บทที่ 4 ท่านหญิงจอมพลัง

1215 คำ
                ท่านหญิงใหญ่จียกง้าวขนาดร้อยชั่งกวัดแกว่งอย่างคล่องแคล่ว เหล่าองครักษ์ที่เป็นยอดฝีมือสิบนายกระโจนบุกเข้าประชิดพร้อมแทงกระบี่เข้าพร้อมกัน จีลี่อิงเหวี่ยงง้าวรับคนทั้งสิบทั้งซ้ายและขวาพร้อมดันพวกเขากระเด็นหงายหลังออกไปไกลกว่าหกจั้ง ทุกคนที่ล้อมวงชมอยู่ต่างตื่นเต้นยืนขึ้นปรบมือเกรียวกราว             “พี่อิงอิงสุดยอด!” จีเซี่ยงอี๋ตะโกนลั่น             “สมแล้วกับเป็นจอมพลังแห่งตระกูลจี” ท่านฝู่กั๋วกงจีจิงเทียนตบมือเสียงดังหัวเราะร่า “เจ้าช่างแข็งแกร่งจริง”             จีหลุนยกง้าวขนาดเท่ากันกระโจนไปยืนตรงหน้าน้องสาว “คู่ต่อสู้ที่คู่ควรกับเจ้ามีเพียงข้าเท่านั้น” ว่าแล้วเขาก็กระโจนเข้าไปโจมตีนางอย่างรวดเร็ว จีลี่อิงตวัดปลายง้าวขึ้นรับ             คร้าง! เสียงกระทบของง้าวก้องกังวานทั่วสนามฝึก             วิทยายุทธ์พี่ชายคนโตนั้นประมาทไม่ได้ มีเพียงพละกำลังเท่านั้นที่ยังเป็นรองนางอีกมาก จีลี่อิงกระโดดถอยหลังไปสองจั้ง ยกยิ้มมุมปาก ตวัดง้าวขึ้นเป็นรูปครึ่งวงกลมในอากาศ             “ข้าจะสำแดงพลังล่ะ”             “เข้ามาได้เลย” จีหลุนอมยิ้ม เขามีวิธีรับมือกับพลังมหาศาลของน้องสาวเสมอ และยังคงเป็นผู้เดียวที่ทำได้ในสนามฝึกนี้ เพราะนางไม่ได้รับอนุญาตให้ไปแสดงฝีมือนอกจวน สตรีที่มีทักษะยุทธ์ซ้ำยังมีพลังมหาศาลเช่นนางหากมีผู้รู้เข้าคงจะขายไม่ออกเป็นแน่ ที่สำคัญตระกูลจียังเป็นหนึ่งในตระกูลที่มีโอกาสถูกฮ่องเต้หวาดระแวงในความจงรักภักดี การส่งเสริมให้ลูกทั้งสามฝึกวิทยายุทธ์ลึกๆ แล้วเป็นเพราะท่านฝู่กั๋วกงห่วงใยในความปลอดภัยของคนในครอบครัวอย่างยิ่ง หากวันหน้าเกิดเหตุสุดวิสัยใด เขาหวังว่า ลูกๆ จะเอาตัวรอดได้ ‘ท่านหญิงจีจอมพลัง’ เกร็งกำลังไปยังท่อนแขนและมือสองข้าง วิ่งโถมเข้าไป พี่ชายเกร็งลมปราณย่อร่างรับแรงจากง้าวนาง เขาใช้หลักการผ่อนแรง เมื่อนางแรงมาเขาจะโอนอ่อนรับ พื้นใต้ฝ่าเท้าของเขายุบลงไปสามชุ่นเพราะแรงกระแทกมหาศาล สำหรับผู้ฝึกยุทธ์หากคิดจะรับแรงระดับนี้ของนาง ฝ่าเท้าคงจะยุบพื้นดินไปสักหนึ่งฉื่อ             เมื่อเห็นร่างพี่ชายยุบลงไป นางกะจะลงแรงกดให้มากขึ้น แต่พี่ชายกลับออกแรงดันเล็กน้อยแล้วไถลตัวออกพร้อมพลิกง้าวอย่างรวดเร็ว เขาเหวี่ยงร่างหมุนออกด้านข้างแล้วพลิกขึ้นตัวขึ้นยืนอมยิ้ม             “พลังเจ้าน่ากลัวมาก อิงอิง หากข้าลมปราณไม่กล้าแข็งเห็นทีคงจะแข้งข้าหักเสียแล้ว”             “คงมีแต่คนระดับท่านจึงจะรับพลังของข้าได้”             “นั่นเพราะเจ้าใช้เพียงครึ่งเดียวต่างหากเล่า”             นางยิ้มกว้าง “ข้าใช้สูงสุดเพียงเท่านี้ ก็ยากจะหาผู้รับได้แล้ว”             ทั้งสองกระโจนเข้าหากันอีกครั้ง จีลี่อิงฟาดง้าวลงหมายกลางศีรษะพี่ชาย หากแต่จีหลุนเคลื่อนตัววืดหลบอย่างรวดเร็ว คุณชายจีได้รับการถ่ายทอดวิชาเคลื่อนย้ายร่างที่มีความว่องไวสูงจากท่านปู่ ไม่ว่าวัตถุใดจะเคลื่อนเข้าหาด้วยความเร็วเท่าใดก็ตาม ผู้มีวิชานี้จะสัมผัสได้และเคลื่อนร่างหนีได้ทันที วิชานี้จะถูกสืบทอดเฉพาะบุตรชายคนโตสายหลักของตระกูลเท่านั้น และนี่ก็เป็นสิ่งที่ท่านหญิงใหญ่จีอิจฉาพี่ชายยิ่งนัก             “ท่านใช้วิชานี้อีกแล้ว” นางงัดง้าวที่ปักอยู่พื้นขึ้นด้วยความโมโห ทุกครั้งที่พี่ชายใช้วิชานี้ นางจะหงุดหงิดลืมตัว             จีลี่อิงโยนง้าวขึ้นบนอากาศแล้วจับส่วนปลายแล้วเหวี่ยงแรง             หวืด! เสียงง้าวแหวกอากาศเกิดลมแรงวูบหนึ่ง จีหลุนกระโดดขึ้นสูง หลบปลายง้าว             “ฮ่าๆ น้องสาวข้าโกรธแล้ว” เขากระโดดถอยหลังไปไกลพอสมควร             ท่านหญิงใหญ่จีสะบัดหน้าพรืด “พี่หลุนหากท่านใช้วิชานี้อีก ข้าจะฟาดให้ง้าวหักเลยทีเดียว” นางหลับตาพลางขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน             “เอาล่ะๆ วันนี้พอได้แล้ว อิงอิง เจ้าอย่าโกรธพี่ชายเลย” ท่านฝู่กั๋วกงเดินเข้ามาห้ามบุตรสาวคนรอง นางชอบฝึกวิทยายุทธ์ ซ้ำยังมีแรงมหาศาลแต่กำเนิด สามพี่น้องฝึกวิทยายุทธ์มาด้วยกัน ครูฝึกทั้งหลายต่างชื่นชมที่บุตรทั้งสามของเขาเรียนรู้ได้ไวนัก โดยเฉพาะบุตรีคนกลางเก่งกาจในการใช้ทั้งสิบแปดศาสตราวุธ แต่วิชาที่นางไม่สามารถฝึกได้คือ วิชาเคลื่อนย้ายร่างที่เป็นข้อห้ามของตระกูล           จีเซียงอี๋รีบวิ่งไปเกาะแขนพี่สาวเพื่อทำให้นางใจเย็นลง “พี่อิงอิง เราไปกินปลาก้อนกันเถอะ” ได้ยินชื่ออาหารจานโปรดจีลี่อิงค่อยยิ้มออก             “ก็ได้” นางหันไปค้อนพี่ชายหนึ่งวงใหญ่ จนเขาแอบขำ             “หายโกรธข้าได้แล้ว เดี๋ยวข้าจะซื้อนิยายให้เจ้าหนึ่งเล่มดีไหม?”             ท่านหญิงจีหันขวับ “จริงนะ”             “ข้าเคยโกหกเจ้าด้วยหรือ?” จีหลุนยิ้มหวานให้น้องสาว             จีเซียงอี๋กอดแขนพี่สาวข้างหนึ่งและแขนพี่ชายอีกข้างหนึ่ง “เราสามพี่น้องไปกินปลาก้อนด้วยกันเถอะ”             ท่านฝู่กั๋วกงยิ้มด้วยความพอใจ หันหลังกลับเดินนำหน้าลูกๆ ไปยังห้องอาหาร พ่อบ้านเหลียงค้อมศีรษะต้อนรับ             “นายท่าน ข้ามีเรื่องจะเรียนท่านด้วย”             “อืม...เดี๋ยวให้ลูกๆ ข้ากินให้อิ่มก่อน ไปรอคุยกันที่ห้องหนังสือ”             “ขอรับ”              จีลี่อิงจิ้มเนื้อปลาปั้นเป็นก้อนกลมขนาดพอดีคำนึ่งใหม่หอมกรุ่นใส่ปาก ทั้งยิ้มทั้งเคี้ยว เนื้อปลาสีขาวคลุกเคล้ากับแป้งปั้นเป็นก้อนนุ่มละมุนลิ้น ชิ้นแรกนางจะไม่ยอมจิ้มซีอิ้วเพื่อจะได้สัมผัสกับรสชาติเนื้อปลา พอเริ่มคำที่สองจึงค่อยจิ้มซีอิ้ว ในถาดใหญ่ที่สาวใช้ยกมานั้นค่อยๆ หมดไปเมื่อสามพี่น้องเริ่มเร่งมือจิ้มเนื้อปลาปั้นแข่งกัน             “พวกเจ้าช้าหน่อยก็ได้ ประเดี๋ยวติดคอกันพอดี” ชายาหวังหันมาห้ามลูกๆ             จีลี่อิงรีบจิ้มรีบเคี้ยวจนแทบตาเหลือก “อิงอิง เจ้าเบาหน่อยก็ได้” ท่านพ่อเห็นนางเคี้ยวแทบไม่ทันก็หันมาลูบหลังช่วย เมื่อหันไปเจอจีหลุนกับจีเซียงอี๋ก็มีอาการเดียวกันจึงอดขำไม่ได้ ครอบครัวของเขาอบอุ่นเช่นนี้ ช่างมีความสุขเสียจริง เขาอยากจะรักษาความสงบสุขในครอบครัวไว้เช่นนี้ มิรู้ว่าจะทำได้มากน้อยเพียงใด ช่วงนี้เมื่อเขาตรวจชะตาเมืองกลับพบความผิดปกติหลายอย่างที่น่าเป็นห่วง การเคลื่อนที่ของดวงดาวในตำแหน่งที่ไม่สมควร ช่วงเดือนนี้ในยามค่ำคืนเขาสังเกตและลองคำนวณออกมา คราแรกรู้สึกแปลกใจแต่คราหลังรู้สึกตกใจ ปรากฏการณ์เช่นนี้ร้อยปีจะเกิดขึ้นหนึ่งครั้ง ‘อีกไม่นาน จะเกิดเรื่องใหญ่อีกครั้ง เลือดจะนองแผ่นดินอีกครา’     ---------------------------------------------------------------------------------------------- 6 จั้ง ประมาณ 20 เมตร 3 ชุ่น ประมาณ 10 เซนติเมตร 1 ฉื่อ ประมาณ 30 เซนติเมตร
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม