ้าขุนก็รีบเปิดอ่านข้อความทันที และเมื่อได้อ่านข้อความรอยยิ้มก็แสดงบนใบหน้าหล่ออย่างหายห่วงเพราะระยะเวลาที่เพื่อนรักของเขาไปส่งข้าวหอมจนถึงบ้านนั้นพวกเขาทำเวลาได้ดีเลยทีเดียว แสดงว่าพวกเขาไม่ได้พาข้าวหอมไปเถลไถลที่ไหนอย่างที่เขานึกกลัว แต่เพื่อความแน่ใจ เขาจึงกดต่อสายหาข้าวหอมแทนการส่งข้อความทันที
กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง!!!!
เสียงโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูดังขึ้น ในขณะที่ข้าวหอมกำลังจะสาวเท้าเดินไปอาบน้ำ แต่แล้วก็ต้องหยุดชะงักแล้วหมุนตัวกลับไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูว่าใครโทรมา เมื่อเห็นชื่อของเจ้าขุนปรากฏอยู่บนหน้าจอ ใบหน้าสวยก็ประดับไปด้ววรอยยิ้มก่อนจะรีบกดรับสายทันที
"คิดถึงพี่เจ้าขุนจังเลยค่ะ"ทันทีที่กดรับสายปากเรียวสวยก็ป้อนหวานคำออดอ้อนให้พี่ชายได้ยินทันที
'หึ อ้อนเก่งนะเรา ถึงบ้านแล้วใช่ไหม'
"ถึงแล้วค่ะ ข้ามหอมกำลังจะไปอาบน้ำพอดีแต่พี่เจ้าขุนโทรมาก่อนเลยยังไม่ได้อาบค่ะ"
'อ้อ ข้าวหอมถึงบ้านแล้วพี่ก็หายห่วง'ปลายสายเอ่ยขึ้นด้วยน่ำเสียงอ่อนโยนเขาอาจจะดูเหมือนพี่ที่เห็นแก่ตัวในบางเรื่องแต่เขาก็รักน้องสาวของเขามากเช่นกัน
"ค่ะ ว่าแต่เรื่องพี่เจ้าขุนกับพี่น้ำหวานเป็นไงบ้างคะ ง้อพี่น้ำหวานสำเร็จไหมคะ ข้าวหอมเป็นห่วงค่ะ"เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้พี่ชายกำลังตามง้อแฟนสาวอยู่ ข้าวหอมก็รีบถามถึงความคืบหน้าด้วยน้ำเสียงดูเป็นห่วงทันที
ทุกครั้งที่เธอนึกถึงคำพูดของจอมเดช เธอก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันที เพราะเธออาจจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้พี่ชายทะเลาะกันกับแฟนสาวจนเป็นเรื่องก็เป็นไปได้
'พี่กำลังง้ออยู่ น้ำหวานงอนพี่เพราะพี่ไม่ค่อยมีเวลาให้เขาน่ะ'เจ้าขุนตัดสินใจบอกน้องสาวตรงๆ เขารู้ว่าผู้หญิงต้องการเวลาพิเศษอยู่กับคนรักเช่นเดียวกับเมื่อก่อนที่เขามักจะเอาใจและตามติดแฟนสาวอยู่ตลอด
"เป็นเพราะข้าวหอมใช่ไหมคะ พวกพี่ถึงทะเลาะกัน"เธอรู้ว่าเธอคือตัวต้นเหตุที่ทำให้พี่ชาบกับแฟนสาวทะเลาะกัน เธอจึงเอ่ยถามพี่ชายออกไปตรงๆด้วยน้ำเสียงอ่อนเพราะรู้สึกผิด ก็อย่างว่าช่วงนี้เจ้าขุนต้องคอยมารับคอยส่งเธอตามคำสั่งของเจ้าหยางในทุกๆวัน ซึ่งนั่นก็อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้พี่ชายไม่มีเวลาให้แฟนสาวเลย
'ก็มีส่วน แต่น้ำหวานก็น่าจะเข้าใจพี่บ้างสิเพราะข้าวหอมเป็นน้องสาวพี่นะ พี่ก็ต้องมีหน้าที่ดูแลข้าวหอมอยู่แล้ว'เจ้าขุนบ่นออกมาอย่างห้ามไม่ได้เพราะเขาเองก็รักน้องสาวมากเหมือนกัน
"ข้าวหอมขอโทษนะคะ งั้นเอาแบบนี้ดีไหมคะ เดี๋ยวข้าวหอมจะคุยกับคุณพ่อคุณแม่เองว่าข้าวหอมจะขอขับรถไปเรียนเองได้ไหม เพราะตอนนี้ข้าวหอมเริ่มชินเริ่มคุ้นเคยกับเส้นทางแล้วค่ะ"ตอนนี้ข้าวหอมเข้ามหาลัยจะครบ2อาทิตย์แล้วเรื่องเส้นทางเธอก็พอจะจำได้บ้างอีกอย่างถ้าเธอขับรถไปเรียนเองพี่ชายของเธอก็จะมีเวลาให้แฟนมากขึ้นกว่านี้
'ห้ามเลยนะข้าวหอมพี่ไม่อนุญาต พี่ไปรับไปส่งเหมือนเดิมน่ะดีแล้ว ช่วงนี้น้ำหวานแค่งอแงมากเป็นพิเศษก็เท่านั้นเอง วันนี้ก็คุยกันรู้เรื่องหน่อยแล้ว'เมื่อได้ยินน้องสาวพูดออกมาแบบนั้นเจ้าขุนก็ตกใจอยู่ไม่น้อยก่อนจะรีบเอ่ยปากห้ามที่ เขาเป็นห่วงข้าวหอมมากเพราะข้าวหอมขับรถยังไม่ถึงขั้นว่าเก่งที่จะขับรถไปไหนมาไหนได้เองขนาดนั้น อีกอย่างถ้าน้ำหวานรักเขาก็ต้องเข้าใจเขากับรักน้องสาวของเขาด้วยสิ ประมาณ love me love my dog
"........."ข้าวหอมเอาแต่เงียบและกำลังลังเลอยู่ไม่วายว่าเธอจะเอายังไงต่อดี
'ฝั่งเจ้าขุน'
เมื่อเห็นน้องสาวเอาแต่เงียบ เขาก็รู้ได้ทันทีว่าข้าวหอมกำลังลังเลใจในเรื่องที่จะคุยกับพ่อแม่ เขาจึงพูดผ่านสายไปทันที
"ข้าวหอมไม่ต้องคิดมากนะ พี่จะไปรับไปส่งข้าวหอมเอง แต่ช่วงนี้พี่อาจจะต้องรบกวนไอ้ทัพมันก่อน งั้นแค่นี้ก่อนนะพี่ว่าจะโทรหาเพื่อนสักหน่อย"
'โอเคค่ะ'ข้าวหอมตอบกลับมาสั้นๆแล้วตัดสายทิ้งไปทันที
เมื่อน้องสาวตัดสายทิ้งไปแล้ว เจ้าขุนก็รีบต่อสายหาจอมทัพเพื่อนรักของเขาทันที เขาจะโทรไปเพื่อขอบใจสามพี่น้องที่ไปส่งน้องสาวของเขาถึงบ้านอย่างปลอดภัย และมีเรื่องจะไหว้วานให้เพื่อนรักช่วยสักหน่อย
"ขอบใจนะเว้ยไอ้ทัพที่ไปส่งข้าวหอมให้กูวันนี้"หลังจากที่รอสายอยู่สักพักจอมทัพก็กดรับสาย และทันทีที่จอมทัพกดรับสายเจ้าขุนก็รีบเอ่ยปากขอบคุณเพื่อนรักจากใจจริงทันที
'อื้ม ไม่เป็นไรน้องมึงก็เหมือนน้องพวกกู'
"ยังไงก็ต้องขอบใจวะเพื่อน ว่าแต่พรุ่งนี้เช้ามึงว่างไหมวะ กูว่าจะขอให้มึงช่วยไปรับข้าวหอมมามหาลัยหน่อย พอดีคืนนี้กูว่าจะค้างที่คอนโดน้ำหวานเอาใจเธอสักหน่อยวะ"
'มึงง้อผู้หญิงยังไงวะ ง้อนานชิบหาย ถ้าเรื่องมากนักมึงก็ลากขึ้นไปง้อบนเตียงเลยสิวะ รับรองรู้เรื่องเชื่อกู'เรื่องง้อสาวขอให้บอกคนอย่าจอมทัพพร้อมที่จะให้คำแนะนำเพื่อนรักเสมอ
"สัส!!!กูไม่ได้หื่นกามเหมือนพวกมึงนะโว้ย"เจ้าขุนที่ได้ยินเพื่อนแนะนำแบบนั้นก็ด่าสวนกลับไปทันที เมื่อก่อนเขาก็มีความคิดที่จะใช้วิธีนี้เหมือนกัน แต่ทว่าถ้าใช้วิธีนี้จริงๆมันก็จะดูไม่ให้เกียรติคนรักมากเกินไป
'หึ โอเคๆเดี๋ยวพรุ่งนี้พวกกูจะไปรับน้องข้าวหอมเอง มึงก็รีบๆง้อเมียเถอะ ไม่ต้องห่วงทางนี้'เมื่อได้พูดหยอกล้อเพื่อนรักจนพอใจแล้วเขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังและไม่ถือสาที่โดนเจ้าขุนด่า แต่เขากลับหัวเราะออกมาอย่างชอบใจที่เพื่อนรักพอมีอารมณ์ขันกับเขาแล้ว
"ขอบใจพวกมึงมากนะ งั้นช่วงนี้กูคงฝากข้าวหอมให้พวกมึงดูแลไปก่อนนะไอ้ทัพ กูไม่ไว้ใจใครเลยจริงๆนอกจากพวกมึง"เจ้าขุนเอ่ยขอร้องเพื่อนรักด้วยน้ำเสียงอ่อนเพราะเขาเชื่อใจและไว้ใจสามพี่น้องมาก แต่กลับกันสามพี่น้องที่เขาไว้ใจนั้นกำลังหาวันและเวลาล่อน้องสาวของเขาอยู่
'ฝั่งจอมทัพ'
จอมทัพที่ได้ยินเพื่อนรักเอ่ยปากขอร้องให้ช่วยแบบนั้นก็รู้สึกผิดอยู่ไม่น้อยเพราะพวกเขาไม่ได้บริสุทธิ์ใจกับข้าวหอมเหมือนกับที่เจ้าขุนกำลังคิดอยู่เลยสักนิด แต่พวกเขากลับกำลังวางแผนที่จะจับกระต่ายน้อยกลืนลงท้องซะมากกว่า
"อะ...อ่อ มึงไว้ใจพวกกูได้เลย กูวางสายก่อนนะไอ้พลมาตามกูลงไปกินข้าวแล้ว"เมื่อยิ่งคุยก็ยิ่งรู้สึกผิดต่อเพื่อนรักจอมทัพจึงหาข้ออ้างขึ้นมาเพื่อวางสาย เขารู้นะว่าเจ้าขุนมีน้องสาวเพราะเจ้าขุนมักจะเล่าเรื่องครอบครัวให้ฟังอยู่บ่อยๆแต่ก็ไม่คิดว่าน้องสาวของเพื่อนจะสวยจะน่ารักตรงสเปคเข้าทุกอย่างขนาดนี้
'โอเค ขอบใจพวกมึงอีกครั้งนะไอ้ทัพ'พูดจบเจ้าขุนก็ตัดสายทิ้งไปทันที
เมื่อเจ้าขุนตัดสายไปแล้วจอมทัพก็ได้แต่ยกยิ้มมุมปากให้กับโทรศัพท์มือถือทีถืออยู่ในมือก่อนจะเดินผิวปากลงไปยังชั้นล่างอย่างอารมณ์ดี
'ชั้นล่าง'
"มีอะไรวะ เดินยิ้มลงมาสะอารมณ์ดีเชียว"จอมเดชที่กำลังนั่งกินขนมอยู่ที่โซฟาห้องนั่งเล่นเอ่ยถามพี่ชายขึ้นอย่างสงสัย เมื่อเห็นพี่ชายเดินผิวปากลงมาจากชั้นบนพร้อมกับสีหน้าท่าทางที่ดูมีความสุขเกินเบอร์กว่าทุกวัน
"ก็คนมันกำลังมีความสุขนี่หว่า"จอมทัพเอ่ยบอกน้องชายด้วยรอยยิ้ม ซึ่งทุกการแสดงออกของสามพี่น้องนั้นก็ตกอยู่ในสายตาของญาดาผู้เป็นแม่ที่กำลังนิ่งยิ้มกรุ่มกริ่มดูลูกๆอยู่ที่โซฟาอีกฝั่งอย่างมีความสุข
"กูมีข่าวดีจะบอก พวกมึงอยากจะรู้ไหมล่ะ"จอมทัพเอ่ยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มอย่างมีเลศนัยแต่ก็ไม่วายที่จะทำให้น้องๆลุ้นจนเหงื่อไหล
"อะไรวะ"จอมพลกับจอมเดชเอ่ยถามพร้อมกันอย่างสนใจ เพราะแววตาของจอมทัพในตอนนี้มันบ่งบอกถึงเรื่องดีๆที่น่าสนใจมาก
"เมื่อกี้ไอ้เจ้าขุนมันโทรมาหากู"จอมทัพพูดแบบกั๊กๆโดยไม่ยอมบรรยายความให้ละเอียด
"แล้วไงต่อ?"จอมพลรีบเอ่ยถามอย่างคนใจร้อนเพราะสีหน้าท่าทางจองจอมทัพตอนนี้น่าหมั่นไส้ชะมัดจะพูดก็ไม่ยอมพูดสักที
"พรุ่งนี้พวกเราจะต้องไปรับกระต่ายน้อยที่บ้านไปเรียนเว้ย"จอมทัพรีบเอ่ยบอกน้องชายทั้งสองด้วยสีหน้าท่าทางตื่นเต้น ซึ่งทันทีที่จอมพลกับจอมเดชได้ยินพวกเขาก็ต่างพากันแสดงสีหน้าท่าทางตื่นเต้นออกมาไม่ต่างกัน
"จริงหรอวะ!!!"จอมพลเอ่ยขึ้นด้วยแววตาเป็นประกายทันที
"จริงดิวะ แต่พรุ่งนี้พวกเราจะต้องไปเจอครอบครัวของน้องข้าวหอมด้วย พวกมึงก็เก็บอาการหน่อยก็แล้วกัน อย่าทำให้พวกท่านไม่ไว้ใจโดยเฉพาะมึงไอ้เดช"ก่อนจะถึงวันพรุ่งนี้จอมทัพรีบเอ่ยเตือนน้องชายทั้งสองด้วยน้ำเสียงกดต่ำทันทีเพราะจะเข้าไปล่อเหยื่อถึงในถ้ำขนาดนั้นต้องหลอกล่อจ่าฝูงให้ได้เสียก่อน
"รู้แล้วน่าเวลาอยู่กับผู้หลักผู้ใหญ่ ผมก็รู้กาลเทศะนะครับ พี่ชาย!!!"จอมเดชเอ่ยตอบพี่ชายด้วยน้ำเสียงยียวนกวนประสาท ถึงเขาจะเป็นคนตรงๆหื่นๆแต่เขาก็รู้ดีว่าอันไหนควรหรือไม่ควร
"เชื่อพ่อมันเเรงจริงๆ หึ"เสียงอ่อนหวานของญาดาเอ่ยขึ้นมาเบาๆ เมื่อเห็นลูกๆทั้งสามคนกำลังนั่งพูดคุยกันอย่างตื่นเต้นเมื่อจะได้ไปพบปะกับครอบครัวของใครบางคน