“อย่าลืมบอกแม่นะหนูเอิร์น” คนขับรถนักเรียนเตือนเด็กหญิงสิริยากรที่อาจารย์บอกว่ามีเรื่องทะเลาะวิวาทกับลูกชายของกำนันขจรที่อยู่อีกหมู่บ้านหนึ่งและอาจารย์ฝากให้เขาบอกให้บอกผู้ปกครองของเด็กมาพบในวันพรุ่งนี้
“ค่ะลุงทม สวัสดีค่ะ” สิริยากรยกมือไหว้ลุงทมแล้วเดินเข้าบ้าน เด็กสาวมองไปในบ้านอย่างหวาดๆกลัวถูกแม่ตีเพราะไปต่อยและเตะเป้าลูกชายกำนัน
“พี่เอิร์น”
“อุ้ยนายตองพี่ตกใจหมดเลย”
“แล้วทำไมพี่เอิร์นต้องทำลับๆล่อเหมือนขโมยด้วยละ” คนเป็นน้องเห็นพี่สาวทำท่าทางลับๆล่อเหมือนขโมยขนาดเขาเดินตามมายังไม่รู้ตัวอีก
“ไม่ได้ขโมย แม่พี่อยู่มั้ย”
“อยู่ที่แปลงผัก”
“เฮ้อ..” สิริยากรถอนหายใจแล้วเดินเข้าบ้านเพื่อไปเปลี่ยนชุดนักเรียนที่เปื้อนเพราะเธอถูกผลักล้มแม้รู้ว่ายังไงแม่ก็ต้องรู้แต่เด็กหญิงอยากบอกพร้อมตายายและน้าชายน้าสะใภ้มากว่าจะได้ไม่เจ็บตัว
มาลาตีกับน้องชายและพ่อเปิดสปริงเกอร์รดน้ำผักทีละแปลงไปจนถึงต้นมะนาว มะกรูด ข่า ตะไคร้ ที่ใช้ระบบหยดน้ำที่นายเกียรติกับกรรชัยดัดแปลงท่อพีวิซีเพื่อความสะดวกและไม่ต้องเสียเงินจ้างคนมาช่วยรดน้ำยกเว้นจ้างคนมาช่วยปลูกและเก็บเท่านั้น
“ฉันกลับบ้านก่อนนะพ่อ” มาลาตีบอกพ่อหลังจากเปิดสปริงเกอร์เสร็จและอีกสิบนาทีพ่อกับน้องชายก็ช่วยกันปิดก็เสร็จงานในสวนแต่ยังมีงานที่ต้องทำอีกคือคัดแยกผักมัดใส่ถุงเพื่อไปส่งในตลาดและวางขายในเช้าพรุ่งนี้และผักก็ขายดีทุกวันถึงจะเป็นต่างจังหวัดแต่ชาวบ้านก็รักษาสุขภาพของตัวเอง
“เป็นอะไรยัยเอิร์น” นางมานีเห็นหลานสาวซึมๆปกติจะคุยเจื้อยแจ้วและช่วยจัดผักวางเรียงกันให้เธอมัดแยกเอาไว้สำหรับไปวางขายในตลาด
“ไม่มีอะไรค่ะยายจ๋า”
“แน่ใจนะลูก”
“ไม่ค่อยแน่เท่าไหร่จ้ะยายจ๋า” คนเป็นหลานกังวลกลัวแม่โกรธ
“ยังไงกันลูก ตกลงว่ามีหรือไม่มีกันล่ะ”
“คือมีนิดหนึ่งค่ะยายจ๋า เอ่อ ก็ไม่นิดค่ะ”
“ยายงงแล้วนะเนี่ย เล่าให้ยายฟังได้มั้ยล่ะ” นางมานีกลัวว่าเพื่อนที่โรงเรียนจะล้อหลานสาวที่ไม่มีพ่อแต่เรียนที่โรงเรียนในหมู่บ้านก็ไม่มีเรื่องแบบนี้เพราะไม่ได้มีหลานสาวขอเธอคนเดียวยังมีเด็กอีกหลายคนที่พ่อแม่เลิกกัน
“คือวันนี้เอิร์นมีเรื่องกับลูกชายลุงกำนันค่ะ”
“มีเรื่องกับลูกชายกำนันเลยหรือลูก ตายๆแล้วมีเรื่องอะไรกันฮึ” นางมานีหยุดมัดผักมองหลานสาวของเธอด้วยความอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นสิริยากรถึงได้ไปทะเลาะกับลูกชายของกำนัน
“ก็นายนั่นเขาว่าแม่อ่อยลุงกำนันจะจับพ่อเขาทำผัวเพราะบ้านเขารวย เอิร์นก็บอกแล้วว่าแม่ไม่ได้ชอบลุงกำนันแต่เขาไม่เชื่อและยังตะโกนบอกเพื่อนๆอีกว่าเอิร์นไม่มีพ่อ เอิร์นโกรธจึงต่อยเขาแล้วเขาก็ผลักเอิร์นล้มค่ะ” สิริยากรตอบยายเบาๆไม่ได้บอกว่าเธอเตะเข้าเป้าของลูกชายกำนันเต็มแรงจนนายนั่นหน้าเขียว
“ยายเข้าใจลูก แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนแล้วคุณครูเขาว่ายังไงบ้างล่ะ”
“คุณครูว่านานนั่นเพราะโตกว่าแล้วมาหาเรื่องเด็กและมีพยานหลายคนเขาจึงโดนคุณครูทำโทษให้เก็บขยะรอบสนามหนึ่งอาทิตย์ค่ะ ส่วนเอิร์นคุณครูให้ทำทำเวรในห้องหนึ่งอาทิตย์ค่ะ”
“เอิร์นไม่ควรใจร้อนนะลูก เขาอยากว่าก็ปล่อยไปในเมื่อแม่ของเอิร์นได้เป็นเหมือนที่เขาพูดก็อย่าไปสนใจแล้วเอิร์นอายเพื่อนมั้ยลูกที่เขาว่าไม่มีพ่อ” นางมานีถามหลานสาวด้วยความเป็นห่วงความรู้สึก
“ไม่ค่ะ เอิร์นมีแม่จ๋า มีตาจ๋า มียายจ๋ามีน้าเติมน้านุชก็พอแล้วค่ะ แล้วนายนั่นก็ไม่มีแม่เหมือนกันนี่คะ ทำมาว่าเอิร์น” เด็กหญิงพูดกระแทกเสียงเบาๆ
“เอิร์นไม่อายที่มีแต่แม่ก็ดีแล้วลูก คนเราไม่มีใครสมบูรณ์เต็มร้อยหรอกลูกตอนนี้เอิร์นยังเด็กพอเอิร์นโตขึ้นก็จะเข้าใจเอง” นางมานีพูดกับหลานสาวอย่างเอ็นดู
“ไม่เห็นน่าอายเลยค่ะยายจ๋า แม่จ๋าเอิร์นเก่งจะตายและสวยด้วยไม่งั้นลุงกำนันจะมาชอบเหรอคะ เสียใจด้วยแม่จ๋าของเอิร์นไม่ชอบลุงกำนัน ฮิฮิ..” เด็กหญิงสิริยากรพูดแล้วหัวเราะชอบใจและรู้สึกดีขึ้นที่ได้คุยกับยาย
“ว่าคนอื่นเขาลับหลังแล้วหัวเราะแบบนี้ใช้ไม่ได้นะเอิร์น” มาลาตียืนฟังลูกสาวคุยกับแม่ตั้งแต่ต้นจนจบก็เข้าในแต่ไม่กำราบบ้างเดี๋ยวยัยตัวเล็กของเธอจะได้ใจทุกวันนี้ตายายและน้าๆก็ตามใจกันจะแย่
“แม่จ๋า” สิริยากรหันไปหาแม่ที่ยืนด้านหลังแล้วลุกขึ้นไปกอดอย่างออดอ้อน “แม่จ๋าเหนื่อยมั้ยคะเอิร์นไปเอาน้ำเย็นๆมาให้นะจ้ะ” เสียงเล็กพูดอย่างออดอ้อนเอาใจแม่ทำให้มาลาตีแอบอมยิ้ม
“งั้นเอามาเผื่อยายด้วยนะเอิร์น
“ค่ายายจ๋า” ร่างเล็กผละจากแม่เดินลิ่วเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว
“ดูหลานแม่สิร้ายจริงๆ” มาลาตีมองตาหลังลูกสาวแล้วส่ายหน้าไปมาอย่างเอ็นดู
“มันต้องร้ายบ้างแหละยัยตี ไม่งั้นจะถูกเขารังแกเอาได้”
“ตีหวังว่ายัยเอิร์นคงไม่เริ่มก่อนนะคะแม่” มาลาตีนั่งลงตรงข้ามแม่แล้วจับผักมัดเป็นกำยังคล่องแคล่ว
“เท่าที่ฟังดูว่าลูกกำนันจะเริ่มก่อนนะไม่งั้นครูไม่ทำโทษหรอก” นางมานีตอบลูกแต่หลานขอเธอก็ผิดที่ไปต่อยเขาก่อนจึงถูกทำโทษเหมือนกันก็ถือว่ายุติธรรมดี
“นับวันยัยเอิร์นจะเหมือนผู้ชายเข้าไปทุกทีแล้วนะแม่ พ่อกับนายเติมก็ขยันสอนหลานกันดีจริงๆ” มาลาตีบ่นพ่อกับน้องชายที่สอนลูกสอนหลานว่าอย่ายอมให้ใครมารังแกถ้าเข้าใกล้เกินหนึ่งเมตรถือว่าคุกคามก็จัดการได้เลยทำเอายัยตัวเล็กของเธอกล้าต่อยลูกชายกำนันทั้งที่เขาตัวโตกว่า
“ถ้าถูกคุกคามก็ต้องสู้เขาสิลูก จะปล่อยให้เขารังแกได้ยังไงกันล่ะ” นางมานีพูดกับลูกสาวอย่างพอใจหลานสาวที่เอาตัวรอดได้
“แม่เข้าข้างหลานอีกแล้วนะคะ”
“เอาน่าลูก แม่ว่าเรื่องนี้ยัยเอิร์นไม่ผิดหรอก ตีก็รู้จักนิสัยลูกกดีนี่ว่าถ้ายัยเอิร์นผิดก็จะยอมรับตรงๆแต่ถ้าไม่ผิดแม่คุณจะเถียงขาดใจเลยนี่” นามานีพูดแล้วยิ้มขำหลานสาว
มาลาตีส่ายหน้าเดี๋ยวพอทานข้าวปู่กับน้าก็จะชมหลานอีกที่เอาตัวรอดได้ถ้าคิดกลับกันว่าลูกของเธอโดนตีก็คงเจ็บหนักแต่น้อยนักที่เด็กผู้ชายจะหาเรื่องผู้หญิงดีที่ลูกของเธอไม่ได้เป็นอะไรมาก
วันรุ่งขึ้นมาลาตีก็ไปส่งลูกสาวที่โรงเรียนด้วยตัวเองและไห้แม่ไปนั่งขายผักแทนพอเสร็จธุระจากลูกสาวก็จะไปช่วยเก็บร้านแล้วกลับบ้าน เมื่อไปถึงโรงเรียนก็เจอกับกำนันที่มากับลูกชายทั้งสอง
“สวัสดีค่ะกำนัน” มาลาตีกับลูกสาวยกมือไหว้กำนันขจร
“สวัสดีครับคุณตี หนูเอิร์น ผมต้องขอโทษด้วยนะครับที่ลูกชายของผมมันปากไม่ดี ตาบาสขอโทษคุณตีกับหนูเอิร์นด้วย” กำนันบอกลูกชายคนเล็กที่ไปหาเรื่องว่าเด็กหญิงสิริยากรก่อน
“ไม่เป็นไรค่ะกำนัน ลูกสาวของฉันก็ผิดที่ไปทำลูกชายกำนันก่อนฉันต้องขอโทษด้วยเช่นกันค่ะ” มาลาตียิ้มให้กำนันกับลูกชายที่มองเธออย่างไม่พอใจคงกลัวเธอจะเป็นแม่ใหม่ล่ะสิ เด็กเอ๋ยเด็กช่างไม่รู้อะไรเลยคิดเองเออเองแท้ๆและมองลูกสาวที่ทำหน้ายู่ไม่พอใจ
“แม่คะรีบไปหาคุณครูเถอะค่ะ เดี๋ยวเอิร์นเข้าเรียนไม่ทัน” สิริยากรบอกแม่มองสองพี่น้องด้วยสายตาวาววับ
“งั้นเชิญคุณตี หนูเอิร์นเลยครับ” กำนันขจรยิ้มให้สองแม่ลูกแล้วเชิญให้เดินไปก่อนพอหลับหลังก็ถลึงตาใส่ลูกชายคนเล็กแต่ลูกชายคนโตยักไหล่ไม่สนใจเพราะเขาไม่ได้ก่อเรื่องแล้วเดินไปที่ห้องเรียน
เมื่อถึงห้องรับรองก็เจอครูประจำชั้นของสิริยากรกับสุรชัยแล้วครูประจำชั้นของสิริยากรก็ไปตามผู้อำนวยการโรงเรียนนั่งรอห้านาที ผอ.ก็เดินเข้ามากับครูประจำชั้น
“สวัสดีครับคุณขจร คุณมาลาตี”
“สวัสดีครับท่านผู้อำนวยการ”
“สวัสดีค่ะท่านผู้อำนวยการ”
“ผมต้องขออภัยด้วยนะครับที่รบกวานเวลาของคุณขจรกับคุณมาลาตี แต่เรื่องนี้เราต้องมาทำความเข้าใจกันเพื่อเด็กๆจะได้ไม่มีปัญหากัน จากการสอบถามเด็กทั้งสองและเด็กๆที่อยู่ในเหตุการณ์บอกว่าเด็กชายสุรชัยเป็นฝ่ายว่าให้เด็กหญิงสิริยกรก่อนและเด็กหญิงสิริยากรก็เป็นฝ่ายลงมือก่อนผมจึงลงโทษเด็กทั้งสองเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับเด็กคนอื่นและผมอยากให้เด็กทั้งสองสัญญาต่อหน้าพ่อแม่และอาจารย์ว่าจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกครับ” ผู้อำนวยการพูดกับผู้ปกครองของนักเรียนทั้งสองที่นั่งสงบเสงี่ยมเรียบร้อยต่อหน้าทุกคน
“เอิร์นว่าไงลูก เข้าใจที่ท่านผู้อำนวยการพูดหรือเปล่าลูก”
“เข้าใจค่ะแม่ ต่อไปเอิร์นจะไม่ทำแบบนี้อีกค่ะ” ถ้านายสุรชัยไม่มาหาเรื่องก่อนเธอก็จะไม่ทำอีก
“แล้วเราล่ะตาบาส”
“ผมก็จะไม่ทำแบบนี้อีกครับ”
“แบบนี้ของลูกคืออะไร เป็นลูกผู้ชายต้องพูดให้ชัดเจนเข้มแข็งและที่สำคัญต้องให้เกียรติผู้หญิงไม่ใช่ไปหาเรื่องทะเลาะกับผู้หญิงมันซึ่งลูกผู้ชายเขาไม่ทำกันเข้าใจมั้ยลูก”
“เข้าใจครับพ่อ ผมจะไม่หาเรื่องกับผู้หญิงอีกครับ”
“ดีมากครับเด็กๆ เราอยู่โรงเรียนเดียวกันก็เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันนายสุรชัยก็โตกว่าเด็กหญิงสิริยากรก็ต้องดูแลปกป้องรุ่นน้องไม่ใช่ไปรังแกรุ่นน้องไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ส่วนเด็กหญิงสิริยากรเราเป็นรุ่นน้องถ้ารุ่นพี่พูดจาไม่ดีหรือมาหาเรื่องก็แจ้งอาจารย์ทันทีแล้วอาจารย์จะจัดการให้ เข้าใจมั้ยครับ” ผู้อำนวยการบอกเด็กหญิงตัวเล็กหน้าตาน่ารักเหมือนแม่ขนาดไม่ได้แต่งหน้ายังสวยมิน่าล่ะกำนันขจรถึงตามจีบ
“ค่ะท่านผู้อำนวยการ” สิริยากรตอบ ผอ.เบาๆ
“ตอนนี้เข้าใจกันแล้วนะคะ เด็กๆเขาขอโทษกันเมื่อวานและรับโทษกันแล้วไม่มีใครติดใจอะไรกันก็ขอให้จบแค่นี้นะคะ ต่อไปทางครูและครูทุกท่านจะช่วยกันดูแลเด็กๆเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกค่ะ” ครูประจำชั้นบอกผู้ปกครองของนักเรียนทั้งสอง
“ขอบคุณค่ะคุณครู”
“ขอบคุณครับคุณครู”
“เด็กๆเข้าชั้นเรียนได้แล้วจ้ะ”
“ค่ะคุณครู/ครับคุณครู” เด็กทั้งสองก็สวัสดีทุกคนแล้วเดินกลับห้องเรียนของตัวเอง
“ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะท่านผู้อำนวยการ คุณครู สวัสดีค่ะ”
“ผมก็ขอตัวกลับก่อนครับ สวัสดีครับท่านผู้อำนวยการ คุณครู”
“เชิญครับคุณขจร คุณมาลาตี ขอบคุณมากนะครับที่ให้ความร่วมมือกับทางโรงเรียน สวัสดีครับ” ผอ.หนุ่มใหญ่รับไหว้ผู้ปกครองของนักเรียนทั้งสองที่พูดคุยตกลงเข้าใจกันดี
กำนันขจรเดินออกจากห้องรับรองของโรงเรียนพร้อมกับมาลาตีลงไปลานจอดรถเพื่อกลับบ้านซึ่งเรื่องนี้ลูกชายของเขาผิดเต็มที่ไปว่าให้มาลาตีโดยที่เธอไม่รู้เรื่องเขาเองก็บอกลูกชายไปว่าชอบมาลาตีกำลังตามจีบอยู่แต่เธอไม่ได้ชอบเขา
“ขอบคุณคุณตีมากนะครับที่ไม่ถือสาลูกชายของผมคือเด็กไม่มีแม่สั่งสอน ผมก็สอนทุกวันนะครับแต่ทำไมลูกไม่ฟังก็ไม่รู้ครับ” กำนันขจรพูดขึ้นทำลายความเงียบบอกแม่หม้ายสาวเป็นนัยๆว่าลูกชายไม่มีแม่สั่งสอน
“ไม่เป็นไรค่ะกำนัน พวกเขายังเด็กอาจจะกลัวคนมาแย่งความรักของพ่อเลยทำไปโดยไม่คิดเราต้องพูดคุยอธิบายให้พวกเขาเข้าใจค่ะ” มาลาตีไม่ได้โทษเด็กแต่โทษผู้ใหญ่ที่เอาแต่ใจตัวเองไม่คิดถึงจิตใจของลูกและเธอเองก็ไม่ได้ให้ความหวังใครคุยกับทุกคนเหมือนเพื่อนเหมือนพี่และกำนันขจรก็เช่นกันไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไรในเมื่อเขาไม่ได้พูดออกมาตรงๆเธอก็ยังไม่พูดกลัวหน้าแตกหากเขาบอกว่าไม่ได้ชอบเธอและเธอก็อยากคุยให้เข้าใจกันว่าเธอไม่คิดจะมีพ่อใหม่ให้ลูกสาว
“ผมจะพยายามครับ” กำนันยิ้มให้มาลาตีและคิดว่าเธอเหมาะจะเป็นแม่ใหม่ของลูกชายทั้งสองเพราะใจเย็นมีเหตุผลพูดจาอ่อนหวานเขาจะไม่ปล่อยหลุดมือ
“ฉันขอตัวก่อนนะคะกำนัน สวัสดีค่ะ” มาลาตียกมือไหว้กำนันเพราะเธอจะไปรับปม่ที่แผงขายผักในตลาดกลับบ้าน
“สวัสดีครับ” กำนันจรรับไหว้หม้ายสาวมองตามหลังจนเธอขึ้นรถกระบะขับกลางเก่ากลางใหม่ขับออกไปจากโรงเรียนแล้วเขาก็ขึ้นรถขับออกไปที่ว่าการกำนันหรือบ้านของเขาที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ร้องทุกข์ของชาวบ้านและพูดคุยประชุมกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานทั้งหลายและตั้งใจจีบแม่หม้ายคนสวยให้ได้
เวลาผ่านไป10ปี
จากเด็กหญิงสิริยากรโตขึ้นกลายเป็นนางสาวสิริยากรวัย23ปี สาวสวยน่ารักปากรูปกระจับแดงระเรื่อจมูกโด่งเชิดเล็กน้อยคิ้วโค้งสวยรับกับใบหน้านวลเนียนรูปหัวใจผิวพรรณผุดผ่องเป็นยองใยทั้งที่เป็นแค่ลูกสาวชาวสวนแต่ทุกคนที่เห็นก็จะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าหญิงสาวต้องเป็นลูกสาวของผู้ลากมากดีมีแต่วรันดาเพื่อนสนิทเท่านั้นที่รู้ว่าพ่อของเธอเป็นใคร หลังจากเรียจบปริญญาตรีคณะคหกรรมศาสตร์อาหารและโภชนาการ สิริยากรก็เรียนต่อที่สถาบันสอนทำอาหารชื่อดังระดับโลกเพราะเธอตั้งใจว่าจะเปิดร้านเบเกอรี่และเครื่องดื่มที่บ้านตามที่ได้คุยกับแม่และขอทำงานก่อนหนึ่งปีเพื่อฝึกทำทั้งเบเกอรี่และขนมไทยเครื่องดื่มซึ่งเธอทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านทองจันทร์ เรสเทอรอง ตั้งแต่ปีสามและฝึกงานที่ร้าน ทองจันทร์ เรสเทอรอง ที่กริน ทองจันทร์พี่ชายของ กรนภา ทองจันทร์ เพื่อนของเธอเป็นผู้บริหาร
“ว่าไงครับคนสวยวันนี้มีเมนูอะไรใหม่มานำเสนอพี่ครับ” กรินมองสาวสวยผู้ช่วยเชฟขนมของร้านทองจันทร์เ รสเทอรอง ที่ไม่ได้ทำขายหน้าร้านที่เดียวแต่ทำส่งไปขายในบาร์เครื่องดื่มของโรงแรมด้วยและกรินก็เป็นผู้บริหารทั้งโรงแรมและร้านอาหารหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งที่กรุงเทพและอยุธยาและตอนนี้มีล่องเรือดินเนอร์และจัดปาร์ตี้วันเกิดกำลังฮิตในกลุ่มคนรวยคนดังมีตั้งแต่ลำเล็กสวีทสำหรับคู่รักและขนาดกลางสำหรับครอบครัวหกคนสิบคนและใหญ่สำหรับงานเลี้ยงปาตี้ห้าสิบคนและร้อยคน
“สวัสดีค่ะพี่กริน พี่เอ้ วันนี้เป็นเค้กกล้วยหอมสำหรับสาวๆที่กลัวอ้วนค่ะ” สิรยากรตอเจ้านายหนุ่มหล่อขวัญใจสาวๆแต่กรินมีแฟนแล้ว
“พี่ขอชิมหน่อยได้มั้ยคะน้องเอิร์น” เอริกา แฟนสาวของกรินบอกสาวสวยที่ครั้งหนึ่งเธอเคยหึงแฟนหนุ่มกับสิริยากรเพราะทั้งสองสนิทกันตอนหลังถึงรู้ว่ากรินกับสิริยากรนับถือกันเป็นพี่น้องกัน
“ได้ค่ะพี่เอ้ เดี๋ยวเอิร์นเอามาเสิร์ฟนะคะ” สิริยากรเดินเข้าไปในคัวเพื่อนำเค้กที่เธอทำมาให้เจ้านายกับแฟนสาวลองชิมเพราะเป็นสูตรใหม่ที่เธอลองทำและครูที่สอนก็ชมว่าอร่อยจึงทำเสนอเชฟของร้านและเขาก็บอกให้เธอเอามาเสนอเจ้านาย
“น้องเอิร์นมีพรสวรรค์ด้านนี้จริงๆนะคะกริน ถ้าออกไปเสียดายแย่เลยค่ะ” เอริกาพูดกับแฟนหนุ่ม
“ก็เด็กเขาอยากโตเราจะเก็บเขาไว้แต่ในครัวไม่ได้หรอก เอ้ก็เห็นนี่ว่าที่บ้านของเอิร์นนั้นบรรยากาศดีแค่ไหนหากเปิดร้านขนมเค้กขนมไทยและเครื่องดื่มริมน้ำมีตลาดผักปลอดสารพิษให้ช้อปอีกมันโอเคมากเลยนะ” กรินพูดกับแฟนสาวหลังจากที่เขารู้ว่าบ้านเพื่อนของน้องสาวปลูกผักปลอดสารพิษเขาก็ไปดูและตกลงรับซื้อประจำและจ้างให้น้าของสิริยากรมาส่งทุกสามวันทำให้ตาเกียรติ กรรชัย มาลาตีต้องวางแผนการปลูกผักใหม่ทั้งหมดเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของกรินที่ต้องใช้ทำอาหารสำหรับลูกค้าที่ร้านอาหารและโรงแรม จึงแนะนำเพื่อนบ้านติดกันให้ทดลงปลูกอีกสองรายแล้วแบ่งออเดอร์ให้และเน้นว่าห้ามใช้สารเคมี
“ก็จริงค่ะ ครอบครัวของน้องเอิร์นขยันและน่ารักกันทุกคนเลยนะคะ” เอริกาก็ได้เจอกับครอบครัวของสิริยากรสองครั้งที่แฟนหนุ่มนำของขวัญปีใหม่ไปให้ตายาและแม่ของหญิงสาว
“พอเอิร์นลาออกยัยเก๋ก็กลับมาพอดี น่าจะช่วยได้” กรินพูดถึงน้องสาวที่ไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศสเกี่ยวกับเครื่องดื่มและอาหารขนมยุโรปคลาสสั้นๆหนึ่งปีเพื่อนนำมาพัฒนาโรงแรมและร้านอาหารของครอบครัว
“เค้กกล้วยหอมมาแล้วค่ะพี่กริน พี่เอ้ เสิร์ฟพร้อมอเมริกาโน่ร้อนค่ะ” ผู้ช่วยเชฟสาวเสิร์ฟขนมเค้กกล้วยหอมที่ตกแต่งหน้าด้วยกีวี่ฝานชี้นบางและสตรอเบอรี่ผ่าซีกวางบนโต้ะแล้วยืนรอเจ้านายกับแฟนสาวชิมอย่างลุ้น
“เค้กหวานกำลังดี พอดื่มกาแฟเข้าไปพี่รู้สึกว่ามันสดชื่นยังไงไม่รู้อ่ะ เอ้ว่าไง” กรินตักเค้กมาชิมสามครั้งแล้วดื่มกาแฟแล้วพูดขึ้นตามความรู้สึกของเขา
“อร่อยค่ะ เป็นเค้กคีโตหรือคลีนคะน้องเอิร์น” ส่วนเอริกาก็ตักเค้กใส่ปากแล้วยิ้มและถามผู้ช่วยเชฟสาว
“ก็คล้ายกันค่ะ จะว่าเป็นคีโตหรือคลีนก็ได้เพราะไม่มีส่วนผสมของแป้งไม่ใช้น้ำตาล มีไข่ไก่ กล้วยหอม เบคกิ้งโซดา โยเกิร์ตค่ะ”
“ทำออกมาลองตลาดเลยนะเอิร์น”
“ค่ะพี่กริน” สิริยากรยิ้มอย่างดีใจเมื่อเค้กกล้วยหอมของเธอจะได้ออกไปวางขาย
“พี่ซื้อตัวเอิร์นไว้เป็นเชฟขนมประจำโรงแรมเลยมั้ยทำสัญญายี่สิบปีไปเลย” กรินพูดยิ้มๆ
“เอิร์นก็อยากอยู่นะคะพี่กริน แต่เอิร์นก็อยากดูแลตายายและแม่ด้วยค่ะ” เชฟสาวตอบเจ้านายใจดีที่เปิดโอกาสให้เธอได้แสดงฝีมือ
“รู้แล้วครับน้องสาว ขืนพี่ยึดเอิร์นไว้เดี๋ยวตาเกียรติได้มาถล่มร้านพี่สิ” กรินพูดถึงตาเกียรติด้วยความเคารพ
“แน่นอนค่ะ อ้อ เดี๋ยวเอิร์นฝากขนมไปให้ป๊ากับมาม๊าและมีของคุณพ่อคุณแม่พี่เอ้ด้วยนะคะ” สิริยากรพูดจบก็เดินเข้าไปในครัวอีกครั้งเพื่อเอาถุงขนมที่เธอเตรียมไว้ฝากไปให้พ่อแม่ของเจ้านายกับแฟนสาว
“น้องเอิร์นเปิดร้านเมื่อไหร่เอ้จะเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ฟรีๆเลยค่ะ” เอริกาพูดกับแฟนหนุ่มเพราะทุกครั้งมีเมนูใหม่หญิงสาวจะฝากไปให้พ่อแม่ของแฟนหนุ่มกับเธอเสมอ
“มีเหลืออีกมั้ยเอิร์น พอดีพี่จะเอาไปฝากแม่ของเพื่อนท่านติดใจขนมฝีมือเอิร์นน่ะ” กรินถามน้องสาวเขานัดคุยงานกับชยางกูรที่บริษัทพอดีแล้วคราวก่อนเขาก็ฝากขนมของร้านไปให้ปู่กับพ่อแม่ของเพื่อนรุ่นน้องแล้วพวกท่านก็ติดใจ
“มีค่ะ พี่กรินจะรับกี่ชุดคะเอิร์นจะได้จัดให้ถูก” เธอทำไว้เผื่อไว้ให้พนักงานทุกคนลองชิมและติชมเหมือนทุกครั้ง
“งั้นสักสามชุดได้มั้ย”
“ได้ค่ะ รอแป๊บนะคะ” เชฟสาวก็เข้าไปจัดขนมใส่กล่องใสถุงตามที่เจ้านายขอแล้วเอามาวางให้บนโต้ะ
“ขอบใจนะเอิร์น งั้นพี่ไปทำงานก่อนนะ” กรินบอกเชฟสาวแล้วลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องทำงานของเขาในร้านอาหารแม้จะอยู่ติดกับโรงแรมแต่เรื่องงานแยกกันชัดเจนแต่ก็มีบางครั้งที่ดึงคนไปช่วยงาน
ส่วนสิริยากรก็ไปทำงานของเธอต่ออย่างมีความสุขจนกระทั่งสิบแปดนาฬิกาได้เวลาเลิกงานก็เตรียมตัวกลับบ้านเพราะวันนี้เธอเข้ากะเช้าสิบนาฬิกาถึงสิบแปดนาฬิกา
“เอิร์นกลับก่อนนะคะเชฟแองจี้” เสียงหวานบอกดลธีเชพหนุ่มหน้าใสใจสาววัยสามสิบที่รักการทำขนมหวานและเบเกอรี่แล้วเป็นคนแนะนำให้เธอไปเรียนที่สถาบันสอนทำอาหารชื่อดังระดับโลกเลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต
“วันนี้ไม่ไปกินข้าวกับพี่ก่อนเหรอลูก” ดลธีถามผู้ช่วยเชฟสาวคนเก่งที่ชอบคิดค้นสูตรขนมเค้กขนมหวานเมนูใหม่มาทำและดัดแปลงเป็นขนมคลีนหรือคีโตทำให้ลูกค้าติดใจ
“วันนี้เอิร์นขอตัวนะคะเจ้ พอดีจะรีบกลับไปซักผ้าทำความสะอาดห้องยัยรันจะกลับมาพรุ่งนี้ค่ะ” สิริยากรตอบเชฟหนุ่มหล่อ
“งั้นพี่ไปนะคืนนี้จะได้ออกล่าเหยื่อ ฮิฮิ..” ดลธีพูดจบก็หัวเราะแล้วเดินไปขึ้นรถขับออกไปจากที่จอดรถของพนักงานเพราะคอนโดอยู่คนละทางกับคอนโดของสิริยากรที่อยู่ไม่ไกลจากร้านเพราะเป็นห้องของกรินที่ให้เพื่อนน้องสาวเช่าราคาถูก