EP 9 จำได้ไม่ลืม

1209 คำ
“เฉาก๊วย...นมสด...” ยาหยีเอ่ยเรียกอย่างงัวเงียขณะหยีตาสู้แสงตะวันยามเช้า ก่อนยันกายลุกขึ้นนั่งอย่างไม่เต็มใจจะตื่นสักเท่าไร “พวกแกเปิดประตูเข้ามาได้ยังไงเนี่ย” “แม่เองจ้ะ” เสียงมารดาดังมาจากห้องโถงเล็กๆ ที่เป็นทั้งห้องครัวและห้องรับแขก “นมสดมันร้องเรียกลูกอยู่หน้าห้องตั้งนาน แต่ลูกไม่ตื่นเสียที แม่เลยเปิดประตูให้สองตัวนั้นเข้าไปปลุก สายแล้วนะ ตื่นมาอาบน้ำกินข้าวได้แล้วลูก เดี๋ยวไปทำงานไม่ทัน” “ค่ะแม่” ยาหยีตอบรับพลางหาวหวอด เธอลุกขึ้นจับเฉาก๊วยมากอดหอมแก้มซึ่งแมวอ้วนวัยดึกก็ยินยอมแต่โดยดีด้วยความที่เชื่องเป็นแมวว่าง่ายตั้งแต่เด็ก แต่พอวางตัวแม่ แล้วจับตัวลูกขึ้นมากอดหอม นมสดก็ยอมให้กอดให้หอมแค่ช่วงสั้นๆ ก่อนจะทำตาโตหูตั้งแบบไม่เต็มใจตามประสาแมว เมื่อทนไม่ไหวนมสดก็ยกสองขาหลังขึ้นถีบอกรัวๆ จนยาหยีต้องยอมปล่อย มันกระโดดลงไปนั่งเลียขนอย่างหวงเนื้อหวงตัวจนเธอนึกหมั่นไส้ ย่นจมูกใส่มัน แล้วลุกขึ้นหยิบผ้าขนหนูก่อนจะเดินออกจากห้องส่วนตัวเพื่อเข้าห้องน้ำซึ่งมีอยู่เพียงห้องเดียวภายในบ้านหลังนี้ แต่เดินได้แค่สองก้าวเท่านั้น เฉาก๊วยก็วิ่งตามมาตะปบเท้าแล้วใช้สองขาหน้าประกบข้อเท้ายาหยีเอาไว้เป็นเชิงหยอก ยาหยีหัวเราะเบาๆ พาดผ้าขนหนูไว้บนบ่าแล้วก้มลงอุ้มเฉาก๊วยขึ้นมาจูบฟัดอย่างมันเขี้ยว ก่อนจะมองหน้ากลมๆ ของเฉาก๊วยด้วยความเอ็นดู มันมองสบตาเธอแล้วยกฝ่ามือนุ่มๆ ที่เก็บเล็บเรียบร้อยขึ้นมาแตะปลายจมูกของยาหยีอย่างอ่อนโยน ก่อนจะยื่นหน้ามาดมแก้มเบาๆ ราวกับจะขอบคุณที่ช่วยเหลือและเลี้ยงดูมันมานานถึงสิบสองปี ยาหยียิ้ม กอดเฉาก๊วยไว้ด้วยความรัก และอดคิดไม่ได้ว่าถ้าวันไหนเฉาก๊วยต้องจากไป เธอคงเสียใจน่าดู...แต่เมื่อถึงเวลานั้นจริงๆ เธอก็ต้องทำใจ เพราะเฉาก๊วยอยู่กับเธอมาสิบสองปีแล้ว มันแก่มากแล้วจริงๆ จะว่าไปเมื่อคืนเธอฝันถึงเหตุการณ์วันแรกที่เจอเฉาก๊วย ยาหยีไม่รู้เหตุผลว่าทำไมถึงหลับฝันถึงเขา ‘พี่ชาย’ คนนั้นที่เธอเคยเจอเมื่อสิบสองปีก่อน ทั้งที่ไม่ได้คิดถึงเขามานานแล้ว อีกทั้งเมื่อคืนตอนกลับมาถึงบ้าน แม่ก็พาเฉาก๊วยและนมสดเข้าห้องแม่ไปแล้วด้วย ยาหยียังจำวันนั้นได้ไม่มีลืม... ตอนนั้นเธอเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่สอง ระหว่างทางที่เดินกลับบ้านเด็กหญิงยาหยีได้ยินเสียงหมาเห่าคำรามก้องจนเธอสะดุ้งด้วยความตกใจ เมื่อหันไปก็เห็นลูกแมวกำลังวิ่งหนีหมาตัวโตท่าทางหวาดกลัวสุดชีวิต และกำลังพุ่งเข้ามาใกล้เธอ ยาหยีหันรีหันขวาง เห็นก้านมะยมร่วงอยู่หลายก้านเพราะตรงนั้นมีต้นมะยมต้นใหญ่ก็รีบหยิบก้านมะยมที่ข้างเท้าขึ้นมาขู่หมาพลางทำเสียงชู่ว์ๆ ไล่มัน ไม้นี่เป็นอาวุธของแม่ เธอทำผิดทีไรแม่ก็ตีให้เจ็บแสบทุกที เธอยังกลัวมันเลย หมาก็ต้องกลัวสิ ยาหยีคิดตามประสาเด็ก แต่ผลปรากฏว่าหมาไม่กลัว แถมยังกระโจนเข้าหาอย่างดุร้าย! เด็กน้อยร้องกรี๊ด หลับตาปี๋ด้วยความตกใจ ก่อนที่ร่างทั้งร่างจะถูกกระชากจากทางด้านหลังพร้อมกับเสียงตวาดดังลั่นและเสียงกระทืบเท้าตึงๆ เธอจำไม่ได้หรอกว่าเขาตวาดว่าอะไร แต่เขาเป็นผู้ชายตัวโต เสียงดัง ท่าทางเอาเรื่อง สุนัขตัวนั้นชะงักลังเล แม้จะยังเห่าแสดงอำนาจ แต่สุดท้ายเมื่อมั่นใจว่าสู้ไม่ได้จริงๆ ก็หันหลังใส่เกียร์สุนัขวิ่งหนีไป ‘ขอบคุณนะคะที่ช่วยหนู’ ยาหยีหันกลับไปไหว้ขอบคุณเมื่อเขาวางตัวเธอลงกับพื้น เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความกลัว แต่ก็รีบหันไปจะจับเจ้าเหมียวที่นอนขดหลบอยู่ข้างถังขยะและกำลังขู่ฟ่อๆ ทว่ายังไม่ทันเอื้อมมือไปจับ พี่ชายคนนั้นก็รั้งแขนเธอเอาไว้ ‘อย่าเพิ่งไปจับ แมวกำลังกลัว เดี๋ยวมันจะข่วนเอา’ ‘ตะ...แต่น้องแมวกำลังกลัว เราควรจะกอดปลอบมันนะคะ’ เธอหันกลับไปแย้งทั้งน้ำตา ถ้าจำไม่ผิดดูเหมือนพี่ชายคนนั้นจะยิ้มให้เธอด้วย ก่อนจะลูบหัวเบาๆ ‘เด็กดี รอให้มันไว้ใจเราก่อนแล้วค่อยพาน้องแมวไปหาหมอนะ เชื่อพี่นะครับ’ ตอนนั้นยาหยียังไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด แต่ด้วยความเป็นเด็กว่าง่ายจึงพยักหน้ารับและรออยู่ตรงนั้นเป็นเวลานานกว่าพี่ชายจะยื่นมือไปจับแมวแล้วลูบมันเบาๆ เมื่อแมวน้อยถูมือเขาตอบ ชายหนุ่มก็อุ้มมันไว้ในอ้อมแขนจนเสื้อสีขาวของเขาเปื้อนเลือดของมันเป็นหย่อมๆ เขาพาเธอกับแมวไปคลินิกรักษาสัตว์ คุณหมอตัดสินใจวางยาสลบและเย็บแผลให้เพื่อป้องกันการติดเชื้อ โดยคุณหมอบอกว่าไม่ใช่รอยหมากัดแต่น่าจะถูกอะไรสักอย่างบาดก่อนมาเจอหมา หลังจากนั้นทุกอย่างก็ดูวุ่นวาย พี่ชายบอกให้ยาหยีออกไปรอข้างนอกก่อน ส่วนเขาก็เดินเข้าไปคุยกับพนักงานอีกคนในห้องด้านหลังระหว่างคุณหมอทำการเย็บแผล ระหว่างรอ ยาหยีเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ พอตื่นขึ้นมาอีกทีพี่ชายคนนั้นก็อุ้มลูกแมวมาส่งให้เธออุ้ม ตอนนั้นเป็นเวลาหัวค่ำแล้ว เมื่อพี่ชายออกปากยกเฉาก๊วยให้ เขาก็เรียกแท็กซี่ให้ไปส่งยาหยีกับแมวเหมียว ก่อนจะเดินต่อเข้าซอยข้ามสะพานแคบๆ เพื่อส่งเธอถึงบ้าน แม่กำลังเป็นห่วงและออกตามหาเธออยู่พอดี เขาจึงอธิบายเหตุการณ์ให้แม่ฟัง จากนั้นก็เข้าไปนั่งคุยกับแม่ในบ้านเกี่ยวกับการดูแลแผล การพาแมวไปหาหมอเพื่อตัดไหม รวมถึงการฉีดวัคซีนที่คลินิกเดิมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพราะเขาสั่งให้คลินิกลงบัญชีเขาไว้แล้ว และคุยอะไรอีกเยอะแยะก็ไม่รู้ ยาหยีนั่งกอดลูกแมวฟังตาปรือด้วยความง่วง ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตอนไหนเหมือนกัน ตื่นเช้ามาเป็นวันเสาร์ แม่เล่าให้ฟังว่าพี่ชายคนเมื่อวานขอให้เลี้ยงแมวตัวนี้แบบระบบปิดเพื่อป้องกันแมวหายหรือออกไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น คือการไม่ปล่อยแมวออกจากบ้านโดยเด็ดขาดนั่นแหละ โชคดีที่แม้จะอยู่ในสลัม ทว่าบ้านเช่าของแม่ในตอนนั้นก็มิดชิดพอจะทำได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปแม่กับยาหยีก็ลืมเรื่องทำหมันไปเสียสนิท รวมถึงเงินทองก็หาไม่ได้ง่ายๆ ด้วย...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม