หลายวันต่อมาจ้าวฝูหมิงให้ไป๋มู่หลันกลับไปเก็บข้าวของเครื่องใช้ของนางที่เรือนให้เรียบร้อย เพื่อเตรียมออกเดินทางกลับเมืองหลวงเสียนหยางทันที ส่วนเขากลับไปกวาดต้อนเหล่าเชลยที่เป็นพวกเดียวกับฉีอ๋องให้กลับไปรับโทษที่เสียนหยางด้วย ยามนี้จวนอ๋องที่เคยใหญ่โตกลับกลายเป็นจวนร้าง จ้าวฝูหมิงจัดการฆ่าล้างตระกูลของฉีอ๋องจนสิ้นซากภายในคืนเดียว แต่ไหนแต่ไรฉีอ๋องผู้นี้ก็คิดก่อการวุ่นวายมาโดยตลอด ฮ่องเต้จ้าวฝูหรง พี่ชายของเขาเห็นแก่ความสัมพันธ์ฉันท์ญาติมิตรมาโดยตลอด แม้จะเป็นญาติห่างๆแต่ก็ยังยกดินแดนแคว้นฉีให้ปกครอง แต่ทว่าฉีอ๋องกลับโลภมากไม่รู้จักพอ จึงต้องมาพบจุดจบเช่นนี้
นี่สินะความโหดเหี้ยมในราชวงศ์ต่อให้เป็นญาติมิตรพี่น้องที่เคยรักใคร่กันแค่ไหน สุดท้ายแล้วก็ต้องจบชีวิตลงเพราะคำว่ายื้อแย่งอำนาจเพียงคำเดียว
ไป๋มู่หลันกลับมาลาบิดาของนางด้วยแววตาที่เศร้าใจไม่น้อย ได้ยินมาว่าท่านอ๋องสั่งให้เหล่าทหารมาทุบร้านของท่านพ่อ นางรู้สึกตื่นตระหนกยิ่งนัก แต่ทว่าทหารเหล่านั้นเอ่ยเพียงว่าท่านอ๋องสั่งให้ทุบร้านเก่าทิ้งเพราะเล็กเกินไป สั่งให้สร้างร้านใหม่ที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
ให้ตายเถิด!!เหตุใดจึงไม่แจ้งก่อนทุบกันเล่า!!
"มู่หลาน เจ้าไปอยู่ในจวนทานอ๋องก็ทำตัวดีดีเล่า สิ่งไหนที่ควรสงบปากสงบคำเจ้าก็เงียบเสีย เข้าใจหรือไม่?"
"เจ้าค่ะทานพ่อ"
ไป๋มู่หลันพยักหน้าเพียงเล็กน้อย ก่อนจะแยกตัวเข้าไปในครัว นางทำเกี้ยวหมูแป้งใสขึ้นมาหลายชิ้น รวมถึงซาลาเปาไส้เนื้ออีกหลายลูก และยังทำขนมเปี๊ยะไส้หัวไชเท้าเพิ่มมาอีกหลายชิ้นเพื่อรองท้องระหว่างการเดินทาง
"อนุไป๋ ท่านอ๋องให้ข้ามารับท่านกลับไปที่กองทัพขอรับ"
"ข้ารู้แล้ว"
ไป๋มู่หลันรับคำก่อนจะเดินไปนั่งในเกี้ยว สายตาของนางมองไปยังผู้เป็นบิดาอีกครั้ง ท่านพ่อส่งยิ้มให้นางด้วยความห่วงใย ก่อนจากลา ไป๋เฟยยังไม่ลืมที่จะยื่นตั๋วเงินหลายร้อยตำลึงให้นางติดตัวไปอีกด้วย เขาเองไม่มีสิ่งใดจะมอบให้บุตรสาวจึงทำได้เพียงมอบตั๋วเงินให้นางไว้ใช้สอยยามอยู่ที่จวนอ๋อง
เมื่อไป๋มู่หลันมาถึงกระโจมก็พบว่าจ้าวฝูหมิงเก็บข้าวของของเขาเรียบร้อยแล้ว ดวงตาคมหันมาจ้องมองนางเล็กน้อย ไป๋มู่หลันรู้สึกกระอักกระอ่วนในใจไม่น้อย นางจึงก้มหน้างุดไม่ยอมสบตากับเขา
จ้าวฝูหมิงยกยิ้เจ้าเล่ห์ที่มุมปาก ก่อนจะเดินเข้าไปหานาง เขาใช้มือหนาใหญ่เชยคางนางขึ้นมาให้สบตากับเขา
"หึ!!เขินอายข้าหรือ เห้อ เกิดมารูปงามที่สุดในใต้หล้าก็เป็นเช่นนี้ เจ้าจงทำใจเสียเถิด อย่างไรก็ต้องทนมองใบหน้าหล่อเหลาของข้าไปทั้งชีวิต"
ไป๋มู่หลันที่ได้ยินเขาเอ่ยเช่นนี้ก็รู้สึกมวลท้องน้อย อยากจะอาเจียนยิ่งนัก
หากนางอาเจียนใส่เขา เขาจะชักดาบมาฟันนางหรือไม่?
คงไม่เพราะเขาชอบชักอย่างอื่นให้นางดูมากกว่าชักดาบ!!!
"เก็บของเรียบร้อยแล้วหรือ?"
"เพคะ"
"ออกเดินทางได้"
ไป๋มู่หลันพยักหน้าน้อยๆ ไม่นานนักเหล่าทหารก็มาช่วยขนข้าวของเครื่องใช้ของนางออกไป ของที่นางนำมาด้วยมีไม่มากเท่าใดนัก นอกจากเสื้อผ้าที่เขาสั่งตัดให้นางเมื่อหลายวันก่อน
จ้าวฝูหมิงนั่งอยู่บนรถม้ากับไป๋มู่หลัน โดยมีหลัวเฉิงลู่เป็นผู้นำขบวนทัพอยู่ด้านหน้า แววตาของเขาเย็นชาและสุขุม ราวกับคอยระแวดระวังทุกอย่างรอบด้านตลอดเวลา
ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าเขาช่างรูปงามไม่น้อย ชีวิตนี้นางเองไม่เคยมีความรักเลยสักครั้ง มิเคยพบเจอหรือใกล้ชิดบุรุษมาก่อน จึงรู้สึกขัดเขินยามที่ต้องอยู่ใกล้กับเขา
ไป๋มู่หลันยื่นมือไปเปิดห่อผ้าที่บรรจุชามใส่อาหารแห้งเอาไว้ นางยื่นมันไปตรงหน้าเขาด้วยแววตาที่หวาดกลัว มิรู้ว่าเขาจะชอบหรือไม่?
จ้าวฝูงหมิงขมวดคิ้วมุ่น แต่ทว่าเมื่อเห็นอาหารตรงหน้าที่ดูน่ากินไม่น้อย เขาก็รุ้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง
"หม่อมฉันเห็นว่าทรงต้องเดินทางไกล จึงทำเพียงอาหารง่ายๆมาถวายเพคะ"
"อืม เจ้าจะมากพิธีไปทำไม มานี่!!ขยับมาใกล้เข้า"
"เอ่อ.."
"มานี่!!"
เขาช้อนอุ้มร่างบางของนางขึ้นมาวางไว้บนท่อนขาแกร่ง ไป๋มู่หลันใบหน้าแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย รถม้าที่โยกโคลงเคลงไปมา ทำให้ร่างของนางบดเบียดซุกเข้าไปในแผงอกของเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
จ้าวฝูหมิงรู้สึกดีไม่น้อย อ่าาาา!!หน้าอกนางเบียดเข้ามาแล้ว โอวว ดีเยี่ยม เบียดอีก คนขับรถม้าเที่ยวนี้ช่างรู้งานยิ่งนัก กลับไปต้องตบรางวัล!!!
"ทะ ท่านอ๋องเพคะ"
"หยิบขนมเปี๊ยะขึ้นมาป้อนให้ข้า"
ไป๋มู่หลันคิดยากปฏิเสธเขาแต่นางก็ไม่กล้า จึงทำได้เพียงหยิบมันขึ้นมาป้อนเขาทีละคำอย่างช้าๆ
ผ่านไปไม่นาน จ้าวฝูหมิงรู้สึกอิ่มแล้ว เขาจึงปล่อยนางให้ไปนั่งตามเดิม ไป๋มู่หลันไม่ค่อยอยากอาหารเท่าใดนัก นางจึงยื่นมือไปหยิบเซียงเจียวผลใหญ่ (กล้วยหอม) ขึ้นมาปลอกเปลือกและกัดกินอย่างช้าๆ
จ้าวฝูหมิงหันไปเห็นเข้าพอดี แววตาของเขาทอประกายแวววาวขึ้นมาทันที ในหัวพลันครุ่นคิดบางอย่างขึ้นมาได้ ยามที่นางกัดกินผลเซียงเจียวผลนั้น ริมฝีปากของนางเผยออ้าออกอย่างช้าๆ ช่างดูงดงามไม่น้อย
หากผลเซียงเจียวในปากของนางเปลี่ยนเป็นแท่งเอ็นร้อนของเขาก็คงจะดีไม่น้อย
ขบวนรถม้าของชินอ๋องเคลื่อนไปอย่างไม่รีบไม่ร้อน เหนื่อยก็พัก พอหายเหนื่อยเขาก็สั่งให้เคลื่อนขบวนต่อ เหล่าเชลยจากแคว้นฉี ต่างเดินเท้าตามขบวนกันด้วยแววตาที่หมดอาลัยตายอยาก นับจากนี้ชะตาชีวิตจะดำเนินไปในทางใด จะเป็นหรือตายก็ยังไม่แน่ชัด
ขบวนทัพของชินอ๋องจ้าวฝูหมิงเดินทางมาร่วมครึ่งเดือน ก็ถึงเมืองหลวงเสียนกยาง ไป๋มู่หลันรู้สึกปวดเมื่อยตามร่างกายไปหมด
จ้าวฝูหมิงสั่งให้หลัวเฉิงลู่นำเชลยไปส่งมอบให้แก่ฮ่องเต้จ้าวฝูหรงผู้เป็นพี่ชาย ส่วนเขามุ่งหน้ากลับจวนอ๋องอย่างไม่ใส่ใจ
เสด็จพี่น่ะหรือจะกล้าต่อว่าเขา รอให้เขาอารมณ์ดีจะไปเข้าเฝ้าเอง!!
ฮ่องเต้จ้าวฝูหรงที่ทราบว่าน้องชายกลับมาถึงเมืองหลวงแล้วก็ดีใจเป็นอย่างมาก แต่ทว่ารอแล้วรอเล่าก็ไร้วี่แววของจ้าวฝูหมิง ได้ยินมาว่าน้องรองพาอนุกลับมาด้วยคนหนึ่ง ดูแล้วคงจะไม่มาเข้าเฝ้าเขาในเร็ววันนี้เป็นแน่
บัดซบ!!เห็นสตรีดีกว่าข้าเช่นนั้นหรือ?
แต่ช่างเถิด ปล่อยมันไป!!ข้าไม่อาจทนให้น้องรองมาด่าทอข้าอีก จ้าวฝูหมิงปากร้ายไม่เห็นหัวผู้ใดทั้งสิ้น ข้อนี้เขาทราบดี แต่อย่างไรเสีย เขาก็รักน้องรองผู้นี้ไม่น้อย แม้จะปากร้ายไม่เห็นหัวผู้ใด แต่ยามที่บ้านเมืองตกอยุ่ในความลำบาก น้องรองจะยื่นมือเข้ามาช่วยทุกครั้งอย่างสุดความสามารถ
ไป๋มู่หลันแอบเปิดม่านออกมองดูทิวทัศน์รอบด้านของเมืองเสียนหยาง ที่นี่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์และงดงามกว่าแคว้นฉีของนางยิ่งนัก อีกทั้งผู้คนก็มากมายเหลือเกิน
"จะลงมาเอง หรือให้ข้าลากลงไป เหม่อสิ่งใดอยู่!!"
"ขออภัยเพคะท่านอ๋อง"
จ้าวฝูหมิงปรายตามองไปยังทิศทางที่ไป๋มู่หลันจ้องมองเมื่อครู่ ก่อนจะพบกับตาเฒ่าชราผู้หนึ่งที่ขายซาลาเปาอยู่ด้านหน้าจวนอ๋องของเขา
บัดซบ!!มิใช่ว่านางชอบตาเฒ่าขายซาลาเปาคราวพ่อผู้นั้นหรอกนะ
เขารีบช้อนตัวนางมาพาดไว้บนบ่าทันที ไป๋มู่หลันรู้สึกตกใจไม่น้อย เหตุใดเขานึกจะแบกนางก็แบกไปเช่นนี้!!!
จ้าวฝูหมิงยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะหันไปยักคิ้วให้ตาเฒ่าขายซาลาเปาผู้นั้น หึ!!แหกตาดูเสียนางเป็นภรรยาข้าแล้ว
ตาเฒ่าขายซาลาเปาทำได้เพียงขมวดคิ้วมุ่นด้วยความงุนงง ท่านอ๋องผู้นี้อยู่ดีดีมายักคิ้วให้ข้าทำไมกัน?
ภายในจวนอ๋องประดับประดาด้วยของมีค่ามากมาย ช่างดูหรูหราแม้กระทั่งประตูจวนที่มีอักษรทองคำสลักเอาไว้ว่า จวนชินอ๋อง บรรยากาศภายในจวนร่มรื่นปกคลุมไปด้วยต้นไม้และดอกไม้มากมาย ด้านหน้าตำหนักใหญ่ยังมีสระบัวขนาดใหญ่อีกด้วย จวนแห่งนี้จ้าวฝูหมิงเป็นคนตกแต่งด้วยตนเอง เขาชื่นชอบธรรมชาติ ในจวนจึงมีต้นไม้และดอกไม้ปลุกเอาไว้จนเต้มไปหมด
"ท่านอ๋องกลับมาแล้ว"
"พ่อบ้านเฉิน ไปเตรียมห้องนอนให้อนุของข้า"
"อนุ?"
"ฟังไม่รู้เรื่องรึ!!!เดี๋ยวก็ถีบยอดหน้าเข้าให้!!"
"ขออภัยท่านอ๋อง บ่าวจะไปจัดเตรียมเดี๋ยวนี้"
พ่อบ้านเฉินรีบกุลีกุจอจากไปทันที แต่ถึงอย่างนั้นเขายังแอบเหลือบมองไป๋มู่หลันคราหนึ่ง เขาเฝ้ามองดูการเติบโตของชินอ๋องมาแต่เล็กแต่น้อย เขาเคารพและรักชินอ่องเป็นอย่างมาก แม้บางคราจะถูกชินอ๋องกระชากหงอกจนหมดหัวก็ตามเถิด!!
ไม่คาดคิดว่าจะมีสตรีใดที่ทำให้พระองค์ทรงใส่พระทัยได้เช่นนี้
จ้าวฝูหมิงสั่งคนให้อุ่นสุรามาให้เขากาหนึ่ง ก่อนจะเทมันลงในจอกและยกขึ้นดื่มลงคออย่างสบายอารมณ์
"ท่านอ๋องขอรับ"
"พ่อบ้านเฉิน จัดที่ทางให้นางอยู่ส่วนไหน?"
"เอ่อ ทูลท่านอ๋อง ยามนี้ทั้งเรือนปีกซ้ายและปีกขวา ล้วนมีนางบำเรอพักอาศัยอยู่เต็มไปหมด เอ่อ... เหลือเพียงเรือนน้อยท้ายจวนที่ติดโรงครัวขอรับ"
จ้าวฝูหมิงปรายตามองพ่อบ้านเฉินทันที
"เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงกล้าให้อนุข้าไปอยู่ท้ายจะวน?"
"เอ่อ..ท่านอ๋อง!!"
"ลากไปโบยห้าสิบไม้!!"
ไป๋มู่หลันรู้สึกว่าเรื่องราวชักจะไปกันใหญ่ นางเองอยุ่ที่ใดก็ได้ทั้งนั้น ดีเสียอีก ไปอยู่ท้ายจวนจะได้อยู่ไกลหูไกลตาเขาด้วย เขาจะได้ไม่มาใส่ใจนางอีก ลืมๆนางไปเสียเถิด
"ท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันชอบเรือนท้ายจวนเพคะ"
จ้าวฝูหมิงรีบหันไปมองนางทันที ไป๋มู่หลันที่เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยอธิบายให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
"หม่อมฉันชื่นชอบการทำอาหาร ดีเสียอีกจะได้อยู่ใกล้โรงครัว คอยทำอาหารให้ท่านอ๋องเสวยทุกวันเพคะ"
จ้าวฝูหมิงที่ได้ยินเช่นนั้นก็อารมณ์ดีขึ้นมาไม่น้อย ในใจรู้สึกเอ็นดูนางขึ้นมาหลายส่วน
หึ..เริ่มจะหลงข้าจนหัวปักหัวปรำแล้วสินะ
เอาเถิด!ในเมื่อนางชอบข้าก็จะตามใจนาง เด็กวัยกำลังเติบโต ห้ามขัดใจจะเป็นการดี ขืนนางอารมณ์เสียแล้วรอบเดือนมาช้าไปอีก ข้ามิต้องรอจนผมหงอกขึ้นเต็มหัวเลยหรือ!!
ไม่ดี ไม่ดี!!
"พ่อบ้านเฉิน ไปจัดเตรียมเรือนท้ายจวนเอาไว้ สั่งคนไปทำป้ายติดที่หน้าเรือนของนาง ว่าเรือน อนุไป๋!!"
"พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง"
หลังจากที่พ่อบ้านเฉินออกไปแล้ว ไป๋มู่หลันก็เห็นว่ามีสตรีสามสี่นางกำลังเดินเข้ามาหาจ้าวฝูหมิงด้วยแววตาเป็นประกาย
"ท่านอ๋อง!!!"
จ้าวฝูหมิงปรายตามองพวกนางด้วยความเบื่อหน่าย พวกนางเป็นนางบำเรอที่เขาเลี้ยงดูเอาไว้ วันๆมีหน้าที่คอยเอาอกเอาใจเขา แต่ทว่าตั้งแต่หลับนอนกับพวกนางเพียงครั้งเดียว เขาก็ไม่ไปหาพวกนางอีก
หลิงหลิง นางบำเรอที่อายุมากกว่าคนอื่นๆ ปรายตามองไป๋มู่หลันเล็กน้อย ปีนี้นางอายุยี่สิบปีแล้ว ท่านอ๋องรับนางมาจากหอนางโลม เขากลับนอนกับนางเพียงครั้งเดียว และเลี้ยงดูนางเอาไว้ในจวนได้ร่วมสองปีแล้ว
สตรีน้อยนางนี้คือผู้ใดกัน!!นางบำเรอคนใหม่หรือ?
ทุกการกระทำของหลิงหลิงอยู่ในสายตาของจ้าวฝูหมิงทุกอย่าง เหจุใดเขาจะไม่ล่วงรู้ความคิดนางกัน เมื่อเห็นเช่นนั้นเขาจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
"นางเป็นอนุของข้า พวกเจ้ายังไม่ทำความเคารพนางอีก"
"เอ่อ อนุ?"
"ถามทำไม!!รีบทำความเคารพนางสิ!!"
หลิงหลิงและเหล่านางบำเรอทำความเคารพไป๋มู่หลันตาคำสั่งทันที แต่ทว่าหลิงหลิงยังไม่ยอมหยุดเอ่ยถามจ้าวฝูหมิงอีกครรั้ง
"นางจะมาเป็นนายหญิงของพวกเราหรือเพคะ"
"เป็นอนุ!!นายหญิงอะไรกัน ในจวนอ๋องแห่งนี้ข้าคนเดียวที่เป็นนาย!!!"