8

1249 คำ
ก็ค่อยเดินหน้าซีดไปตรงที่เขากอดอกยืนรออยู่ แม่ของเธอรับเงินมาจริง ๆ ด้วย ก่อนวางสายท่านยังกำชับอีกว่ารีบมีลูกชายให้เขาไวๆ จุติถามปนมาด้วยรอยยิ้มยียวน “ว่ายังไงบ้างคุณ” อรนลินอึ้ง ตอบเขาไม่ถูก “ฉัน...เอ่อ” “พูดไม่ออกเลยหรือ” จุติส่งเสียง ‘หึ’ คั่นกลาง แล้วยื่นข้อเสนอ “เอางี้ เดี๋ยวจะหาว่าผมใจร้าย ผมให้เวลาคุณเตรียมตัวสามวัน” เขาบอกแล้วชูนิ้วขึ้นมาประกอบคำพูด ไม่ได้ดูใจดีขึ้นมาเลยสักนิดในสายตาเธอ “หลังจากนั้นคงรู้หน้าที่ของตัวเองดีนะ อย่าให้ต้องพูดมาก เข้าใจ๊?” ได้ยินข้อเสนอของเขาแล้ว อรนลินก็ได้แต่ถลึงตาใส่ พูดรอดไรฟัน “ช่างมีเมตตาเหลือเกินนะคะคุณจุติ” “แน่นอนอยู่แล้วครับ” เขาบอก พร้อมกับลดมือลงกางออกไปด้านข้าง อีกข้างหนึ่งแตะตรงหน้าท้องของเขาแล้วค้อมศีรษะรับคำ ก่อนจะเดินผิวปากเข้าบ้านไป อรนลินได้แต่ยืนมองแล้วตัดพ้อมารดาอยู่ในใจว่าทำไมถึงทำกับเธอแบบนี้ อรนลินเดินตามสาวใช้ร่างเล็กที่มีรูปร่างคล้ายคลึงเธอไม่น้อย รู้ชื่อจากการคุยกันสั้น ๆ ว่าอีกฝ่ายชื่อ ‘นิด’ นิดพาเธอไปยังห้องพัก เก็บของแล้ว ก็ตั้งใจจะเดินลงไปสำรวจรอบบ้านต่อจากนั้น พอเก็บของเสร็จ เธอเปิดประตูออกมาก็เจอกับหญิงสาวร่างท้วม ใบหน้าอวบอิ่ม ที่มีความนิ่งเรียบ ราวกับคนไร้อารมณ์ตรงหน้าประตูห้องพักของตัวเอง หญิงสาวคนนี้เธอเคยพบมาแล้วที่งานแต่งของตนเองกับจุติ ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็นพี่จิลลา พี่สาวคนโตของเขา จิลลาเป็นผู้หญิงหน้าตาสวย ดูคล้ายจุติแค่ตากับปาก แต่นิ่งมาก ใบหน้าขรึมไม่ค่อยยิ้ม “สวัสดีค่ะพี่จิลลา” อรนลินจึงยกมือไหว้ทักทายอีกฝ่ายก่อน นึกแปลกใจที่เห็นพี่สาวคนโตของจุติที่นี่ด้วย จิลลาเพียงพยักหน้ารับเบา ๆ เท่านั้น ไม่พูดจาโต้ตอบว่าอะไร ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้สาวใช้ที่ชื่อนิด เด็กสาวคนนั้นก้มหน้ารับคำแล้วจึงหันหลังเดินจาก เมื่อคล้อยหลังคนอื่น จนเหลือกันแค่สองคน พี่สาวของจุติถึงได้พูดขึ้นว่า “พี่มาที่นี่เพื่อช่วยดูแลติและเธอ คงรู้เรื่องที่ผู้ใหญ่คุยกันแล้วใช่ไหม” “ระ...เรื่องไหนคะ” อรนลินออกร้อนใบหน้าอีกครั้ง เมื่อพอจะเดาได้ว่าเรื่องใด ไม่วายแกล้งซื่อใส่พี่สาวของจุติ “เธอต้องตั้งท้องลูกชายให้นายติ พี่จะดูแลพวกเธอเรื่องอาหารการกิน รวมไปถึงเรื่องอื่น ๆ จนกว่าเธอจะตั้งท้อง แล้วจะช่วยดูแลต่อจนกว่าจะคลอด” นี่เธอเป็นคนหรือวัวกันแน่เนี่ย อรนลินครางตัดพ้ออยู่ในใจ “ตอนนี้พักผ่อนให้สบายใจก่อน ไม่ต้องกังวล ไม่มีอะไรต้องเครียด” จิลลาบอกแล้วเดินจากไปในนาทีถัดมา คงสบายใจได้อยู่หรอกนะ มาพูดกันถึงขนาดนี้น่ะ อรนลินคิดอย่างพาล ๆ ในหัว ถอนลมหายใจออกอย่างเซ็ง ๆ แล้วปลอบโยนตัวเองว่าไม่น่าใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก ก็แค่มีลูกชายให้พวกเขา...เท่านั้นเอง แล้วก็ทำหน้าจะร้องไห้ มีลูกชายนะอรนลิน มีลูกชาย พึมพำเบา ๆ แล้วยกมือลูบอกปลอบใจตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะเดินเลยออกไปสำรวจที่นอกบ้านเสียหน่อย หลังจากปล่อยวางได้บ้างแล้ว เรื่องที่ต้องตั้งท้องลูกชายให้ได้ ที่นี่ปลูกดอกไม้เอาไว้เยอะดี แต่เหมือนไม่มีคนดูแล เธอเห็นกลีบไม้ดอกไม้ประดับร่วงเกลื่อนอยู่ไม่น้อย จึงหยิบมันขึ้นมาดู สวยทั้งนั้นเลย แล้วจึงเลือกเก็บที่ยังสมบูรณ์แบบมาเต็มสองมือ เอาเข้าไปไว้ในห้อง ก่อนจะรื้อกระเป๋าออกดู ก็พบว่ามีของที่เธอต้องการอยู่พอดิบพอดี “ทำเลยก็แล้วกัน” กระดาษวาดเขียนถูกหยิบออกมาพร้อมปากกาและสี อรนลินลงมือวาดภาพธรรมชาติและใช้วัสดุที่เก็บติดมือมาด้วย แต่งเติมเสริมลงไปบนนั้นจนเรียบร้อยในเวลาต่อ ก่อนจะถ่ายภาพโพสต์ลงโซเชียล ไม่ลืมติดแฮชแท็ก ชื่อที่ใช้เรียกงานของตัวเองลงไปด้วย “สวยจังเลย” “บ่นอะไรข้าวฟ่าง” “เพื่อนฟ่างค่ะพี่วิม ทำเองเลยนะ สวยไหม” ข้าวฟ่างหงายหน้าจอสมาร์ทโฟนให้พี่ชายของตนเองได้ดู รูปของงานศิลปะ ไม่ได้ถูกตาต้องใจวาคิมนัก หากแต่เป็นหญิงสาวที่ทำหน้าตาทะเล้นคู่กับผลงานของเธอนั่นมากกว่าที่ถูกใจเขา “สวย ชื่ออะไรน่ะฟ่าง” “พี่วิมน่ะ” ข้าวฟ่างร้องบอกอย่างเอือม ๆ “คนนี้ไม่ได้ค่ะ” “อ้าว ทำไมไม่ได้ล่ะ” “ก็หนูดีแต่งงานแล้วนี่คะ แต่งกับพี่ติไง พี่วิมไม่ได้ไปงานสิเนอะ เลยไม่รู้ มัวแต่พาสาวไปทัวร์เสียจิ้นก็งี้แหละ” “เฮ้ย พูดจาให้ดี ๆ นะฟ่าง พี่ไปสัมมนา ไม่ได้พาสาวที่ไหนไปทัวร์บ้าบออะไรนั่นสักหน่อย” แล้วพึมพำเบา ๆ “น่าเสียดายจัง สวยน่ารักมากเลย นี่เมียพี่ติจริง ๆ หรือ พี่ติเป็นไทป์สาว ๆ แล้วเงี้ย” วาคิมบ่นด้วยความเสียดายจริง ๆ พร้อมทั้งคิดในใจว่าน่าจะหาโอกาสไปเยี่ยมญาติผู้พี่อย่างจุติดูบ้างแล้ว ไม่ทันได้ฟังต่อว่าน้องสาวพร่ำพรรนาอวยเพื่อนสนิทว่าอะไรบ้าง ต่อให้ไม่เยินยอ ต่อมความอยากได้ของวาคิมก็พลุ่งพล่าน จนอยากไปดูหน้าดูตัวเป็น ๆ ของหญิงสาวเสียเดี๋ยวนี้ให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปเลย จุติเปิดประตูลงรถมาด้วยความเหนื่อยล้า เพราะต้องทำงานหลังจากเพิ่งมาถึง ราวกับคนงานลาออกหมดฟาร์มเลี้ยง เพื่อใช้พลังงานที่มีให้มันหมด ๆ ไป คืนนี้เขาจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน งุ่นง่านจนปล้ำใครบางคนเข้าเสียก่อน สามวันที่บอกว่าจะให้เวลาแม่นั่นเตรียมตัวเตรียมใจทำลูก แต่ทำไมมันรู้สึกว่ายาวนานเหมือนสามปีเลยวะ คนอย่างเขา เคยรออะไรแบบนี้ด้วยหรือ นี่เขาแต่งงานแล้วนะเว้ย! ก็แค่อยากให้งานที่พ่อสั่งมันจบ ๆ ไป ไม่ได้นึกพิศวาสอะไรหรอก แต่แม่นั่นตัวหอม ผิวก็นุ่มมาก ใสเหมือนผิวเด็กเลยนะ ก็แค่ตัวหอม ผิวดีแล้วอย่างไร น่าพิศวาสตรงไหนกัน กลิ่นหอม ๆ หวาน ๆ คล้ายกลิ่นขนมผสมกลิ่นดอกไม้เลยล่ะ ก็แล้วทำไม มันน่าพิศวาสสักแค่ไหนเชียววะ แถมเสียงครวญครางของแม่นั่นก็ยังวนเวียนติดอยู่ในหูอยู่เลย นึกมาถึงตรงนี้ จุติก็ขนลุกพรึบ ไม่ใช่แค่ขนที่มันลุกชัน อย่างอื่นของเขาก็ด้วย เอาเถอะ แค่สามวัน เขาจะรีบปั๊มลูกให้ติดไว ๆ แค่นี้ก็เรียบร้อย แต่สามวันเชียวหรือวะ จุติทะเลาะกับตัวเอง แลวก็คอตกลงอีกครั้ง เมื่อนึกถึงคำว่า ‘สามวัน’ ‘สามวัน! อีกสามวัน! อีกแค่สามวันเท่านั้น!’
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม