ตอนที่7 หอมเนินเนื้อสวาท
“พี่ยุทธ์ อย่าใจร้อนสิคะขอให้หนูเข้าไปอาบน้ำให้ตัวหอมๆ ก่อนนะคะ อือ”
พอเข้ามาในห้องได้เมญ่าก็ถูกสรยุทธ์ปรี่เข้ามากอดรัดฟัดเขวี่ยง เขาซุกไซ้ริมฝีปากและจมูกลงมาหอมหล่อนพัลวัน มือไม้ไม่อยู่นิ่งลูบคลำไปตามส่วนต่างๆ ของหญิงสาว ราวกับว่าไปตายอดตายอยากที่ไหนมาทั้งที่เขาเพิ่งจะร่วมรักกับหล่อนไปไม่ถึงครึ่งวัน
“ไม่เห็นจำเป็นต้องอาบเลยน้องเมญ่าของพี่หอมไปทั้งตัวแล้วครับ โดยเฉพาะตรงนั้น”
มือใหญ่กอบกุมทรวงสล้างที่ซ่อนตัวอยู่ในเสื้อคลุมบีบเคล้นอย่างมันเขี้ยว ความกำหนัดก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเพียงแค่เห็นใบหน้าของหญิงสาวเท่านั้น เขาก็อยากร่วมรักกับหล่อนตลอดเวลา
“ไม่ได้หรอกคะหนูต้องอาบน้ำก่อน อดทนรอนิดเดียวนะคะพี่ยุทธ์ตอนนี้หนูเหนียวเนื้อเหนียวตัวจะแย่แล้ว มันรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจน่ะค่ะ”
เมญ่าหาข้ออ้างแก่ชายหนุ่มเพื่อที่หล่อนจะได้เข้าไปในห้องน้ำ จัดแจงทำพิธีเอาสีผึ้งโยนีออกมาแต้มทายังบริเวณของสงวนในร่างกาย ตามที่อาจารย์เสน่ห์ของหล่อนแนะนำมา
“พี่อยากจะกินน้องเมญ่าใจจะขาดแล้วนะครับ ไม่ต้องอาบไม่ได้เหรอ”
ชายหนุ่มออดอ้อนเสียงอ่อนเสียงหวาน
เขาได้พบหล่อนครั้งแรกในงานจัดแสดงสินค้าของบริษัทหนึ่งซึ่งเมญ่าได้ไปทำงานเป็นพริ้ตตี้ วันนั้นเขาไปเป็นประธานเปิดงาน ด้วยความสวยหรูดูแพงบวกกับหน้าตาน่ารักของเมญ่าทำให้เขาเกิดหลงใหลหล่อนในทันที เขาเริ่มรุกเข้าไปพูดจาเกี้ยวพาทิ้งเบอร์โทร.เอาไว้ให้หญิงสาว ท้ายที่สุดความสัมพันธ์ของทั้งสองก็รุดหน้าไปอย่างเร็วจี๋
“อดใจรอนิดเดียวเองนะคะพี่ยุทธ์ หนูจะรีบออกมาให้พี่ขย้ำไปทั้งตัวเลยนะคะ อย่าดื้อนะคะ”
“ก็ได้ครับเร็วๆ นะครับพี่จะรอ”
“ค่ะนอนรอเลย”
ระหว่างที่เมญ่าผละออกจากอ้อมกอดของสรยุทธ์เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น ชายหนุ่มคว้าเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาดูพร้อมกับทำหน้านิ่วคิ้วขมวดท่าทางไม่สบอารมณ์
“จะโทร.มาทำไมอีกวะ”
“ใครโทร.มาเหรอคะพี่ยุทธ์”
“น้ำหวานน่ะสิ บอกแล้วว่าไม่ต้องติดต่อมาอีกน่ารำคาญชะมัด”
สรยุทธ์โคลงศีรษะไปมา
“รับสายเถอะนะคะ พี่น้ำหวานอาจจะมีธุระสำคัญก็ได้นะคะ ยังไงซะพี่ยุทธ์กับเธอก็ยังไม่ได้หย่าขาดจากกัน อย่าทำให้หนูกลายเป็นนางร้ายไปมากกว่านี้เลยค่ะ ทุกวันนี้คนรอบตัวเราสองคนก็มองว่าหนูเป็นผู้หญิงไม่ดี”
“อย่าพูดอย่างงั้นสิครับ น้องเมญ่าดีขนาดนี้ คนอื่นรวมทั้งน้ำหวานยังมองไม่ออกอีกพวกนี้ตาบอดหูหนวกกันทั้งนั้น น้องเมญ่าอย่าไปใส่ใจพวกมันเลยนะครับ”
“ค่ะหนูจะพยายามคิดอย่างที่พี่ยุทธ์บอก พี่ยุทธ์รับสายพี่น้ำหวานเถอะ หนูจะเข้าไปอาบน้ำแล้วเรามาสนุกกัน”
“ครับพี่จะเชื่อเมญ่า”
เมญ่าเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบตลับสีผึ้งออกมากำเอาไว้ในมือ จากนั้นเธอก็เดินเข้าห้องน้ำไปเอาหูแนบประตูคอยฟังบทสนทนาของสรยุทธ์กับน้ำหวาน
“มีอะไรน้ำหวาน พี่บอกแล้วไงว่าไม่ต้องโทร.มา มีธุระพี่จะโทร.ไปเอง”
น้ำเสียงที่กรอกลงไปในเครื่องมือสื่อสารฟังดูขุ่นเคืองปนรำคาญจนปลายสายถึงกับสะอึก
“นะ… น้ำหวาน แค่จะโทรมาบอกว่าตอนนี้คุณแม่ของพี่ไม่ค่อยสบาย ท่านบ่นคิดถึงพี่ตลอดพอจะมีเวลาแวะมาเยี่ยมท่านสักหน่อยไหมคะ”
“เรื่องแค่นี้ก็ต้องโทร.มาบอกด้วยเหรอน้ำหวาน คนในบ้านตั้งเยอะแยะคนป่วยแค่คนเดียวดูแลกันไม่ได้เหรอไงไม่เห็นต้องโทรมาบอกพี่เลย แล้วเรื่องหย่าไปถึงไหนแล้วพี่ให้เวลาแค่สัปดาห์นี้เท่านั้นนะ”
“พี่ยุทธ์…”
เสียงของน้ำหวานสั่นเครือ เธอยกมือขึ้นปาดหยาดน้ำตาออก
“แค่นี้นะน้ำหวานพี่กำลังยุ่งแล้วไม่ต้องโทร.มาอีกนะ”
สรยุทธ์วางสายแล้วโยนโทรศัพท์ลงไปอย่างไม่ไยดี เมญ่าที่แอบฟังอยู่ยิ้มอย่างสะใจ
“หึ คิดจะเล่นเกมกับฉันงั้นเหรออีนังน้ำหวาน บอกเลยว่าแกยังห่างชั้นกับฉันอีกไกล คอยดูเถอะฉันเอาทุกอย่างที่เป็นของแกมาเป็นของฉันให้หมด”
เมญ่ากระตุกยิ้ม กำตลับสีผึ้งโยนีเอาไว้ในมือพร้อมกับท่องคาถาปลุกสีผึ้งมหาเสน่ห์สามจบ จากนั้นก็เป่าลงไปเปิดตลับสีผึ้งออกมา กลิ่นของของสีผึ้งโยนีหอมรัญจวนอวบอวลไปทั่วห้อง แค่เพียงได้กลิ่นหอมนี้ชายใดในใต้หล้าล้วนแต่เกิดความกระสันอยากร่วมรักเสพสังวาทขึ้นมาในบัดดลทันใด เมญ่าใช้ปลายนิ้วแตะสีผึ้งแล้วถ่างขาออกป้ายสีผึ้งลงไปยังเนินสวาทของหล่อน รวมทั้งเนินถันทั้งสองเต้าทรวง
“โอม… ผีฟ้า ผีป่า ผีเขา ขอให้เหล่าพวกเจ้ามาอวยชัย จงรักกูหลงกูไม่ห่างหาย อยากเสพสังวาทร่างกายเพียงแต่กู เพี้ยง”