1.ความรักที่ซ่อนอยู่

1314 คำ
“เราเลิกกันเถอะ” ข้อความนั้นเด่นชัดอยู่บนโทรศัพท์ที่เธอกำลังถืออยู่ เม็ดทรายจ้องมองข้อความที่ถูกพิมพ์ส่งมาด้วยดวงตาที่รื้นไปด้วยน้ำตา นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอถูกบอกเลิกด้วยสาเหตุนี้ แน่นอนว่าทุกอย่างมันโอเค นิสัยของเรามันเข้ากันได้ดี เธอมีเวลาให้เขาและหลังเลิกงานเราก็ไปเที่ยวในแบบที่คนรักเขาทำกัน แต่สุดท้ายเมื่อเราเริ่มต้นเรื่องราวของการมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง มันมักจะจบไม่สวยอยู่เสมอ “ไม่รู้สึกอะไรเลยงั้นเหรอ ไม่คิดจะร้องครางออกมาหรือว่า..ทำหน้าเสียวหน่อยเหรอ” คำถามพวกนั้น ถามออกมาด้วยความไม่เข้าใจของแฟนเก่าเธอ ซึ่งในตอนแรกเม็ดทรายคิดว่ามันคงเป็นเรื่องที่ผิดพลาด แต่พอแฟนเก่าคนที่สองของเธอเริ่มพูดในทำนองเดียวกัน มันเลยทำให้เม็ดทรายขาดความมั่นใจในเรื่องนี้ไปจนหมด ทั้งๆ ที่ด้วยใบหน้านี้ มีผู้คนมากมายที่สนใจในตัวของเม็ดทราย แต่ทว่าเธอเลือกที่จะปิดกั้นตัวเองและ..ไม่มีคนรักอีกเลยตั้งแต่เรียนจบ “ทราย วันนี้พี่ฝากเราช่วยดูแลท่านประธานด้วยนะ พอดีว่าน้องสาวของพี่กำลังวุ่นวายอยู่กับการเลือกชุดแต่งงาน” เม็ดทรายส่งยิ้มให้กับพี่ปิ่น “ได้เลยค่ะ พี่ไปช่วยน้องสาวเลือกเถอะค่ะ วันสำคัญในครอบครัวทั้งที” พี่ปิ่นเป็นผู้จัดการที่ใจดีกับเธอมากๆ เลยล่ะ เม็ดทรายเข้ามาทำงานที่บริษัทที่ได้ค่าตอบแทนค่อนข้างเยอะ แต่ก็ต้องแลกมากับการทำงานในแบบที่เหมือนกับจะตายในวันพรุ่งนี้เลย เธอมีงานต่ออีกเยอะมากพอสมควร เพราะว่าช่วงนี้ใกล้สิ้นเดือนแล้ว ทางบริษัทจะต้องออกแคมเปญลดราคาสินค้าออกมาเพื่อต้อนรับวันเงินเดือนออก และนั่นเป็นหน้าที่ของฝ่ายการตลาดที่จะต้องเฟ้นหากลยุทธ์มาให้ได้ให้โดน เพื่อให้ลูกค้ายินยอมควักกระเป๋าออกมาเพื่อจ่ายเงินซื้อสินค้าของเรา “ทรายจ๋า..พี่ไปก่อนนะ พอดีนัดสาวๆ ที่ฝ่ายการเงินเอาไว้” เม็ดทรายส่งยิ้มให้กับพี่สิงหา คลาสโนว่าตัวพ่อของฝ่ายการตลาด แต่ถึงแม้ว่าพี่สิงหาจะเจ้าชู้ยังไงแต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่พี่แกจะมาคิดเกินเลยกับเธอ เม็ดทรายนั่งทำงานเพลิน กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีนาฬิกาก็บอกเวลาสามทุ่มกว่าๆแล้ว เธอเบนสายตามองคนอื่นๆ ในแผนกซึ่งไม่หลงเหลือใครเลยสักคน ก็แน่ล่ะ เพราะว่าทุกคนต่างก็มีคนรักและมีครอบครัวนี่ ส่วนเธอไม่มีทั้งคนรัก อีกทั้งพ่อและแม่ก็จากไปตั้งแต่เด็ก เม็ดทรายถอนหายใจออกมาเบาๆ เธอเก็บของเพื่อทำท่าจะลุกขึ้นแต่สายตากลับมองเห็นไฟในห้องทำงานของท่านประธานซึ่งกำลังเปิดอยู่ ตายแน่ๆ ไม่ใช่ว่าพี่ปิ่นฝากให้เธอดูแลท่านประธานด้วยอย่างงั้นเรอะ!! แล้วนี่เธอทำงานจนลืมคำสั่งของพี่ปิ่นไปจนหมดได้ยังไงกัน เม็ดทรายรีบเดินเข้าไปในห้องทำงานของท่านประธาน เธอเปิดประตูเข้าไปและพบว่าท่านประธานยังคงนั่งทำงานอยู่ เม็ดทรายพ่นลมหายใจด้วยความโล่งอก “ท่านประธานจะรับมื้อเย็นเป็นอะไรดีคะ” ขุนเขาละสายตาจากงานมากมายเบื้องหน้า มาจ้องมองใบหน้าของพนักงานคนสวยที่กำลังส่งยิ้มแห้งๆให้เขา จะว่าไปเราร่วมงานกันมานานหลายปีแล้ว แต่เขาไม่เห็นเม็ดทรายรีบร้อนกลับบ้านหรือว่ามีแฟนเลยแม้แต่คนเดียว ทั้งๆ ที่ด้วยใบหน้าแบบนั้นไม่ใช่ว่าจะมีหนุ่มๆ มาขายขนมจีบเธอเยอะแยะเต็มไปหมดอย่างงั้นเหรอ “ช้าไปรึเปล่าสำหรับมื้อเย็น” ก็ช้าไปอย่างที่เขาว่าจริงๆ นั่นแหละ “ขะ..ขอโทษด้วยค่ะท่าน” เธอก้มหน้าลงด้วยใบหน้าที่หดเหลือสองนิ้ว ในครั้งแรกที่เธอเห็นท่านประธานขุนเขาที่เข้ามาบริหารที่นี่ บอกตามตรงว่าเธอหลงไปกับใบหน้าที่สุดแสนจะหล่อเหลาของเขาแบบโงหัวไม่ขึ้นเลย เม็ดทรายแอบมองเจ้านายของเธอเป็นระยะเวลานานหลายเดือน จนเธอได้มาทำงานที่แผนกการตลาดที่ใกล้ชิดกับท่านประธานมากที่สุด และนั่นทำให้เม็ดทรายรู้ว่านรกมันมีจริง เขาไม่ได้อ่อนโยนเหมือนภาพลักษณ์ที่แสดงออกมา แต่เขาทั้งปากหมา โหดร้าย หยาบคาย เรื่องมาก และ..เป็นหมาบ้าเวลาที่ยอดขายตก เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอย่างมองคนอื่นที่ภายนอก ให้ทำความรู้จักกับเขาไปก่อน แล้วค่อยตัดสินเขาก็ยังไม่สาย “จะกลับรึยัง?” “อะ..อ่า งานของทรายเสร็จแล้วค่ะ ทรายว่าจะกลับอยู่พอดี” ขุนเขาพยักหน้า “ขับรถเป็นไหม?” เขาถามเรื่องนั้นไปทำไมกัน “เป็นค่ะ ทรายมีใบขับขี่นะคะ” เพียงแต่เธอไม่ได้ขับมาเป็นระยะเวลาสองปีแล้วละมั้ง “แบบนั้นวันนี้ช่วยขับรถให้ผมหน่อยสิ พอดีอยากดื่ม” ให้ขับรถให้เขา ไม่เอาด้วยหรอก เธอไม่มีทางเอาหูของตัวเองที่มันสงบสุขดีอยู่แล้วไปให้เขาพ่นคำด่าใส่มันหรอกนะ “...คือทรายขับรถไม่คล่องเท่าไหร่” “ช่วยเก็บของหน่อยสิ” เขาไม่ได้ฟังคำปฏิเสธของเธอเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่ได้สนใจเลยด้วยซ้ำว่าในตอนนี้เม็ดทรายกำลังทำหน้าเหมือนกับว่าเธอกำลังจะร้องไห้ออกมา และเม็ดทรายเหมือนจะร้องไห้ออกมาจริงๆ เมื่อเขาส่งกุญแจรถให้เธอ นะ..นี่มันรถยุโรปคันละห้าสิบล้านไม่ใช่รึไง นี่ถ้าเธอขับรถคันนี้ไปเฉี่ยวฟุตบาทเธอไม่ต้องทำงานชดใช้เขาเป็นสิบปีเลยงั้นเรอะ!! เม็ดทรายหันไปส่งยิ้มหวานให้กับท่านประธาน “ทรายว่า ทรายเรียกคนขับรถให้ท่านดีกว่าค่ะ” ขุนเขาหรี่ตามองหน้าของเม็ดทรายด้วยสายตาที่เหมือนกับจะแช่แข็งเธอด้วยความเย็นชาของเขา “ผมไม่ชอบให้ใครเห็นตอนเมา” เอ้า ถ้าแบบนั้นไม่ไปกินที่บ้านละโว้ย!! ถ้าจะอายตอนเมาขนาดนั้นนะ สุดท้ายเม็ดทรายได้แต่เดินมานั่งตรงที่นั่งคนขับ ส่วนท่านประธานเดินไปนั่งบนเบาะหลัง “....” ประตูนี่ มันปิดยังไงกันวะ “อะ..เอ่อ ท่านคะ ประตูนี่ปิดมาแบบไหนคะ” คือเธอกลัวดึงเข้ามาแล้วมันจะหักคามือของเธอ เพราะอย่างนั้นเพื่อความมั่นใจเธอถามเขาน่าจะดีกว่า “กดปุ่มเล็กๆ ตรงมือจับ มันเป็นระบบอัตโนมัติ” มือของเม็ดทรายมันเปียกชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ เธอเกร็งจนไม่เป็นตัวเองเลยให้ตายเถอะ “ท่านจะไปที่ร้านไหนดีคะ” ขุนเขาเงียบไปพักหนึ่งก่อนที่เขาจะแสยะยิ้มออกมา “ร้าน.. ผมจองโต๊ะไว้แล้ว” เม็ดทรายมองหน้าของท่านประธานผ่านทางกระจกมองหลัง เธอสุดหายใจเข้าลึกๆ พร้อมกับเรียกสติของตัวเองให้กลับมา เอาล่ะ กดปุ่มสตาร์ท เหยียบเบรค ดึงเบรคมือลง หลังจากนั้นก็ขยับเกียร์ไปที่รูปตัวD พร้อมแล้วก็มองรถซ้ายขวา หน้าหลัง เมื่อมั่นใจว่าไม่มีรถมาก็เหยียบคันเร่งได้เลย “....” เม็ดทรายมั่นใจว่าตัวเองทำตามขั้นตอนการขับรถที่ถูกต้องหมดทุกอย่างแล้ว แต่แล้วทำไมรถมันถึงพุ่งถอยหลังกันฟะ “เหยียบเบรก!!!” ขุนเขาร้องลั่นรถพร้อมกับกำเข็มขัดนิรภัยเอาไว้แน่น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม