เสียงรองเท้าส้นตึกสีแดงกระทบพื้นหินทางเดินดังก้องในสมองของสาวน้อยวัยสิบเก้าปี มันดังเสียยิ่งกว่าหัวใจที่กำลังเต้นโครมคราม เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายบนผิวแก้มเนียนใสที่ถูกแต่งแต้มบางๆ ด้วยเครื่องสำอางราคาถูก ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีแดงเข้ากับเดรสที่สวมใส่เม้มเข้าหากัน
เธอกลืนน้ำลายลงคอด้วยความตื่นเต้น เท้าทั้งสองหยุดนิ่งอยู่กลางพื้นหินทางเดินขัดหยาบ ทอดยาวสู่ร้านอาหารสีขาวสไตล์วินเทจที่กำลังเปิดไฟสีทองสว่างไสวราวกับกำลังล่อหลอกแมลงเม่าสาวให้โบยบินเข้าไปถูกไฟแสนสวยคลอกตาย!
ดวงตากลมโตประดับด้วยแพขนตายาวกะพริบช้าๆ ขณะพยายามเพ่งมองไปตรงที่นั่งข้างหน้าต่างของร้านอาหารราคาแพงที่เธอไม่เคยวาดฝันมาก่อนว่าจะมีโอกาสได้ก้าวเข้าไปในฐานะลูกค้า ถ้าจะสมัครเป็นเด็กล้างจานยังมีโอกาสเสียมากกว่า
สายลมยามค่ำพัดโชยมากระทบลำแขนขาวนวลจนเธอต้องห่อไหล่ เดรสที่สวมใส่ในวันนี้เป็นเดรสเกาะอกสีแดงสั้นแค่เข่า ข้างในกระโปรงพองฟูด้วยชั้นผ้าบางๆ จับจีบ ดูน่ารักสมวัย
เธอสวมรองเท้าส้นตึกสีแดงเข้าชุด ราวกับ ‘คนให้’ รู้ว่าเธอไม่ถนัดสวมรองเท้าส้นสูง
เขาละเอียดลออเสมอ...
สมกับที่คอยติดตามอุปการะส่งเสียเธอมาตั้งสิบกว่าปี!
ยาหยีกระชับซองเอกสารสีน้ำตาลในอ้อมแขนให้แน่นขึ้นพลางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อรวบรวมความกล้าที่จะเดินเข้าไปในร้านอาหารแสนสวย สถานที่ที่ ‘คุณพ่ออุปถัมภ์’ นัดเธอออกมาเจอหน้ากันเป็นครั้งแรก เขากำลังนั่งจิบเหล้ารออยู่ตรงโต๊ะที่เขาบอกว่าจองไว้สำหรับคืนนี้ เป็นโต๊ะตัวในสุดริมหน้าต่าง
เขาเป็นชายต่างชาติหรืออาจจะลูกครึ่งสูงวัยที่ยังดูแลตัวเองดี หนวดเคราสีน้ำตาลตัดสั้นมีสีขาวแซม เขาสวมสูทลายทางสีเทาเข้ากับสีผม ท่าทางชะเง้อมองออกมาข้างนอกเหมือนกำลังรอใครสักคนทำให้เธอคิดได้ว่าควรจะรีบเข้าไปหาเขา ไม่ใช่มัวแต่ตื่นเต้นที่จะได้เจอผู้มีพระคุณจนเอาแต่ยืนอยู่หน้าร้านแบบนี้
กริ๊ง...
“ยินดีต้อนรับค่ะ กี่ท่านคะคุณลูกค้า”
บริกรสาวในชุดกระโปรงสีขาวผูกโบสีดำที่คอเสื้อส่งเสียงดังมาก่อนตัว ยาหยีอึกอักไม่ชินกับการถูกนอบน้อมใส่ เธอจึงยิ้มแหยๆ ตอบ ก่อนจะชี้นิ้วเข้าไปในร้าน
“นัด...เอ่อ...คุณพ่อไว้น่ะค่ะ”
“อ๋อ เชิญค่ะคุณลูกค้า”
เมื่อบริกรผายมือเชื้อเชิญด้วยรอยยิ้ม ยาหยีจึงรีบเดินตรงไปที่โต๊ะริมหน้าต่างทันที คุณพ่ออุปถัมภ์หันมามองหน้าเธอพร้อมกับยักคิ้วข้างหนึ่งขึ้นเป็นเชิงสงสัย ยาหยีไม่มั่นใจว่าเขาเคยเห็นหน้าเธอบ้างหรือไม่ แต่ถ้าเขาส่งชุดมาให้เธอพอดีตัวขนาดนี้ก็น่าจะเคยเห็นหน้ากันบ้าง ทำไมเขาถึงทำท่าเหมือนไม่รู้จักเธอนะ
“เอ่อ...” สาวน้อยกลืนน้ำลายเบาๆ กอดซองสีน้ำตาลแนบอกแน่นขึ้น “คุณพ่ออุปถัมภ์ใช่ไหมคะ หนูยาหยีค่ะ ยาหยี สุจิรากุล”
ชายสูงวัยนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะส่งยิ้มมาให้อย่างเป็นมิตร นั่นทำให้ยาหยีใจมาเป็นกอง แต่แล้วความหวังก็ดับวูบเมื่อเขาพูดออกมาคำแรก
“I’m sorry. I didn’t get you.”
แค่ภาษาอังกฤษธรรมดา ยาหยีก็ฟังแทบไม่ออกแล้ว นี่เขายังพูดรัวเร็ว ยาหยีถึงกับยืนอ้าปากค้าง ดูเหมือนเขาจะดูออกว่าเธองงๆ จึงพูดช้าลงเป็นคำถาม
“Can you speak English?”
“เอ่อ...”
“ขอโทษด้วยนะจ๊ะ หนูน่าจะทักผิดคนแล้วละ”
ยาหยีหันไปมองตามที่มาของเสียงซึ่งอยู่ทางด้านหลัง พบว่าเป็นหญิงสูงวัยที่ดูสวยสง่าสมกับวัย เค้าหน้าคมหวานจมูกโด่งเป็นสันแบบนี้ มองอย่างไรก็รู้ว่าเป็นลูกครึ่ง แต่พูดไทยชัดมากๆ
“สามีเก่าของป้าไม่เคยเป็นคุณพ่ออุปถัมภ์ให้ใครหรอกจ้ะ สงสัยเขาจะหน้าโหล ป้าขอเข้าไปนั่งหน่อยได้ไหมจ๊ะ”
ยาหยีขยับหลบจากหน้าเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับชายสูงวัย ก่อนยกมือไหว้ทั้งสองคนเลิ่กลั่ก
“ขอโทษนะคะ ขอโทษค่ะ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ”
หลังจากหลบให้คู่นัดหมายตัวจริงของชายสูงวัยเข้าไปนั่งเรียบร้อย ยาหยีก็หันไปมองรอบๆ ร้านอาหารอย่างงุนงงว่าใครกันที่เป็นคุณพ่ออุปถัมภ์ของเธอ ในร้านนี้มีลูกค้าไม่มากเท่าไร และตอนนี้เกือบทุกโต๊ะก็นั่งกันเป็นคู่หรือเป็นกลุ่ม ไม่มีใครนั่งอยู่คนเดียวเลย
สงสัยจะมาผิดร้าน หรือไม่อย่างนั้นก็โดนเทแล้วละ
ยาหยีเม้มปากด้วยความเสียใจ เธอตัดสินใจจะเดินออกจากร้านแล้วกลับบ้าน แต่โทรศัพท์มือถือก็สั่นอยู่ในกระเป๋าถือใบเล็กเสียก่อน สาวน้อยล้วงหยิบโทรศัพท์ออกมากดปุ่มรับสายเบอร์ที่ไม่ได้บันทึกไว้ ยังไม่ทันกรอกเสียงลงไป เสียงทุ้มห้าวทรงอำนาจก็ดังเพียงสั้นๆ
“ฉันอยู่ข้างหลัง” เมื่อเห็นยาหยียืนงง เขาก็สั่งเสียงห้วนสั้น “หันกลับมา!”
สาวน้อยในชุดเดรสสีแดงหมุนตัวกลับไปมองด้านหลังทันทีด้วยความตกใจ ดวงตากลมโตสะท้อนภาพชายหนุ่มยืนถือโทรศัพท์แนบหูอยู่ตรงประตูห้องรับประทานอาหารแบบส่วนตัว
เขามองมาด้วยดวงตาดุดันราวกับเสือ! ไม่ใช่ชายชราอย่างที่ยาหยีเข้าใจ แต่เป็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่บึกบึน สวมชุดสูทสุภาพ การที่เขายืนอยู่ไม่ไกลทำให้เห็นดวงตาสีฟ้าคมวาว ดูเข้ากันกับเรือนผมสีน้ำตาลตัดเป็นทรงสมัยนิยม ตามแนวกรามของเขามีรอยไรเคราสีน้ำตาล ทำให้ใบหน้าคมคายยิ่งดูเข้มสมชายชาตรี
ยาหยีลดโทรศัพท์มือถือลงเพราะเขากดตัดสาย แววตาสั่นไหวมองสบดวงตาคมกล้าอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
คนนี้น่ะหรือคุณพ่ออุปถัมภ์ของเธอ...
นี่มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่!