ตอนที่ 2 แค่เพื่อนจริง ๆ

2384 คำ
อิงฟ้าดึงมือของพีระเดินมาถึงห้องทำงานของเธอ ก่อนจะเปิดเข้าไปด้านใน และยืนถอนหายใจเมื่อเดินเข้ามาแล้ว “แกจะให้อภัยเขาหรือเปล่า อิง”พีระเอ่ยถามทันทีหลังจากที่ยืนนิ่งมองอยู่สักพัก “ฉันไม่มีอะไรต้องให้อภัยพี่ทามเพราะฉันไม่ได้.....”อิงฟ้ากำลังจะเอ่ยตอบแต่ “นี่อย่าบอกว่าแกไม่ได้........ยัยอิง นี่แกหลงพี่ทามของแกขนาดนี้เลยเหรอ แกจำไม่ได้เหรอเมื่อคืนแกนะเมา ร้องไห้คร่ำครวญด้วยความเสียใจนะ แกลืมแล้วเหรอ “พีระถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเมื่อคิดว่าเพื่อนรักทำเหมือนว่าไม่ได้โกรธ ชายหนุ่มเลย “พี แกฟังฉันก่อนสิ แกจะโวยวายทำไม ขนาดนั้นกัน “ “ก็แกบอกว่าแกไม่จำเป็นต้องให้อภัยพี่ทาม มันก็หมายความว่าแกไม่โกรธ เรื่องที่เขานอกใจแก สิ”พีระเอ่ยต่อ “จะบ้าเหรอ ไม่โกรธ ก็ไม่ใช่คนแล้ว “อิงฟ้าตอบกลับ “ก็แกบอกว่าไม่มีอะไรต้องให้อภัยนี่นา” “ไม่มี เพราะฉันกับเขาไม่เกี่ยวกันแล้ว ฉันไม่จำเป็นต้องไปโกรธหรือให้อภัย เขาแล้วไง “อิงฟ้าตอบ เสียงเข้ม อีกครั้งและเดินไปนั่งที่เก้าอี้หลังโต๊ะทำงานของเธอ พีระเมื่อได้ยินแบบนั้นเขารู้สึกโล่งใจแปลก ๆ และรู้สึกว่าความกังวล มันหายไป “แล้วทำไมแกจะต้องมีท่าทางดีใจขนาดนั้นวะพี “อิงฟ้ามองตรงที่เขาและเอ่ยถาม “อ้อ เปล่า ฉันแค่คิดว่าฉันจะได้ไม่ต้องมานั่งปลอบใจแกเวลาโดนเทอีก “ “น้อย ๆ หน่อย แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นละ ไม่มีอีกแล้ว “อิงฟ้าเอ่ยเสียงประชด “อือ ให้มันจริงเถอะ น่า “ “ว่าแต่ วันนี้ท่านประธานมาถึงบริษัทของฉันมีอะไรหรือเปล่า “อิงฟ้าเปลี่ยนเรื่องคุย “อือ ฉันจะมาบอกแกว่าอย่าลืมงานเลี้ยงรุ่นคืนนี้ “ “อือ ไม่ลืม นาน ๆ จะได้เจอเพื่อน ๆ หลายคน จะพลาดได้ไง ว่าแต่ แกโทรมาก็ได้ ไม่เห็นจะต้องมาด้วยตัวเองเลยนี่นา บริษัทฉันกับบริษัทแกอยู่กันคนละทางเลยนะ” อิงฟ้าเอ่ยบอกอีกครั้งและคำพูดของเธอก็ทำให้ พีระต้องทำหน้าไม่ถูกเหมือนกัน เพราะความรู้สึกของเขาคืออยากมาคุยกับเธอต่อหน้า ดีกว่าคุยทางโทรศัพท์ สรุปง่าย ๆ คืออยากเห็นหน้านั่นละ “เอ่อ ฉันอยากมาดูว่าแกยังโอเคดี ไง เพราะเมื่อคืนแกเมามาก ฉันก็เลยกลัวว่าแกจะลุกมาทำงานไม่ไหวนะสิ “พีระตอบเสียงเรียบ อิงฟ้าลุกจากเก้าอี้และเดินมากอดร่างหนาของพีระโดยที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัวเลย เขาจึงได้แต่ยืนนิ่ง ตกตะลึง ทำอะไรไม่ถูก “อือ พี แกเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันเลยอะ “ อิงฟ้าเอ่ยเสียงอ้อน ชายหนุ่มและกระชับอ้อมกอดแน่น “เอ่อ ยัยอิง ปล่อยฉันได้แล้ว มันอึดอัด นะทำอะไรของแกเนี๊ยะ “พีระเอ่ยเสียงตะกุกตะกักและตอนนี้เขารู้สึก ทั้งตื่นเต้นและประหม่า “พี หัวใจแกเต้นเร็วมาก อีกแล้ว แกเป็นอะไรหรือเปล่า ไม่สบายหรือเปล่า ไปหาหมอไหม “ อิงฟ้าเงยหน้าถามเพื่อนด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง และมองจ้องใบหน้าหล่อนิ่ง และประจวบเหมาะกับที่พีระก้มมามอง เธอเช่นกัน ทำให้ดวงตาของทั้งคู่สบสายตากันนิ่ง อยู่สักพัก พีระก็ตั้งสติได้ จับร่างเล็กของเธอถอยห่าง ทันที “เอ่อ คือ ไม่มีอะไร เดี๋ยวฉันจะต้องไปทำงานแล้ว ฉันแค่แวะมาดูแกว่าโอเคหรือเปล่า และฉันก็รู้แล้วว่าแกไม่เป็นอะไร ถ้าอย่างนั้นฉันไปทำงานก่อนดีกว่า ไปละ” พีระรีบหันหลังเดินออกไป ทันที “พี เดี๋ยว จะไปแล้วเหรอ อะไรของมัน คิดจะมาก็ไม่บอกกล่าวคิดจะไปก็ไป แบบนี้เหรอ แล้วทำไมต้อง ตื่นเต้นอะไรขนาดนั้นกัน แปลก”อิงฟ้าได้แต่บ่นพึมพำด้วยความสงสัย ก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ ทำงานต่อไป เมื่อเข้ามาในลิฟท์ พีระก็ได้แต่เป่าลมออกจากปาก ด้วยความรู้สึกโล่งอก “ทำไมต้อง ตื่นเต้นขนาดนี้วะเรา แค่เพื่อนกอดเพื่อน เป็นเรื่องปกตินี่นา ทำไมต้องใจสั่นด้วยวะ “ พีระบ่นให้กำตัวเอง แต่ว่าเขาก็ยอมรับว่า เขารู้สึกดีที่อิงฟ้ากอดเขาเมื่อสักครู่ นี้มันเหมือนกับว่าเป็นสิ่งที่เขารอคอยมาโดยตลอด มันเป็นความรู้สึกลึก ๆ ที่อยู่ภายในใจของเขาและมีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่จะรู้ ......................................... โรงแรมหรูใจกลางกรุง ภายในห้องจัดเลี้ยงขนาดกลาง ถูกจัดตกแต่ง อย่างสวยงาม และตอนนี้ก็เต็มไปด้วย บรรดาศิษย์เก่า ของ มาหาวิทยาลัยชื่อดัง ต่างมารวมกันอยู่ที่นี่ สำหรับคนที่สามารถมาได้ แต่ถึงกระนั้นก็มีบางส่วนที่มาได้ เพราะไม่สะดวกในหลาย ๆ อย่าง เช่น ไม่ว่าง ติดงาน การเดินทาง อยู่ต่างประเทศ และอื่น ๆ อีกมากมายหลายเหตุผล แต่ส่วนมากก็มาได้ เพราะ ทุกคนต่างต้องการมาพบปะเพื่อน สมัยเรียน แต่ก็มีบางคนที่จบไปแล้วก็ยังคง ทำงานร่วมกัน และยังติดต่อกันอยู่ ตลอดเวลา หรือแม้กระทั่งพบปะกันบ่อย ๆ ก็มี อย่างเช่น สองคนที่กำลังเดินเข้ามาในงานตอนนี้ และทั้งคู่ก็กลายเป็นจุดสนใจของทุกคนในงานได้ในทันที เรียกว่าสวยหล่อเหมาะสมกันที่สุด อิงฟ้า มาในชุด แซ็กสายเดี่ยวสีดำ ชายกระโปรงสั้นเหนือเข่า อวดผิวขาวราวไข่ปอกของเธอ ใบหน้าถูกแต่งแต้ม สีสันโฉบเฉี่ยว โดยรวม แล้วเซ็กซี่มาก ส่วนพีระ มาในชุดทักซิโด้ สีดำซึ่งเข้าคู่กันพอดีกับชุดของอิงฟ้า ทำให้ทั้งคู่ดูเหมาะสมกันที่สุดในคืนนี้ “ พี ทำไมทุกคนต้องมอง เราขนาดนั้นเลยเหรอ วะ “อิงฟ้า เอียงคอมากระซิบถาม พีระที่เดินควงแขนเข้ามานงานตอนนี้ “มองเพราะแกสวย” พีระตอบตรง ๆ “หืม นี่แกชมฉันเหรอ แกว่าฉันสวยเหรอ “อิงฟ้ามามองใบหน้าหล่อของเพื่อน และพีระ ก็หันมามาองใบหน้าของเธอเช่นกัน “อือ แกสวย สวยมาก “พีระเอ่ยพึมพำ และมองด้วยสายตาอ่อนโยนก่อนจะ รู้ตัวว่าตัวเอง กำลังเสียอาการกับคนตรงหน้าอีกแล้ว พีระจึงรีบเปลี่ยนโทนเสียงทันที “อะ แฮ่ม หือ ก็สวย ไม่อย่างนั้นทุกคนจะมองแกเหรอ ใช่ไหม “ พีระเอ่ยเสียงเรียบ ก่อนจะหันไปมอง ตรง ๆ “อือ แกก็หล่อ เหมือนกันเพราะตอนนี้สาว ๆ คณะบริหารกำลังมองมาที่แกด้วย “อิงฟ้า เอ่ยบอกเพื่อนก่อนจะเดินตรงเข้าไปในงาน “ไอ้พี อิง ทางนี้ ทางนี้ “ เสียงเรียกของเพื่อนที่ดังมาจากโต๊ะที่อยู่เกือบจะตรงกลางเรียกทั้งสองคน พร้อมกับโบกมือไหว “ พงษ์ ทำไม ได้โต๊ะที่อยู่ตรงกลางขนาดนี้วะ”พีระเอ่ยถามเมื่อขยับเก้าอี้ให้กับอิงฟ้า นั่ง และตัวเองเดินมานั่งข้าง ๆ เธอ โดยมีสายตาของคนในโต๊ะมองแล้วก็ยิ้มในหน้า “พวกแกยิ้มอะไร” อิงฟ้า เอยถามเมื่อ เห็นสายตาและรอยยิ้มของเพื่อน ๆ ที่อยู่ในโต๊ะ “เปล่า พวกฉันกำลังคิดว่าแก 2 คนนี่เมื่อไหร่จะตกลงปลงใจกันซะที พวกฉันรอฟังข่าวดีอยู่” เพื่อนในกลุ่มเอ่ยตอบ “เอ้ยพวกแกพูดอะไร จะบ้าเหรอ ฉันกับไอ้ พีเป็นเพื่อนรักกันขนาดนี้ “อิงฟ้า หันไปกอดคอพีระ และเอ่ยกับเพื่อน ๆ ในโต๊ะ “พอเถอะน่า ว่าแต่พวกแก่มานานแล้วเหรอ “ พีระเป็นฝ่าย เอ่ยตัดบท และหันมาถามเรื่องอื่น แทนเพราะความใกล้ชิดที่เธอแสดงออกมันทำให้ความรู้สึกของพีระต้องสั่นไหว ทำให้เพื่อน ๆ ในโต๊ะได้แต่ถอนหายใจ อีกครั้ง และก็เป็นอย่างนี้ตลอด พวกเขาก็ลุ้นเหลือเกินว่าเมื่อไหร่ ที่พีระและอิงฟ้าจะลงเอยกันซะที เพราะ ทุกคนมองออกว่า พีระ ต้องไม่ได้ต้องการจะเป็นแค่เพื่อนกับอิงฟ้าแน่นอน แต่พวกเขาก็พอจะเข้าใจ พีระว่าเพราะอะไรเขาถึงต้องรักษาระห่างอยู่แบบนี้ “มาได้สักพักแล้วละ เอ่อ ไหน ๆ วันนี้ทุกคนก็อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน แล้ว ฉันมีข่าวจะแจ้งให้ทุกคนทราบ วะ “พงษ์พัฒน์เอ่ยบอกและทำให้ทุกคนที่อยู่ในโต๊ะต้องหันมามองด้วยความสงสัยว่าเรื่องอะไร “ อะไรวะ พงษ์ฉันอยากรู้แล้วบอกมาเถอะ “เพื่อนในกลุ่มเร่งให้เขาบอก “นั่นสิ แกมีอะไร “อิงฟ้าถามด้วยความอยากรู้เช่นกัน “คือ สิ้นเดือน ฉัน จะแต่งงาน “ “อ้อ แต่งงาน ห๊ะ จะแต่งงาน อย่างนั้นเหรอ “เพื่อน ๆในโต๊ะต่างอุท่านพร้อม ๆ กัน “ใช่ ฉันจะแต่งงาน และก็พวกแกจะต้อง มาให้ได้ “พงษ์พัฒน์ เอ่ยกำชับ “แล้วเจ้าสาวของแกเป็นใครวะพวกฉันเคยเห็นหน้าไหม “พีระเป็นฝ่ายเอ่ยถาม “ น้องแพร เป็นเจ้าของรีสอร์ทที่เชียงใหม่ นะ”พงษ์พัฒน์ตอบ “แล้วแบบนี้ พวกฉันจะต้องไปเชียงใหม่ใช่ไหม”อิงฟ้าถามต่อ ทันทีด้วยความตื่นเต้น “ ครับ หวังว่าท่านประธานพีระ และท่านรองกรรมการผู้จัดการ จะทำตัวให้ว่างด้วยนะครับ “พงษ์พัฒน์เอ่ยแซวทั้งสองคน เพราะเขารู้ว่าทั้งคู่นั้นงานยุ่งแค่ไหน ถึงแม้จะเป็นเจ้าของบริษัทก็ยิ่งต้อง ยุ่งกว่าคนอื่น ๆ อยู่แล้ว “หืม ไม่ต้องห่วงงานแต่งงาน ของเพื่อนรักทั้งทีไม่ไปได้ไง “ “นายยิ่งต้องไป เพราะฉันจองตัวนาย เป็นเพื่อนเจ้าบ่าว อ้อแล้วก็พวกนายด้วย จะต้องเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว ให้ฉันนะเว้ย และงานนี้ใครไม่ไป มีโกรธขอบอก “พงษ์พัฒน์เอ่ย เสียงเข้ม “รับรองไม่พลาด ว่าแต่ ไอ้พีกับไอ้อิง พวกแกควรจะไปมาก ๆ เพราะจะได้ดูเป็นตัวอย่าง ไว้สำหรับงานพวกแกในอนาคต”เพื่อน อีกคนเอ่ยแซวทันที ส่วนคนที่ถูกแซวนั้นได้แต่ทำหน้าไม่ถูกเลย โดยเฉพาะ พีระที่ได้แต่ยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ และค่อยชำเรืองมองมาที่อิงฟ้าว่าเธอจะมีปฏิกิริยายังไง “ อือ ฉันไม่ต้องดู เพราะฉันยังไม่คิดจะแต่งงาน “อิงฟ้าตอบเสียงเข้ม ก่อนจะยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มรวดเดียวหมดแก้ว ทำให้ในโต๊ะต่างเงียบเสียงทันทีเมื่อเห็นท่าทางที่เคร่งขรึมของเพื่อน เมื่อพูดเรื่องนี้ “เอาละ ๆ เรื่องของฉันก็แจ้งพวกแกแล้ว เรามาสนุก กับงานวันนี้ดีกว่า วะ คนเริ่มจะมาเยอะแล้ว “พงษ์พัฒน์ รีบเปลี่ยนบรรยากาศในการพูดคุย เพราะเขารู้ว่าเรื่องราวของอิงฟ้ากับทาม เมื่อก่อนหน้าแล้ว จากพีระนั่นเอง งานเลี้ยงสังสรรค์ ดำเนินมาจนเวลาเกือบจะปิดงานแล้ว และบางคนก็เดินทางกลับไปแล้ว เช่นเดียวกับโต๊ะของอิงฟ้าและพีระ ที่ตอนนี้ในโต๊ะเหลือเพียงพงษ์พัฒน์ พีระ และอิงฟ้า ที่นั่งอยู่และสองหนุ่มได้แต่หันมามองหน้ากันก่อนจะหันไปมอง หญิงสาวที่นั่งเอียงโงนเงนไปมาอยู่ในตอนนี้ และมือก็หยิบแก้ว ไวน์ขึ้นดื่ม “มันชอบทำตัวเข้มแข็ง และเหมือนไม่เป็นไร แต่ดูสภาพตอนนี้สิ”พงษ์พัฒน์ เอ่ยและมองไปที่ร่างเล็กของเพื่อน “อือ ปากแข็ง ไง “พีระบอกเสียงเรียบ และมองที่เธอด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความเป็นห่วงอย่างมาก “ไอ้พีแล้วแกละ เมื่อไหร่แกจะยอมรับ ตัวเองซะทีวะ ว่าแก คิดยังไงกับไอ้อิงและเมื่อไหร่แกจะเปิดเผยความรู้สึกของแกซะที “ พงษ์พัฒน์ หันมาถามเพื่อนรักอย่างรู้ทัน เพราะเขารู้ว่าเพื่อนรักของเขา คิดยังไง เพราะตลอดมา พีระดูแลอิงฟ้าแบบนี้มาโดยตลอด ถึงแม้ปากจะบอกว่า เป็นเพื่อนรักกันก็เถอะ เขามองออก และเขาไม่อยากเห็น อาการผิดหวังของพีระ เวลาที่มีคนอื่นเข้ามาจีบอิงฟ้า เพราะล่าสุดที่เพื่อนของเขาแทบจะไม่เป็นผู้เป็นคน ก็ตอนที่ อิงฟ้าคบกับ ทาม แต่ว่าตอนนี้ อิงฟ้าก็เลิกกับผู้ชายคนนั้นแล้ว เขาก็อยากให้เพื่อนลอง เปิดเผยความรู้สึกสักครั้ง ดีกว่าแอบเงียบอยู่แบบนี้ “เราเป็นเพื่อนกันดีแล้ว ฉันไม่อยากทำลายมิตรภาพดี ที่มีอยู่ในตอนนี้ระหว่างเราวะ “ “แกจะรู้ได้ไง ถ้าเกิดแกสารภาพไปแล้ว แล้วไอ้อิง ตอบรับ มันจะไม่ดีกว่าเหรอ ไอ้พี” “แล้วถ้าปฏิเสธละ จะมองหน้ากันติดเหรอ แล้วจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้เหรอ “ “เฮ้อ ไม่รู้แล้วโว้ย ปวดหัว พวกแกนี่ ยังไง ทำไมต้องขีดเส้นให้ตัวเองแค่คำว่าเพื่อนด้วยวะ เพราะทุกวันนี้ ระหว่างแกสองคนแทบจะมองภาพของคำว่าเพื่อนไม่ออกแล้ว วะ “พงษ์พัฒน์เอ่ยอีกครั้ง ก่อนยกแก้วไวน์ขึ้นดื่ม รวดเดียวหมดแก้ว “พวกแกคุยอะไรกัน ฉันคุยด้วยสิ “อิงฟ้าเอ่ยเสียงอ้อแอ้ ก่อนจะฟุบลงที่โต๊ะ และสองหนุ่มได้แต่ถอนหายใจ “เรากลับกันเถอะ และแกก็ดูแลไอ้อิงด้วยไปส่งมันที่บ้านให้เรียบร้อย เฮ้อแต่อันที่จริงฉันไม่จำเป็นต้องบอกแกหรอก เพราะ แกรู้ว่าจะทำอะไร อยู่แล้วจริงไหมวะ “พงษ์พัฒน์เอ่ยทิ้งท้าย “เอ่อ ๆ เลิกประชดฉันซะที ว่าแต่แกขับรถกลับได้ใช่ไหม เมาหรือเปล่า” “ แค่นี้สบายมาก ไม่ต้องห่วง เราออกไปกันเถอะ “ จากนั้นทั้งสามก็เดินออกจากห้องจัดเลี้ยงโดย พีระได้แต่โอบร่างเล็กของอิงฟ้าเดินออกไปที่รถที่จอดรออยู่ด้านหน้า *********************************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม