เกือบชั่วโมงต่อมา
หนุ่มใหญ่กับสาวน้อยพากันมาถึงรีสอร์ตชื่อดังแห่งหนึ่ง ทว่าเนื่องจากเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ และราชิดไม่ก็ได้โทรจองไว้ล่วงหน้า ทางรีสอร์ตเหลือห้องพักเพียงห้องเดียวและยังเป็นเตียงเดี่ยว
“ต้องขออภัยด้วยนะคะ… ตอนนี้เหลือแต่ห้องเดียวเตียงเดี่ยวเท่านั้นค่ะ”
เจ้าของรีสอร์ตที่เป็นหญิงวัยกลางคน พูดคำเมืองกับราชิด
“ไม่เป็นไรครับ… เตียงเดี๋ยวก็ได้ ตกลงเราจะพักที่นี่ครับ”
ราชิดสรุป
สิ่งที่ได้ยินทำเอาสาวน้อยตกใจ
“เอ่อ… คุณลุงคะ ในห้องมีแค่เตียงเดียวนะคะ”
“ไม่เป็นไร… เดี๋ยวลุงนอนโซฟา ให้หนูนอนบนเตียง… โอเคนะครับ”
บอสรีบสรุปรวบรัดขนาดนี้ เอื้องผึ้งจะขัดอะไรได้ เป็นอันว่าคืนนี้นายกับเลขาต้องนอนห้องเดียวกัน
ในเวลาต่อมา
เสร็จจากเช็คอินที่รีสอร์ต ราชิดขับรถพาเอื้องผึ้งออกมากินข้าวแล้วเที่ยวชมวิวในจุดชมวิวต่างๆ รวมทั้งบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติไทรงามของเมืองปาย จากนั้นก็พากันกลับเข้าที่พักในตอนค่ำ
ราชิดซื้อวายเข้ามาดื่ม ชนแก้วกับเลขาสาวจนแก้มของหล่อนแดงเรื่อ
“รสชาติดีนะไวน์ยี่ห้อนี้”
ราชิดเอื้อมมือจับขวดไวน์ขึ้นมาอ่านฉลากข้างขวด จากนั้นก็รินลงแก้วให้หญิงสาว
“ไม่ไหวแล้วค่ะคุณลุงขา… หนูเมาแล้ว”
เอื้องผึ้งส่ายหน้า เมื่อเขาทำท่าว่าจะยื่นแก้วให้
“อีกแก้วนะจ๊ะ… ช่วยกัน อีกคนละแก้วก็หมดแล้ว”
ราชิดคะยั้นคะยอ ทำให้หญิงสาวต้องยกแก้วไวน์ขึ้นดื่ม ทั้งที่รู้สึกว่าตัวเองเริ่มเมา
ในเวลาต่อมา
เวลาราวๆ สี่ทุ่มครึ่ง เอื้องผึ้งที่นอนอยู่บนเตียง ทอดสายตามายังโซฟาหนังสีเทาตรงมุมห้อง มีร่างกำยำของราชิดนอนเหยียดยาวอยู่บนโซฟา
ด้วยส่วนสูงที่เกินร้อยแปดสิบเซนติเมตรและโครงร่างใหญ่มาก ทำให้ปลายเท้าของราชิดเลยออกมาจากปลายโซฟา
“คุณลุงคะ… ถ้านอนไม่สบายก็ขึ้นมานอนบนเตียงด้วยกันเถอะนะคะ”
เอื้องผึ้งรู้สึกสงสาร
“เอ่อ… มันจะดีหรือจ๊ะหนู”
ราชิดใจเต้นแรงกับคำชวนของหล่อน
“ไม่เป็นไรค่ะ… เดี๋ยวหนูเอาหมอนกั้นกลางไว้”
เอื้องผึ้งกล่าวพลางคว้าหมอนสีขาวใบใหญ่มาวางไว้กลางเตียง ก่อนที่ราชิดจะขยับขึ้นมานอนบนเตียง เคียงคู่กับหล่อนที่นอนอยู่คนละฟาก
เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ๆ
เสียงพลิกกายเบาๆ ของหญิงสาวทำให้ราชิดรู้ว่าหล่อนยังไม่หลับ และเขาเองก็ยังไม่หลับ
“นอนไม่หลับหรือจ๊ะหนู… ”
ราชิดถาม
“ค่ะ… สงสัยว่าจะแปลกที่น่ะค่ะ แล้วคืนนี้อากาศก็หนาวมาก… หนูรู้สึกหนาวมากค่ะ”
หญิงสาวบอกไปตามที่รู้สึก ราชิดชันศอกลุกขึ้นนั่ง เอาผ้าห่มของตัวเองมาห่มให้หญิงสาวอีกผืน ไม่แปลกที่คืนนี้อากาศหนาวมาก เพราะว่าเป็นช่วงที่อุณหภูมิพีคสุดของฤดู
“อุ่นขึ้นไหมจ๊ะ… ”
“ค่ะ… ว่าแต่คุณลุงเอาผ้าห่มมาให้หนูแบบนี้คุณลุงก็หนาวแย่สิคะ”
“ก็นิดหน่อยจ้ะ… หรือว่าเราสองคนควรจะห่มผ้าผืนเดียวกัน… หรือไม่ก็หนาวเนื้อเราต้องห่มเนื้อ”
คำพูดของราชิดทำเอาเอื้องผึ้งรู้สึกใจเต้นแรง แอบจินตนาการตามที่เขาบอก
“หมายความว่ายังไงคะ”
‘หนาวเนื้อห่มเนื้อ’ ยังไงกัน?
“อากาศหนาวแบบนี้… ถ้าอยากอุ่นเราสองคนต้องนอนกอดกัน”
ราชิดกล่าวพลางมองสบตาหญิงสาว
“อุ๊ย… จะดีหรือคะคุณลุง”
“ดีสิจ๊ะ… รับรองว่าอุ่นกว่าห่มผ้าแน่ๆ ลองก่อนก็ได้นะจ๊ะ… ถ้าหนูไม่ชอบลุงก็จะไม่ฝืน”
เสียงเรียกร้องที่ดังก้องอยู่ในใจ ทำให้ราชิดต้องเอ่ยประโยคนี้ออกมาพร้อมกับดึงหมอนที่กั้นกลางออกออกไปวางที่หัวเตียงแล้วเอนกายลงนอน
“มาสิจ๊ะ… มาให้ลุงกอด มาแลกไออุ่นกัน”
ราชิดอ้าแขนรอรับร่างของหญิงสาวที่ค่อยๆ ตะแคงกายลงเคียงข้างอย่างว่าง่ายราวกับโดนสะกดด้วยร่างกายสุดเซ็กซี่ของราชิด
“อุ๊ย… ”
หญิงสาวสะดุ้ง เมื่อร่างกายสัมผัสกัน ราชิดโอบร่างของหล่อนมากอดแนบอก เอื้องผึ้งตะแคงศีรษะหนุนแขนของเขา
“ตัวหนูทั้งอุ่นทั้งนุ่ม”
ราชิดกระชับแขนให้ใบหน้าของเอื้องผึ้งแนบกับอกข้างหนึ่งของเขา
จมูกของหญิงสาวรู้สึกได้ถึงกลิ่นกายของชายฉกรรจ์ที่ทำให้หล่อนเกิดอาการวาบหวิวขึ้นมาแปลกๆ จู่ๆ หัวใจก็เต้นแรงราวจะหลุดออกมาจากอก
“คุณลุงขนดอกจัง… ”
มือเรียวลูบไล้เส้นขนที่อกของราชิด ในอ้อมแขนกำยำที่ให้ความมั่นใจว่าเขาพร้อมจะปกป้องหล่อน
“หัวใจคุณลุงเต้นแรงจัง… ”
มือของหล่อนลูบไล้อยู่กับอกข้างซ้าย พอดีกับตำแหน่งของหัวใจพอดี จึงรู้ได้ว่าหัวใจของราชิดกำลังเต้นแรง… ใช่!... เขาตื่นเต้น และบางอย่างกำลังตื่นตัว
“บอกตรงๆ ว่าลุงตื่นเต้นจ๊ะ… อ่า… ตื่นเต้นมากที่ได้กอดหนู”
ราชิดสารภาพออกมาอย่างลูกผู้ชาย ก่อนที่เขาจะต้องสะดุ้ง!
“อุ๊ย… หนู… ”
เสียงของราชิดกระเส่า ในทันทีที่มือเรียวของหญิงสาวลากผ่านกล้ามท้องอัดแน่นไปด้วยลอนซิกแพคลงมาไล้ลูบความเป็นชายที่พองขยายขึ้นมาเป็นลำคัดแข็งราวกับมีบ้องข้าวหลามใหญ่ๆ ซุกซ่อนเอาไว้ในกางเกงของเขา
“โอ้ว… อ่า… ”
ราชิดเผลอครางออกมาด้วยความสยิว
“อุ๊ย… แข็งมาก ใหญ่มากเลยค่ะคุณลุง… ทำไมมันใหญ่ขนาดนี้คะ”
หญิงสาวอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ แม้จะยังไม่เห็นด้วยตา แต่มือที่กำลังสัมผัสและพยายามลูบคลำลำเนื้อที่ใหญ่มากจนมือกำไม่รอบ ก็ทำให้รู้ว่า