ที่เคยคิดไว้ว่าเหมือนจะคุ้นหน้าสาวในรูปอิทธิพลนึกออกแล้ว เขาเคยเจอกับผู้หญิงคนนี้ครั้งหนึ่งในร้านอาหาร หล่อนนั่งในโซนวีไอพีกับเจ้าของธุรกิจค้าปลีก นานมาแล้วแหละร่วมห้าเดือนเห็นจะได้ ทว่าเขากลับยังจำได้แม่นยำ
พนักงานที่อยู่ด้านนอกวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามารายงาน รีบร้อนจนลืมเคาะประตู ทว่าไม่ทันไรประตูก็ถูกผลักเข้ามาตามด้วยกายกำยำของ เขตแดน
“คุณอิฐขา คุณอิฐ คุณเขตมาขอพบค่ะ!”
“ไอ้อิฐ!” ชายฉกรรจ์อายุน้อยกว่าที่ทำอาชีพเดียวกันคือมีสวนยางพาราขนาดเล็กกว่าเขาถึงหนึ่งเท่า ทั้งสองเป็นไม้เบื่อไม้เมากันนาน อิทธิพลเองก็ไม่ค่อยกินเส้นกับใครอยู่แล้ว ใครแรงมาเขาแรงตอบ ใครร้ายมาเขาไม่พูดอะไรหรอกแต่ซัดหมัดไปกระแทกปากมันทันที มีเรื่องชกต่อยเข้าโรงพักก็บ่อย ตำรวจเห็นหน้าทีไรก็เข้าใจลงบันทึกประจำวันเงียบๆ ปรับเงินไปตามธรรมเนียม
ระบบข้าราชการตำรวจทหารของที่นี่ ค่อนข้างเอื้ออำนวยให้คนตระกูลเขาเพราะเส้นใหญ่มาก คนดังระดับหัวหน้าก็มาจากครอบครัวเขากันทั้งนั้น
อิทธิพลเคลียร์เอกสารลูกหนี้บนโต๊ะเก็บลงใส่ลิ้นชักอย่างใจเย็น ก่อนจะปรายสายตาไปไล่พนักงาน โดยไม่ต้องพูดอะไรพี่แจ่มขานรับแล้วรีบออกไปทันที ส่งสัญญาณเรียกน้องๆ ในสำนักงานมาเกาะติดสถานการณ์หน้าประตู ไล่เกาะเรียงระดับขึ้นไปข้างบนยิ่งกว่าตุ๊กแกเกาะติดผนังบ้าน เผื่อมีเรื่องชกต่อยเกิดขึ้นจะได้เข้าไปห้ามได้ทัน
“สวัสดีครับคุณเขต ไม่ทราบว่าเสร่อมาทำอะไรถึงที่นี่”
เพิ่งคุยกับพี่ต๊ะเมื่อกี้ ไม่อยากเชื่อเลยว่าไอ้หมอนี่จะมาเร็วขนาดนี้ ซื้อหวยทำไมไม่ถูกแบบนี้นะ ไม่งั้นคงรวยเละไปแล้ว
“มึงทำแบบนี้มันหยามหน้ากันชัดๆ มึงกล้าดียังไงมาตัดราคาชิงซื้อที่ดินก่อนกู!” เขตแดนด่าเสียงดัง โกรธแค้นมากกำหมัดทุบลงบนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ จ้องมองชายที่อายุมากกว่าร่วมห้าปีด้วยความเกลียดชังน้ำหน้า
“ไม่ทราบว่าที่ดินแปลงไหนเหรอ ใจเย็นๆ ก่อนนะ เดี๋ยวจะหน้าแตกหมอไม่รับเย็บเพราะมีตีน เอ๊ย เท้าของฉันเหยียบไว้” ยิ้มเย็นชา นั่งอารมณ์ดีบนเก้าอี้นวมตัวใหญ่ทอดสายตามองหน้าเจ้าของสวนยางพาราที่เป็นคู่แข่งกัน
“ถ้าเป็นครั้งแรกกูอาจจะพอทำบุญทำทานให้ได้ แต่มันชักจะมากเกินไปแล้ว! มึงตัดหน้าซื้อที่ดินไปสามครั้ง รวมกันเกือบร้อยห้าสิบไร่ ซื้อไปทำซากห่าอะไรไม่ติดสวนยางพาราของมึงเลยสักแปลง!”
แต่ที่ดินพวกนั้นกลับอยู่โซนทางด้านของเขาดังนั้นเขตแดนจึงค่อนข้างโมโหเมื่อรู้ข่าว ยอมปฏิเสธคำขอร้องจากมารดาที่บอกให้ใจเย็นๆ แล้วขับรถผ่านด่านตรวจเข้ามาถึงในสำนักงาน ตั้งใจจะมาต่อยมันสักหมัดสองหมัด ให้สาสมกับความเกลียดที่สะสมอยู่ในใจ
“อ๋อ มาเพื่อจะงอแงนี่เอง ไม่มีปัญญาสู้ราคาก็เลยมาดราม่าใส่”
พยักหน้ารับทำสีหน้าเหมือนเข้าอกเข้าใจเหลือเกิน แต่ทว่าเขตแดนสามารถมองออกว่านั่นก็แค่ความตอแหลเท่านั้น จึงโกรธจัดมากกว่าเดิม
“มึงมันก็แค่เด็กเอาแต่ใจเอาแต่ได้ กลัวคนอื่นได้ดีมากกว่าตัวเอง ระวังตัวไว้เถอะ! ทำตัวให้คนเกลียดชังขี้หน้ามากๆ สักวันมึงจะกลายเป็นศพ! นอนอืด นอนตายเป็นผีเฝ้าสวนยางของมึง!”
เขตแดนตวาดลั่นด้วยโทสะล้วนๆ ทว่าจู่ๆ ประตูกลับถูกผลักเข้ามาตามด้วยร่างกายสวยงามของสตรีคนหนึ่ง สองหนุ่มหันกลับไปมองพร้อมกันต่างแปลกใจว่าทำไมคุณนายถึงมาที่นี่
คุณนายรัศมีมารดาของอิทธิพลส่งยิ้มเยือกเย็นไปให้ชายหนุ่มรุ่นลูก ชูโทรศัพท์ขึ้นและกดเปิดเสียงบันทึกให้ฟัง ส่งผลให้เขตแดนหน้าถอดสี ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะเข้ามาทันได้ยิน และมีสติกดบันทึกเสียงไว้
“ถ้าลูกชายฉันเจ็บแม้แต่ปลายก้อย หลักฐานชิ้นนี้จะถูกส่งต่อให้ตำรวจทันที” เอ่ยแล้วท่านก็ยิ้มอีกครั้ง เมื่อเถียงอะไรไม่ได้เขตแดนจึงหันเร็วกลับไปจ้องหน้าอิทธิพลอีกครั้ง มันยกไหล่ขึ้นเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ น่าเจ็บใจนัก!
เขตแดนฮึดฮัดขัดใจยอมล่าถอยออกไปจากสำนักงาน พนักงานของมันยืนออกันเต็มหน้าประตูทว่าต่างก็รีบก้มหน้าก้มตาหลบ
ทำไมคนตระกูลนี้มันถึงได้ฉลาดแกมโกงตั้งแต่รุ่นพ่อแม่มายันรุ่นลูกนักวะ เขตแดนโมโห เดินหัวเสียกลับไปขึ้นรถและขับออกไปด้วยความเร็วสูง ฝุ่นหน้าสำนักงานลอยฟุ้งเต็มไปหมด
“เซอร์ไพร์สจังเลยนะครับ นึกว่าแม่จะไม่มาด้วยตัวเองซะอีก” ปกติท่านจะให้คนขับรถมารับหลานกลับบ้านในตัวจังหวัดเท่านั้นไม่ค่อยมาด้วยตัวเอง แต่วันนี้มาแปลกแถมมาได้ตรงเวลาพอดีซะด้วย เป๊ะเวอร์
“ถ้าไม่มาด้วยตัวเองจะรู้เหรอว่าลูกแอบไปซื้อที่ดินมาเพิ่มอีกแล้ว มิหนำซ้ำยังหาเรื่องกับตาเขต”
“มันอ่อนแอเองนี่นาช่วยไม่ได้ นั่งก่อนสิครับ”
“กี่ล้านล่ะคราวนี้”
“ก็ไม่มากหรอกครับ เกือบๆ ห้าสิบล้านได้”
“ช่างเถอะ แม่เชื่อว่าลูกบริหารงานให้มีผลกำไรงอกเงยได้ แม่ขับรถสวนทางกับตากริชเมื่อกี้”
“ใช่ครับ ผมใช้เจ้ากริชให้ไปทวงหนี้ชาวบ้าน ได้มาแสนกว่าๆ”
“ใช้หลานทวงหนี้? ลูกจะบ้าไปแล้วเหรอ ตากริชเพิ่งยี่สิบปลายเดือนที่แล้วเองนะ ไม่มีใครที่ไว้ใจได้ให้ใช้แล้วเหรอ” ไม่อยากจะเชื่อเลย ลูกคิดได้ยังไงเนี่ย คุณนายแม้อายุจะร่วงโรยไปเลขห้าแล้วทว่ายังสวย แต่งหน้า ทำผม แต่งกายด้วยชุดเรียบหรูมีระดับ ท่านดึงเก้าอี้ออกนั่งลงพลางมองหน้าลูกชาย
“ชีวิตคนเราไม่ต้องซีเรียสตลอดก็ได้ ขอแค่ผลลัพธ์ออกมาดีผมก็พอใจแล้ว” ยกไหล่ขึ้นชิลล์ๆ ไม่สนใจว่ามารดาจะคิดหรือจะต่อว่าตนเองยังไง
ชายหนุ่มดึงแฟ้มเอกสารบนโต๊ะมากวาดสายตาอ่านคร่าวๆ ยังไม่มีเวลาดูเพราะช่วงเช้าจนมาถึงตอนนี้เขาขลุกอยู่ในสวนตลอด ส่วนงานเอกสารจะเข้ามาดูเฉพาะช่วงบ่ายจนถึงเวลาเลิกงานเท่านั้น ชีวิตเขาไม่มีอะไร มีแต่งาน งาน งาน
“ผมนึกว่าจะให้คนขับรถมารับหลานซะอีก ไม่คิดว่าแม่จะมารับด้วยตัวเอง” เห็นว่าจะพาหลานไปเที่ยวอ่าวนาง กระบี่ ไปเยี่ยมคุณยายทวด
“ถามแปลก แม่ก็คิดถึงลูกเป็นนะอยู่ตั้งไกลกัน แถมเราไม่ได้เจอกันหลายสัปดาห์ อยากจะแวะมาดูหน้าลูกบ้างไม่ได้เหรอจ๊ะ” คุณนายยิ้มมุมปาก
“ไม่ได้ เพราะผมรู้ว่าแม่คงไม่มาด้วยเหตุผลแค่นี้แน่ๆ” หัวเราะแบบยิ้มๆ ดึงลิ้นชักออกหยิบเอกสารลูกหนี้มาอ่านร่วมด้วยจะได้ไม่เป็นการเสียเวลา
“ก็จริงของลูก” ท่านยอมรับง่ายๆ รอกระทั่งลูกชายตวัดสายตามามองจึงพูดต่อ “แม่จะมารับหลานไปอยู่ด้วยหลายวัน โรงเรียนเจ้าคุณปิดถึงวันอังคาร วันพุธตอนเช้าแม่จะให้คนขับรถมาส่งเข้าเรียนเลย เพราะฉะนั้นแม่ถึงต้องมาเตือนอิฐด้วยตัวเอง ว่า… ห้าม! พาผู้หญิงมามั่วที่บ้านเด็ดขาด จะมีก็ไปมีนอกบ้าน แล้วก็อย่าหละหลวมเรื่องป้องกัน แม่เบื่อจะฟังเวลาได้ยินชาวบ้านนินทาลูก”
“ก็เรื่องของพวกเขา ผมไม่สนใจขี้ปากใครหรอก”