สายฟ้า | EP.6 ตัดสินใจ

1934 คำ
สายฟ้า | EP.6 —————————— หลายวันต่อมา... พลอยชมพูกลับจากทำงานพิเศษตอนเที่ยงคืน หญิงสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำเสร็จเรียบร้อย เธอเดินเช็ดผมด้วยผ้าผืนเล็กสีชมพูสีโปรดก่อนมานั่งลงเก้าอี้โต๊ะทำงานในห้องนอน เสียงถอนหายใจหนักหน่วง หลังจากมองเอกสารสัญญาที่เธออ่านทวนซ้ำหลายรอบแล้ว แต่ก็ยังไม่กล้าตัดสินใจสักที ตั้งแต่วันที่เขาห้ามไม่ให้เธอไปที่ไร่ จากวันนั้นเธอก็ไม่เคยเจอเขาอีกเลย ข่าวคราวก็เงียบหายไปจนกระทั่งเธอได้ยินจากย่านวลตองเมื่อหลายวันที่ผ่านมาว่าเขาไปอังกฤษตั้งแต่วันนั้น ก๊อก ก๊อก!! “ฉันเข้าไปได้ไหม” “ฮึก!...” เสียงเคาะประตูจากนอกห้องดังขึ้น ทำให้พลอยชมพูสะดุ้งตกใจกะพริบตาถี่กลั้นน้ำตาเอาไว้ “ดะ ได้ ฝันเปิดเข้ามาเลย ฉันไม่ได้ล็อก” “นั่งเหม่ออีกแล้วอะดิ ฉันเป็นห่วง” ทอฝันนั่งลงบนเตียงนุ่มขนาด 3.5 ฟุต มองเพื่อนรักด้วยความสงสารเห็นใจ เรื่องวันนั้นเธอได้ยินเพื่อนคุยกับคุณย่าท่านนั้นและเธอเห็นด้วยเพราะอยากให้เพื่อนสุขสบายสักที “ขอบคุณนะ แต่วันนี้ไม่มีพวกขี้เหล้าเมายาอยู่หน้าปากซอยหรอก ฉันโอเค” ตอบโดยไม่นึกทวนคำถาม ตอบตามปกติอย่างที่เคยตอบเวลากลับบ้านดึกแล้วทอฝันมาคุยด้วย “เหม่อจริงด้วย ไม่ใช่เรื่องนั้น ฉันหมายถึงเรื่องอื่น...” ไอ้พวกขี้เหล้าทั้งหลายโดนเธอไปเล่นงานจนวงแตกตั้งแต่หัวค่ำแล้วมั้ง “ฉัน...” “ฉันรู้ว่ามันตัดสินใจยาก แล้วก็รู้ว่าแกคิดมากถ้าต้องทิ้งแม่ไว้ที่นี่แล้วตัวเองไปอยู่สุขสบายที่อื่น” เห็นเพื่อนมีท่าทางเหนื่อยใจเลยชิงพูดขึ้นก่อน “ฉัน... คิดถึงเขา...” เอ่ยเสียงสั่นอย่างปิดไม่มิด แววตาเศร้าสร้อยอย่างเห็นได้ชัด เธอยังคิดอยู่ทุกวันว่าถ้าหากวันนั้นเธอยืดหยัดที่จะอยู่ข้างเขา เขาจะไปแบบนี้ไหม... เขาต้องไปไกลๆ เพราะเธอด้วยใช่หรือเปล่า เพราะเขาไม่อยากเห็นหน้าเธอจึงเลือกที่จะไปอย่างนั้นใช่ไหม... ‘แม้แต่อากาศที่ใช้หายใจฉันก็ไม่อยากใช้ร่วมกับเธอ ไม่อยากอยู่ใกล้เธอ!!’ ประโยคนั้นเธอยังจำได้ดี “วิธีเดียวที่แกจะเจอเขาคือไปหาเขานะ อยากพูดอะไรก็พูดไปเลย อยากทำอะไรก็ทำไปเลย แกทำตามใจตัวเองบ้างดิวะ ขอพูดตรงๆ เลยนะไอ้ที่รัก สามปีที่ฉันรู้จักแกมา ทำไมแกต้องทำเพื่อคนอื่นคนที่เขาไม่เคยห่วงแกมีแต่สร้างปัญหาให้แกขนาดนั้นวะ” ทอฝันพูดไปอย่างเหลืออด เห็นเพื่อนทำงานงกๆ ใช้หนี้ให้แม่กับพ่อเลี้ยงชั่วๆ สองคนนั้นแล้วมันหงุดหงิดลูกตามาก พ่อแม่ประสาอะไร ทำไมไม่รักลูกบ้าง... ไม่ใช่แค่พ่อแม่ที่รักหรอก รวมถึงพ่อแม่ของเธอด้วย แต่ของเธอ เธอตัดได้และใจแข็งตัดไปแล้ว แต่ของที่รักยังตัดไม่ได้เพราะยัยนี่มันใจอ่อน “เขาเป็นแม่...” “เออรู้แล้วว่าแม่ รู้แล้วว่าเบ่งคลอดออกมา แต่ถ้าคลอดออกมาให้ช่วยหาเงินใช้หนี้เดือนละสี่ห้าหมื่นแบบนี้ก็ไม่ไหวป่าววะ” “ฉันอยากเป็นใจแข็งได้เหมือนแกจัง” ยิ้มบางๆ แต่แววตาปนเศร้า “เริ่มจากแกเซ็นสัญญานี่ ฉันรู้ว่าแกอยากไป ไปสะสางสิ่งที่มันติดค้างในใจแกเถอะ ทิ้งคนที่นี่แล้วไปเริ่มชีวิตใหม่ที่นั่นซะ” “แล้วถ้าฉันทำไม่สำเร็จ” เอ่ยด้วยเสียงไม่มั่นใจ ถึงแม้ว่าในใจเธอจะคิดไว้ลึกๆ แล้วว่า เพียงแค่เขาเห็นเธอ เจอเธออยู่ในสถานที่ละแวกเดียวกัน เขาอาจจะกลับไทยเลยก็ได้ ...ถ้าเขาไปเพราะเธอจริงๆ เขาก็ต้องกลับมาเพราะเธอเหมือนกัน “อย่างน้อยแกก็ทำดีที่สุดแล้วที่รัก แกปลดหนี้ให้แม่ได้ตั้งหลายล้าน แถมยังได้ชีวิตใหม่ ได้สังคมใหม่ ดีจะตาย” “ขอบใจที่อยู่ข้างฉันมาตลอดเลยนะฝัน” ทอฝันเป็นเพื่อนคนแรกตั้งแต่เธอมาทำงานกรุงเทพ คอยช่วยคอยปกป้องเธอจากพวกเจ้าหนี้ ทอฝันก็เป็นผู้หญิงตัวเล็กเหมือนกัน แต่แทนที่จะกลัวคนพวกนั้นกลับไล่ตะเพิดสู้กลับ เธอรู้สึกขอบคุณทอฝันมากๆ “ฉันอยากให้แกหลุดจากวงโคจรใช้หนี้ที่ไม่ได้ก่ออะ หมดก้อนหนึ่งแล้วยังมีอีกหลายก้อนมาต่อเรื่อยๆ แล้วเนี่ยก้อนปัจจุบันอีกตั้งกี่ล้าน ทำงานแบบนี้ทั้งชีวิตจะใช้หมดหรือเปล่าเถอะ” ทอฝันพูดอย่างที่ใจคิด พลอยชมพูก้มหน้านั่งเงียบ เธอทำเพราะเป็นหน้าที่ลูก อยากเป็นลูกที่ดี อยากให้แม่เอ่ยชื่นชมสักครั้ง แต่ตอนนี้คงถึงเวลาที่เธอต้องรับผิดชอบให้เขาบ้างแล้ว… ตั้งแต่กลับจากกรุงเทพ ทุกเช้ายันตอนเย็นนวลตองเหมือนอยู่ไม่สุข คอยชะเง้อรอคอยใครบางคนอยู่ด้วยความหวังลึกๆ ในใจ อีกแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็จะหมดวัน แล้ววันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายที่ได้บอกกับพลอยชมพูเอาไว้ด้วย “ทานข้าวเย็นกันเถอะครับ” เจคอบออกมาตามคุณย่าอีกครั้งหลังจากเข้าครัวทำอาหารเสร็จ ก่อนหน้านั้นให้สมรมาตามแล้วแต่คุณย่าของเขาก็ยังไม่กลับเข้าบ้าน “ตาเจคว่าหนูที่รักจะมามั้ย” นวลตองลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ไม้หน้าบ้าน ถามหลายชายคนโตด้วยความกังวลใจ “ครับ เดี๋ยวที่รักคงมา เราขึ้นบ้านกันเถอะ” เจคอบพยุงคุณย่าเดินขึ้นบันไดไม้สักแข็งแรงเข้าไปในตัวบ้านเรือนไทยหลังใหญ่โตแบบทางภาคเหนือ “ก็ได้ ย่าเชื่อเจค” หลานชายอาจจะให้คนไปตามดูแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังไม่สบายใจอยู่ดีจนกว่าจะเห็นหน้าพลอยชมพูมาที่นี่จริงๆ นวลตองทานอาหารเย็นแค่นิดเดียวพอให้ได้ทานยาหลังอาหาร จากนั้นก็ออกมานั่งเล่นรออยู่ระเบียงหน้าบ้านเหมือนเดิม เจคอบลงมาคุยงานใต้ถุนบ้าน เห็นแสงไฟจากรถยนต์มุ่งหน้ามาทางเรือนใหญ่ก็รู้ทันที ชายหนุ่มหยุดคุยเรื่องงานกับเพื่อนก่อนจะเดินขึ้นไปหาคุณย่าข้างบน นวลตองนั่งเอามือค้ำคางอย่างเหนื่อยๆ พลางถอนหายใจยาว ตอนนี้ก็เกือบสองทุ่มแล้ว อีกสี่ชั่วโมงก็จะหมดวัน อีกด้านหนึ่ง... หัวใจของพลอยชมพูเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งเมื่อกลับเข้ามาในเขตพื้นที่ไร่เจียงวรรธณะกูรในรอบห้าปี เธอขอให้รถสองแถวเข้ามาส่งถึงในไร่ โชคดีที่บนรถเหลือเธอคนสุดท้าย พี่คนขับเลยใจดีและจำเธอได้เลยขับเข้ามาส่งเพราะเมื่อก่อนเธอโบกรถพี่เขาไปโรงเรียนเป็นประจำ “ขอบคุณมากนะคะ” “ไม่เป็นไรหนู คนกันเอง” หญิงสาวยิ้มบางๆ ก้มหัวขอบคุณอีกครั้ง หลังจากรถสองแถววิ่งกลับออกไป เธอจึงหันหลังกลับมามองบ้านเรือนไทยหลังใหญ่โตหลังเดิมที่เคยมาเที่ยวเล่นเมื่อตอนเด็ก มือเล็กทาบอกพลางสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด เธอรู้ว่าต้องเดินไปทางไหน ประตูอยู่ตรงไหน ต้องถอดรองเท้าไว้ยังไง ขาเรียวก้าวบันไดไม้สักงามเพื่อขึ้นไปบนตัวบ้าน เงยหน้ามองขึ้นไปก็เห็นพี่ชายคนที่เธอเคยเจอบ่อยๆ ตอนเด็กกำลังยืนล้วงกระเป๋ามองลงมา พลอยชมพูหยุดก้าวเท้าแล้วก้มศีรษะทักทาย “คุณย่าคะ...” เสียงหวานเอ่ยสั่นเรียกคนแก่ที่กำลังเดินวนวนมาด้วยความกังวลใจจนไม่เห็นว่ามีใครกำลังเดินขึ้นบ้านและในตอนนี้เธอยืนอยู่ตรงประตูแล้ว ทันทีที่ได้ยินเสียงนั้น นวลตองก็หยุดเดินทันทีพร้อมหันมองตามเสียงเรียก “หนูที่รัก” เดินไปจับมือนุ่มด้วยความดีใจจนน้ำตารื้น “ขอโทษที่ให้รอนานเลยนะคะ” หญิงสาวยกมือไหว้แล้วกล่าวขอโทษอย่างสุภาพ “ไม่เป็นไรจ้ะ ย่าเข้าใจ เข้ามานั่งก่อนมา” จูงมือหญิงสาวเข้าไปในห้องนั่งเล่น แอบมองกระเป๋าสะพายหลังใบเล็กด้วยความแปลกใจเล็กน้อย เพราะจะย้ายไปอยู่ต่างประเทศแท้ๆ แต่หอบกระเป๋ามาแค่ใบเดียว พลอยชมพูเอาซองเอกสารสีน้ำตาลออกจากกระเป๋าแล้วส่งให้คนตรงข้ามทันที นวลตองเปิดสัญญาดูก็เห็นว่าพลอยชมพูเซ็นชื่อทุกตำแหน่งที่เว้นว่างเรียบร้อยแล้ว เป็นอันว่าเอกสารสัญญาฉบับนี้สมบูรณ์ “ขอบใจหนูมากนะ” เห็นอย่างนั้นเจคอบจึงโอนเงินใช้หนี้ครึ่งหนึ่งของทั้งหมดให้พลอยชมพูตามสัญญา ก่อนเอาหลักฐาน ข้อมูลการศึกษา ที่พักอาศัย และสิ่งจำเป็นต่างๆ สำหรับการย้ายที่อยู่ใหม่ให้หญิงสาวได้เก็บไว้อ่าน แน่นอนว่าทางนู้นเขาเตรียมไว้หมดแล้ว “นี่เป็นหลักฐานการใช้หนี้ครึ่งหนึ่ง พี่โอนให้พวกเจ้าหนี้ของเธอทุกคน คนละครึ่งหมดแล้ว และค่าปรับของบริษัทนั้นที่ต้องจ่ายเต็มจำนวน คิดซะว่าเป็นโบนัสแล้วกันนะ” “ขอบคุณค่ะพี่เจคอบ” พลอยชมพูยกมือไหว้อ่อนน้อม “ไม่เป็นไรครับ” มองไปทางคุณย่าที่นั่งปากยิ้มแต่แววตาเศร้ามองหญิงสาวตรงหน้า “เอ่อ ถ้าหนูที่รักอยากเรียนก็เรียนได้เลยนะลูก หรืออยากทำงานที่ไหน อยากพักที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น” “ที่รักพักที่ไหนก็ได้ค่ะ ทำงานอะไรก็ได้ หรือไม่เรียนก็ได้ค่ะ” “พี่ว่าเราเรียนนั่นแหละดีแล้ว” จะได้บอกสายฟ้าได้ว่ามาเรียน ไอ้นั่นจับผิดเก่งจะตาย เขาไม่อยากฝักฝ่ายใดแบบออกนอกหน้า ฝั่งหนึ่งก็ย่า ฝั่งหนึ่งก็น้อง “แล้วแต่พี่เจคอบจะจัดการให้เลยค่ะ ขอบคุณมากๆ อีกครั้งนะคะ” “ส่วนเรื่องจะย้ายไปอยู่ถาวรหรือจะกลับไทยค่อยว่ากันนะลูก” “ค่ะคุณย่า” พลอยชมพูฝืนยิ้มหวานก่อนหลุบตามองหน้าตักตัวเอง สองมือนุ่มจับกันแน่นด้วยความกลัวและกังวลรวมอยู่ด้วยกัน “เอ่อ เดินทางมาเหนื่อยๆ หนูที่รักไปพักดีกว่านะ ว่าแต่ทานอะไรมาหรือยัง” “ทานมาแล้วค่ะคุณย่า ขอบคุณนะคะ” “งั้นเดี๋ยวหมอนพาไปห้องพักเองค่ะ” สมรยิ้มทักทายเด็กสาวที่เคยคุ้ยเคยกันดีเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้เธอโตเป็นหญิงสาวสวยสะพรั่งแต่ยังคงความน่ารักเรียบร้อยอ่อนหวานมีกาลเทศะและความเกรงอกเกรงใจอยู่เหมือนเดิม “ตามป้ามาเลยค่ะ” “ขอบคุณค่ะป้าหมอน” ยิ้มบางๆ มองป้าสมรคนที่เธอเคารพนับถือ ป้าสมรใจดียังไงก็ยังใจดีกับเธออย่างนั้นเหมือนเดิมเลย สองคนย่าหลานนั่งปรึกษากันต่ออีกพักก่อนจะแยกย้ายเข้านอน เจคอบนั่งหน้าตึงเครียดนึกถึงน้องชาย เขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นระหว่างสายฟ้ากับที่รักนอกเหนือจากเรื่องนั้นหรือเปล่า เพราะถ้ามีแค่เรื่องนั้น เขาคิดว่าสายฟ้ามันแยกแยะออกและคงไม่ปักใจเจ็บกับที่รักนานขนาดนี้แน่นอน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม