ตอนที่ 14 โชคที่ไม่คาดฝัน

1725 คำ
"มาทางนี้ ปู่จะบอกความลับแก่เจ้า" ชายชราทำท่ากระซิบกระซาบทั้งยังมองไปรอบกายคล้ายกับว่ากำลังทำเรื่องสำคัญที่ไม่อาจให้ผู้ใดพบเห็นได้ ยมทูตหลี่จิ้งเห็นท่าทางของสองปู่หลานที่จับจูงกันไปหลบซ่อนอยู่ในท่อนไม้แล้วเขาก็อยากร้องไห้ขึ้นมาอีกเป็นรอบที่ร้อย หลี่ต้งหมิงชายชราวัย 101 ปีในชีวิตก่อนต้องทำงานหนัก และจากสภาพแวดล้อมของครอบครัวที่มีบิดาขี้เมาทำให้เด็กชายไม่มีสหาย เติบโตมาก็ไม่มีภรรยา จนแก่ชราก็ยังต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว เวลานี้ชายชราคล้ายกับเพิ่งจะได้ออกมาเปิดหูเปิดมา คิดทำสิ่งใดก็ดูว่าทุกอย่างเป็นเรื่องน่าสนุกตื่นเต้นไปเสียทุกอย่าง ดูอย่างเวลานี้ที่เขาสมควรจะวางท่าให้สมกับเป็นผู้อาวุโสแต่กลับทำตัวราวกับเด็กน้อย จะหลบจะกระซิบกันเพื่ออันใดเล่า? ในเมื่อที่นี่มีเพียงแค่เขาสองคน!! หลี่จิ้งจึงได้แต่รอชมดูว่าสองปู่หลานคู่นี้ต่อไปจะเป็นผู้ใดที่ต้องคอยสั่งสอนใครกันแน่ "เจ้าฟังปู่ให้ดี คนทั่วไปเขาจะใช้เงินในการซื้ออาหาร ซื้อเสื้อผ้าหรือแม้กระทั่งใช้เงินซื้อบ้านได้ เจ้าก็เห็นพวกหม่าสือนำเอาสัตว์ป่ากับผลไม้ป่ามาขายแล้วใช่หรือไม่" "เคยเห็นขอรับ" เด็กชายป้องปากกระซิบเบาๆ ตอบท่านปู่ของตนไปด้วย "นั่นล่ะเราสามารถหาสินค้าหรือใช้แรงงานของเราและเงินมา และใช้เงินไปซื้ออาหารได้ อย่างพวกหม่าสือกับชาวบ้านเมื่อพวกเขาได้เงินจากการขายสัตว์ป่า เขาก็จะซื้อเมล็ดพันธุ์พืช ข้าวสารกลับไปเข้าใจแล้วนะ ทีนี้เมื่อเรายังไม่มีเรือนพักในเมืองหย่งโจว เราสองคนก็จะจ่ายเงินเช่าที่พักชั่วคราวกันโดยที่ไม่ต้องไปสร้างกันเอง ทีนี้เข้าใจหรือยังว่าเจ้าสามารถเข้าไปอยู่ในเมืองได้โดยที่ไม่ต้องตัดไม้ไปสร้างเอง" หลี่หยุนพยายามหาถ้อยคำมาอธิบายให้เด็กน้อยฟังอย่างง่ายที่สุด "แต่พวกเราไม่มีเงินนะท่านปู่" หลี่หลงหยางหน้าเหี่ยวไปอีกครั้ง เขาคิดว่าท่านปู่คงจะเลอะเลือนอีกแล้วเป็นแน่ ก่อนจะออกจากกระท่อมมาเขาเป็นคนช่วยท่านปู่เก็บข้าวของใส่ห่อผ้าเองกับมือ ไม่เคยเห็นสิ่งที่เรียกว่าเงินนั่นเสียหน่อย "ความลับมันอยู่ตรงนี้นี่ล่ะ" ชายชราถูฝ่ามือไปมาด้วยความตื่นเต้น นี่เป็นความลับที่ไม่มีอยู่ภาพฉายภายในพายุ เหตุก็เพราะหลี่หยุนผู้นี้สมควรจะเสียชีวิตไปแล้วและร่างของเขาก็ถูกฝังอยู่ในป่าโดยไม่มีผู้ใดสนใจ แต่หลี่ต้งหมิงผู้ครอบครองร่างของหลี่หยุนได้รับความทรงจำส่วนตัวของชายชราที่ไม่ได้แสดงออกมาในภาพฉาย เหตุการณ์ต่อจากนี้จึงเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและในอนาคตก็ยังต้องเปลี่ยนแปลงไปอีกหลายเรื่อง หลี่หยุนผู้นี้เจ้าเล่ห์และเห็นแก่ตัวที่สุด ในขณะที่เขาพักอยู่ในจวนสกุลหลี่ หลี่เซิ่งผู้เป็นหลานชายมักจะดื่มสุราเมามายและแจกเงินทองให้กับสหายรวมทั้งคนในจวนเป็นว่าเล่น หลี่หยุนใช้ความเป็นผู้อาวุโสของตนร่วมสังสรรค์กับหลานชายเป็นประจำและได้รับเงินทองเหล่านั้นมาไม่น้อย ก่อนที่จะถูกเนรเทศออกมา ชายชรารีบยัดเม็ดทองคำขนาดประมาณเม็ดถั่วเขียวเอาไว้ในซอกฟันผุหลายซี่ในปาก 5 เม็ด ด้วยเกรงว่าทรัพย์สมบัติทั้งหมดจะถูกทางการยึดไปจนหมด ตลอด 5 ปีในค่ายกักกัน หลี่หยุนไม่เคยเอ่ยปากบอกกับผู้ใดแม้กระทั่งบุตรสาวทั้งสองเรื่องที่ตนมีทอง 5 ก้อนยัดอยู่ในปาก จนมาสร้างกระท่อมและต้องมีชีวิตอยู่อย่างยากลำบากชายชราก็ยังปิดปากเงียบด้วยหวังว่าหากมีโอกาสเข้าเมือง เขาจะแอบนำทองออกมาขายและเก็บเงินไว้ใช้จ่ายแต่เพียงผู้เดียว แต่เสียดายที่หลี่หยุนต้องมาจบชีวิตไปเสียก่อนยังไม่ทันได้งัดเอาทองออกมาจากซอกฟันมาเชยชมเลยด้วยซ้ำ โชคที่ได้มาอย่างไม่คาดฝันจึงตกเป็นของหลี่หยุนคนใหม่ไปอย่างง่ายดาย ชายชรามองหากิ่งไม้แห้งเล็กๆ ที่ดูแข็งแรงชิ้นหนึ่งมาแหย่เข้าปาก งัดๆ แงะๆ อยู่ครู่หนึ่งก็ได้ก้อนทองขนาดเล็กออกมา 1 ก้อน "นี่คือทองคำ มันสามารถใช้แทนเงินหรือแลกเปลี่ยนเป็นเงินได้ พวกเราไม่ได้ขาดเงินหรอกหลงเอ๋อร์ ไปกันเถิด ปู่จะซื้อทุกอย่างที่เจ้าอยากกินให้เอง" หลี่หยุนเก็บทองเม็ดเล็กเอาไว้อย่างดีก่อนจะพาหลานชายสุดที่รักของเขามุ่งหน้าต่อไปยังเมืองหย่งโจวที่อยู่ไม่ไกลแล้ว .......... บุรุษสูงวัยหนึ่ง เด็กหนึ่งและร่างวิญญาณอีกหนึ่ง เดินเข้าประตูเมืองเก่าสภาพทรุดโทรมไปด้วยใบหน้าเบิกบาน แม้จะมีหลายคนแสดงท่าทางรังเกียจเสื้อผ้าที่สกปรกมีรอยปะชุนเต็มไปหมดจนไม่เหลือพื้นที่ว่าง แต่สองปู่หลานก็ยังคงเดินยืดหลังตรงด้วยคิดว่าตนเองนั้นร่ำรวยที่สุดแล้ว อาคารบ้านเรือนที่เด็กชายเห็นว่ามันงดงามยิ่งใหญ่ที่สุด แต่ในสายตาของหลี่หยุนเขามองเห็นเพียงเมืองเก่าแก่ที่มีผู้คนอาศัยอยู่ไม่มากนัก เมืองหย่งโจวอยู่ติดกับชายแดนผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาตามท้องถนนที่เต็มไปด้วยฝุ่นดินจึงมีทั้งชาวบ้านและทหาร แต่สงครามได้ยุติและไม่มีทีท่าว่าจะปะทุขึ้นมาใหม่นานมากแล้ว ทำให้พื้นที่แห่งนี้ยังคงสามารถอาศัยอยู่ได้อย่างสงบสุข ค่ายทหารที่คอยปกป้องแนวเขตของแคว้นถูกลดจำนวนทหารประจำการลงไปกว่าครึ่ง และกลายเป็นค่ายกักกันที่ใช้เป็นที่คุมขังตระกูลขุนนางที่กระทำผิดให้มาใช้แรงงานทำเหมืองแร่ส่งกลับเข้าไปในเมืองหลวงแทน จึงยังคงมีทหารที่หลงเหลืออยู่ในพื้นที่ แต่พวกเขาก็ไร้ระเบียบวินัยเพราะไม่ได้ดำเนินชีวิตอย่างชายชาติทหาร ตอนนี้เป็นเพียงผู้คุมนักโทษกับเฝ้าเวรยามตามหน้าที่โดยไม่มีทหารระดับสูงคอยดูแลกวดขันเข้มงวด หลี่หยุนพาหลานชายเดินไปรอบๆ เขตการค้าภายในเมืองอย่างไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย เพียงเพื่อจะหาร้านค้าที่เขาจะสามารถขายทองคำออกไปได้ แต่จนแล้วจนรอดชายชราก็ยังไม่พบสถานที่ที่เหมาะสม "เจ้าคงมาจากค่ายกักกันสินะ" ชายสูงวัยอายุราว 60 ปีผู้หนึ่งส่งเสียงทักทายหลี่หยุนเมื่อเห็นรองเท้าฟางที่ทำขึ้นเองแบบง่ายที่ชายชราสวมใส่อยู่ "ใช่แล้ว เจ้าก็เคยอยู่ที่นั่นมาก่อนเช่นกันหรือ?" หลี่หยุนรู้สึกกระดากอายไปเล็กน้อยแต่ก็ไม่รู้จะหลบไปทางไหน รองเท้าคู่เก่าของตนถูกน้ำพัดลอยไปจนหาไม่เจอ เขาจึงจำต้องใช้หญ้าและใบไม้มามัดเป็นรองเท้าสวมไว้เอง "อืม คนอย่างพวกเราหลังจากถูกปล่อยตัวจะไปที่ได้ได้เล่านอกจากที่นี่ ข้าถูกปล่อยออกมาเมื่อสองปีก่อน ทุกวันนี้ก็ยังต้องขอทานเศษเงินเศษอาหารจากชาวบ้านอยู่เลย" ชายชราที่สวมใส่เสื้อผ้าสกปรกหน้าตามอมแมมตอบคำถามด้วยความรันทดใจ "กลุ่มของพวกเจ้ามีกันกี่คนเล่า พวกเจ้าพักอยู่ที่ใดกัน" หลี่หยุนถามเพื่อใช้โอกาสนี้รับรู้ความเป็นไปของสถานการณ์ปัจจุบัน "คนหนุ่มสาวบ้างก็ถูกทุบตีจนตาย บ้างก็หางานเล็กๆ น้อยๆ ทำได้บ้าง เหลือแต่ชายชราอย่างพวกเรานี่ล่ะที่ไม่สามารถทำสิ่งอื่นใดนอกจากเป็นขอทาน ที่นอนของข้าก็ตรงแถวๆ นี้นั่นล่ะ อ้อ พื้นที่บริเวณนี้ข้าจองนะ เจ้าไปหาที่นั่งขอทานตรงอื่นก็แล้วกัน" ชายชราชี้มือไปรอบๆ อาณาเขตที่เป็นอาคารร้านค้าราว 6-7 ห้องรอบตัว แล้วก็เลิกให้ความสนใจสองปู่หลานกลับไปร้องเรียกขอเศษเงินจากผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่อไป "ท่านปู่ข้ากระหายน้ำขอรับ" หลี่หลงหยางเดินมานานจนคอแห้ง เขาพยายามอดทนไว้จนถึงที่สุดแล้วแต่สุดท้ายก็อดทนต่อไปไม่ไหว จำต้องรอขอน้ำดื่มจากหลี่หยุน "ตามปู่มาทางนี้ เดี๋ยวปู่จะขอจากคนพวกนั้นให้เจ้าเอง" ชายชรามองเห็นกลุ่มคนที่น่าจะเป็นพ่อค้าวัวและม้า พวกเขามีคอกสัตว์และเกวียนบรรทุกวัวตัวหนึ่งอยู่ข้างบน ใกล้ๆ ตัวพวกเขามีโอ่งน้ำหลายใบที่คาดว่าจะเตรียมไว้สำหรับดื่มเองและสำหรับสัตว์เลี้ยงเหล่านั้น "นายท่าน ข้าขอแบ่งปันน้ำสักเล็กน้อยให้หลานชายข้าได้ดื่มสักหน่อยได้หรือไม่ขอรับ" หลี่หยุนโค้งตัวลงอย่างนอบน้อมเอ่ยปากขอร้องชายหนุ่มผู้หนึ่ง "ขอทานสกปรกอย่างพวกเจ้าจะมาดื่มน้ำจากกระบอกน้ำของพวกเราได้อย่างไรกัน นู่น!! ทางนั้นเป็นน้ำดื่มของวัวและม้าหากอยากกินก็ไปกินได้เลย" ชายหนุ่มกล่าวจบก็หันไปเล่นพนันถั่วกับสหายของเขาตามเดิม หลี่หยุนพาหลี่หลงหยางเดินไปที่โอ่งน้ำ ชะโงกหน้ามองลงไปในโอ่งก็เห็นว่าน้ำในนั้นไม่สะอาดเท่าใดนัก เขาใช้ถังไม้ใบเล็กที่วางอยู่ใกล้ๆ เลือกตักน้ำจากโอ่งใบที่สะอาดที่สุดยืนส่งให้เด็กน้อยดื่มกินลงไปด้วยความกระหาย แม้ในใจจะรู้สึกไม่ยินยอมแต่เวลานี้ตนยังไม่สามารถขายทองออกไปได้ จึงจำต้องให้หลานชายดื่มน้ำนั้นลงไปด้วยความรู้สึกผิด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม