ตอนที่ 2

1928 คำ
เช้าวันต่อมาที่ลานเกียร์ "เกียรติ วินัย กล้าหาญ อดทน" "เกียรติ วินัย กล้าหาญ อดทน" เฮ้อ สิบรอบได้แล้วค่ะสำหรับประโยคนี้ แต่ผลที่ได้กลับมาคือ พี่เขาไม่ยอมบอกให้พอสักที เนื่องจาก ไม่ดัง ไม่พร้อมกัน แล้วก็ เอาใหม่ เอาใหม่ เบื่อจะตายห่าอยู่แล้ว ตึก ตึก ตึก กึก! "ทำไมไม่ดัง" เสียงนี้มันไม่คุ้นหูเลย อย่าบอกนะว่าพวกเฮดปีสามลงอะ! "เพื่อนผมถามทำไมไม่ตอบ!!" อ่า เลเวลความดังเพิ่มอีกแล้ว "ไม่ได้ยินกันเหรอครับ!!!" เพื่อน ๆ ทั้งลานเกียร์สะดุ้งกันเป็นแถบ ๆ มีแต่ฉันที่นั่งนิ่ง ๆ "ดี ดีครับ ถามก็ไม่ตอบ สงสัยไม่ได้เอาปากมาจากบ้านกันใช่ไหมครับ" เสียงพี่คนนี้กวนตีนว่ะ อย่าให้เห็นหน้านะ "ไม่เคารพกันเลยนะครับ" งือ เสียงละมุนอ่าาา แล้วทำไมดังจังวะ "ในเมื่อคุณไม่ตอบพวกผม ก็ได้ครับ" รุ่นพี่คนหนึ่งพูด "ปีสอง!!! คุณไม่สอนมารยาทน้องคุณกันเหรอครับ ทำไมเพื่อนผมถามน้องคุณถึงไม่ตอบ" ฉันสะดุ้งเฮือกกับเสียงนี้ มันนิ่ง ๆ น่ากลัวไงก็ไม่รู้อ่า "ห่วย ห่วยทั้งพี่มันและน้องมัน" "ปีสอง กอดคอ!!" ฉันถึงกับเงยหน้าขึ้นมามองทันที อะไรวะ "สก็อตจัมป์หมู่ร้อยครั้ง" ฮะ! อะไรนะ สก็อตจัมป์หมู่ ไม่ใช่ง่าย ๆ นะเว้ย แล้วพี่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิด "ฮึก ฮึก ฮึก" เสียงยัยพิ้งค์สะอื้นออกมา "ใคร ผมถามว่าเสียงใคร!!" ยัยพิ้งค์ถึงกับสะดุ้ง "ที่นี่ไม่มีที่ยืนสำหรับคนอ่อนแอนะครับ" เสียงพี่ที่พูดแล้วฟังดูอบอุ่น “...” เงียบไม่มีใครพูด "มองทำไมครับ ผมรู้ว่าผมหล่อ" เสียงนิ่งจากพี่อีกคนที่ยัยหวานมองด้วยสายตาแบบกวนส้นตีนใส่ "แล้วคุณยิ้มทำไมครับ มีความสุขงั้นเหรอ" พี่อีกคนหันมาถามยัยทิพย์ที่มองยัยหวานยิ้ม ๆ ก่อนจะชักสีหน้าหยิ่ง ๆ ของมันใส่พี่เขาไป "ใครสั่งใครสอนให้ชักสีหน้าใส่รุ่นพี่คุณครับ ปีสองพวกคุณสอนน้องคุณยังไง ทำไมมารยาท โคตรห่วย" พี่คนนี้นี่ชักจะมากเกินไปแล้วนะ รุ่นพี่ปีสองบางคนน้ำตาไหลแล้วอะ ขนาดพี่ว้ากปีสองยังยืนตัวสั่นเลย "เพิ่มอีก หนึ่งร้อย ครั้ง" พรึบ! ทันทีที่พี่มันพูดโทษของพี่ปีสองฉันก็หมดความอดทนลุกขึ้นยืนทันที และมองพี่มันนิ่ง ๆ กลัวนะ ฉันไม่เคยกลัวใครเลย แต่สายตาคนตรงหน้า กลับทำให้ฉันรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ แฮะ แต่ไม่ทันละ ฉันยืนจ้องหน้าเรียบร้อยแล้ว "ใครสั่งให้คุณยืน" พี่มันถามฉัน "ไม่มีค่ะ ฉันยืนเอง" พอฉันพูดจบพี่มันก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้ามาหาฉัน "ทำไม เรียกร้องความสนใจ" พี่มันกวน รวมถึงทั้งลานเกียร์เงียบยิ่งกว่าป่าช้าซะอีก "คนอย่างฉันไม่จำเป็นต้องเรียกร้องความสนใจจากใคร" ฉันพูดจบเสียงฮือฮาในลานเกียร์ก็ดังขึ้น "หึ ถ้างั้นคุณยืนทำไม" "มันจะไม่มากไปหน่อยเหรอคะ ที่รุ่นพี่...” "ผมไม่ใช่พี่คุณ และคุณก็ไม่ใช่น้องผม" พี่มันมองฉันนิ่ง ๆ "ค่ะ มันจะไม่มากไปหน่อยเหรอ ที่คุณสั่งพี่ของฉันให้ถูกลงโทษตั้งสองร้อยครั้ง ซึ่งมันไม่ยุติธรรมเลยสักนิด ดูก็รู้พวกพี่เขาไม่ได้ผิดอะไรสักหน่อย ซ้ำยังทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดีเยี่ยม แต่นาย!! กลับสั่งลงโทษพี่ของฉัน อย่างนี้เขาเรียกอะไรน้า... อ้อ บ้าอำนาจ" ทันทีที่ฉันพูดจบนายนั่นก็ขบกรามแน่น พร้อมมองตาฉันเขม็ง ฉันมองไปที่รุ่นพี่ปีสองก็พบว่า พวกเขาส่ายหน้าและบอกให้ฉันนั่งลง ฉันยิ้มให้รุ่นพี่บาง ๆ ก่อนจะมองคนตรงหน้าที่ยืนนิ่งอีกครั้ง "หึ คุณว่าผมบ้าอำนาจใช่ไหม ได้ งั้นวันนี้คุณออกจากห้องเชียร์ ไปสิ!!" ฉันขบกรามนิ่ง "ฉันไม่ออก" "ถ้าคุณไม่ทำตามที่ผมสั่ง เพื่อนและพี่คุณจะถูกลงโทษ" มันกระตุกยิ้มใส่ฉัน ฉันมองมันด้วยความโกรธ ก่อนจะกลับหลังเดิน แต่ไม่ทันที่จะได้ก้าวไปไหน เสียงพี่มันก็ตามมา "ตามล่าชื่อเฮดว้ากของผมให้ได้ ว่าผมชื่ออะไร แต่คุณต้องไปตามกับผมนะ ให้ผมเอ่ยปากบอกคุณให้ได้ว่าผมชื่ออะไร ไม่งั้นผมจะไม่ให้รุ่นคุณ" พี่มันพูดจบก็ยิ้มเหนือกว่า ฉันตัดสินใจกลับหลังหันอีกครั้ง ก่อนจะเดินออกไปฉันก็คิดได้และหันหลังไปหาพี่มันช้า ๆ พร้อมคำพูดที่ไม่มีเสียงว่า "fuck you" และนิ้วกลางอีกหนึ่งนิ้ว ก่อนจะยิ้มสวย ๆ แล้วรีบเดินออกห้องเชียร์ทันที ขืนอยู่ต่อระเบิดลงแน่ เรื่องอะไรจะทำให้ตัวเองเดือดร้อนล่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า สะใจ กรอด เสียงกัดฟันของผมเองครับ เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะยัยตัวแสบน้ำมนต์ไง กล้ายืนเถียงผมยังไม่พอ ก่อนออกจากลานเกียร์น้องมันยังหันกลับมาด่าผมและชูนิ้วกลางให้ พร้อมกับยิ้มสวย ๆ ก่อนจะค่อย ๆ หันหลังเดินกลับไป เจ็บใจชะมัด และทั้งลานเกียร์ก็เงียบอย่างกับป่าช้า ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทำไม "ห้ามใครพูดหรือยุ่งเกี่ยวกับเพื่อนคุณเมื่อกี้เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ ใครไม่ทำตามที่ผมสั่ง รับรองว่าคุณคิดไม่ถึงกับสิ่งที่จะตามมาแน่นอน เพราะฉะนั้นอย่าทำตัวมีปัญหา" ผมพูดจบน้องก็ได้แต่ก้มหน้า "เอาละวันนี้ผมแค่มาดู แต่ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป พวกผมจะเข้ามาจับตาดูพวกคุณทุกวัน ทราบไม่ทราบ" "สะ ทราบค่ะ" น้องมันตอบผมเสียงสั่นก่อนผมจะค่อย ๆ เดินออกมา แต่พอเดินออกมา ผมก็เห็นยัยตัวแสบนั่งอยู่ใต้ต้นไม้บนโต๊ะหินอ่อนอย่างสบายใจ นึกแล้วแค้น ผมเดินไปใกล้ ๆ ที่เธอนั่ง เพื่ออยากรู้ว่าเธอทำอะไร แน่นอนเธอไม่เห็นผมเพราะเธอนั่งหันหลังไงล่ะ "ไอ้บ้าเอ้ย ไอ้ผู้ชายใจทราม อยากจะฆ่าให้ตาย เบื่อโว้ยยยย อย่าให้แม่ได้เจอนอกรอบนะ แม่ง" "ทำไม เจอนอกรอบแล้วจะทำไม" ทันทีที่คนตัวเล็กพูดจบ ผมก็จัดการถามด้วยเสียงนิ่ง ๆ ทันที หึ จะดูสิ เธอจะทำยังไง เธอหันมามองหน้าผมอย่างอึ้ง ๆ ก่อนจะนิ่งไป แล้วมองผมกลับอย่างไม่กลัว "คุณจะทำไงเหรอ ถ้าเจอผมนอกรอบ" ผมยังคงถามต่อไปเรื่อย ๆ ในขณะที่เธอยืนนิ่ง ๆ "ทำยังไงมันก็เรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับนาย" "ไอ้มนต์" ผมยังไม่ทันตอบเสียงเพื่อนเธอก็ดังขึ้นซะก่อน "เป็นอะไรหรือเปล่าแก" "นั่นสิ มีเรื่องอะไรเหรอ" เพื่อนเธอทั้งสามถามด้วยความเป็นห่วง "ถ้าจำไม่ผิด ผมเตือนพวกคุณแล้วใช่หรือไม่ ว่าห้ามคุยห้ามยุ่งกับเพื่อนคุณเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์" "เฮ้ย มันจะไม่มากไปหน่อยเหรอวะ มีสิทธิ์อะไรมาสั่งให้เพื่อนไม่คุยกับฉัน" "สิทธิ์ในการควบคุมดูแลพฤติกรรมของเธอยังไงล่ะ" ผมตอบเธอไปนิ่ง ๆ เธอมองผมอย่างโกรธ "ถ้าไม่อยากให้คนอื่นเดือดร้อน เธอก็ห้ามยุ่งกับใคร" "หึ ได้ ฉันยอมจะไม่คุยกับเพื่อนก็ได้ แต่เฉพาะเวลาที่อยู่ในลานเกียร์เท่านั้น หลังจากออกนอกลานเกียร์คำสั่งของนายถือว่ายุติ เพราะนายมีหน้าที่ดูแลพวกฉันเวลาเข้าเชียร์ แต่ถ้าออกจากห้องเชียร์เมื่อไหร่ฉันกับเพื่อนจะคุยกันเหมือนเดิม นายไม่มีสิทธ์มาบงการให้ฉันกับเพื่อนทำตามอย่างที่นายต้องการได้ เพราะนายไม่ใช่พ่อฉัน!!!". "มนต์/ยัยมนต์/ไอ้มนต์" พูดจบเธอก็เดินออกไปทันที ผมมองเธอเดินจากไปเงียบ "ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไงวะ ราชาแห่งวิศวะ ผู้ที่มีแต่คนเคารพยำเกรง มาวันนี้มีหนึ่งคนที่ไม่กลัว ท่านราชาจะทำเยี่ยงไรน้า" ไอ้เหนือ "นั่นสิ แถมยังเป็นผู้หญิงซะด้วย" ไอ้วิน "หึหึ ทำยังไงดีวะไอ้ราชา" ไอ้ดิน "หึ เดี๋ยวก็รู้" ผมยกยิ้มร้าย "เชรด กูเกลียดรอยยิ้มมัน" ไอ้เหนือพูด หลังจากนั้นพวกผมก็ไปที่นัดหมาย เพราะมีเรื่องต้องประชุม จริง ๆ ผมต้องไปประชุมแต่ผมมาลงว้ากผมเลยส่งตัวแทนไปเรียบร้อย และตอนนี้มันก็ประชุมเสร็จแล้ว และไลน์นัดปีสามทุกคนเข้าประชุม ที่เรียกเฉพาะปีสามเพราะปีสี่ฝึกงาน ปีสองเก็บของห้องเชียร์อยู่ จึงต้องประชุมเฉพาะปีสามไปก่อนยังไงล่ะครับ "มึง มึงว่าส่งยัยกะเทยริชชี่ไปจะได้เรื่องเปล่าวะ" ไอ้เหนือ "มึงก็ อย่าได้ดูถูกมันไป" ไอ้วิน "เอ้า กูพูดจริงนี่ กูว่ามันต้องมองแต่ผู้ชายจนลืมงานแน่เลยอิริชชี่เนี่ย" ไอ้เหนือพูด "ไอ้เหนือ นั่นริชชี่ ไม่ใช่มึง" ไอ้ดินพูด ทันทีที่ไอ้ดินพูดจบพวกผมก็หัวเราะกันอย่างพร้อมเพรียง โดยมีไอ้เหนือมองอยู่ด้วยท่าทางขวาง ๆ "ปะ รีบไปกันเถอะ ท้องกูแข็ง" ไอ้วินพูด "เออ พวกมึงจำเอาไว้ อย่าให้ถึงทีกูบ้างละกัน" ทันทีที่ไอ้เหนือพูดจบ พวกผมก็มุ่งหน้าไปห้องประชุมทันที "เอ้า มากันพอดีเลย กินอะไรก่อนไหม" ริชชี่ถามพวกผม "ไม่ล่ะ" ผมตอบก่อนจะส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ไปให้ไอ้เหนือมัน ไอ้เหนือมันมองผมด้วยความไม่ไว้ใจ ก่อนตามันจะเบิกโพลง "นี่ริชชี่ ฉันมีอะไรจะบอก ไอ้เหนือ..” "เฮ้ย อย่านะเว้ย" ผมยังพูดไม่จบ ไอ้เหนือก็ตะโกนแทรกเข้ามาทันที ทำไมอะเหรอ มันกลัวยัยริชชี่ไงล่ะ คณะผมยกยัยริชชี่เป็นตัวแม่ของการเอาคืนหรือแก้เผ็ดเลยล่ะ แต่ละอย่างที่เอาคืนนะ แสบถึงทรวง "อะไรเหรอไอ้ราชา มีอะไรจะบอกฉันยะ ไอ้เหนือมันทำไม" ยัยริชชี่พูด "ไอ้เหนือมันว่าเธอสนใจแต่ผู้ชาย" ไอ้วิน "ใช่ ส่งไปประชุมแทนที่จะได้สาระแต่จะได้ผู้ชายมาแทน" ไอ้ดินพูด ไอ้เหนือตาโต "ไอ้เหนือ นี่แกว่าฉันงั้นเหรอ คอยดูเถอะแม่จะเอาคืนให้สาสมเลย" ยัยริชชี่พูด "โธ่ ริชชี่จ๋า ริชชี่คนสวย เค้าแค่ล้อเล่นเอง อย่าโกรธเลยนะ" ไอ้เหนือมันรีบมาง้อยัยริชชี่ทันที ก่อนจะส่งสายตาคาดโทษมาให้พวกผม ซึ่งพวกผมก็หัวเราะอย่างสนุก จริง ๆ แล้วพวกผมก็เป็นอย่างนี้แหละครับ แกล้งกันไปมา เวลาอยู่กับเพื่อนพวกผมก็จะลดอีโก้ของตัวเองลงเล็กน้อย เพื่อให้เพื่อนมันไม่เกร็งเท่านั้นเองครับ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม