บทที่ 10

1226 คำ
“อย่าเรียกว่าโกหกสิวินด้า ต้องเรียกว่าปกปิดความจริงถึงจะถูก” “ปกปิดก็ปกปิดค่ะ ว่าแต่คุณจันทร์เจ้าจะทำยังไงคะ” นวินดาอมยิ้มบางๆ พลางส่ายหน้าช้าๆ เออออห่อหมกไปกับคำพูดของผู้เป็นนายสาว “เมื่อสักครู่วินด้าบอกว่าพี่ตะวันต้องโทรมาหาเราเช้า เที่ยง เย็นใช่ไหม” จิลลาภัทรไม่ตอบคำถามของผู้ที่เป็นทั้งเพื่อนรักและเป็นทั้งลูกน้อง แต่กลับเป็นฝ่ายเอ่ยถามคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าแทน พอนวินดาพยักหน้ารับ หญิงสาวก็เอ่ยบอกในสิ่งที่ตนเองได้ขบคิดไว้ “ก็ในเมื่อรู้ว่าพี่ตะวันจะต้องโทรมาหาจันทร์เจ้าทุกวัน แล้วทำไมต้องรอให้พี่ตะวันเป็นฝ่ายโทรมาหาด้วย เดี๋ยวพอไปถึงประเทศอัสดารานส์แล้ว จันทร์เจ้าจะเป็นฝ่ายโทรไปรายงานตัวกับพี่ตะวันเอง เอาแบบสามเวลาหลังทานอาหาร คราวนี้พี่ตะวันก็ไม่มีทางรู้เด็ดขาด ว่าจันทร์เจ้าไม่ได้อยู่ที่เมืองไทย” “ประเทศอัสดารานส์...” นวินดาพึมพำในลำคอ คิ้วเข้มหนาขมวดเข้าหากันยุ่ง รู้สึกว่าตนเองเคยได้ยินชื่อประเทศนี้จากที่ใดที่หนึ่ง แต่พยายามครุ่นคิดเท่าไรก็คิดไม่ออก ว่าเคยได้ยินชื่อดินแดนแห่งทะเลทรายที่ว่ามาจากใคร “วินด้า รู้จักประเทศอัสดารานส์ด้วยหรือ” จิลลาภัทร์ออกปากเอ่ยถาม เมื่อเห็นนวินดาทำสีหน้าครุ่นคิดราวกับรู้จักประเทศนี้ดี นวินดาส่ายหน้าปฏิเสธ ก่อนจะเอ่ยตอบ “วินด้าไม่รู้จักหรอกค่ะ แต่วินด้ารู้สึกคุ้นๆ ว่าเคยได้ยินชื่อประเทศนี้มาก่อน แต่นึกไม่ออกว่าเคยได้ยินมาจากที่ไหน” ผู้เป็นลูกน้องได้ทอดสายตามองนายสาวผู้งดงามซึ่งนั่งอยู่ตรงหน้าตนเอง จากนั้นก็เอ่ยถามต่อ “คุณจันทร์เจ้าจะไปเที่ยวที่ประเทศอัสดารานส์หรือคะ” “อืม...ใช่ จันทร์เจ้าจะไปย่ำดินแดนทะเลทรายที่สวยที่สุด จะไปชื่นชมดื่มด่ำกับความงดงามของดวงจันทร์ที่ลอยเด่นอวดโฉมอยู่กลางฟากฟ้ากว้าง ณ ประเทศอัสดารานส์” จิลลาภัทรเอ่ยตอบอย่างมีความสุข ใบหน้ารูปไข่งามลออแย้มยิ้มหวาน ดวงตาคู่สวยดำขลับเต้นระริกแพรวพราวทุกครั้งที่ได้พูดถึงดินแดนอันน่าพิศวง ที่ตนเองหลงใหลมาช้านาน “คุณจันทร์เจ้าห้ามลืมเป็นอันขาด คุณจันทร์เจ้าต้องโทรไปหาคุณตะวันทุกวันนะคะ หากคุณตะวันรู้ว่าคุณจันทร์เจ้าไม่ได้อยู่ที่เมืองไทย วินด้าเชื่อว่าคุณจันทร์เจ้าจะไม่มีโอกาสได้ไปชมดวงจันทร์ที่ลอยเด่นกลางนภาอย่างแน่นอน” นวินดาย้ำเตือนผู้เป็นนายอีกครั้ง ในใจนั้นหวาดหวั่นว่าจิลลาภัทรจะปกปิดผู้ที่เป็นพี่ชายได้หรือเปล่า “ไม่ลืมหรอกวินด้า ขืนลืมเราก็ตายแน่ นอกจากพี่ตะวันจะไปลากตัวเรากลับประเทศไทยแล้ว พี่ตะวันคงไม่พูดกับเราเป็นอาทิตย์” จิลลาภัทรรู้ว่าจะต้องเป็นเช่นนั้น หากพี่ชายสุดหล่อ รู้ว่าเธอบังอาจขัดคำสั่งของเขา แถมยังกล้าไปเที่ยวตามลำพังถึงแผ่นดินทะเลทราย ที่สั่งกำชับนักหนาจนเกือบเป็นกฎเหล็กห้ามไม่ให้เธอเดินทางไป พี่ภูริช เจ้าพ่อแห่งคิง ออฟ พาราไดซ์ คงได้โกรธจัด ตามไปรับเธอกลับประเทศไทยโดยไม่ลังเล ติ๊ด...ติ๊ด... ราวกับคนที่อยู่แดนไกลถึงเมืองผู้ดี ได้ล่วงรู้ว่าน้องสาวได้สนทนากับเพื่อนรักอย่างออกรส โดยมีตนเองเป็นหัวข้อหลัก เพราะอีกไม่กี่นาทีต่อมา เสียงโทรศัพท์มือถือของจิลลาภัทรก็ดังขึ้นจนแสบแก้วหู พอได้เห็นเบอร์โทรของคนที่โทรเข้ามา ก็ทำเอาผู้เป็นเจ้าของถึงกับสะดุ้งโหยงแทบจะไม่กล้ากดรับโทรศัพท์ “วินด้า...พี่ตะวันโทรมานะ” จิลลาภัทรบอกเพื่อนรัก ยอมรับว่าปอด จนแทบจะไม่กล้ากดปุ่มสีเขียวเพื่อรับโทรศัพท์ “คุณจันทร์เจ้ารีบรับสิค่ะ เดี๋ยวคุณตะวันจะสงสัยเอา” นวินดาชี้ไปที่โทรศัพท์ เธอเองก็ตกใจหน้าถอดสีไม่แพ้ผู้ที่เป็นนายสาว “ไม่อยากรับเลยให้ตายเถอะ!” เจ้าของโทรศัพท์พึมพำออกมาเบาๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์กดรับสาย โดยไม่ลืมเปิดลำโพงให้นวินดาได้ยินเสียงของปลายทางด้วย จากนั้นก็กรอกเสียงทักทายพี่ชายอย่างแผ่วเบาระคนหวาดหวั่น “สะ...สวัสดีค่ะพี่ชาย ไปถึงอังกฤษหรือยังคะ” เจ้าพ่อแห่งคิง ออฟ พาราไดซ์ ซึ่งลงจากเครื่องบิน เหยียบแผ่นดินเมืองผู้ดีได้ไม่ถึงนาที ก็รีบโทรศัพท์มาเช็กความเคลื่อนไหวของน้องสาวจอมยุ่ง ได้กรอกเสียงทักทายน้องสาวบ้าง “มาถึงแล้ว ลงจากเครื่องปุ๊บก็รีบโทรหาจันทร์เจ้าเลย ว่าแต่จันทร์เจ้าเถอะ ทำไมถึงไม่ได้ไปทำงาน พี่โทรไปที่บริษัท เลขาฯ ของพี่บอกว่าจันทร์เจ้าไม่ได้เข้าไปที่บริษัทตั้งแต่เช้า” คราวนี้ทั้งจิลลาภัทรทั้งนวินดาถึงกับหน้าถอดสีเผือดกับคำถามของภูริช ผู้ที่เป็นน้องสาวนึกไม่ถึงเลยว่าพี่ชายจะฉลาดและรอบคอบถึงเพียงนี้ เพราะแทนที่จะโทรมาหาเธอเป็นอันดับแรก เจ้าพ่อแห่งคิง ออฟ พาราไดซ์ ได้โทรไปเช็กความเคลื่อนไหวของเธอที่ทำงาน จนล่วงรู้ว่าเธอแอบเกงานตั้งแต่วันแรกที่อีกฝ่ายไม่ได้อยู่ในประเทศไทย “เอ่อ...เอ่อ...” จิลลาภัทรอ้ำอึ้ง หาคำตอบให้พี่ชายไม่เจอ หญิงสาวเงยหน้ามองเพื่อนรักที่หน้าซีดไม่แพ้กัน จากนั้นก็รีบเอ่ยโกหกรัวเร็วจนหายใจหายคอแทบไม่ทัน “พอดีว่าวินด้าไม่สบาย อาหารเป็นพิษนะคะ จันทร์เจ้าเลยพาวินด้าไปหาหมอ จันทร์เจ้าเห็นว่าบ่ายแล้วก็เลยขี้เกียจเข้าไปที่ทำงาน เลยพาวินด้ากลับมาพักที่บ้านแทนค่ะ” จิลลาภัทรรู้ดีว่าการโกหก ยกให้เพื่อนรักเป็นคนเจ็บป่วยนั่นแหละดีที่สุด เพราะหากบอกว่าเธอเองที่เป็นคนเจ็บป่วย พี่ชายสุดหล่อก็คงไม่วายเป็นเดือดเป็นร้อน กระวนกระวายใจประชุมไม่รู้เรื่องเป็นแน่ “วินด้าเป็นยังไงบ้าง ไม่สบายมากหรือเปล่า” ภูริชเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง เพราะนวินดามาอยู่กับน้องสาวของเขาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง ทำให้เขาเอ็นดูหญิงสาวไม่ต่างจากเป็นน้องของตนเอง “ค่อยยังชั่วแล้วค่ะพี่ชาย ตอนนี้วินด้านอนพักอยู่ค่ะ จันทร์เจ้าก็เลยถือโอกาสลางานมาเฝ้าดูอาการของวินด้าด้วย พี่ชายไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ วินด้ากินยาตามที่คุณหมอสั่งแล้ว อีกสองสามวันก็คงหายแล้วค่ะ” จิลลาภัทรเอ่ยโกหกได้อย่างไหลลื่น ทั้งๆ ที่ในใจนั้นหวาดหวั่นอยู่ไม่น้อย ด้วยเกรงว่าพี่ชายจะจับโกหกได้ “บอกวินด้าด้วยว่าพี่เป็นห่วง ให้พักผ่อนเยอะๆ จะได้หายเร็วๆ” นวินดาถึงกับน้ำตาซึม ขณะได้ยินคำพูดของเจ้าพ่อคิง ออฟ พาราไดซ์ แม้ไม่รู้ความจริงว่าถูกน้องสาวโกหกเข้าให้ แต่ภูริชก็มีน้ำใจเป็นห่วงเธอเสมอ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม