EP. 9 เด็กมีปัญหา

1522 คำ
“ได้ข่าวว่าไปรับงานแล้ว ค่าตัวหมื่นหนึ่งยืนถ่ายจนขาเดี้ยงไม่สมกับเป็นเธอเลยนะ” คีย์ตะวันปรายหางตาไปมองคนเดินเข้ามาในห้องแต่งตัวพร้อมกันกับเธอ ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงรีบปรี่เข้าไปปรนนิบัติเขาแทบจะทันที วาจายกยอปอปั้นไม่เคยขาดแต่ตอนนี้เธอเหมือนคนน้ำท่วมปากมากกว่า กลิ่นน้ำหอมที่ไม่ใช่ของเธอลอยตลบอบอวลไปทั่วห้อง “ก็บอกว่าจะเริ่มทำงานไงคะ” ปลดนาฬิกาเรือนหรูในข้อมือนำมันไปเก็บไว้ในลิ้นชัก ตามด้วยต่างหูราคาแพง “ไม่สมกับเป็นคุณหนูคีย์ตะวันเลยนะ” เขาเดินเข้าไปใกล้แต่กลับต้องขมวดคิ้วเมื่อคีย์ตะวันก้าวถอยหลังราวกับไม่อยากอยู่ใกล้เขา “ทำไม?” “กลิ่นชู้ติดตัวขนาดนี้อย่ามาใกล้กันเลยดีกว่าค่ะ” “อังไม่ใช่ชู้” “งั้นคงเป็นคีย์กระมังคะ” “อังมาก่อนเธอนะ” ‘ไม่ใช่ เธอต่างหากที่มาก่อน’ แม้จะอยากพูดประโยคนี้ออกไปแต่เชื่อเถอะว่าเขาคงไม่เชื่อและคิดว่าเธอแค่หาเรื่องมาแถให้ตัวเองชนะเท่านั้น แปลกที่ใจตัวเองสงบมันผิดปกติมาก อย่าว่าแต่อุ้มกันขึ้นมาจากสระเลยแค่เข้าไปใกล้เธอก็พร้อมกลายร่างเป็นนางยักษ์แล้ว แต่ครั้งนี้ยังควบคุมตัวเองได้เพราะในสมองมีแต่ความสับสน “เลิกเถอะ ไอ้ความคิดที่จะลองปล่อยเพื่อจับน่ะ ถ้าจะปล่อยก็ปล่อยฉันจะขอบคุณเธอมากด้วยซ้ำ” “แต่งงานกันมาสองปีเคยเป็นสามีที่ดีสักวันไหมคะ?” ไม่รู้อะไรดลใจให้เธอถามออกไปแบบนั้น เมื่อเห็นเขานิ่งเธอจึงเลือกที่จะเดินผ่านไปเลย ไต้คุณมองตามหลังของคีย์ตะวันไปจนลับสายตา ไม่โวยวาย ไม่พังข้าวของ ไม่ตามไปอาละวาดอังสุมา คนที่เขาคุยด้วยเมื่อกี้คือคีย์ตะวันแน่ใช่ไหม? สายน้ำเย็น ๆ ไหลลงมาชโลมใบหน้าสวย เปลือกตาหนาหลับตาพริ้มเงยหน้ารับสายน้ำจากฝักบัว มีแต่สายน้ำที่ไหลลงมานี่แหละปกปิดร่องรอยน้ำตาของเธอได้ ใครว่าเธอไม่เสียใจกำลังความรู้สึกร้าวหัวใจแหลกสลายจนตัวสั่นไปหมดแล้วต่างหาก เขาไม่ปฏิเสธว่าเมื่อคืนไปดูแลอังสุมาทั้งที่เธอนอนอยู่โรงพยาบาลคนเดียว ยกมือขึ้นมาลูบใบหน้าตัวเองแรง ๆ เธอกำลังทำอะไรอยู่ที่ไหนกันแน่ ตำแหน่งภรรยาที่ตัวเองภูมิใจนักหนามีเพียงบอดี้การ์ดกับคนใช้ในบ้านของเขาที่รู้ มันน่าภูมิใจแล้วใช่ไหมคีย์ตะวัน! ภรรยาของนายน้อยตระกูลดังบ้าบออะไร! “อังมีอะไรหรือเปล่า ครับผมจะรีบไป” สองสายตาเผลอประสานกันอย่างไม่ได้นัดหมายอีกคนออกมาจากห้องน้ำส่วนอีกคนกำลังจะก้าวออกไปจากห้องแต่งตัวหลังจากได้รับสายอังสุมา “ไม่ไปได้ไหมคะ” เขาเพียงแค่ปรายหางตามองก่อนจะตวัดลำขาแกร่งเดินออกไปจากห้องไม่เพียงแต่ไม่ตอบแม้แต่หันกลับมามองเขายังไม่ทำ ใช่ เธอเป็นนางร้ายในสายตาไต้คุณ ไม่สิ ต้องเรียกว่าเป็นนางร้ายในสายตาของทุกคนไปแล้ว ย้อนกลับไปคิดทุกคนเกลียดเธอก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เรียกได้ว่าเธอเป็นบ้าสติหลุดทุกครั้งที่เห็นไต้คุณไปยุ่งกับผู้หญิงคนอื่น แต่งงานมาสองปีเขาไม่เคยมีเธอแค่คนเดียว แต่เรื่องบนเตียงเธอก็ไม่มั่นใจเหมือนกันเพราะไต้คุณเปลี่ยนผู้หญิงควงออกงานเป็นว่าเล่น มันไม่ได้แปลกในสายตาของบุคคลภายนอกเพราะเขายังเป็นทายาทตระกูลดังที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับรูปปั้นในเทพนิยาย และที่สำคัญเขาไม่ให้คนภายนอกรู้ว่าเขาแต่งงานแล้ว เธอเหนื่อยเหลือเกิน เหนื่อยกับชีวิตของตัวเองในตอนนี้ ไม่มีใครให้หันหน้าไปพึ่งพิงได้เลยแม้แต่พ่อตัวเอง ขนาดโทรไปหวังจะได้รับคำปลอบใจกลับได้ยินแต่เรื่องเงินที่พรั่งพรูออกมาไม่ขาดสาย ทั้งที่ธุรกิจฟื้นฟูกลับมาได้แต่พ่อเธอดันไปรู้จักการลงทุนในรูปแบบการพนัน ค่อย ๆ ไถลตัวลงมาเรื่อย ๆ จนนั่งแหมะอยู่กับพื้น น้ำตาแห่งความน้อยเนื้อต่ำใจและสับสนในชีวิตพรั่งพรูออกมา เธอยังต้องอยู่ในบ้านที่ไม่มีใครต้อนรับเธอเลยแม้แต่สามีแบบนี้ต่อไปอย่างงั้นเหรอ มือบางเลื่อนมากุมตำแหน่งหัวเข่าไว้ตอนนี้ถึงแผลจะหายเจ็บแต่เหมือนมันจะฝังใจมากกว่า ในตอนที่เธอกำลังเกือบตายเขาเลือกที่จะตัดสายเธอทิ้งอย่างไม่ไยดี เธอไม่สามารถลบภาพนั้นออกจากสมองได้เลย รักเหรอ? เงินเหรอ? ทำไมมันไม่เคยมีความสุขเลยสักวันล่ะคีย์ตะวัน เธอกำลังคาดหวังกับคำสัญญาที่คนเอ่ยปากยังจำไม่ได้งั้นเหรอ เพล้ง! ใบหน้าโกรธขึงตวัดสายตาไปมองลูกสาวของตัวเอง หอบหายใจอย่างหนักหน่วงกับเรื่องที่ได้ยินจากปากคีย์ตะวัน คุณไพโรจน์ยกมือขึ้นมาชี้หน้าลูกสาวตัวเองหลังจากได้กวาดข้าวของบนโต๊ะทำงานของตัวเองทิ้งหมดเพราะเรื่องราวที่พึ่งได้ยิน “แกบอกว่าจะหย่ากับสามีงั้นเหรอ?” “ค่ะ” คีย์ตะวันตอบออกมาเสียงเรียบ “ประสาทกลับหรือไง คิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาลเหมือนเดิมสินะ อยากได้อะไรก็ต้องได้ ผิดใจกันนิดหน่อยก็มาบอกจะหย่าตอนไหนแกจะโตฮะ คีย์ตะวัน!” “ครั้งนี้คีย์จริงจังค่ะ แค่มาบอกให้ทราบไว้เฉย ๆ” “แกหย่าไม่ได้!!” “ทำไมคะ?” “ไม่รู้แหละ รู้แค่ว่าแกหย่ากับไต้คุณไม่ได้เด็ดขาด!” “พ่อ” คีย์ตะวันขมวดคิ้วมุ่น “ตอนแต่งฉันก็เอ่ยปากห้ามแกไปแล้ว แต่แกเคยฟังใครที่ไหนขนาดฉันจะไม่ยกสินสมรสทางฝั่งเจ้าสาวให้แกยังยืนยันที่จะแต่งออกไปให้ได้ ห้ามหย่าไว้หน้าฉันบ้าง” ใช่สินะ เธอชอบเขาขนาดแม้แต่สินสมรสทางครอบครัวตัวเองยังบอกปัดไม่เอาอะไรสักอย่าง เหมือนคนโง่งมงายเพราะรักเขาข้างเดียว เแบบนั้นไงเธอเลยเลือกที่จะออกมาใช้ชีวิตตัวเองได้แล้ว “คีย์แค่มาบอกให้พ่อทราบ” “ถ้าแกหย่าฉันตายแน่!” “ทำไม? นี่พ่ออย่าบอกนะ” “คีย์มีให้พ่อไหมสักร้อยล้าน” “พ่อนั่นมันร้อยล้านไม่ใช่ร้อยบาทนะ!” “ครอบครัวสามีแกร่ำรวยขนาดไหนใครจะไม่รู้บ้าง เงินแค่ร้อยล้านขี้ปะติ๋วมาก อีกอย่างสามีแกเป็นทายาทเศรษฐีรุ่น ๕ เลยนะคีย์!” “พ่อเล่นพนันจนติดหนี้เหรอ!” “ไม่ ๆ พ่อแค่อยากยืมมาลงทุน” “แน่ใจนะ?” หรี่สายตามองอย่างจับพิรุธ ไม่ใช่แค่ครั้งนี้แต่พ่อเธอเคยสร้างสถานการณ์นัดเธอกับไต้คุณมาทานข้าวตบท้ายด้วยเรื่องเงินตลอด และไม่รู้ว่าทำไมไต้คุณถึงเลือกที่จะให้ แบบนั้นพ่อเธอยิ่งได้ใจใหญ่ “แน่สิ บอกสามีแกว่าพ่อเห็นแหล่งสมบัติอยากลงทุนกับเพื่อน” “ไม่ได้หรอกค่ะ คีย์ก็บอกอยู่ว่าจะหย่ากับเขา” “คีย์!” “พ่ออย่ามามองด้วยสายตาแบบนี้ได้ไหมคะ” “ถ้าแกไม่ไปพูดให้ ฉันไปบอกเองก็ได้” “พ่อเลิกทำตัวน่าอายแบบนี้สักที เที่ยวแต่ไปขอเงินคนอื่นเขา เหมือนคนไม่มีการมีงานทำทั้งที่ตัวเองบอกว่าเอาเงินไปลงทุนแต่ไหนกำไรล่ะพ่อ ลงทุนแล้วถมมันไปมิดเลยหรือไง” เพียะ! ใบหน้างามสะบัดไปตามแรงทันทีที่พูดจบ ไพไรจน์ยกมือขึ้นชี้หน้าลูกสาวตัวสั่นงก ๆ เขารู้ตัวเองดีไม่ต้องให้ใครมาสั่งสอนหรอก “จำไว้ ฉันเป็นพ่อแกเป็นคนที่เลี้ยงดูแกมา การที่พ่อตาหยิบยืมลูกเขยนิด ๆ หน่อย ๆ ทำไมจะไม่ได้” “พ่อทำแบบนี้เพราะฉันไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของพ่อใช่ไหมคะ?” “แกพูดอะไร” ไพโรจน์ตาเหลือกไม่คิดว่าคีย์ตะวันจะพูดแบบนี้ออกมา “ถ้าฉันเป็นลูกแท้ ๆ พ่อควรถามอย่างอื่นนอกจากเรื่องเงินกับฉันบ้าง แต่ไม่เลยในสายตาพ่อเหมือนใช้ฉันเป็นสะพานเชื่อมไปหาเงินของพ่อเท่านั้น” “แกจะคิดยังไงก็แล้วแต่” “พ่อจะไม่มีวันได้เงินผ่านคีย์อีกแล้วค่ะ” “ก็ลองดู ฉันจะป่าวประกาศให้ทุกคนรู้เลยว่าแกมันเนรคุณแค่ไหน” คีย์ตะวันมองคนที่ตัวเองเรียกว่าพ่อตั้งแต่จำความได้ด้วยสายตาเย็นยะเยือก นอกจากพ่อจะไม่ถามว่าทานอะไรมาหรือยังพ่อก็ยังไม่เคยถามว่าตอนนี้เธอใช้ชีวิตเป็นยังไงบ้าง สบายดีหรือเปล่า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม