“วินคะ ให้เด็กรับใช้คุณออกไปก็ดีแล้ว จะได้ไม่ต้องมาวุ่นวาย เดี๋ยวเกรชดูแลคุณเองนะคะ”
“ไม่ต้องหรอก ผมอยากให้เกรชมาพักผ่อนสบายๆ หน้าที่ รับใช้ก็ปล่อยให้เด็กในบ้านเป็นคนทำดีกว่า”
“วินอะ น่ารักกับเกรชตลอดเลย” สาวสวยยื่นหน้าเข้าไปใกล้ แล้วจุ๊บลงบนแก้มสาก โดยไม่แคร์สายตาใคร เป็นดุจพลอยที่ต้องเมินหน้าหนีด้วยความอาย ถ้าพวกเขาจะสวีทกันขนาดนี้ ก็ไม่รู้จะให้เธออยู่เป็นก้างขวางคอทำไม
“ตักอาหารให้คุณเกรชสิ มัวยืนเซ่ออยู่ทำไม”
“ค่ะ” หญิงสาวรับคำ ก่อนจะโน้มตัวลงไปหยิบจานใบเล็กขึ้นมา จิ้มสาคูไส้หมูสองชิ้น และเมี่ยงก๋วยเตี๋ยวยื่นส่งให้สาวสวย
“มาค่ะ เดี๋ยวเกรชป้อนวินเองนะคะ”
ดุจพลอยยืนนิ่งเป็นหุ่นเสมือนไร้ตัวตน ไม่ส่งเสียงรบกวนคู่รักที่กำลังสวีทหวาน บางครั้งก็ก้มหน้าหลบตาไม่อยากมองพวกเขาจูบกัน ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงที่สวยเริ่ดโปรไฟล์ดีอย่างเกศรินจะมาคบผู้ชายแบบธาวิน ปากร้ายนิสัยเสียแบบนี้ ผู้หญิงชอบตรงไหนกัน
ไม่อยากคิดดูถูก แต่ในสายตาเธอ คนแบบธาวินก็คงมีดีแค่เรื่องเงิน นอกนั้นเธอก็มองไม่เห็นจริงๆ อ้อ…ลืมไปว่ายังมีข้อดีอีกอย่าง หน้าตาหล่อเหลา หุ่นสูงใหญ่แบบชายชาตรี นี่ละมั้งที่เอาไว้หลอกล่อผู้หญิง
“รินน้ำส้มให้คุณเกรช”
“ค่ะ”
“ขยับร่มอันนั้นมาอีกสิ เห็นไหมแดดมันเลีย ผิวเสียหมด”
ดุจพลอยอยากจะเบะปากแรงๆ เมื่อได้ยินคำสั่งจิกหัวใช้ ก็ตั้งใจใส่ผ้าน้อยชิ้นจนแทบจะเปลือยอยู่แล้ว ต่อให้กางร่มยังไงละอองแดดก็ต้องโดนไหม อีกอย่างนี่ก็แดดตอนเย็นแทนที่จะนอน รับวิตามิน กลับหาว่าจะทำผิวเสีย คนพวกนี้เข้าใจยากจริงๆ
ก็แค่เสียงบ่นในใจของเธอคนเดียว สุดท้ายก็ต้องทำตามคำสั่งอยู่ดี
ดุจพลอยหันไปมองตามที่ธาวินพยักหน้าบอก ก็เห็นร่มขนาดใหญ่สีขาวกางอยู่ใกล้ริมสระว่ายน้ำ เธอชะงัก ใบหน้าซีดลง ขายืนตรึงอยู่กับที่ไม่กล้าขยับ
ไม่ใช่ว่าขนาดของมันใหญ่โตจนเธอเคลื่อนย้ายไม่ได้ แต่เพราะในหัวตอนนี้มีแต่ภาพฝังใจในอดีต วันที่เด็กห้าขวบตกลงไปในสระว่ายน้ำ ตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอด ก่อนจะจมดิ่งลงไปที่ก้นสระ ความรู้สึกทรมานวันนั้นยังฝังลึกมาจนถึงทุกวันนี้
…กลัว…
ถ้าเธอเกิดพลาดตกลงไปอีกครั้งล่ะ ถึงน้ำจะไม่ลึกขนาดท่วมหัวเท่าวัยเด็ก แต่ข่าวคนจมน้ำตายลึกแค่หัวเข่าก็ได้ยินมานักต่อนัก แล้วเธอจะรอดหรือ ว่ายน้ำก็ไม่เป็น จะหวังให้คนแถวนี้ ช่วยก็รู้ว่าไม่มีทาง แค่คิดมือเท้าก็พลันอ่อนแรง ใบหน้าซีดเผือด หัวใจเต้นรัว
“เดี๋ยวไปตาม...”
“ฉันสั่งเธอ!”
“แต่คุณวินคะ...พลอย...” เขาก็รู้ว่าเธอกลัว ยังจะใช้คำสั่งบีบบังคับไม่เห็นใจ
“ไปเอาร่มมา”
“แต่”
“เดี๋ยวนี้!”
“เอ่อ...ค่ะ” ดุจพลอยกัดริมฝีปากแน่น กลัวก็กลัว แต่พอสบตาคมดุก็จำใจต้องทำตามโดยไม่มีข้อแม้
สองขาสั่นเทาขยับก้าวเข้าไปหาร่มสีขาวอันใหญ่ช้าๆ ใบหน้าก้มต่ำไม่กล้าหันไปมองรอบข้าง มุ่งตรงไปยังเป้าหมายที่ต้องการ ก่อนจะหลับหูหลับตายื่นมือออกไปจับไม้ขาร่มขนาดเต็มมือแล้ว ออกแรงลากมาทั้งขาตั้ง ทุลักทุเล หนักจนแขนสั่น
กระทั่งร่มเจ้าปัญหาเคลื่อนเข้ามาวางตรงเก้าอี้ของคนทั้งคู่ ดุจพลอยจัดมุมให้มันช่วยบังแดดไม่ให้เลียผิวสาวสวย ทั้งคู่คงจะเย็นสบายสมใจ แต่คนที่ยกมา เหงื่อซึมตามไรผมและแผ่นหลัง ไม่รู้เพราะหนักที่ต้องออกแรง หรือเพราะกลัวจนเหงื่อแตก ดุจพลอยพรูลมหายใจออกมาแรงๆ เหมือนฝ่าลมมรสุมแล้วรอดตายไปอีกครั้ง
“วินคะ...จะว่าอะไรไหมถ้าเกรชจะชวนเพื่อนๆ มาว่ายน้ำด้วยกัน” สาวสวยอ้อนเสียงหวานข้างหูชายหนุ่ม ไม่ใช่แค่อยากชวนมาเที่ยว แต่เกศรินอยากอวดเพื่อนมากกว่าว่าแฟนเธอไม่ใช่นักธุรกิจธรรมดา แต่ร่ำรวยระดับมหาเศรษฐี
“หือ?” คิ้วเข้มเลิกสูง ไม่ใช่หวงพื้นที่ แต่เพราะเขาไม่ชอบความวุ่นวาย คนเยอะก็มากเรื่อง หนวกหู แต่จะให้ปฏิเสธออกไปก็ใช่ที่ ในเมื่อตรงนี้ไม่ได้มีแค่เขากับแฟนสาวสองคน
“ก็พวกเพื่อนๆ น่ะสิคะ เห็นเกรชโพสต์รูปเราขึ้นอินสตาแกรม วี้ดว้ายกันใหญ่ อยากจะมาว่ายน้ำที่บ้านวิน...นะคะ ชวนเพื่อนแค่สองสามคนเอง”
“อือ...ก็เอาสิ” ชายหนุ่มพยักหน้ารับเบาๆ
“ขอบคุณนะคะ วินน่ารักที่สุด” พูดจบหญิงสาวก็โน้มใบหน้าลงไปใกล้ ริมฝีปากแดงสดประกบกับริมฝีปากหนาต่อหน้าต่อตาเด็กในบ้านอย่างเธอ
ดุจพลอยเมินหน้าหนี รู้สึกอายแทน ถึงพวกเขาจะบอกว่าตัวเองเป็นเด็กนอก แต่บางครั้งก็ควรหลงเหลือยางอายบ้าง ไม่ใช่เอะอะจูบ เอะอะหอม เดี๋ยวก็กอดกันกลมดิก อีกหน่อยคงจะมีรายการควักล้วงให้เธอดู ขืนยังยืนอยู่ตรงนี้คงได้เป็นตากุ้งยิงแน่ ก็ไม่อยากมองหรอกนะ แต่พวกเขาก็ชอบโชว์เหลือเกิน
แล้วดุจพลอยก็แทบจะยกมือขึ้นกุมขมับ เมื่อกลุ่มเพื่อนไฮโซของแฟนสาวธาวินมาถึง ไม่ใช่แค่สามคน แต่เป็นห้าสาว ทุกคนเอาแต่ชี้นิ้วสั่งแบบไม่เกรงใจ จากที่คิดว่าจะปลีกตัวขึ้นไปทำงานของตัวเอง ก็เป็นอันพับเก็บได้เลย ในเมื่อตอนนี้เด็กในบ้านทุกคนวิ่งหัวหมุน ขาแทบจะพันกัน
สาวสวยทุกนางต่างประชันความงามกันด้วยชุดว่ายน้ำทูพีชตัวจิ๋ว ดุจพลอยเหมือนคนอยู่ผิดที่ผิดเวลา ดูไม่เข้าพวก เธอจึงคิดจะเดินหลบออกไปเงียบๆ หลังจากจัดการให้เด็กยกอาหารมาบริการ ธาวินกับบรรดาสาวๆ จนครบ
แต่พอสบตาคมดุที่ราวกับจับจ้องมองเธอตลอดเวลา ดุจพลอยก็ต้องยืนนิ่งกับที่ ไม่กล้าขยับตัวไปไหน อย่างว่าเธอมันแค่ผู้อาศัยถึงสมภพจะให้ความเมตตา รักเหมือนลูกหลาน แต่ถ้าคิดจะสู้กับธาวินยังไงก็แพ้วันยังค่ำ ฉะนั้นอยู่แบบไม่มีปากมีเสียงจะได้ไม่ต้องมีเรื่อง
“น้องครับ”
ดุจพลอยหันขวับไปมองตามเสียงเรียก ก็เห็นชายหนุ่มผิวขาว รูปร่างสูงใหญ่ สวมเสื้อโปโล กางเกงขาสั้น หน้าตาธรรมดาไม่โดดเด่น แต่รอยยิ้มที่ส่งมากลับดูเป็นมิตร ไม่มีแววเหยียดหยามดูถูก เพิ่งเข้ามาสมทบเป็นคนสุดท้าย จากคำพูดที่ได้ยินทั้งคู่สนทนากัน น่าจะเป็นเพื่อนสนิทของธาวิน