THE DEME ยั่วรักบาร์โฮส : บทนำ
ร่างบางเพรียวระหงของนักศึกษาสาววัย 21 ปี กำลังเดินเข้าไปยังคอนโดหรูแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองมีอาณาจักรพื้นที่กว่า 50 ไร่ หอบพาร่างอันเหนื่อยล้าจากการเรียนหนักมาทั้งวันกลับมาพักยังคอนโดแทนที่จะไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูง
“ลิลลี่ โลแกน”
นักศึกษาสาวคนสวยดีกรีดาวคณะนิติศาสตร์ สวด มาดมั่น บุคลิกของเธอนั้นไม่ค่อยจะเหมาะสำหรับเรียนกฎหมายสักเท่าไร แต่ใครจะไปรู้ว่าคะแนนของหญิงสาวที่ออกมาในแต่ละเทอมนั้นสูงเป็นอันดับหนึ่งของคลาสเรียนเสมอ ทำให้ใครต่อใครที่เอ่ยปากถูกดูว่าไม่มีทางเรียนกฎหมายรอดแน่ๆ ต้องหุบปากลงทันทีเพราะเกรดของเธอเล่นออกมาซะตบหน้าคนดูถูกแทบหงายคว่ำกันเลยทีเดียว
“เหนื่อยชะมัดวันนี้”
เสียงหวานบ่นอิดออดขึ้นเมื่อเข้ามาภายในตัวคอนโดหรูที่บิดาท่านซื้อไว้ให้เพื่อเป็นของขวัญเข้ามหาลัย เธอพักอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เข้ามหาลัยปีหนึ่งจนตอนนี้เรียนอยู่ปีสามแล้วก็ยังอยู่ที่เดิม เธอจะแวะกลับบ้านทุกๆ อาทิตย์ หากวันไหนที่ติดเรียนหรือติดทำรายงานอย่างหนักก็จะไม่ได้กลับไปพ่อกับแม่ท่านจะแวะมาหาเธอที่คอนโดเสมอ
“ติ่ง”
ประตูลิฟต์เปิดขึ้นขาเรียวขาวสวยก้าวเข้าไปในลิฟต์กดเลขชั้น 34 มือบางล้วงเข้ากระเป๋าสะพายหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูขึ้นมาส่องโซเซียวอ่านข่าวสารต่างๆ และสอดส่องเรื่องชาวบ้านไปทั่วตามประสาคนอยากรู้อยากเห็นเหมือนกับมนุษย์ธรรมดาทั่วไปที่ต้องส่องเรื่องชาวบ้านต้องมาเป็นอันดับหนึ่งเสมอเมื่อมีเวลาว่างเพียงน้อยนิดก็ตาม
“ยัยนิดได้ผัวใหม่อีกแล้วหรือเนี่ย”
เสียงหวานเอ่ยขึ้นเมื่อเลื่อนฟีคมาเจอสถานะคบหาของเพื่อนสาวต่างคณะที่ตั้งคบหากับหนุ่มคนใหม่ ทั้งๆ ที่เพิ่งจะเลิกกับคนเก่าได้ไม่นาน
“ติ่ง”
เสียงประตูลิฟต์เปิดขึ้นพร้อมกับชายหนุ่มร่างใหญ่หน้าคมสันไว้หนวดก้าวเข้ามาภายในลิฟต์ ลิลลี่เหลือบสายตาไปมองแวบเดียวจากนั้นก็หันมาสนใจกับหน้าจอโทรศัพท์ของตนเองต่อ
ความเงียบสงัดภายในลิฟต์ทำให้ได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน แต่แล้วอยู่ดีๆ ลิฟต์ก็เกิดอาการกระตุกขึ้นจากนั้นทุกอย่างก็ตกอยู่ภายในความมืดมิดจนมองไม่เห็นอะไร
“ลิฟต์ดับ? ”
เสียงหวานเอ่ยขึ้นเมื่อได้สติขึ้นมาแล้วกดปุ่มไฟฉากจากโทรศัพท์ขึ้นเพื่อให้แสงสว่างและป้องกันตัวเองจากชายหนุ่มที่กำลังตกอยู่ในสภาพเดียวกับเธอด้วย
“คุณช่วยส่องไฟไปที่ปุ่มลิฟต์หน่อยได้ไหมครับ ผมจะกดแจ้ง รปภ.”
เสียงทุ้มบอกขึ้นภายใต้ความมืดทำให้ลิลลี่ต้องส่องไฟไปตามที่ชายหนุ่มบอกทันที มือหนากดปุ่มฉุกเฉินแล้วแจ้งให้ รปภ.ได้ทราบว่ามีลูกบ้านได้ติดอยู่ในลิฟต์ให้รีบมาจัดการทันที
“ขอบคุณมากครับ”
ชายหนุ่มเอ่ยขอบคุณขึ้นเมื่อได้แจ้งข่าวให้กับ รปภ. ทราบ จากนั้นก็ทำได้แค่ยืนรอพนักงานมาช่วยเปิดลิฟต์พาออกไปเท่านั้น
“ร้อนจังเลย”
มือเรียวโบกมือสะบัดไปมา ตอนนี้หยาดเหงื่อไหลผุดจนเปียกชุ่มไปทั่วตัวของเธอ ยิ่งใส่ชุดนักศึกษาอยู่ด้วยทำให้เห็นถึงเรือนร่างภายใน แต่... ทว่าอยู่ในความมืดทำให้ชายหนุ่มที่ติดอยู่ได้ไม่สามารถมองเห็นของดีภายใต้ชุดนักศึกษาได้
“เอ๊ะ!”
เสียงหวานร้องขึ้นเมื่อรู้สึกมีอะไรมีของแข็งบางอย่างมาโดนก้นสวยของเธอ
“กรี๊ดดดด!!! ไอ้หน้าหนวด! ไอ้โรคจิต! บังอาจมาจับก้นของฉัน!”
ร่างบางกรีดร้องขึ้นอย่างเสียงดัง มือเรียวบางเหวี่ยงกระแทกเข้าใบหน้าคมสันทันทีอย่างแม่นยำภายใต้ความมืดมิดด้วยความโมโหอย่างไม่เกรงกลัวถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้ชายตัวใหญ่ก็ตาม
“เห้ย! คุณจะมาตบผมแบบนี้ไม่ได้นะ!”
ชายหนุ่มร้องบอกขึ้นเมื่อโดนหญิงสาวนักศึกษาถวายฝ่ามือนุ่มๆ เข้าที่แก้มสากของเขาอย่างแรงโดนไมได้ไถ่ถามอะไรก่อนเลยว่าเขาตั้งใจจะจับก้นของแม่คุณหรือเปล่า
“ไม่ได้ต้องมาแก้ตัวเลยนะ! นายเอามือมาจับก้นของฉันไอ้โรคจิต! ฉันจะแจ้งความจับคุณ!”
ลิลลี่ตวาดด่าใส่ชายหนุ่มด้วยความโมโหผ่านความมืดภายในลิฟต์ ตอนนี้เธอแทบอยากจะกระโดดเข้าไปถลกหนังหัวของไอ้หน้าหนวดทันทีที่กล้ามาจับก้นสวยๆ ของเธอ
“ดะ.... เดี่ยว! เรามาคุยกันดีๆ กว่านะสาวน้อย คือยังงี้นะเราสองคนติดอยู่ในลิฟต์แล้วมันก็มืดด้วย ผมไม่สามารถมองเห็นได้ในความมืด ดังนั้นแล้วเวลาผมขยับแขนขยับตัวก็ไม่สามารถจะรู้ได้เลยว่าจะไปโดนตัวคุณหรือเปล่า ที่นี่เข้าใจแล้วยังสาวน้อย”
ชายหนุ่มร่างใหญ่รีบพูดปฏิเสธทันทีกับข้อกล่าวหาที่ตนเองได้รับจากหญิงสาวโดยที่ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เกิดขึ้น แต่แม่คุณก็เล่นตวาดแว๊ดๆ ใส่เขาราวกับจรวดไม่เว้นที่ว่างให้แก้ตัวเลยสักนิด
“แล้วทำไมคุณไม่ขยับตัวไปไกลๆ จากฉันล่ะ”
“โถ่! แม่คู๊ณณณ ผมไม่ได้มีตาทิพย์นะ จะได้มองเห็นว่าคุณยืนอยู่ตรงส่วนไหนของลิฟต์ โปรดเข้าใจด้วยนะครับว่ามันมืด ผมคือมนุษย์ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ในความมืดดังนั้นแล้วกรุณาทำความเข้าใจใหม่ด้วยนะครับว่าผมไม่ได้ตั้งใจจะจับก้นสวยๆ ของคุณแน่นอน”
มือหนาตบเข้าหน้าผากของตัวเองอย่างเหนื่อยล้ากับคำถามของหญิงสาว ไม่คิดเลยว่าจะถามแบบนี้มาได้ ทั้งๆ ที่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันน่าจะเข้าใจเขาสักหน่อยว่ามันมืดทำให้มองอะไรไม่เห็นขนาดแขนของเขาเองยังมองไม่เห็นเลยแล้วก้นสวยๆ ของแม่คุณเขาจะไปเห็นได้ยังไง เขาไม่ใช่ปีศาจนะ!
“ไอ้! ...”
“จุ๊ๆ อย่าเสียงดังสิคุณ ผมรู้สึกเหมือนมีคนกำลังมาช่วยเราสองคนออกไปจากลิฟต์นี่แล้ว กรุณาหุบปากสวยๆ ลงก่อนนะครับแล้วค่อยแหกปากออกมาเมื่อตอนออกไปได้”
ลิลลี่หุบปากลงทันทีเมื่อได้ยินเสียงคนกำลังงัดอะไรบางอย่างจากข้างนอกจากนั้นก็ได้ยินเสียงของผู้ชายตะโกนผ่านประตูลิฟต์เข้ามาไถ่ถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง เธอปล่อยให้ไอ้หน้าหนวดโรคจิตเป็นคนตอบแทนทั้งหมด เพราะตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะมาโต้ตอบกับใครทั้งนั้น
“เสี่ยได้ยินผมหรือเปล่าครับ”
เสียงเรียกจากข้างนอกทำให้ชายหนุ่มที่อยู่ภายในลิฟต์โต้ตอบกลับ ทำให้เธอได้รู้จักชื่อคนชายหนุ่มว่าชื่ออะไร ดูจากการเรียกของคนข้างนอกแล้วคงรู้ได้ว่าต้องเป็นเจ้าของกิจการอะไรสักอย่างและต้องร่ำรวยแน่นอนไม่อย่างนั้นคงไม่ถูกเรียกว่าเสี่ยหรอกนะและก็ไม่รอดพ้นคำว่าเพลย์ยบอยไปได้แน่นอน
เวลาผ่านไปหลายนาทีพนักงานข้างนอกก็ยังไม่สามารถงัดประตูลิฟต์ออกมาได้ ทำให้ลิลลี่นั่งลงบนพื้นอย่างหมดแรงทั้งร้อนและเริ่มจะหายใจไม่ออกทำให้เธอแทบทรงตัวไม่อยู่
“คุณ! นี่คุณ! เป็นอะไรหรือเปล่า”
เสียงทุ้มเอ่ยเรียกขึ้นเมื่อรู้สึกได้ว่าหญิงสาวนั้นเริ่มมีอาการผิดปกติขึ้นมา ทำให้เขาอดเป็นห่วงไม่ได้เพราะว่าติดอยู่ในนี้ก็เป็นเวลาหลายนาทีทั้งร้อนและเริ่มหายใจไม่ออก ผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเจ้าหล่อนคงทนไม่ไหวแน่นอน ขนาดเขาเป็นผู้ชายยังแทบจะไหวอยู่เลยนับประสาอะไรกับผู้หญิงตัวเล็กๆ ปากจัดล่ะ
“ฉันร้อนแล้วก็เริ่มหายใจไม่ออกแล้วด้วย” เสียงหวานบอกขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแล้วปาดเหงื่อบนใบหน้าออก พยายามเรียกขวัญของตนเองให้กลับทั้งๆ ที่ภายในใจเริ่มสนั่นหวั่นไหวกับความกลัว
“รออีกสักแปบนะข้างนอกกำลังงัดประตูเข้ามาอยู่เดี๋ยวก็ได้ออกไปแล้ว”
ชายหนุ่มบอกขึ้นด้วยความเป็นห่วงถึงแม้ว่าเมื่อกี้จะทะเลาะกันแทบตายก็ตามแต่เขาก็ไมได้ใจร้ายใจดำที่จะไม่เป็นห่วงเพื่อนร่วมโลกอย่างหญิงสาวหรอกนะ
ผ่านไปไม่นานประตูลิฟต์ก็ถูกเปิดออกขึ้นด้วยพนักงานหนุ่มทั้งสองคนและยามรักษาความปลอดภัยอีกสองคนที่มาช่วยงัดประตูลิฟต์ให้เปิดออก
“เสี่ยเป็นอะไรบ้างหรือเปล่าครับ”
ชายหนุ่มถามขึ้นเมื่อเปิดประตูลิฟต์ได้ แต่แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นหญิงสาวอีกคนนั่งอยู่บนพื้นสภาพเหงื่อเต็มตัวใบหน้าแดงก่ำราวกับผลมะเขือเทศ
“เสี่ยของคุณยังไม่ตายค่ะแต่ตอนนี้เขาก็ได้ตายแน่นอน”
เสียงแทรกของหญิงสาวตอบแทนขึ้นโดยที่ชายหนุ่มไม่ทันได้อ้าปากตอบ ลิลลี่ลุกขึ้นจากพื้นแล้วเดินออกมาจากลิฟต์แล้วหันไปขอบคุณชายหนุ่มทั้งสองและยามที่มาช่วยไว้ จากนั้นก็เดินไปหยุดตรงหน้าชายหนุ่มผู้ร่วมชะตากรรมเดียวกับเธอริมฝีปากบางกระตุกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
“มีอะไรกับผมหรือเปล่าครับสาวน้อยนมโต”
เสียงทุ้มถามขึ้นแล้วแลบลิ้นเลียริมฝีปากเมื่อได้เห็นสิ่งที่อยู่ภายใต้ชุดนักศึกษาอันเปียกชุ่มของสาวน้อยตรงหน้า มันชั่งงดงามและซ่อนรูปเหลือเกินทำให้อารมณ์ดิบเถื่อนของเขาก่อตัวขึ้นมาทันที
“มีสิไอ้หน้าหนวด! นี่แน่ะ!!!”
ลิลลี่ยักคิ้วให้กับชายหนุ่มแล้วเตะเข้าผ่าหมากอย่างไม่อ้อมแรงทันทีด้วยความสะใจ
“โอ๊ะ”
เสียงทุ้มร้องออกมาทันทีด้วยความจุก ใบหน้าคมสันแดงก่ำขึ้นมือหนากุมเป้าของตนเองด้วยทรมาน เมื่อโดนสาวน้อยแอบลอบจัดการแก้วตาดวงใจของเขาจนทำเอาจุกหมดแรงยืนจนทรุดตัวนั่งลงขาอ่อนกันเลย
“โทษฐานที่คุณกล้ามาจับก้นสวยๆ ของฉันไอ้โรคจิตหน้าหนวด!!! ขอให้แกใช้งานไม่ได้ไปตลอดชีวิต!!”
นิ้วเรียวบางชี้หน้าด่าส่งท้ายอีกครั้งก่อนที่จะเดินหันหลังหัวเราะออกไปขึ้นลิฟต์อีกตัวอย่างมีความสุขที่ได้เอาคืนชายหนุ่มโทษฐานมาจับก้นสวยๆ อันหวงแหนของเธอ
“เธอ!!!”
ดวงตาคมมองตามหลังสาวน้อยไปด้วยความคับแคบใจที่โดนผู้หญิงตัวน้อยๆ เล่นงานจนหมดแรงยืนแถมยังสร้างความอับอายต่อหน้าลูกน้องเขา
“ผมช่วยครับเสี่ย สาวน้อยคนนั้นสุดยอดมากเลยครับ”
ลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามาพยุงร่างของเจ้านายขึ้นแล้วเอ่ยชมสาวน้อยคนสวยที่กล้ามาท้าลองดีกับเจ้านายของเขา ปกติไม่มีผู้หญิงคนไหนรอดพ้นจากเจ้านายของเขาไปได้ แต่ละคนล้วนวิ่งเข้าหากันหมด แต่สาวน้อยคนเมื่อกี้ผู้ร่วมชะตากรรมติดลิฟต์คือคนแรกและน่าจะเป็นคนเดียวที่กล้าทำร้ายร่างกายเจ้านายของเขา