Chapter 7
ระหว่างทางกลับบ้านเป็นเส้นทางรถติดมากที่สุด หญิงสาวขึ้นรถแล้วก็หลับไปเงียบ ๆ ทำตัวสงบเสงี่ยมจนถึงบ้าน
ไม่ใช่บ้านเธอ!
เป็นคอนโดมิเนียมที่เพิ่งซื้อได้ไม่นาน ด้วยเงินดาวน์สองแสนบาทของคุณพ่ออดัม ให้เธอผ่อนต่อเป็นชื่อของตัวเอง
ทันทีที่รถจอดสนิทดี ชายหนุ่มออกคำสั่งบังคับให้เธอเก็บเสื้อผ้าไปไว้บ้านเหมือนเดิม อันนาเดินนำเขาขึ้นลิฟต์ไป ด้วยหัวใจสั่นกลัวประหลาดว่าผีอะไรเข้าสิงคุณหมอเย็นชา
ที่ผ่านมา เขาไม่เคยแลเธอแม้หางตา หากว่าพ่อแม่ของเขาบอกให้พาไปเที่ยว ไปไหนมาไหนด้วยกันเท่านั้นเขาถึงยอมพาเธอไปในสภาพซากศพ อย่างที่เธอต่อว่าก่อนหน้านี้
มันทั้งสับสน... หวาดกลัว คิดไม่ตก หายใจไม่ทั่วท้องแปลก ๆ ตอนนี้เธอยังเห็นเขายิ้ม! มุมปากอีกต่างหาก
“ของกี่ชิ้นที่อยู่บ้านพี่ เอาไปไว้ที่เดิมให้หมด” ในน้ำเสียงนิ่งเรียบบอก ผ่านทางโถงเดินยาวสุดตาพอได้ออกจากลิฟต์มา ก้าวสั้น ๆ ของเธอนำทางเขาเพื่อไปห้องเลขท้ายสุดในชั้นสิบแปด
หญิงสาวมีเรื่องค้างคาใจมาตั้งแต่ก้าวขึ้นรถของเขาแล้วเจ้าตัวมีท่าทีที่เปลี่ยนไป
“ค่ะ... แล้วหกเดือนนี้... พี่อิฐบอกกับอันนาว่าเราคบกันเหมือนเดิม?”
“ไป ๆ มา ๆ ได้ เราต้องทำตัวปกติ อย่าให้พ่อแม่พี่ต้องหนักใจ ส่วนพี่... ต้องเห็นหน้าเราทุกอาทิตย์”
หญิงสาวพอจะยิ้มได้กับคำอนุญาต เธอไปหาคุณพ่อคุณแม่ของเขาบ่อยอยู่แล้วเป็นปกติของพ่อแม่เธอเช่นกัน ครองภพไม่เคยล่วงเกินเธอยังเป็นความสัมพันธ์เช่นเพื่อน พี่ชาย เขาไม่เคยแม้แต่จะแตะต้องตัวเธอด้วยซ้ำ
แม้ในความปกครองของเขาแล้วเธอไม่ต่างจากลูกไก่ในกำมือ
จะบีบก็ตาย จะคลายก็รอด...
คอนโดมิเนียมขนาดหนึ่งห้องนอนหนึ่งห้องรับแขกติดรถไฟฟ้าละแวกบางซื่อ ออกไปทางชานเมืองสักหน่อยราคาถูกกว่าย่านใจกลางอย่างสุขุมวิท เอกมัย เหมาะสมกับฐานะเด็กจบใหม่
ทางบ้านเวลเนอร์นับว่าร่ำรวยไม่มากเท่าครอบครัวคุณหมอ หลังมิสเตอร์อดัมล้มลุกคลุกคลานจากสภาวะฟองสบู่แตก พวกเขาอยู่กันแบบสังคมฝรั่ง ส่งลูกเรียนนานาชาติ มีเดินทางกลับสวิตเซอร์แลนด์ปีละหลายหนตามเทศกาล
ก้าวย่างแรกของคนแปลกหน้าที่รู้มาว่าหญิงสาวพักอยู่ที่ไหนจากคุณพ่ออดัม ซึ่งเห็นเขาเป็นลูกหลานอีกคน คุณหมอหนุ่มกวาดสายตามองไปทั่ว สำรวจทุกซอกมุม
ข้าวของอันนาในห้องนี้ไม่ได้มีมากมายสำหรับเสื้อผ้า เครื่องสำอาง รองเท้า นั่นเป็นความคิดในทีแรกของเขาที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเธอเป็นคนแต่งตัวเก่งขนาดไหน ก่อนที่เขาจะหยุดปลายเท้าลงตรงโซฟา
เสื้อกล้ามสีขาวตัวหนึ่งใต้ถุงเท้าสีดำ แน่ว่าไม่ใช่ของผู้หญิงใส่ ร่างสูงค่อยก้มตัวลงหยิบมันขึ้นมาด้วยอารมณ์เดือดพล่าน
“นี่... ของใคร?”
“ของพี่พัด พี่เขาไม่ได้มาห้องอันนาสักพักแล้วค่ะ หลายอาทิตย์แล้ว” เธอแก้ตัวตอบอย่างเลี่ยงประเด็น หลังหยิบเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า สีหน้าของอีกคนมีท่าทีว่าไม่เชื่อ...
“ทำไมมันมาอยู่ตรงนี้?”
“กำลังจะเอาไปซักค่ะ... เมื่อเช้าอันนารีบออกไปหาไลลากับดาว วางลืมไว้”
ครองภพไม่ใช่คนชอบไถ่ถามมากมายหากไม่ใช่เวลางาน ที่เขาจะต้องเก็บข้อมูลของคนไข้ให้มากที่สุดเพื่อวินิจฉัยโรค เรื่องอื่นทั่ว ๆ ไปนั้นเขาไม่เคยนึกอยากรู้ โดยเฉพาะเรื่องของอันนา...
ทว่าตอนนี้เขาดันอยากจับแม่ตัวดีขึ้นขาหยั่งล้วงดูอีกสักรอบว่าผ่านมือใครมาบ้าง! หากว่าเป็นผู้หญิงเขาคงพอใจดียกโทษให้สักครั้ง
“ออ... ที่ไม่กลับบ้านพ่อก้อง ไม่กลับไปหาแด้ด มัม เพราะอย่างนี้นี่เอง ที่จะเอาไปซักคือรอให้มันกลับมาใส่?”
“ก็... ตั้งใจจะเลิก”
“ดีครับ...” ตอบแค่นั้น หญิงสาวคงไม่รู้ว่าเขาไม่เคยพอใจสักครั้ง ถึงได้ทำเป็นเมินเฉยด้วยความชินชาตามนิสัยของเขา
อันนาใช้เวลาเก็บของไม่นานเหตุเพราะบรรยากาศน่าอึดอัด เธอคิดว่าหลีกหนีมันพ้น เพื่อไปมีชีวิตดี ๆ ไม่คิดว่าจะต้องย้อนรอยกลับมาย่ำเหยียบทางเดิม
“เสร็จแล้วค่ะ...” เสียงแผ่วเบาถามพร้อมลากกระเป๋าใบใหญ่มายืนข้าง ๆ “เอ่อ... เราจะไปบ้านพี่อิฐหรือบ้านอันนาคะ?”
“...”
ครองภพยังคงมองเธอด้วยแววตาเกรี้ยดกราดราวกับว่ามีเปลวไฟลูกใหญ่ปะทุภายใน ครู่เดียวก็ก้าวฉับ ๆ ไปที่ระเบียบ โยนเสื้อกล้ามตัวที่ถืออยู่ออกไปนอกหน้าต่าง
“พี่อิฐ! ทำอะไร?” เสียงหวานเรียกดังอย่างตกใจ หญิงสาวเบิกตาโพล่งตะลึงมองผู้ชายตัวโตกลับเข้ามารื้อข้าวของในห้อง
ในสีหน้าเคียดแค้นเหมือนต้องการฆ่าใครสักคน คุณหมอสุขภาพจิตดีกำลังระบายอารมณ์ด้วยการขว้างปาข้าวของ
มันต้องเป็นความฝัน... นี่ไม่ใช่พี่อิฐปูนของเธอแน่ ๆ!
ครองภพตัวจริงควรเดินออกจากห้องไปเงียบ ๆ ไร้คำพูดจา ไม่ใช่รื้อเสื้อผ้าในตู้ กวาดของทุกชิ้นในลิ้นชักลงพื้นกองระเนระนาด หากว่าชิ้นไหนไม่ใช่ของเธอ เขาจะโยนมันออกนอกหน้าต่างไปอย่างไม่สนว่าหล่นใส่หัวใครข้างล่าง!
“พี่อิฐ! อันนั้นของไลลา... อย่าขว้างออกปายยย!” เสียงหวีดร้องลั่น พลันสองขาก้าวกระโดดไปยื้อแก้วน้ำใบหนึ่งในมือหนา ชายหนุ่มสะบัดหน้ามองคนตัวเล็ก กระตุกมือของเธอออกอย่างเกรี้ยวกราด
“เฮ้ย... พี่เป็นบ้าอะไรเนี่ย... ผีเข้าหรือเปล่า... ไปหาหมอไล่วิญญาณร้ายออกจากร่างไหมคะ? อันนาพอรู้จักหมอผีเก่ง ๆ นะ ซีเรียส”
พูดไปก็เท่านั้น จะมีหมอแผนปัจจุบันคนไหนยอมไปหาหมอผีกัน...
กลายเป็นว่าหญิงสาวกลับเป็นฝ่ายต้องสงบสติอารมณ์แทน เธอพยายามไตร่ตรองด้วยสมองอันน้อยนิด ทั้งอาการเหมือนคนบ้า เสียงหายใจฟึดฟัดยังกับไปทะเลาะกับใครมา
“พี่... หวงอันนาเหรอ?”
“ไป... กลับบ้าน”
คำสั่งในสีหน้านิ่งเฉยเย็นชา กับเรื่องที่เธอพูดนั้นเขาไม่อยากจะยอมรับ
ชายหนุ่มเดินกลับเข้าห้องไปลากกระเป๋าใบใหญ่ สัมภาระอีกสองสามอย่างให้อย่างสุภาพบุรุษ อย่างที่พ่อของเขาสอนแต่เขาไม่เคยทำมันกับผู้หญิงคนเดียวบนโลก
คนข้างหลังรีบเดินตามไปด้วยสีหน้างุนงงว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่...