บทที่ 8

1258 คำ
ภายในคฤหาสน์หรูหราบนเนื้อที่หลายสิบไร่ หญิงงามสองคนที่นั่งอยู่ในห้องนอน กำลังนั่งถกเถียงกันถึงทริปการเดินทางไปท่องเที่ยวของผู้ที่เป็นทั้งเพื่อนรักและเป็นทั้งเจ้านาย ซึ่งผู้เป็นลูกน้องไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ที่นายสาวแสนสวยจะเดินทางไปไกลถึงอีกซีกโลก เพื่อไปดูคลื่นเม็ดทรายสีทองอันแสนจะแห้งแล้งร้อนระอุจนกายแทบมอดไหม้ “หยุดทัก หยุดท้วงและก็หยุดห้ามได้แล้ววินด้า ยังไงๆ จันทร์เจ้าก็จะไปเที่ยวให้ได้ รู้ไหมว่าจันทร์เจ้ารอเวลานี้มานานแค่ไหนแล้ว” จิลลาภัทร วิชชุกร หรือจันทร์เจ้า ออกปากห้ามคนที่เป็นทั้งเพื่อนและเลขาส่วนตัวของตัวเองทันที เมื่อเห็นอีกฝ่ายได้ทำปากขมุบขมิบ เตรียมพร้อมจะคัดค้านเรื่องการเดินทางไปท่องเที่ยวของเธอ “โธ่...คุณจันทร์เจ้าขา จะไม่ให้วินด้าห้ามได้ยังไงล่ะคะ ก็สถานที่ท่องเที่ยวที่คุณจันทร์เจ้าจะเดินทางไปนั้น มันแสนจะแห้งแล้ง ไกลก็ไกลอยู่คนละทวีปกับประเทศไทยเลยนะคะ” นวินดา หรือวินด้า เลขาสาวแสนสวยอดที่จะบ่นออกมาไม่ได้ เพราะตัวเธอนั้นไม่เคยเห็นดีเห็นงามกับความคิดของผู้เป็นนาย ที่คิดจะเดินทางไปท่องเที่ยวในดินแดนที่เธอเห็นว่าไม่มีอะไรเลยนอกจากทะเลทราย “ไกลอะไรกันเล่าวินด้า จันทร์เจ้านั่งเครื่องบินแค่ไม่กี่สิบชั่วโมง ก็ไปถึงดินแดนที่เต็มไปด้วยความงดงามแล้ว” จิลลาภัทรเอ่ยค้านเพื่อนสาวบ้าง ขณะเดียวกันร่างบอบบางอรชรอ้อนแอ้น ก็ได้เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าบานใหญ่ คว้าอาภรณ์ตัวสวยที่แขวนอยู่ในตู้มาวางบนเตียงนอนใกล้ๆ กับนวินดาที่ยังตีหน้ามุ่ยไม่เลิก “วินด้า ช่วยจันทร์เจ้าจัดกระเป๋าด้วย” ผู้ที่เป็นนายเอ่ยขอร้องแกมออกคำสั่งไปในตัว จากนั้นก็เดินไปหยิบเครื่องสำอางประทินผิวหลายหลายยี่ห้อมาวางกองอยู่บนเตียง ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งแล้วจัดข้าวของลงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ “คุณจันทร์เจ้าคะ วินด้าไม่เห็นด้วยเลยนะคะ ที่คุณจันทร์เจ้าจะไปเที่ยวทะเลทราย วินด้าว่าประเทศแถบทะเลทรายไม่เห็นจะมีอะไรให้ดู นอกจากเม็ดทรายเม็ดเล็กๆ มองไปทางไหนก็เห็นแต่ทะเลทรายแห้งแล้ง ไกลสุดลูกหูลูกตา” คนที่ไม่เห็นดีด้วยกับทริปการท่องเที่ยวของผู้เป็นนายสาว และไม่เคยชอบแผ่นดินแห่งอาหรับเลย ได้บ่นแกมต่อว่านายสาวไม่ได้หยุดปาก แต่ในขณะเดียวกัน มือเล็กก็ได้พับเสื้อผ้าใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ให้ผู้ที่เป็นนายอย่างไม่มีทางเลี่ยง จิลลาภัทรมองใบหน้าของเพื่อนสาว ซึ่งงดงามไม่แพ้กับความชาญฉลาดที่มีอยู่เต็มหัวสมอง ก่อนจะคลี่ยิ้มบางๆ แล้วเอ่ยแซวออกมา “นี่ยายวินด้า รู้ตัวไหมว่าชักจะทำตัวเป็นแม่ไก่แก่ ที่บ่นไม่ได้หยุดปากเข้าไปทุกวันแล้ว” “ก็เพราะวินด้าเป็นห่วง และไม่อยากให้คุณจันทร์เจ้าไปเที่ยวที่ทะเลทรายยังไงล่ะคะ วินด้าถึงได้ทำตัวเป็นแม่ไก่แก่เหมือนที่คุณจันทร์เจ้าต่อว่า” นวินดาเอ่ยตอบเสียงขุ่น ออกจะน้อยใจคนที่เป็นนายอยู่มาก ที่ไม่ยอมรับฟังคำคัดค้านของเธอ ซึ่งทั้งเป็นห่วงทั้งเป็นกังวลกับการเดินทางไปเที่ยวคนเดียวของอีกฝ่าย จิลลาภัทรวางมือจากการจัดของใช้ส่วนตัวลงกระเป๋า จากนั้นก็จับมือเล็กของนวินดามากุมไว้ ก่อนจะเอ่ยโน้มน้าวให้อีกฝ่ายได้คล้อยตามตัวเอง “วินด้า...จันทร์เจ้ารู้ว่าวินด้าเป็นห่วงจันทร์เจ้า ถ้าเป็นห่วงมาก ทำไมไม่ไปเที่ยวทะเลทรายกับจันทร์เจ้าล่ะ วินด้าจะได้ไปเปิดหูเปิดตาด้วย หากวินด้าได้เห็นทะเลทรายอันแสนงดงามเป็นสีทองไปทั่วทั้งแผ่นดิน ราวกับมีใครเอาเปลวทองมาราดลงไปบนเม็ดทรายเล็กๆ เหล่านั้น วินด้าจะหลงรักและลืมแผ่นดินทะเลทรายไม่ลงเลยชั่วชีวิต” ขณะที่เอ่ยบอก ดวงตาคู่สวยดำขลับของหญิงสาวผู้หลงรักดินแดนทะเลทรายเข้าเส้นเลือด เต็มไปด้วยประกายแห่งความความสุข เมื่อเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมง เธอก็จะได้เดินทางไปเยือนแผ่นผืนทะเลทราย ที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในโลกแล้ว นวินดาทำหน้าเซ็ง ต่อให้ผู้ที่เป็นเพื่อนรัก เป็นเจ้านายยกแม่น้ำทั้งห้ามาโน้มน้าวยังไง เธอก็ไม่มีทางชื่นชอบหรือคิดที่จะเดินทางไปยังดินแดนอันไกลแสนไกล ไม่มีอะไรเจริญหูเจริญตานอกจากทะเลทรายที่ร้อนระอุ “บอกตามตรงนะคะคุณจันทร์เจ้า วินด้าพยายามนึกถึงภาพอันแสนสวยงาม ของคลื่นเม็ดทรายแห้งแล้งที่คุณจันทร์เจ้าได้เอ่ยบอกมา แต่วินด้านึกเท่าไรก็นึกไม่ออกว่ามันจะสวยงามตรงไหน นอกจากจะมีแต่ฝุ่นแล้ว ยังร้อนแทบไหม้ไม่มีต้นไม้ให้ร่มเงาเลยแม้แต่ต้นเดียว” นวินดาคิดว่าดินแดนทะเลทรายทุกๆ ที่ จะต้องเป็นเช่นดั่งมโนภาพที่ตนเองได้นึกคิดไว้ และด้วยไม่ชอบดินแดนทะเลทรายเอามากๆ หญิงสาวจึงไม่เคยคิดหาข้อมูลของดินแดนที่อยู่ห่างไกลคนละซีกโลก ซึ่งหากเปิดใจให้กว้างอีกนิด นวินดาจะได้รู้ว่าแผ่นผืนทะเลทรายเหล่านั้น งดงามมีมนต์เสน่ห์มากกว่าที่เธอคิดไว้มาก ไม่เช่นนั้นแล้วผู้ที่เป็นนายสาวคงไม่มีทางดิ้นรนเดินทางไปท่องเที่ยวยังดินแดนแห่งนี้ให้ได้ ทั้งๆ ที่มีคำสั่งจากพี่ชาย ผู้เป็นผู้ปกครองคนที่สองได้สั่งนักสั่งหนาไม่ให้เธอเดินทางไปยังดินแดนอาหรับ จิลลาภัทรแกล้งถอนหายใจดังเฮือกๆ ขณะได้ยินคำพูดของเพื่อนสาว จากนั้นก็จัดเสื้อผ้าใส่ในกระเป๋าเดินทางต่อ โดยไม่ลืมต่อว่าคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าตัวเอง “วินด้าน่ะไม่รู้อะไร ประเทศที่เต็มไปด้วยเม็ดทรายเม็ดเล็กๆ ที่วินด้าว่าแห้งแล้งไม่น่าสนใจนั้น มันงดงามน่าท่องเที่ยวกว่าบ้านเมืองที่เต็มไปด้วยตึกราบ้านช่อง ที่มนุษย์ขยันสร้างขึ้นมาจนบดบังทัศนียภาพ ที่ธรรมชาติได้สร้างมา จันทร์เจ้าเบื่อที่จะไปเที่ยวสถานที่เหล่านั้นแล้ว และไม่ว่าวินด้าจะห้ามยังไง จันทร์เจ้าก็จะไปเที่ยวทะเลทรายให้ได้” เอ่ยต่อว่าผู้เป็นเพื่อน เป็นลูกน้องแล้ว จิลลาภัทรก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยบอกให้ความรู้แก่นวินดา ซึ่งยังคงตีหน้ามุ่ยไม่ เลิก “ดินแดนทะเลทรายที่จันทร์เจ้ากำลังจะเดินทางไปนั้น ขึ้นชื่อว่าเป็นแผ่นดินที่มีคลื่นทะเลทรายสวยที่สุด มีโอเอซิสถึงสองที่ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกพักผ่อน เลือกชมความงดงาม และที่สำคัญน่ะวินด้า มีนักท่องเที่ยวเล่าปากต่อปากว่า หากใครได้เข้าไปในวิหารศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งหนึ่งปีจะมีการเปิดให้ราษฎรหรือนักท่องเที่ยว ได้เข้าไปเยี่ยมชมได้แค่เพียงครั้งเดียว แล้วได้ยืนบนหอคอยสุงสุดของวิหารในคืนพระจันทร์เต็มดวง พร้อมกับอธิษฐานให้พบกับเนื้อคู่ คนเหล่านั้นก็มักจะได้รับในสิ่งที่ตนเองได้อธิษฐาอยู่ร่ำไป”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม