ร่างโปร่งเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาล เดินผ่านเหล่าผู้คนตรงไปยังห้องน้ำที่อยู่ลึกเข้าไปที่ฝั่งด้านหลังโรงอาหาร อินทัชเปิดประตูหน้าห้องน้ำเข้าไปเจอห้องน้ำย่อยอีกหลายๆห้อง ก่อนที่จู่ๆพรมลิขิตจะบันดาลชักพาให้เขาได้เจอกับคนคุ้นหน้าคุ้นตาที่ช่วงนี้โผล่หน้ามาให้กันเห็นบ่อยเหลือเกิน
"บังเอิญเป็นบ้า"
อินทัชบ่นงึมงำกับตัวเองเมื่อเขาได้พบกับฉลาม พระเอกลูกรักตลอดกาลของนักเขียน รายนั้นเองก็มาทำธุระในห้องน้ำเช่นกัน ในตอนแรกที่ได้ยินเสียงเปิดประตูฉลามก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ว่าใครจะเข้าออกไปไหนมาไหนที่นี่ แต่เมื่อได้ยินเสียงแผ่วเบาดังเข้าหู ใบหน้าหล่อเหลาก็ถึงกับต้องหันมองทันที
หนุ่มผิวสีน้ำผึ้งเดินผ่านหลังร่างสูงไปจัดการทำธุระของตัวเองให้เรียบร้อย เวลาผ่านไปไม่ถึงนาทีอินทัชก็เก็บอาวุธลับเข้ากางเกงอย่างเดิมก่อนจะละตัวออกมา ทว่าเหมือนร่างสูงด้านข้างของเขาจะมีปัญหาไม่น้อย
ตั้งแต่เขาเดินเข้ามายันเสร็จธุระอีกคนก็ยังไม่ผละออกไปจากที่เดิมเลย ดวงตาสีปีกกาเหลือมองอีกคนครู่หนึ่งก่อนจะเห็นว่าเจ้าตัวมีปัญหากับซิบกางเกงที่รูดยังไงก็รูดไม่ขึ้น
อินทัชถึงกับเม้มปากตัวเองทันที ใจจริงก็อยากจะเป็นคนดีช่วยเพื่อนมนุษย์อยู่หรอก แต่จุดนั้นมันออกจะ...
แม้ใจจะอยากเดินออกไป แต่เมื่อเห็นสภาพเงอะงะของอีกคนแล้ว สมองยี่สิบเซลล์ของเขาจึงได้ทำการสั่งการให้ตัวเองทำอะไรสักอย่าง ไม่งั้นล่ะก็ เขาอาจจะโดนเหล่าแฟนๆของสุดหล่อตรงหน้ารุมกระทืบเอาก็ได้
ข้อหาใจไม้ใส้ระกำ ละเลยเพื่อนมนุษย์ที่ได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะมนุษย์คนนั้นคือพระเอก
"เห้อ..เดี๋ยวช่วย"
สุดท้ายอินทัชก็ทนความเป็นคนดีในใจไม่ไหวเสนอตัวเข้าช่วยจนได้ เขาไม่สามารถทนเห็นลูกรักพระเจ้าเดือดร้อนได้จริงๆ ความเป็นคนดีในใจพระรองคนนี้มันร่ำร้องไม่หยุด(จริงๆคือเขากลัวโดนสาป)
ใบหน้าหล่อเหลาหันมาทางต้นเสียงที่พูดอย่างฉงนใจทันที แต่ทว่าก่อนฉลามจะได้ทำอะไรไปมากกว่านี้ อินทัชก็ดึงตัวเขาเข้าไปในห้องน้ำก่อนซะแล้ว
"อยู่นิ่งๆล่ะ"
มือเรียวดันร่างขออีกคนขยับชิดชักโครก ดีหน่อยที่มหาลัยแห่งนี้ค่อนข้างทันสมัย ห้องน้ำสะอาดและกว้าง อินทัชจึงได้กล้าลากอีกคนเข้ามาในนี้
ส่วนถ้าถามว่าทำไมไม่จัดการอะไรๆให้เสร็จข้างนอก เขาขอบอกเลยว่า ท่าแก้ซิปกางเกงที่เขาจะทำต่อไปนี้ ค่อนข้างล่อแหลมพอสมคสร เขาจึงคิดว่าลากอีกคนไปทำในที่ลับตาจะดีกว่า เผื่อว่าคนอื่นๆจะเปิดมาเจอช็อตเด็ดเข้า
ร่างโปร่งย่อตัวคุกเข่าลงบริเวณเป้ากางเกงของฉลามพอดี มือเรียวขยับดึงซิบให้เข้าที่ ก่อนเขาจะเห็นว่าตรงซี่ซิปเหมือนจะมีด้ายอะไรบางอย่างติดอยู่
อินทัชพยายามแกะแงะดึงด้ายที่ติดตรงนั้นออกอย่างขมักเขม้น ต่างจากสภาพร่างสูงตอนนี้ที่กำมือตัวเองแน่นจนเป็นรอยเล็บไปหมด
การเจอกันของเขาและอินทัชตกสู่สถานะการแปลกๆอีกแล้ว มีอย่างที่ไหนคนไม่สนิทมาแก้ซิปกางเกงให้กันแบบนี้ แม้ว่าเขาจะอยากดันอีกคนออกและบอกให้หยุดแค่ไหน แต่เมื่อหลุบมองใบหน้าสวยของอีกฝ่ายที่ดูไม่ได้คิดมากอย่างเขา เขาก็กลัวว่าหากตัวเองเป็นกระต่ายตื่นตูมไปซะก่อนอาจจะถูกมองว่าเป็นโรคจิตคิดอกุศลก็ได้
อินทัชตอนนี้ขบปากตัวเองเล็กน้อยให้กับสภาพของฉลามที่เกร็งสุดขีด ไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้าตัวเกร็งไปเกร็งมาท่าไหน ไอ่ส่วนกลางกายมันถึงแข็งตัวขึ้นมาซะได้
จริงๆเขาน่าจะแงะด้ายออกมาจากซิบได้นานแล้ว ถ้าไม่ติดว่าเจ้าส่วนนั้นมันนูนขึ้นมาซะก่อน
"เป็นอะไรไป ปวดฉี่รึไง"
อินทัชถามพลางเงยหน้าเอียงคอน้อยๆมองคนตัวสูง จริงๆก็พอรู้แหละว่าคนตรงหน้าเป็นอะไร ก็เขาเล่นจับแก่นกายอีกคนไม่เบามือเลยแบบนั้น ไม่แปลกหรอกที่มันจะสู้มือขึ้นมา
"อื่อ.."
เจ้าของนัยน์ตาสีรัตติกาลตอบกลับเสียงเรียบ เพราะหากว่าตนตอบว่า'ไม่ใช่'ก็ไม่น่าจะมีเหตุผลอื่นที่พอฟังขึ้นอีกแล้ว
ดวงตาดุคมประสานกับสายตาที่มองช้อนขึ้นมาพอดี ฉลามสังเกตเห็นมุมปากของคนใต้ร่างที่กระตุกยิ้มขึ้นมาอย่างมีเลศนัย พลันแมวในใจเขาก็เริ่มกางเล็บข่วนช่วงอกเขาอีกแล้ว
"หวา..ขนาดอยู่ข้างในยังขนาดนี้ ถ้าออกมาจะขนาดไหนนะ"
น้ำเสียงทุ้มนุ่มพูดติดจะขบขัน อินทัชขยับใบหน้าให้เข้าใกล้กับส่วนนั้นมากขึ้นเพื่อหยอกล้อคนตัวโต ตอนแรกก็กะจะมาช่วยดีๆนี่แหละ แต่ไปๆมาๆก็ดันอยากจะแกล้งพระเอกคนหล่อเล่นซะอย่างงั้น
"อย่าซน"
ฉลามว่าพลางเอื้อมมือหนามาลูบผมคนใต้ร่าง ไม่รู้ว่าที่เจ้าตัวหมายถึงคือสื่อให้อินทัชอย่าซนจริงๆหรือพี่แกจะรับมุกเล่นตอบกลับอีกฝ่ายกันแน่
'ครืด'
และแล้วในที่สุดภารกิจช่วยลูกรักนักเขียนก็เสร็จสิ้น ซิปกางเกงเจ้าปัญหาในที่สุดก็รูดขึ้นได้สักที
แต่แหม พองออกมาเชียวนะ
"ออกไปข้างนอกเลยมั้ย"
อินทัชถามกับอีกคนเช็คความแน่ใจ เพราะคาดว่าหากพวกเขาสองคนออกจากห้องน้ำพร้อมกันคนที่อยู่ข้างนอกอาจจะเอาไปเล่าขวัญเอาก็ได้
"ข้างนอกไม่มีคนตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว"
เสียงทุ้มเข้มตอบกลับเมื่อเขามั่นใจว่าประตูห้องน้ำข้างหน้านิ่งเงียบสนิทไม่มีการขยับเขยื่อนใดๆมาตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว อินทัชจึงได้นึกสบายใจ มือเรียวบางถึงได้เปิดประตูห้องน้ำออก
'แกร่ก'
'แกร่ก'
จังหวะซิสคอมสามารถเกิดได้ทุกที่ไม่เลือกเวลา แล้วยิ่งเวลาแห่งความชิบหาย ยิ่งขยันสร้างสถานะการณ์ดีจริงๆ
อินทัชเปิดประตูออกมาพร้อมฉลาม ก่อนที่ประตูใหญ่หน้าห้องน้ำย่อยเองก็จะถูกเปิดออกมาพร้อมกันด้วย
ทั้งสองสายตาสบมองกันนิ่ง ไม่รู้ว่านี่เป็นโชคดีหรือโชคร้ายที่คนเปิดประตูใหญ่มาเจอพวกเขาคือนายเอกคนน่ารักคนนั้น
ทั้งสามคนหยุดชะงักไร้การเคลือนไหว ต่างคนต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ส่วนคนที่อาการหนักสุดคงไม่พ้นพระรองอย่างอินทัชนี่แหละ
ร่างโปร่งกลั้นใจเดินออกมาข้างนอกห้องน้ำในที่สุด ดวงตาเรียวมองนายเอกคนสวยนิ่ง ก่อนที่อินทัชจะยิ้มให้พู่กันแล้วขยับตัวเดินออกจากห้องน้ำไปด้วยสายตาล่อกแล่กสุดขีด
ร่างของอินทัชเดินไวๆออกจากโซนหลังโรงอาหารไป ดวงตากลมโตประกายมองอีกคนที่พึ่งออกไปจนสุดทาง ก่อนจะหันกลับมามองยังร่างสูงที่ออกมาจากห้องน้ำกับนางฟ้าของเขา
ไม่อยากจะคิดเลยว่าไปทำอะไรกัน แต่ในที่แบบนี้เขาเองก็อดที่จะคิดไม่ดีไม่ได้เลย
สองสายตาประสานกันนิ่ง พู่กันเริ่มยกมือกอดอกก่อนจะเอนตัวพิงพนังห้องน้ำสอดสายตามองอีกฝ่าย
"เขาน่ารักดีนะ"
พู่กันพูดลองเชิงคนตัวสูงกว่า ทางฉลามที่พอเข้าใจที่อีกคนจะสื่อจึงได้ตอบกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว
"เขาน่ารัก"
ภายในดวงตาที่ลอบมองกันและกันเหมือนกับว่ามีสายฟ้าสายหนึ่งฟาดฟันกันอยู่ไม่มีผิด
ต่างคนต่างรู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรกับอินทัชคนนั้น และพวกเขาก็รู้ตัวเองด้วยว่าตัวเองสนใจอินทัชเช่นกัน
ยังไม่ทันจะเริ่มก็ดันมีคู่แข่งซะแล้ว ดูท่าอีกฝ่ายเองก็น่าจะตึงมือพอควรซะด้วย
คนนึงก็หล่อนะดับพระเจ้าสรรค์สร้าง ดูเพอร์เฟคไปซะทุกอย่าง จนคิดว่าหลุดออกมาจากนิยาย
ส่วนอีกคนก็ทั้งสวยทั้งน่ารัก จะว่าตึงมือก็ตึงมือพอกัน เพราะรายนี้เองก็มารยาร้อยเล่มเกวียนแบบที่ไม่เป็นรองใคร
การประกาศสงครามเริ่มต้นขึ้นโดยที่ไม่มีใครบอกกล่าวกัน และแม้แต่กรรมการตัวต้นเหตุยังอินทัช ก็ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วยซ้ำ
"อินทัช~"
เสียงหวานใสดังขึ้นไม่ใกล้ไม่ไกล เจ้าของชื่อที่ถูกเรียกอย่างอินทัชจึงได้หันกลับไปมองตาม เป็นพู่กันคนน่ารักนี่เองที่เรียกเขา เจ้าตัวทำอย่างกับว่าเหตุการณ์ที่ห้องน้ำไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทั้งคู่ไม่พูดเรื่องนั้น ทำเหมือนกับว่ามันไม่เคยมี
"ทำอะไรอยู่หรอ"
พู่กันแปลงร่างเป็นกระต่ายตัวน้อยเข้าไปคลอเคลียอินทัชยกใหญ่ มารยาความน่ารักของเขาใช้งานได้ผลดีเสมอ และครั้งนี้พู่กันก็คิดจะใช้มันล่ออินทัชเช่นกัน
"ซื้อขนม กินมั้ย"
"ไหนๆ"
เมื่อถูกชักชวน พู่กันจึงได้ขยับเข้าไปใกล้อีกฝ่าย อย่างใกล้ชิดขนาดที่ว่าแทบจะสิงกันอยู่แล้ว ทว่าถ้าจะขยับมาสิงกันเฉยๆไม่เท่าไหร่ เหมือนประเด็นหลักจะไม่ได้อยู่ตรงนั้น มันอยู่ที่ว่าตรงช่วงบั้นท้ายของอินทัช มีมือคู่นึงขย้ำก้นเขาอยู่นี่สิ
"พู่กัน ทำอะไร"
ดีที่แถวนี้คนผ่านไปมาไม่เยอะ อีกทั้งความเนียนของพู่กันอยู่ในระดับที่เรียกได้ว่าเนียนกริบยิ่งกว่าแผ่นกระดาษ จึงไม่มีใครสังเกตเห็นว่าเมื่อครู่ร่างเล็กหลอกกินเต้าหู้เจ้าของผิวสีน้ำผึงไป นอกจากเจ้าตัวคนโดนเอง
"เอ๋? ทำอะไรหรอ"
กระต่ายตัวน้อยที่แท้จริงแล้วคือหมาป่าสีขาวตาแป๋วทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ นี่ถ้าหากว่าเป็นคนอื่นโดนหลอกแต๊ะอั๋งแบบนี้อาจจะหลงกลความน่ารักเจ้ากระต่ายขาวไปแล้วก็ได้
หลายคนคงหลงคิดว่าพู่กันเป็นรับคงไม่คิดจะมาหลอกกินเต้าหู้เขาหรอก เจ้ากระต่ายจึงได้ทำตาใส จับนู่นบีบนี่จนเหยื่อค่อยๆโดยเขมือบทั้งตัว
แต่สำหรับอินทัช ความสูงไม่มีผลต่อแนวราบ และคนหน้าสวยไม่จำเป็นต้องโพเมียเสมอไป
อินทัชที่รู้ซึ้งถึงความจริงข้อนี้ดี จึงได้รู้ว่าตัวเองโดนเจ้ากระต่ายขาวหลอกกินเต้าหู้เข้าให้ซะแล้ว ใช้ความน่ารักไร้เดียงสาทำให้ตายใจ แล้วหรอกกระแทกจนขาดใจในตอนจบ
แต่เขาเองก็ไม่ใช่เหยื่อตัวใหญ่ที่รอหมาป่าตะล่อมซะด้วยสิ ถ้าเจ้ากระต่ายขาวอยากเล่น เขาก็จะเล่นด้วย
"อยากจับก็ขอกันดีๆ คราวหน้าจะได้ไม่ต้องทำแค่จับ ถ้าอยากกระแทกด้วยก็เอาเลย"
อินทัชว่าพลางวาดยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ ส่วนพู่กันตอนนี้นิ่งค้างเป็นหินเหมือนถูกสาปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พู่กันตอนแรกก็คิดว่าอีกคนจะออกแนวสุภาพพ่อพระหงิมๆซะอีก ไหงกลายเป็นว่าอินทัชของเขามาแพรวพราวใส่ซะได้ล่ะ!
จากหมาป่าจะต้อนเหยื่อ กลายเป็นว่าเหยื่อดันนอนให้กินซะอย่างงั้น หรือว่าจะๆแล้วบริบทของเราจะสลับกัน
อินทัชไม่ใช่เหยื่อแล้ว แต่อินทัชคือนักล่าต่างหาก!
ก่อนจะเป็นเสือ ต้องเช็คประวัติเหยื่อก่อนนะ
เพราะบางที หมาป่าอาจจะหุ้มหนังสองชั้นก็ได้?