ช่องทางชำแรกผ่านเข้าไม่ง่ายเลย มากอยาหัวเสียเพราะที่ผ่านมาเรื่องเซ็กส์กับเขาไม่ใช่เรื่องยากลำบากแสนเข็ญขนาดนี้ เพราะโดยส่วนใหญ่พวกอีสาวชาวบ้านทั้งหลายที่มากอยาเคยร่วมหลับนอนด้วย ล้วนเคยผ่านการมีผัวมาแล้วแทบทั้งนั้น ร่องหลืบเลยเข้าออกโดยสะดวกโยธา ไม่มีมาติดขัดอย่างเช่นอีสาวบ้านราหูนี้เลยสักคน...
จะว่าไป...ที่แล้วมาพอไฟเริ่มติดปุ๊บมากอยาก็พร้อมบรรเลงเพลงกามเข้าห้ำหันใส่อีพวกนั้นได้ทันที ไม่มีหรอกต้องมาคอยหักห้ามอารมณ์ ถึงขั้นเส้นเลือดตรงขมับมากอยาเต้นตุบๆ...
ขุนโจรหนุ่มหรี่ตามองสาวงาม นึกเอ็ดเจ้าหล่อนในใจ เป็นผู้รากมากดีเสียจริงอีนี่...
ใบหน้ามอมแมมเปื้อนด้วยน้ำตาส่ายสะบัด สีหน้าบ่งบอกให้รู้เจ้าตัวคงเจ็บมากไม่น้อย นิ้วมือทั้งสองข้างจิกเกร็ง ยึดลำแขนเขาจนปลายนิ้วจมหาย กลีบปากอิ่มแดงห่อตัวสกัดกั้น
มากอยาก้มกระซิบสั่งเสียงเครียด...
“แหวกขาออกกว้างๆ เอ็งจะได้ไม่เจ็บมากกว่านี้” คำหวานอยากจะแหวเขากลับเหลือเกิน ถ้าไม่อยากให้เจ็บก็เอามันออกไปจากตัวเธอสักทีสิ มาปักค้างๆคาๆ มันเจ็บมากนะรู้ไหม...
น้ำตาเม็ดเล็กร่วงพรูลงมาอีกระลอก ตอนหัวหอกใหญ่ชำแรกลงลึกกว่าเดิมเล็กน้อย
“โอ๊ย!เจ็บ...” คำหวานคร่ำครวญอีก
“แล้วก็อย่าเกร็งตัวด้วย ปล่อยตัวตามสบาย...”
“ก็คนมันเจ็บนะไอ้บ้านี่...”
คนถูกด่าหางตากระตุก แต่ก็ยังอุตส่าห์ข่มใจไม่ทำรุนแรง ช้างเผือกตัวนี้ยังสดใหม่ มากอยาถอนหายใจหนัก ดันร่างหนาลุกขึ้นชันเข่า ถ่มน้ำลายลงกึ่งกลางกลีบฉ่ำ เพิ่มความไหลลื่นให้กลับกระบอกปืนอันยาวทั้งที่เอาเข้าจริงก็ไม่จำเป็นสักเท่าไรนักหรอก
เพราะว่าลำพังระหว่างน้ำรักของเขากับเจ้าหล่อน พอมันไหลเยิ้มหลอมรวมกัน น้ำไม่ท่วมป่าให้ก็บุญหัวแล้วละมั้งนั่น...
“ก็มันครั้งแรก แล้วเอ็งจะบ่นอะไรนักหนาวะ”
“เอ๊ะ!อย่ามาขึ้นเสียงกับฉันนะ”
“ก็เอ็งมันพูดไม่ฟัง เถียงข้าฉอดๆทุกคำนี่หว่า”
“ก็คนมันเจ็บ...”
“เออๆ ข้าจะทำให้เบามือที่สุดก็แล้วกัน...”
ขุนโจรหนุ่มผู้เหี้ยมโหดยอมลงให้ พยายามหักห้ามตัวเองไม่ให้กระทำรุนแรง ทั้งที่ความจริงมากอยาไม่เคยอ่อนโยนให้กับใครทั้งนั้น แต่กับอีสาวปากร้ายที่แสนเย่อหยิ่งจองหองคนนี้ เหตุใดมากอยาถึงต้องยอมถอยร่นให้ทุกกระบวนท่าด้วยก็ไม่รู้
มากอยายังไม่คิดหาคำตอบ เพราะกลัวจะขุดเจอความจริง...
และดูเหมือนความจริงที่ว่านั้นอาจทำให้คำหวานหัวเราะเยาะใส่หน้าเขาก็อาจเป็นได้...
มากอยาดันเรียวขาเพรียวแยกออกห่าง ดันจนเรียวขาขาวแนบเข้าหาลำตัว ส่วนตัวเขาคร่อมทับเล็งปลายอาวุธสอดลึกด้วยความยากลำบาก แคมสาวปริแยกตามจังหวะขยับ ตรงนั้นยังมีลำใหญ่เขาปักคาแช่ค้าง ลาวารักไหลเปื้อนสวนออกมาไม่ขาดสาย ระหว่างซอกขาเป็นสีแดงระเรื่อไหลผสมกับน้ำเมือกสีขาวขุ่น
อารมณ์ภูมิอกภูมิใจผุดขึ้นโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว เปลี่ยนแววตาแข็งกร้าวให้ดูอ่อนโยนลงอย่างนานๆครั้งจะเกิดขึ้นสักที หากนั่นก็เป็นเพียงแวบเดียวเท่านั้น มากอยาก็ทำทีเป็นไม่สนใจ
บริสุทธิ์แล้วยังไง ใช่ว่าเขาจะต้องยอมก้มหัวให้อีนี่มันสักหน่อย...
ขุนโจรทำหน้าบูด ความรู้สึกหลากหลายชวนตีกันให้วุ่นวาย ทีกับผู้หญิงอื่นเขายังไม่เห็นต้องมารู้สึกอะไรมากมายขนาดนี้สักที เสร็จสมอารมณ์หมายเขาก็แค่สะบัดก้นเดินจากมา
แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เขารู้สึกแสบแปลบแถวช่วงแขน พอก้มดูจึงรู้สาเหตุของความรู้สึกเจ็บนั่น...ที่แท้เป็นเพราะเล็บแหลมคมของอีผู้หญิงปากเสียมันกำลังครูดติดเนื้อเขาอยู่นี่เอง...
ลอยเล็บครูดเป็นทางยาว ฝีมือของอีสาวบ้านราหู ทำแสบไม่ใช่เล่น
แต่มากอยาก็ยอมทนเจ็บ ไม่ซัดกลับคนทำร้ายตัวเองซึ่งๆหน้า นี่ถ้าเกิดเขากำลังต่อสู้อยู่กับไอ้หมาขี้เรื้อนสักตัว...แล้วมันบังอาจมาทำให้เขาเลือดตกยางออก รับรองได้เรื่องหนึ่งเชียวแหละ...แม้แต่ศพมันก็จะไม่เหลือเอาไปทำพิธี...
ขุนโจรนิสัยโหดเหี้ยมกระซิบเสียงต่ำพร่า ริมฝีปากหยักหนาชิดติดอยู่ริมใบหูสวย “ข้าจะดันเข้าแล้วนะ” แววตาของทั้งคู่ดึงมาสบกัน ก่อนคำหวานจะหลบตาดุคมวูบ หัวใจเต้นระรัว “อืม...”
ลำดุ้นเท่าข้อมือสาวกดหนัก คำหวานสั่นสะท้าน ทั้งเจ็บจนต้องร้องโวยวายขึ้นมาอีกจนได้
“เจ็บ...เมื่อไรแกจะเลิกทำสักที... ฮือๆ ดันเข้ามาอยู่นั่น”
บั้นท้ายมากอยายังเกร็งค้าง หัวรบเขายังดันเข้าไปไม่ถึงครึ่งของทางขึ้นสวรรค์ แม่เจ้าประคุณก็เอาแต่กรีดร้องเสียงโวยวาย พร่ำพูดแต่คำว่า เจ็บ เจ็บ จนคนทำชักมีสีหน้ากังวล แต่จะให้ถอยหลังมากอยาก็ทำไม่ได้เช่นกัน ได้แต่บ่นอุบในใจ รู้งี้...เขากรอกยาสมุนไพรว่านรัญจวนให้อีนี่กินก่อนก็ดี
เพราะคงไม่ลำบากถึงเพียงนี้ กว่าจะได้เอามันหัวเขาจะปวดตาย
“ถ้าข้าเลิกทำก็โง่ตายนะสิโว้ย...”
มากอยาจุปากอย่างหัวเสีย เสียงร้องไห้ระงมราวกับเด็กเล็ก กระบาลเขาชักเริ่มจะปวดหนักขึ้นทุกที
เขาคงต้องตัดใจเร่งส่งตัวเองแตะปลายขอบสวรรค์สักยกเสียก่อน ถ้าผ่านครั้งแรกไปได้ ครั้งต่อๆไปคงถึงอารมณ์ได้ยิ่งกว่านี้ ...
ก่อนร่างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามจะแนบเข้าหาร่างแน่งน้อย สรีระของทั้งคู่ช่างดูแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว ขุนโจรหนุ่มเกร็งสะโพกหนั่นแน่นดันอาวุธคู่กายเข้าร่องสาวอีกครั้ง คราวนี้มันดันเข้าจนสุดปลายโคน
คำหวานกรีดร้องส่ายหน้าทุรนทุราย เธอปล่อยลำแขนเขาที่เห็นเป็นรอยเล็บข่วนเด่นชัด...แล้วเปลี่ยนออกแรงประเคนกำปั้นลงบนแผ่นหลังกว้าง เสียงดัง ผลัก ผลัก ผลัก ระบายอารมณ์เสียดเสียวพุ่งทะลักเข้ามาราวกับเขื่อนแตก
ถึงรู้ไอ้โจรชั่วมันคงไม่สะทกสะท้านกับแรงเท่ามด แต่คำหวานอยากให้มันรู้กันไปข้าง คำหวานจะไม่ทนเจ็บเพียงคนเดียวหรอกนะ...
แต่สุดท้ายคนที่เจ็บเจียนตายกลับเป็นคำหวานทั้งขึ้นทั้งล่อง รอยแยกบวมเป่งถูกอัดเข้าด้วยดุ้นแข็งโป๊กไม่ต่างจากสากกะเบืออันโต จังหวะตำหนักหน่วงคลับคล้ายว่าเขากำลังตะบันตำน้ำพริกอยู่สักครก เป็นเหตุให้ร่องเหลือบซอกซ้ำปลอกปลิ้นเจียนขาดใจ
เสียงโขลกน้ำพริกยังคงดังเป็นจังหวะกระชั้นถี่รัว
บลั่ก บลั่ก บลั่ก
“อือ...โอ๊ย…เจ็บ...เจ็บ”
“ทนเจ็บหน่อยสิวะ เอ็งยังใหม่ยังไงก็ต้องเจ็บเป็นของธรรมดา แต่เชื่อเถอะ พอไอ้จ้อนข้ามันผลุบเข้าผลุบออกในตัวเอ็งอีกไม่กี่ที ประเดี๋ยวเอ็งก็หายเจ็บไปเอง ต่อไปจะมีแต่ความสุขเข้ามาแทนที่น่ะสิไม่ว่า”
คนเจ็บไม่ตอบโต้ คำหวานทรมาน แต่ในส่วนลึกคำหวานกับเสียวซ่านแปลกๆ หนวดเคราเขาครูดผ่านดวงหน้ามอมแมมก่อนจะหยุดลงมอบจูบแสนหอมหวาน เนื้อนุ่มบดเบียดเข้าหากัน สร้างความปั่นป่วนรัญจวน
มากอยาเองก็สูดลมหายใจแรง เริ่มส่งมือไม้เคล้นคลึงสัมผัสผิวกายเรียบลื่นหนักหน่วงขึ้น ลำตัวโก่งสูงก่อนกระแทกอัดเข้าหากลีบสวาทเสียงดัง ตับ ตับ ตับ เริ่มเคลื่อนจังหวะสะโพกอย่างค่อยเป็นค่อยไป ก่อนจะทะยานเข้าใส่ราวกับลูกสูบชั้นเยี่ยม
ตับ ตับ ตับ ตับ
ลำนำสวาทสาดซัดโครมคราม พอไม่หลงเหลือความเจ็บปวดทรมาน สะโพกแกร่งจึงเพิ่มแรงกระแทกระรัวเข้าออกร่องสาวแบบสุดลำ พอคำหวานปรับลมหายใจได้ ร่างกายเกินควบคุม มันก็คอยแต่แอ่นหยัดป้อนให้เขาอย่างถึงพริกถึงขิง
คำหวานเสร็จสมไปไม่รู้กี่ครั้ง มากอยาทั้งอึดทั้งทนทานเขายังคงมุ่งมั่นตอกสะโพกชนิดแรงไม่มีตก เขาเปลี่ยนท่าดันร่างน้อยหันข้าง กดท่อนขาอ่อนให้แนบติดพื้นโดยที่ดุ้นฉ่ำเมือกยังคงผลุบเข้าผลุบออกไม่เว้นจังหวะ คำหวานเสียดเสียวเอี้ยวตัวขึ้นรับจูบจากผัวโจรหมาดๆ นมสองเต้าสั่นไหว มันถูกมือร้อนรวบไปขยำเคล้นคลึง
“โอ๊ะ...อุ...อุ...อุ...ซีด”
เรือนไม้ไหวโยกสะท้าน ไม้กระดานเกิดเสียงดัง เอี๊ยด อ๊าด อย่างไม่กลัวใครมาได้ยิน ไหนจะเสียงครวญครางราวกับสัตว์ป่าถูกเชือด ลากยาวมาหลายชั่วโมง
“อา...อา...อา...”
“ซีด...ซีด...อู้ว!”
ไอ้พวกสมุนโจรห้าร้อยทั้งหลายที่ตั้งวงดื่มสุรากันมาตั้งแต่ตะวันทอดลำแสงอ่อนจวบจวนกระทั่งดวงจันทร์ครึ่งเสี้ยวเคลื่อนย้ายขึ้นมาแทนที่...
ต่างพากันส่งเสียงหัวเราะคิกคัก หูคอยเงี่ยฟังเสียงกระเส่าที่ดังเล็ดลอดลงมาจากบนเรือนของผู้เป็นทั้งนายและหัวหน้า บางคนทนไม่ไหวถึงขั้นเผ่นแน่บกลับบ้านไปหาเมีย... ไปให้เมียคลายอาการคันยุบยิบต้องลำอวบ ส่วนไอ้พวกหนุ่มโสดไม่มีทางลง ทำได้เพียงนั่งมองตากันตาปริบๆกับคอยยกไหสุรากระดกลงคอกันอึกต่ออึก...
สงสัยพรุ่งนี้พวกมันที่เหลือคงต้องขออนุญาตนายเหนือหัว เดินทางเข้าหมู่บ้านราหูไปเที่ยวส่องของอีคำหร้ากันแล้วละมั้ง ไม่งั้นคงได้อึดอัดจนอกแตกตายเป็นแน่แท้...
**************************