บทที่ 4 เดินทางกลับเสียนหยาง

2271 คำ
หลายวันต่อมาจ้าวฝูหมิงให้ไป๋มู่หลันกลับไปเก็บข้าวของเครื่องใช้ของนางที่เรือนให้เรียบร้อย เพื่อเตรียมออกเดินทางกลับเมืองหลวงเสียนหยางทันที ส่วนเขากลับไปกวาดต้อนเหล่าเชลยที่เป็นพวกเดียวกับฉีอ๋องให้กลับไปรับโทษที่เสียนหยางด้วย ยามนี้จวนอ๋องที่เคยใหญ่โตกลับกลายเป็นจวนร้าง จ้าวฝูหมิงจัดการฆ่าล้างตระกูลของฉีอ๋องจนสิ้นซากภายในคืนเดียว แต่ไหนแต่ไรฉีอ๋องผู้นี้ก็คิดก่อการวุ่นวายมาโดยตลอด ฮ่องเต้จ้าวฝูหรง พี่ชายของเขาเห็นแก่ความสัมพันธ์ฉันท์ญาติมิตรมาโดยตลอด แม้จะเป็นญาติห่างๆแต่ก็ยังยกดินแดนแคว้นฉีให้ปกครอง แต่ทว่าฉีอ๋องกลับโลภมากไม่รู้จักพอ จึงต้องมาพบจุดจบเช่นนี้ นี่สินะความโหดเหี้ยมในราชวงศ์ต่อให้เป็นญาติมิตรพี่น้องที่เคยรักใคร่กันแค่ไหน สุดท้ายแล้วก็ต้องจบชีวิตลงเพราะคำว่ายื้อแย่งอำนาจเพียงคำเดียว ไป๋มู่หลันกลับมาลาบิดาของนางด้วยแววตาที่เศร้าใจไม่น้อย ได้ยินมาว่าท่านอ๋องสั่งให้เหล่าทหารมาทุบร้านของท่านพ่อ นางรู้สึกตื่นตระหนกยิ่งนัก แต่ทว่าทหารเหล่านั้นเอ่ยเพียงว่าท่านอ๋องสั่งให้ทุบร้านเก่าทิ้งเพราะเล็กเกินไป สั่งให้สร้างร้านใหม่ที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ให้ตายเถิด!!เหตุใดจึงไม่แจ้งก่อนทุบกันเล่า!! "มู่หลาน เจ้าไปอยู่ในจวนทานอ๋องก็ทำตัวดีดีเล่า สิ่งไหนที่ควรสงบปากสงบคำเจ้าก็เงียบเสีย เข้าใจหรือไม่?" "เจ้าค่ะทานพ่อ" ไป๋มู่หลันพยักหน้าเพียงเล็กน้อย ก่อนจะแยกตัวเข้าไปในครัว นางทำเกี้ยวหมูแป้งใสขึ้นมาหลายชิ้น รวมถึงซาลาเปาไส้เนื้ออีกหลายลูก และยังทำขนมเปี๊ยะไส้หัวไชเท้าเพิ่มมาอีกหลายชิ้นเพื่อรองท้องระหว่างการเดินทาง "อนุไป๋ ท่านอ๋องให้ข้ามารับท่านกลับไปที่กองทัพขอรับ" "ข้ารู้แล้ว" ไป๋มู่หลันรับคำก่อนจะเดินไปนั่งในเกี้ยว สายตาของนางมองไปยังผู้เป็นบิดาอีกครั้ง ท่านพ่อส่งยิ้มให้นางด้วยความห่วงใย ก่อนจากลา ไป๋เฟยยังไม่ลืมที่จะยื่นตั๋วเงินหลายร้อยตำลึงให้นางติดตัวไปอีกด้วย เขาเองไม่มีสิ่งใดจะมอบให้บุตรสาวจึงทำได้เพียงมอบตั๋วเงินให้นางไว้ใช้สอยยามอยู่ที่จวนอ๋อง เมื่อไป๋มู่หลันมาถึงกระโจมก็พบว่าจ้าวฝูหมิงเก็บข้าวของของเขาเรียบร้อยแล้ว ดวงตาคมหันมาจ้องมองนางเล็กน้อย ไป๋มู่หลันรู้สึกกระอักกระอ่วนในใจไม่น้อย นางจึงก้มหน้างุดไม่ยอมสบตากับเขา จ้าวฝูหมิงยกยิ้เจ้าเล่ห์ที่มุมปาก ก่อนจะเดินเข้าไปหานาง เขาใช้มือหนาใหญ่เชยคางนางขึ้นมาให้สบตากับเขา "หึ!!เขินอายข้าหรือ เห้อ เกิดมารูปงามที่สุดในใต้หล้าก็เป็นเช่นนี้ เจ้าจงทำใจเสียเถิด อย่างไรก็ต้องทนมองใบหน้าหล่อเหลาของข้าไปทั้งชีวิต" ไป๋มู่หลันที่ได้ยินเขาเอ่ยเช่นนี้ก็รู้สึกมวลท้องน้อย อยากจะอาเจียนยิ่งนัก หากนางอาเจียนใส่เขา เขาจะชักดาบมาฟันนางหรือไม่? คงไม่เพราะเขาชอบชักอย่างอื่นให้นางดูมากกว่าชักดาบ!!! "เก็บของเรียบร้อยแล้วหรือ?" "เพคะ" "ออกเดินทางได้" ไป๋มู่หลันพยักหน้าน้อยๆ ไม่นานนักเหล่าทหารก็มาช่วยขนข้าวของเครื่องใช้ของนางออกไป ของที่นางนำมาด้วยมีไม่มากเท่าใดนัก นอกจากเสื้อผ้าที่เขาสั่งตัดให้นางเมื่อหลายวันก่อน จ้าวฝูหมิงนั่งอยู่บนรถม้ากับไป๋มู่หลัน โดยมีหลัวเฉิงลู่เป็นผู้นำขบวนทัพอยู่ด้านหน้า แววตาของเขาเย็นชาและสุขุม ราวกับคอยระแวดระวังทุกอย่างรอบด้านตลอดเวลา ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าเขาช่างรูปงามไม่น้อย ชีวิตนี้นางเองไม่เคยมีความรักเลยสักครั้ง มิเคยพบเจอหรือใกล้ชิดบุรุษมาก่อน จึงรู้สึกขัดเขินยามที่ต้องอยู่ใกล้กับเขา ไป๋มู่หลันยื่นมือไปเปิดห่อผ้าที่บรรจุชามใส่อาหารแห้งเอาไว้ นางยื่นมันไปตรงหน้าเขาด้วยแววตาที่หวาดกลัว มิรู้ว่าเขาจะชอบหรือไม่? จ้าวฝูงหมิงขมวดคิ้วมุ่น แต่ทว่าเมื่อเห็นอาหารตรงหน้าที่ดูน่ากินไม่น้อย เขาก็รุ้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง "หม่อมฉันเห็นว่าทรงต้องเดินทางไกล จึงทำเพียงอาหารง่ายๆมาถวายเพคะ" "อืม เจ้าจะมากพิธีไปทำไม มานี่!!ขยับมาใกล้เข้า" "เอ่อ.." "มานี่!!" เขาช้อนอุ้มร่างบางของนางขึ้นมาวางไว้บนท่อนขาแกร่ง ไป๋มู่หลันใบหน้าแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย รถม้าที่โยกโคลงเคลงไปมา ทำให้ร่างของนางบดเบียดซุกเข้าไปในแผงอกของเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จ้าวฝูหมิงรู้สึกดีไม่น้อย อ่าาาา!!หน้าอกนางเบียดเข้ามาแล้ว โอวว ดีเยี่ยม เบียดอีก คนขับรถม้าเที่ยวนี้ช่างรู้งานยิ่งนัก กลับไปต้องตบรางวัล!!! "ทะ ท่านอ๋องเพคะ" "หยิบขนมเปี๊ยะขึ้นมาป้อนให้ข้า" ไป๋มู่หลันคิดยากปฏิเสธเขาแต่นางก็ไม่กล้า จึงทำได้เพียงหยิบมันขึ้นมาป้อนเขาทีละคำอย่างช้าๆ ผ่านไปไม่นาน จ้าวฝูหมิงรู้สึกอิ่มแล้ว เขาจึงปล่อยนางให้ไปนั่งตามเดิม ไป๋มู่หลันไม่ค่อยอยากอาหารเท่าใดนัก นางจึงยื่นมือไปหยิบเซียงเจียวผลใหญ่ (กล้วยหอม) ขึ้นมาปลอกเปลือกและกัดกินอย่างช้าๆ จ้าวฝูหมิงหันไปเห็นเข้าพอดี แววตาของเขาทอประกายแวววาวขึ้นมาทันที ในหัวพลันครุ่นคิดบางอย่างขึ้นมาได้ ยามที่นางกัดกินผลเซียงเจียวผลนั้น ริมฝีปากของนางเผยออ้าออกอย่างช้าๆ ช่างดูงดงามไม่น้อย หากผลเซียงเจียวในปากของนางเปลี่ยนเป็นแท่งเอ็นร้อนของเขาก็คงจะดีไม่น้อย ขบวนรถม้าของชินอ๋องเคลื่อนไปอย่างไม่รีบไม่ร้อน เหนื่อยก็พัก พอหายเหนื่อยเขาก็สั่งให้เคลื่อนขบวนต่อ เหล่าเชลยจากแคว้นฉี ต่างเดินเท้าตามขบวนกันด้วยแววตาที่หมดอาลัยตายอยาก นับจากนี้ชะตาชีวิตจะดำเนินไปในทางใด จะเป็นหรือตายก็ยังไม่แน่ชัด ขบวนทัพของชินอ๋องจ้าวฝูหมิงเดินทางมาร่วมครึ่งเดือน ก็ถึงเมืองหลวงเสียนกยาง ไป๋มู่หลันรู้สึกปวดเมื่อยตามร่างกายไปหมด จ้าวฝูหมิงสั่งให้หลัวเฉิงลู่นำเชลยไปส่งมอบให้แก่ฮ่องเต้จ้าวฝูหรงผู้เป็นพี่ชาย ส่วนเขามุ่งหน้ากลับจวนอ๋องอย่างไม่ใส่ใจ เสด็จพี่น่ะหรือจะกล้าต่อว่าเขา รอให้เขาอารมณ์ดีจะไปเข้าเฝ้าเอง!! ฮ่องเต้จ้าวฝูหรงที่ทราบว่าน้องชายกลับมาถึงเมืองหลวงแล้วก็ดีใจเป็นอย่างมาก แต่ทว่ารอแล้วรอเล่าก็ไร้วี่แววของจ้าวฝูหมิง ได้ยินมาว่าน้องรองพาอนุกลับมาด้วยคนหนึ่ง ดูแล้วคงจะไม่มาเข้าเฝ้าเขาในเร็ววันนี้เป็นแน่ บัดซบ!!เห็นสตรีดีกว่าข้าเช่นนั้นหรือ? แต่ช่างเถิด ปล่อยมันไป!!ข้าไม่อาจทนให้น้องรองมาด่าทอข้าอีก จ้าวฝูหมิงปากร้ายไม่เห็นหัวผู้ใดทั้งสิ้น ข้อนี้เขาทราบดี แต่อย่างไรเสีย เขาก็รักน้องรองผู้นี้ไม่น้อย แม้จะปากร้ายไม่เห็นหัวผู้ใด แต่ยามที่บ้านเมืองตกอยุ่ในความลำบาก น้องรองจะยื่นมือเข้ามาช่วยทุกครั้งอย่างสุดความสามารถ ไป๋มู่หลันแอบเปิดม่านออกมองดูทิวทัศน์รอบด้านของเมืองเสียนหยาง ที่นี่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์และงดงามกว่าแคว้นฉีของนางยิ่งนัก อีกทั้งผู้คนก็มากมายเหลือเกิน "จะลงมาเอง หรือให้ข้าลากลงไป เหม่อสิ่งใดอยู่!!" "ขออภัยเพคะท่านอ๋อง" จ้าวฝูหมิงปรายตามองไปยังทิศทางที่ไป๋มู่หลันจ้องมองเมื่อครู่ ก่อนจะพบกับตาเฒ่าชราผู้หนึ่งที่ขายซาลาเปาอยู่ด้านหน้าจวนอ๋องของเขา บัดซบ!!มิใช่ว่านางชอบตาเฒ่าขายซาลาเปาคราวพ่อผู้นั้นหรอกนะ เขารีบช้อนตัวนางมาพาดไว้บนบ่าทันที ไป๋มู่หลันรู้สึกตกใจไม่น้อย เหตุใดเขานึกจะแบกนางก็แบกไปเช่นนี้!!! จ้าวฝูหมิงยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะหันไปยักคิ้วให้ตาเฒ่าขายซาลาเปาผู้นั้น หึ!!แหกตาดูเสียนางเป็นภรรยาข้าแล้ว ตาเฒ่าขายซาลาเปาทำได้เพียงขมวดคิ้วมุ่นด้วยความงุนงง ท่านอ๋องผู้นี้อยู่ดีดีมายักคิ้วให้ข้าทำไมกัน? ภายในจวนอ๋องประดับประดาด้วยของมีค่ามากมาย ช่างดูหรูหราแม้กระทั่งประตูจวนที่มีอักษรทองคำสลักเอาไว้ว่า จวนชินอ๋อง บรรยากาศภายในจวนร่มรื่นปกคลุมไปด้วยต้นไม้และดอกไม้มากมาย ด้านหน้าตำหนักใหญ่ยังมีสระบัวขนาดใหญ่อีกด้วย จวนแห่งนี้จ้าวฝูหมิงเป็นคนตกแต่งด้วยตนเอง เขาชื่นชอบธรรมชาติ ในจวนจึงมีต้นไม้และดอกไม้ปลุกเอาไว้จนเต้มไปหมด "ท่านอ๋องกลับมาแล้ว" "พ่อบ้านเฉิน ไปเตรียมห้องนอนให้อนุของข้า" "อนุ?" "ฟังไม่รู้เรื่องรึ!!!เดี๋ยวก็ถีบยอดหน้าเข้าให้!!" "ขออภัยท่านอ๋อง บ่าวจะไปจัดเตรียมเดี๋ยวนี้" พ่อบ้านเฉินรีบกุลีกุจอจากไปทันที แต่ถึงอย่างนั้นเขายังแอบเหลือบมองไป๋มู่หลันคราหนึ่ง เขาเฝ้ามองดูการเติบโตของชินอ๋องมาแต่เล็กแต่น้อย เขาเคารพและรักชินอ่องเป็นอย่างมาก แม้บางคราจะถูกชินอ๋องกระชากหงอกจนหมดหัวก็ตามเถิด!! ไม่คาดคิดว่าจะมีสตรีใดที่ทำให้พระองค์ทรงใส่พระทัยได้เช่นนี้ จ้าวฝูหมิงสั่งคนให้อุ่นสุรามาให้เขากาหนึ่ง ก่อนจะเทมันลงในจอกและยกขึ้นดื่มลงคออย่างสบายอารมณ์ "ท่านอ๋องขอรับ" "พ่อบ้านเฉิน จัดที่ทางให้นางอยู่ส่วนไหน?" "เอ่อ ทูลท่านอ๋อง ยามนี้ทั้งเรือนปีกซ้ายและปีกขวา ล้วนมีนางบำเรอพักอาศัยอยู่เต็มไปหมด เอ่อ... เหลือเพียงเรือนน้อยท้ายจวนที่ติดโรงครัวขอรับ" จ้าวฝูหมิงปรายตามองพ่อบ้านเฉินทันที "เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงกล้าให้อนุข้าไปอยู่ท้ายจะวน?" "เอ่อ..ท่านอ๋อง!!" "ลากไปโบยห้าสิบไม้!!" ไป๋มู่หลันรู้สึกว่าเรื่องราวชักจะไปกันใหญ่ นางเองอยุ่ที่ใดก็ได้ทั้งนั้น ดีเสียอีก ไปอยู่ท้ายจวนจะได้อยู่ไกลหูไกลตาเขาด้วย เขาจะได้ไม่มาใส่ใจนางอีก ลืมๆนางไปเสียเถิด "ท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันชอบเรือนท้ายจวนเพคะ" จ้าวฝูหมิงรีบหันไปมองนางทันที ไป๋มู่หลันที่เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยอธิบายให้ชัดเจนยิ่งขึ้น "หม่อมฉันชื่นชอบการทำอาหาร ดีเสียอีกจะได้อยู่ใกล้โรงครัว คอยทำอาหารให้ท่านอ๋องเสวยทุกวันเพคะ" จ้าวฝูหมิงที่ได้ยินเช่นนั้นก็อารมณ์ดีขึ้นมาไม่น้อย ในใจรู้สึกเอ็นดูนางขึ้นมาหลายส่วน หึ..เริ่มจะหลงข้าจนหัวปักหัวปรำแล้วสินะ เอาเถิด!ในเมื่อนางชอบข้าก็จะตามใจนาง เด็กวัยกำลังเติบโต ห้ามขัดใจจะเป็นการดี ขืนนางอารมณ์เสียแล้วรอบเดือนมาช้าไปอีก ข้ามิต้องรอจนผมหงอกขึ้นเต็มหัวเลยหรือ!! ไม่ดี ไม่ดี!! "พ่อบ้านเฉิน ไปจัดเตรียมเรือนท้ายจวนเอาไว้ สั่งคนไปทำป้ายติดที่หน้าเรือนของนาง ว่าเรือน อนุไป๋!!" "พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง" หลังจากที่พ่อบ้านเฉินออกไปแล้ว ไป๋มู่หลันก็เห็นว่ามีสตรีสามสี่นางกำลังเดินเข้ามาหาจ้าวฝูหมิงด้วยแววตาเป็นประกาย "ท่านอ๋อง!!!" จ้าวฝูหมิงปรายตามองพวกนางด้วยความเบื่อหน่าย พวกนางเป็นนางบำเรอที่เขาเลี้ยงดูเอาไว้ วันๆมีหน้าที่คอยเอาอกเอาใจเขา แต่ทว่าตั้งแต่หลับนอนกับพวกนางเพียงครั้งเดียว เขาก็ไม่ไปหาพวกนางอีก หลิงหลิง นางบำเรอที่อายุมากกว่าคนอื่นๆ ปรายตามองไป๋มู่หลันเล็กน้อย ปีนี้นางอายุยี่สิบปีแล้ว ท่านอ๋องรับนางมาจากหอนางโลม เขากลับนอนกับนางเพียงครั้งเดียว และเลี้ยงดูนางเอาไว้ในจวนได้ร่วมสองปีแล้ว สตรีน้อยนางนี้คือผู้ใดกัน!!นางบำเรอคนใหม่หรือ? ทุกการกระทำของหลิงหลิงอยู่ในสายตาของจ้าวฝูหมิงทุกอย่าง เหจุใดเขาจะไม่ล่วงรู้ความคิดนางกัน เมื่อเห็นเช่นนั้นเขาจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา "นางเป็นอนุของข้า พวกเจ้ายังไม่ทำความเคารพนางอีก" "เอ่อ อนุ?" "ถามทำไม!!รีบทำความเคารพนางสิ!!" หลิงหลิงและเหล่านางบำเรอทำความเคารพไป๋มู่หลันตาคำสั่งทันที แต่ทว่าหลิงหลิงยังไม่ยอมหยุดเอ่ยถามจ้าวฝูหมิงอีกครรั้ง "นางจะมาเป็นนายหญิงของพวกเราหรือเพคะ" "เป็นอนุ!!นายหญิงอะไรกัน ในจวนอ๋องแห่งนี้ข้าคนเดียวที่เป็นนาย!!!"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม