แม้จะเจ็บปวดตามร่างกายที่บอบช้ำ การกระทำที่ป่าเถื่อนไร้ความไยดี ทว่าก็ไม่สามารถสั่งน้ำตาให้รินไหล เพราะมันแสดงถึงความอ่อนแอ หล่อนอดกลั้นอย่างเข้มแข็ง หันไปประจันหน้ากับคนป่าเถื่อน ที่ตอนนี้เพ่งพิศสายตาจดจ้องอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ
"เดรัจฉานที่สุด!" หล่อนลุกขึ้นยืนอย่างท้าทาย ไม่ได้คิดเกรงกลัวสายตานั้นแต่อย่างใด พ่นคำด่าทอหยาบโลนใส่หน้า แม้ว่าร่างกายจะได้เรี่ยวแรง แต่หล่อนก็ยังอดทนฝืนกลั้นให้ลุกยืน
"เราเป็นได้ยิ่งกว่านั้น!...จัสซีเนีย"
"อ๊ะ! ฉันเจ็บ...ปล่อย!"
เมื่อคำพูดของจัสซีเนียเปล่งออกมา จาร์มาล์ไม่รอช้าปรี่ประชิดตัวของจัสซีเนีย และบีบคอเจ้าหล่อนทันที แววตามีความเกรี้ยวโกรธต่อคำตำหนินั้น แต่ก็ยังกัดฟันยอมผ่อนปรนน้ำหนักมือ การตายที่ง่ายดายมันยังไม่สาแก่ใจของคนเฉกเช่นเขา ในเมื่อเขาทรมานและเจ็บปวดเจียนตาย ผู้ที่กระทำแก่เขาก่อนย่อมได้รับผลที่มากกว่าหลายเท่า
"เจ็บแค่นี้มันยังน้อยไป...เพราะสิ่งที่เธอทำกับเรามันหนักหนากว่านี้หลายเท่า!!"
"กะ แกหมายถึงอะไร แค่ก ๆ...ฉันไม่เข้าใจ"
แววตาคมดุเปล่งประกายความแค้น ลงน้ำหนักมือบีบคอของจัสซีเนียแน่นกว่าเดิม ทำให้จังหวะการหายใจหล่อนนั้นเริ่มยากลำบากและติดขัด คำพูดที่หูได้ยินทำเอาจัสซีเนียไม่เข้าใจ ดั่งกับหล่อนนั้นเคยบาดหมางทั้งที่ไม่เคยรู้จักกัน อย่างกับหล่อนนั้นฆ่าคนในครอบครัวของเขาก็ไม่ปาน ทั้งที่ควรเป็นหล่อนเสียมากกว่าที่แค้นเขา กับการทำให้พ่อและพี่ชายของเธอต้องดับชีวิตลงอย่างน่าอนาจใจ แม้จะก่อนหน้าจะได้ยินประโยคเช่นเดียวกัน...แต่เธอก็ไม่สามารถเข้าใจถ่องแท้ ได้แต่ฉงนงุนงง ย้อนถามกลับไปก็ไร้ซึ่งการอธิบายขยายความ
"ตอแหล!"
"พูดอะไร ขะ ของแก...แค่ก ๆ"
เสียงกร้าวสบถดังอย่างดุดัน คำพูดที่เข้าหูดั่งเสแสร้ง ยิ่งทำให้จาร์มาล์นั้นลงน้ำหนักมือบีบคอจัสซีเนียแรงกว่าเดิม จนเธอแค่นเสียงแห้ง ๆ หายใจยากลำบากยิ่งขึ้น ใบหน้าแดงก่ำพยายามสูดอากาศเข้าปอดให้ได้มากที่สุด สองมือพยายามดึงมือแกร่งให้ออกห่าง แต่แรงเพียงน้อยนิดของหญิงสาวจะสู้แรงชายชาตรีเช่นเขาได้อย่างไร ดวงตากลมสีนิลแทบถลนออกนอกเบ้า เพราะสูดอากาศเข้าปอดได้ไม่เพียงพอ จนจัสซีเนียแทบจะหมดลมหายใจ สายตาของหล่อนจ้องมองหน้าจาร์มาล์ในระยะใกล้ ไม่ได้สื่อถึงการอ้อนวอนร้องขอแต่อย่างใด แต่แววตานั้นกลับทำให้จาร์มาล์วูบไหว เพียงจ้องมองไม่กี่วินาที เหมือนมีรัศมีบางอย่างครอบงำความรู้สึกภายในใจส่วนลึก จนเขาปล่อยมือจากคอของเธอลงกับพื้นแข็ง สะบัดแรงจนจัสซีเนียฟุบหน้ากระแทกลงพื้น
ตุบ!
"แฮ่ก แฮ่ก..." เมื่อสิ้นพันธนาการโหดร้าย จัสซีเนียรีบพ่นลมหายใจแรงอย่างเหนื่อยหอบ สูดอากาศเข้าปอดอย่างเร็วพลัน ครั้นเกือบตายด้วยฝีมือเขา แต่เขานั้นก็ฉุดเธอจากความตายขึ้นมาดังเดิม
"แพศยาอย่างเธอ มันไม่ควรมีลมหายใจร่วมกับเรา...แต่คิดไปคิดมามันยังไม่สาแก่ใจ กับสิ่งที่เธอทำไว้อย่างแสนสาหัส แม้เธอต้องการจะสิ้นลมหายใจ แต่ตราบใดที่เราไม่อนุญาต เธอก็จะไม่มีโอกาสได้รับสิทธิ์นั้น นอกจากความทรมานเจียนตาย ที่เราจะเป็นคนประเคนมันให้เอง เตรียมรับมือกับสิ่งที่จะเจอนับจากนี้ให้ได้ก็แล้วกัน!"
"ฉัน!...ไม่กลัวแกหรอก ไอ้ฆาตกรใจโฉด"
"อย่าให้เราโกรธมากกว่านี้ เพราะชีวิตของเธออาจจะดับลงก่อนเวลาอันควร"
ความแกร่งที่มีเกินหญิง แม้ร่างกายจะไม่เอื้ออำนวย จัสซีเนียก็ยังพยายามหยัดตัวลุกยืนประจันหน้าท้าทาย ไม่ได้กลัวตายแต่อย่างใด ความแค้นที่มันฝังใจ ภาพการตายของบิดาและพี่ชายมันยังติดตาเธอไม่เคยเลือนหาย แถมพี่สาวอีกคนก็ยังหายตัวไป โดยไม่รู้เห็นร่องรอยนับตั้งแต่ที่โจรร้ายป่าเถื่อนจุดไฟเผาบ้านจนวอดวาย และความเกลียดชังยังฝังใจไม่ลดเลือนหายไปแม้แต่น้อย
"ตราบใดที่คนชั่วอย่างแกมีลมหายใจ จัสซีเนียคนนี้จะไม่มีวันตาย!" แววตาที่มุ่งมั่น น้ำเสียงที่หนักแน่น เปล่งออกมาอย่างไร้ความกลัว หล่อนค่อย ๆ ขยับขาเดินเข้าไปประจันหน้ากับจาร์มาล์ จ้องมองตาคมดุนั้นอย่างท้าทาย
"ปากดี...งั้นก็จงรอรับความทรมานได้เลย!" ร่างกายสูงกำยำก้มมองคนที่ตัวเล็กกว่า ยกยิ้มมุมปากอย่างดูแคลน แม้นคำพูดที่หนักแน่นของหล่อน ก็ไม่อาจจะสะท้อนให้เขากลัว ก็แค่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ มีหรือจะสู้ชายชาตรีเฉกเช่นเขาได้
"โอ๊ะ! กะ แกจะทำอะไร?" จาร์มาล์ผู้โหดร้าย ก้าวขาเดินเผชิญหน้า แววตาเฉี่ยวดุดันเพ่งเพิศมองลึกเข้าไปในดวงตากลมสีนิลนั้น ทำให้หล่อนค่อย ๆ เดินถอยหลังให้ออกห่างก้าวต่อก้าวด้วยความหวาดระแวง ก่อนที่ร่างของหล่อนจะปลิวกระทบกับอกแกร่ง ด้วยมือหนากระชากข้อมือของหล่อนสุดแรง
"แม้ว่าเธอจะบอบช้ำและป่วย ก็ยังฉายความสวยงามบนใบหน้า บางทีการใกล้ชิดนารีเช่นเธอ อาจจะทำให้เราเปลี่ยนใจและควบคุมตัวเองไม่ไหว" ความเล่ห์เหลี่ยมร้ายกาจ สายตาที่ดุดันผันกลายเป็นอ้อล้อ ไล่สายตากวาดมองเรือนร่างเสลาตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
มือหนึ่งพันธนาการข้อมือเล็กนั้นไว้แน่นหนา อีกมือลูบไล้ตามใบหน้าเรียวอย่างแผ่วเบา
"อ๊ะ!...เจ็บ" ปากหนาได้รูปขยับพูดยั่วยวน จวนให้จัสซีเนียนั้นเผลอไผล โดยไม่รู้ทันเลยว่าจะต้องเจ็บตัวอีกครา มือหนากำผมของหล่อนแล้วดึงกระชากจนใบหน้าเชิด สร้างความเจ็บแปลบแก่หล่อนเพิ่มไปอีก
"การเป็นเชลยในกรงขังนั่นมันทรมาน แต่การเป็นเชลยบนเตียงก็แค่ครางเท่านั้น..."
"ไม่มีทาง!"
สายตาสองคู่สบจ้องมองกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ชายชาตรีที่เหนือกว่า ยังคงปุกปั่นยั่วโมโหอีกคนที่อยู่ในพันธนาการ วาจาที่ไม่เสนาะหูสำหรับจัสซีเนีย ทำให้หล่อนนั้นเปล่งวาจาปฏิเสธเสียงแข็ง ศักดิ์ศรีที่หล่อนมีจะไม่ยอมให้โจรโหดเฉกเช่นจาร์มาล์ได้ย่ำยีเป็นแน่
"คิดว่าจะรอดงั้นรึ?...ฝันไปเถอะ!" เพียงสิ้นคำพูดแข็งกร้าว ร่างกายอันบอบช้ำของจัสซีเนียก็ปลิวไปตามแรงเหวี่ยงทันที ไม่มีความปรานีแม้ว่าหล่อนนั้นจะเจ็บป่วย แผ่นหลังบางกระแทกกับพื้นที่นอนนุ่มจนยุบตัว เข็มน้ำเกลือที่อยู่บนหลังมือหลุดร่วง แต่จาร์มาล์ก็หาได้สนใจ แม้จะเห็นว่าเลือดไหลซึมออกมา
เขาตามไปคาบคร่อมเรือนร่างเสลานั้น มือหนึ่งกำข้อมือเล็กทั้งสองข้างไว้ในอุ้งมือเดียว กดฝังลงจนจมที่นอน อีกมือบีบคอของจัสซีเนียไร้ความอ่อนโยน บีบไม่ถึงกับให้ตาย แต่บีบเพื่อไม่ให้สามารถขัดขืนได้
"อ๊ะ.....ไอ้ชั่ว! ปล่อยฉัน ปล่อย!" สองขาแดดิ้นด้วยแรงที่มี แต่ก็ยังไม่อาจจะช่วยให้หลีกหนีรอดพ้น
"ก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นนี่นา.....หื้มมมม" เสียงพูดแผ่วเบาใกล้หู ฟังดูแล้วดั่งคนจิตป่วยไม่ปกติ
จมูกคมสันไล่ดอมดมตามผิวกายละเอียด จัสซีเนียพยายามดิ้นขัดขืนแต่ก็ไม่มีแรงพอที่จะต่อต้าน หล่อนรู้สึกขยะแขยงชายผู้นี้เสียยิ่งกระไร ไม่อยากให้สัมผัสร่างกายแม้เพียงเสี้ยว แต่เหมือนเรี่ยวแรงจะผ่อนปรนลงเพราะเหน็ดเหนื่อย ไร้หนทางต่อสู้ได้อีกต่อไป
"ไอ้คนเลวปล่อยฉัน!" พยายามเบือนหน้าหนีจากการดอมดมเท่าที่แรงจะมี ปากก็พ่นคำด่าทอไปพลาง แต่ทุกอย่างที่เปล่งออกมา จาร์มาล์ผู้ป่าเถื่อนก็หาได้แยแส เขายังคงกระทำกับร่างกายของหล่อนอยู่ร่ำไป สูดดมกลิ่นกายสาวเข้าปอด บ้างก็ขบเม้มผิวกายนั้นจนเกิดรอยแดง มันแรงพอที่จะสร้างความเจ็บแสบให้แก่จัสซีเนีย
"คนดี ๆ มันไม่เหมาะกับหญิงแพศยาอย่างเธอหรอก จัสซีเนีย!" ขยับใบหน้ามาจ้องมอง แล้วเปล่งวาจาหยามเหยียดกระแทกหน้าหล่อนอย่างเย้ยหยันดูแคลน จากนั้นก็เคลื่อนคล้อยร่างแกร่งแทรกกลางระหว่างขาเรียว จับสองขาของหล่อนแยกออกห่างอย่างรุนแรงด้วยขาแกร่งของเขาทั้งสองข้าง ตามด้วยยกยิ้มมุมปากที่ทำจัสซีเนียนึกหวั่นกลัว
"กรี๊ด!!!"
*****11