THE DEME ยั่วรักบาร์โฮส 4 : ไอ้หน้าหนวดโรคจิต 50%
ลิลลี่เดินออกมาจากห้องพักโดยมีชุดคลุมสวมทับใส่ และเดินตามพนักงานหนุ่มขึ้นไปยังชั้นสามของบาร์เพื่อพบกับเจ้าของร้าน ระหว่างทางเดินเธอได้กวาดสายตามองไปรอบๆ บาร์ เธอเพิ่งสังเกตเห็นว่าที่นี่ไม่มีการเปิดห้องให้แขกกับพนักงานมาระบายความเหงา แต่กลับให้พากันออกไปเปิดห้องด้วยตัวเอง ทำให้เธอค่อนข้างแปลกใจมาก ที่บาร์ไม่มีการขายเนื้อสดเหมือนบาร์อื่นๆ ที่ทำกัน ซึ่งทำให้มีรายได้เข้ามาในทางนี้เยอะ แต่ทาง THE DEME กลับไม่สนใจในส่วนนี้ถือว่าใช้ได้พอสมควร เน้นทางด้านเอนเตอร์เทนลูกค้าเพียงอย่างเดียว แล้วเธอมองไม่เห็นกลุ่มลูกค้าหรือพนักงานมั่วสุ่มยาอีกด้วย มาตราถือว่าผ่านมาก สมควรแล้วแหละที่ได้ขึ้นชื่อว่าบาร์ยอดเยี่ยมแห่งปี ขาวสะอาดไร้มลทิน เปิดร้านเพื่อจุดประสงค์อะไร ก็เน้นไปทางนั้นอย่างเดียว ไม่เหมือนร้านอื่น ทีพยายามกอบโกยผลประโยชน์ให้มากที่สุด โดยไม่คิดถึงศีลธรรมและชีวิตของใคร
“ถึงแล้วครับคุณลิลลี่ เสี่ยรออยู่ข้างในห้องแล้วครับ”พนักงานหนุ่มเดินมาหยุดตรงหน้าประตูบานนึงแล้วเอ่ยบอกดีเจคนคนใหม่ของร้าน
“ขอบคุณมากค่ะ”
ร่างบางเอ่ยขอบคุณพนักงานหนุ่มรูปหล่อแล้วเปิดประตูเข้าไปยังภายในห้องที่มีแสงไฟสลัว ความหนาวเย็นกระทบผิวของเธอทำให้ขนลุกซู่ขึ้นมาทันที กลิ่นเหล้าอ่อนๆ ลอยโชยขึ้นมาแตะจมูกของเธอ ทำให้รู้ได้เลยว่าบุคคลภายในห้องนั้นรสนิยมดีเหมือนกัน
“แอดดดด”
“สวัสดีแม่สาวดีเจคนใหม่” เสียงทุ้มดังขึ้นจากอีกมุมหนึ่งของห้อง ชายหนุ่มร่างใหญ่ในชุดสูทนั่งพาดขา มืออีกข้างถือแก้วเหล้าไว้อยู่ในมือ
“หือออออ”
นัยน์ตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้น เมื่อเห็นชายหนุ่มรูปร่างใหญ่ใบหน้าคมสันราวกับเทพบุตรโรมัน ที่พนักงานทุกคนต่างเรียกว่า “เสี่ยลูเซีย” เธอนึกว่าเสี่ยจะเป็นผู้ชายรูปร่างอ้วนพุงลุย หัวล้าน ตัวเตี้ย แต่ที่ไหนได้... นี่มันเสี่ยเทพบุตรชัดๆ
“สวัสดีค่ะเสี่ยลูเซีย คุณโจเซฟบอกว่าเสี่ยมีเรื่องจะคุยกับลิลลี่” มือเรียวบางยกขึ้นสวัสดีชายหนุ่มตรงหน้าแล้วพยายามเพ่งเล็งมองใบหน้าของเสี่ยราวกับคลับคล้ายคลับคลาเหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน
“ใช่แล้วครับ เชิญนั่งก่อนเลยครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
“คุณทำงานได้เก่งมากเลยนะครับ ลูกค้าชมไม่ขาดปากเลยผมชอบการทำงานของคุณจริงๆ” เสียงทุ้มพูดขึ้นผ่านความมืดสลัวของห้องที่เปิดไฟให้สว่างน้อย
“ขอบคุณมากๆ นะคะ ที่ไว้ใจให้ลิลลี่ทำงานนี้”
“เพราะผมเชื่อมั่นในประสิทธิภาพของคุณยังไงล่ะครับ คุณดื่มเป็นหรือเปล่าครับ”
เสียงทุ้มถามขึ้นแล้วยกเครื่องดื่มชูต่อหน้าหญิงสาว หากเดาไม่ผิดเจ้าหล่อนคงเป็นนักดื่มตัวยงแน่นอนและคอแข็งไม่เบาเพราะคนที่เคยผ่านการทำงานทางด้านดีเจมาก่อนต้องมีการดื่มตอนทำงานแน่นอนและไม่มีทางที่จะคออ่อน
“เป็นค่ะ”
“ดื่มกับผมสักแก้วได้ไหมครับ เป็นการฉลองที่ได้ร่วมงานกัน”
“ยินดีค่ะ”
มือเรียวบางรับเครื่องดื่มมาจากมือหนา แล้วกระดกเข้าปากรวดเดียวแต่แล้วก็ต้องตกตะลึงเมื่อได้เห็นใบหน้าชัดๆ ของเสี่ยลูเซียทำเอาเธอตกใจพ่นเครื่องดื่มในปากออกมาพุ่งใส่เข้าใบหน้าของชายหนุ่มอย่างแม่นย่ำ
“พรวดดดดดดด”
“กรี๊ดดดด ไอ้หน้าหนวดโรคจิต!!!!”
ร่างบางกรีดร้องขึ้นเมื่อแสงไฟส่องตรงที่ใบหน้าของเสี่ยลูเซียชัดมากยิ่งขึ้น ทำให้อารมณ์ของเธอเดือดปุดๆ ขึ้นมาทันทีและทำให้นึกถึงเหตุการณ์วันนั้นตอนที่ติดอยู่ในลิฟต์กับไอ้หน้าหนวดโรคจิตที่บังอาจมาจับก้นสวยๆ ของเธอแถมยังลวนลามเธอทางสายตาอีกต่างหาก
“หยุด!!! แหกปากได้แล้วแม่คุณเอ๋ย!!! บ้าชิบ! เสื้อเปียกหมด” นิ้วชี้หนาชี้ไปหายังเจ้าหล่อนแล้วสั่งขึ้น ถ้าหากเจ้าหล่อนแหกปากส่งเสียงดังไปมากกว่านี้คนข้างนอกได้ตื่นตกใจแห่กันมาพอดี คงได้เข้าใจผิดว่าเขาเป็นเสี่ยโรคจิตชอบทารุณลูกน้อง
“สมน้ำหน้า! ไอ้โรคจิต”
ลิลลี่เชิดหน้าขึ้นอย่างสะใจต่อให้เป็นเจ้านายเธอก็ไม่กลัวหรอก ถ้ารู้ว่าไอ้หน้าหนวดโรคจิตเป็นเจ้าของนะเธอจะไม่มีวันมาสมัครงานที่นี่โดยเด็ดขาด!
“พูดให้มันดีๆ หน่อยนะยัยแม่นมวัว ผมเป็นเจ้านายของคุณนะ” ชายหนุ่มพูดข่มขึ้นเพื่อทำให้เจ้าหล่อนหยุดพูดอวดเก่งสักที เพราะเขาไม่เคยเจอใครแสบเท่านี้มาก่อนขนาดทำผิดแล้วยังมีหน้าทำตัวใสซื่อไม่รู้สึกรู้สาอะไรอีก
“แล้วไง! ฉันจะลาออก”
ลิลลี่หยักไหล่ขึ้นอย่างไม่สนใจอะไรแล้วเชิดหน้าใส่ชายหนุ่มเป็นการอวดเก่ง ตอนนี้เธออยากจะเข้าไปถลกหนังหัวของชายตรงหน้าเลยจริงๆ ที่กล้ามาเรียกเธอมาแม่นมวัว ชื่อดีๆ มีให้เรียกไม่ยอมเรียกดันมาเรียกชื่ออะไรก็ไม่รู้
“เสียใจแม่นมวัว เพราะสัญญาทำงานขั้นต่ำคือ 5 เดือนเป็นต้นไปถึงจะลาออกได้”
เสี่ยลูเซียพูดถึงข้อตกลงสัญญา เขาอยากจะหัวเราะออกมาเสียงดังเลยจริงๆ กับความอวดเก่งอวดดีของเจ้าหล่อนที่เหมือนว่าจะเอาชนะเขาได้ แต่จริงๆ แล้วตัวเองก็ไม่ต่างอะไรกับเสือตัวน้อยที่เพิ่งกำลังฝึกหัดล่า
“ชิ!”
ร่างบางสะบัดหน้าใส่ขึ้นอย่างไม่พอใจแล้วกอดอกเชิดหน้าขึ้นอย่างอวดดีไม่เกรงกลัวชายหนุ่มเลยสักนิด ทั้งๆ ที่เป็นเจ้านายของเธอก็ตาม