ตอนที่ 1
หญิงสาวในชุดนักศึกษารีบวิ่งตามรถเข็นของเจ้าหน้าที่มาจนถึงหน้าประตูห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล แววตากระวนกระวายเป็นห่วง ก่อนที่เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอจะดังขึ้น หยดน้ำตาพรั่งพรูอาบเต็มสองแก้ม มือเรียวบางรีบล้วงไปเข้าหยิบเครื่องมือสื่อสารในกระเป๋าสะพายใบเก่งออกมาดูภาพบนหน้าจอ แล้วรีบกดรับสายด้วยอาการร้อนรน
“อาเอก!!..พ่อเข้าห้องฉุกเฉินไปแล้วค่ะ” หญิงสาวรับสายด้วยเสียงสั่นเมื่อเห็นว่าเบอร์ที่โทรเข้ามาเป็นเบอร์โทรของเอกดนัยคุณอาของเธอ
“ใจเย็น ๆ เนเน่ เดี๋ยวอากำลังไป” เสียงของอีกฝ่ายก็กระวนกระวายไม่แพ้เด็กสาว เพราะเป็นห่วงพี่ชายและหลานสาว
“เนเน่ รออาอยู่ตรงนั้นก่อนนะ เดี๋ยวอาจะไปหา”
“ค่ะ ๆ อาเอกรีบมานะคะ”
เอกดนัยรีบขับรถคันหรูออกจากบริษัททันที เขาขับรถไปยังโรงพยายาลที่แม่บ้านแจ้งเอาไว้ก่อนหน้านี้ พอถึงโรงพยาบาลชายหนุ่มก็รีบวิ่งหน้าตาตื่นไปหาหลานสาวที่หน้าห้องฉุกเฉิน
“พ่อยังไม่ออกมาจากห้องฉุกเฉินเลยค่ะ...อาเอก!!! แต่เมื่อสักพัก พยาบาลมาบอกว่า หมอส่งตัวคุณพ่อไปเอกซเรย์สมอง อีกเดี๋ยวคงรู้ผล...” เอกดนัยเหลือบมองประตูห้องฉุกเฉินที่ยังปิดสนิท
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
เอกดนัยโน้มตัวลงกราบศพพี่ชายบนผ้าคลุมร่าง
“พ่อขา...ทำไมพ่อต้องทิ้งเนเน่ไปแบบนี้ ฮื้อ ๆ” เด็กสาวไม่อยากจะเชื่อว่าผู้เป็นบิดาจะมาด่วนจากไปเร็วขนาดนี้ ก็คุณพ่อของเธอแค่ลื่นล้มในห้องน้ำ
“พ่อ!!.ฮื้อๆๆ” เด็กสาวสะอึกสะอื้นร่ำไห้ จนคุณอาของเธอต้องรีบปลอบ เอกดนัยรั้งหลานสาวเข้ามากอดไว้แน่น กดศีรษะให้ซบอยู่กับอกกว้าง เด็กสาวกำมือข้างหนึ่งกดไว้ที่ไหล่ของเขาแน่น
“อาเอกขา...คุณพ่อทิ้งเนเน่ไปแล้ว ฮื่อ ๆ” ลมพัดหวีดหวิวไปรอบตัวเด็กสาว โบราณว่าเหมือนคนตายจะมาสั่งลา หลังจากที่หลานสาวหยุดเศร้าโศกเสียใจได้แล้วนั้น เอกดนัยจึงพานันท์นภัสกลับไปที่ทำงานของตนเอง เพราะไม่กล้าปล่อยให้หลานสาวอยู่คนเดียวได้
นันท์นภัสหลานสาวของเอกดนัย เธอเพิ่งอายุได้เพียงสิบแปดปีเท่านั้น เธอขาดแม่ไปตั้งแต่เด็ก ๆ นี่บิดาก็ยังต้องมาจากไปอย่างกะทันหันอีก
เด็กสาวคนนี้มีคุณพ่อ เป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี๋ยวมาโดยตลอด คุณพ่อของเธอเป็นพี่ชายของเขา
ก่อนหน้านี้เอกดนัยเพิ่งเรียนจบและกลับมาทำงานที่บริษัทยังไม่ถึงปี ในตำแหน่งรองประธานของเครือเคพีเอ็นกรุ๊ป ที่เป็นผู้นำทางด้านอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์
เอกดนัยจบการศึกษาด้านการบริหารธุรกิจ ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จากนั้นก็ไปศึกษาต่อปริญญาโทด้านบริหารทรัพยากรบุคคลที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดประเทศอังกฤษ
จนกระทั่งเรียนจบ เขาจึงกลับมาสานต่อธุรกิจของครอบครัวที่มีบริษัทในเครือกว่ายี่สิบบริษัท แต่เอกดนัยก็ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของตนเองควบคู่ไปด้วย โดยเปิดโครงการลักชัวรีคอนโดมิเนียม แห่งแรกใจกลางกรุงซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และขายโครงการได้หมดภายในระยะเวลาเพียงแค่สองเดือนเท่านั้น
นาทีนี้ในแวดวงธุรกิจคงไม่มีใครไม่รู้จัก เอกดนัย เทียรจรูญวงศ์ นักธุรกิจหนุ่มดาวรุ่ง เพราะนอกจากจะกลายเป็นหนุ่มฮอตปรอทแตกประจำปีบนนิตยสารทามไปแล้วนั้น
ชายหนุ่มคนนี้ก็ยังมีดีครบเครื่อง ทั้งความรู้ความสามารถ และรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหล่า จนทำให้มีสาว ๆ แวะเวียนมาขายขนมจีบหลายต่อหลายคน แต่เอกดนัยก็ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจใครเลย และเหตุนี้จึงมีคนเคยสงสัยว่าเขาน่าจะเป็นเกย์ แต่เอกดนัยก็ไม่ได้ออกมาให้ข่าวในเรื่องนี้แต่อย่างใด เพราะเขามองว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ
ขณะที่ทุกอย่างในเครือเคพีเอ็นกรุ๊ป กำลังจะไปได้ดี แต่เมื่อเช้านี้เขาก็ต้องพบกับข่าวเศร้าของพี่ชาย ที่เสียชีวิตด้วยการล้มหัวฟาดพื้นในห้องน้ำ จนแม่บ้านต้องเรียกรถพยาบาล ขณะที่บุตรสาวของพี่ชายก็กำลังทำข้อสอบอยู่ในห้องเรียน เอกดนัยจึงรีบออกมาจากบริษัทของตนเองทันทีที่รู้ข่าวจากแม่บ้าน