หลังจากระยะเวลาหนึ่งที่อินทัชให้กานต์เป็นคนขับรถไปส่งที่มหาลัยมาตลอด ตอนนี้พอเขาเริ่มจำทางได้แล้ว เขาจึงได้เปลี่ยนกลับมาเป็นคนขับรถแทนบ้าง
อย่างน้อยก็เพื่อเป็นการฝึกให้เขาจำเส้นทางแถวนี้ให้ขึ้นใจ เพราะยังไงก็ต้องขับผ่านไปมาอยู่แล้ว เพื่อนตัวเล็กของเขานั่งรถอย่างสงบเสงี่ยม บทสนทนาตอนเช้าไม่ได้มีอะไรมากอย่างที่เป็นในทุกๆวัน
พอขับเข้ารั่วมหาลัยมาได้สักพัก เมอซิเดส เบนซ์ สีเงินของอินทัชก็จอดเทียบฟุตบาทหน้าคณะวิศวะที่เป็นจุดหมายทันที
"มึงไปก่อนเลย"
เจ้าของผิวสีน้ำผึ้งบอกกับเพื่อนตัวเล็กก่อนที่เขาจะขับรถวนหาที่จอดแถวๆคณะ แต่ดูเหมือนว่าวันนี้พวกเขาจะมากันช้าไปหน่อย พวกที่เรียนภาคเช้าไม่ก็ภาคบ่ายคนอื่นๆจึงได้จับจองที่กันหมดแล้ว แถวๆคณะจึงได้ไม่มีที่ว่าง
รถหรูขับออกจากคณะไม่ใกล้ไม่ไกล ตรงไปยังที่จอดรถส่วนกลางติดกับโรงอาหารใหญ่ประกบด้วย3คณะ ซ้ายวิศวะ กลางกีฬา และขวาคหกรรม
ดวงตาสีปีกกากวาดมองหาที่ร่มๆเพื่อซุกรถเข้าช่อง ก่อนในที่สุดเขาจะเจอหลืบมุมนึงที่พอเหมาะพอเจาะพอดี
เมื่อจอดรถเสร็จขณะขาทั้งสองข้างของเขายังไม่ทันได้ลงจากรถดี มุมหนึ่งของตึกจู่ๆก็มีเสียงเหมือนคนทะเลาะวิวาทกันดังออกมาเสียก่อน อินทัชจึงได้หันไปให้ความสนใจทางนั้นแทนที่จะเดินตรงไปข้างหน้า
"อย่ามาปากเก่งไอ่พวกหน้าหมา ทำทรงเด็กแว๊นห้าวเป้งมาจีบกู คิดว่ากูจะชายตามองรึไงวะ ฟังนะไอ่พวกหำหมา กู เป็น รุก!"
เสียงตะหวาดไม่ดังไม่เบาลอดออกมาจากมุมตึกก่อนหน้า อินทัชตอนนี้นิ่งค้างไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี เขาควรเดินไปถามไถ่สารทุกข์สุขดิบมั้ย หรือจะเดินหนีไปดี
ไวกว่าความคิด ร่างโปร่งทำการล็อครถของตัวเองก่อนจะเดินไปตามทิศทางของเสียง เขาไม่ได้เสนอหน้าออกไปทันทีทันใด แต่แอบชะโงกหน้าดูตรงหัวมุมกำแพง
และเมื่อเขาสอดสายตามองไปยังเป้าหมาย ดวงตาคู่สวยก็ถึงกับเบิกกว้างเมื่อเห็นคนตรงหน้า บุคคลที่เพียงแรกพบ แม้จะไม่เคยเจอหน้ามาก่อนก็สามารถรับรู้ได้ทันทีว่าเขาคือใครจากบทบรรยายที่เคยได้อ่าน
อินทัชไล่มองทั่วร่างอีกคนตั้งแต่หัวจรดเท้า ทั้งดวงตากลมโตสีนิลมืดสนิท ขนตาเรียวยาวเรียงตัวงอนสวย ใบหน้าเนียนอย่างเนื้อหยกชั้นดี จมูกรั้นปากเรียวบาง ผิวขาว ตัวเล็ก ร่างบางเอวบาง เรือนผมสีทองสว่างขลับให้เจ้าตัวดูนุ่มฟูไปหมดทั้งตัว
บทบรรยายอวยพระนายของนิยายทั่วไปที่มักจะพบเห็นได้ตามท้องตลาด แต่เมื่อลองมาเทียบกับพระรองบ้านๆอย่างเขาแล้วเรียกได้ว่า ต่างกันราวดอกกุหลาบกับกระบองเพชร
รายนั้นดูสูงส่งสง่างามเลอค่า ส่วนคนทางนี้คือธรรมดาบ้านๆพบเห็นได้ทั่วไปมาก
ขนาดตาสีดำเหมือนกันการเปรียบเทียบยังต่างเลย พระเอกสีดำแบบรัตติกาล สีดำสนิทไร้ก้นบึ้ง นายเอกสีดำแบบนิล แร่สีดำแวววาว แต่ตัดภาพมาที่บทบรรยายพระรอง สีดำปีกกา
ปีกกาเนี่ยนะ มองจากดาวอังคารก็รู้ว่านี่น่ะลูกชังนักเขียนแน่ๆ
ร่างโปร่งหยุดมองคนตัวเล็กกว่าที่ทำหน้าไม่สบอารมณ์ คนน่ารักมองเหล่าคนตัวยักษ์ที่ล้มระเนระนาดนอนกองกับพื้น อินทัชคิดว่าสาเหตุที่เจ้าพวกนี้มีสภาพแบบนี้ คงไม่พ้นตามวอแววนายเอกนี่แหละ
นายเอกของเรื่องแม้จะดูน่ารักบอบบาง แต่จริงๆรายนั้นห้าวเป้งมาตั้งแต่สมัยมัธยมแล้ว ได้คาราเต้สายดำตั้งแต่เด็ก เรียกได้ว่าใครหาเรื่องพี่แกโดนอัดน่วมหมด ในเนื้อเรื่องนิยายเองก็มีบรรยายไว้เช่นกัน ว่านายเอกคนนี้ไม่ใช่ตัวละครงุ๊งงิ๊งที่ใครอยากจะฉุดก็ฉุดได้
ไม่เว้นแม้แต่พระเอก รายนั้นปากแจ๋วใส่เจ้าน้อง(?)ไม่เลิก หลายครั้งเหมือนกันที่พยายามจะจับนายเอกกิน แต่ก็โดนสวนหมัดปากแตกหน้าแหกแบบหมอไม่รับเย็บ
แล้วตะกี้เหมือนว่าเขาจะได้ยินอะไรแว๊บๆ นายเอกเป็นรุก?
จริงหรอวะ
มิน่าล่ะในนิยายไม่มีฉากNCเลย ที่แท้ น้องเทิร์นผัวหรอ
แต่ก่อนที่อินทัชจะได้ทบทวนความจำกับตัวเองไปไหนไกล ร่างของชายคนนึงที่นอนอยู่ก็ดันลุกขึ้น คว้าท่อแป๊ปแถวนั้นจะฟาดนายเอกตัวน้อยที่ไม่ทันตั้งตัว
ดูเหมือนร่างกายของเขาจะไปไวกว่าความคิด ร่างโปร่งพุ่งเข้าหาชายคนนั้นก่อนจะยกขาถีบช่วยท้องมันจนหงายหลัง ทางคนตัวเล็กเองตอนนี้นิ่งค้างไปแล้ว สมองน้อยๆกำลังประมวลผลว่าเมื่อกี้นี้มันเกิดอะไรขึ้นวะ
"เป็นอะไรมั้ย"
เจ้าของดวงตาสีปีกกาถามกับคนข้างตัว ดวงตาคู่คมประสานกับดวงตากลมสวยของคนตัวเล็กกว่า ยิ่งอยู่ใกล้ๆใบหน้าหวานน่ารักก็ยิ่งชัดเจนในม่านสายตา ไม่แปลกใจเลยจริงๆว่าทำไมถึงมีแต่ผู้ชายมาหลง ก็เล่นสวยเทียบผู้หญิงขนาดนี้
ทาง'พู่กัน'ที่ถูกอีกฝ่ายช่วยไว้อย่างไม่ทันตั้งตัวก็ถึงกับนิ่งอึ้ง ใบหน้าน่ารักเงยขึ้นมองคนตัวสูงกว่าพลันหัวใจดวงน้อยๆก็เต้นแรงขึ้นมา
เชี่ย นางฟ้า
คำอุทานแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวพู่กันยามได้สบตาอีกฝ่าย แม้อินทัชจะไม่ได้มีใบหน้าสวยอย่างนางฟ้าจริงๆ แต่คำเปรียบเปรยที่เขาหมายถึงคืออินทัชนี่คือนางฟ้าในอุดมคติเขาชัดๆ
"งื้อออ ขอบคุณมากนะครับ ถ้าไม่ได้คุณช่วยไว้แย่แน่ๆเลย"
ร่างเล็กเข้าไปกอดแขนคนตัวสูงกว่าทันทีที่ได้สติ ใบหน้าน่ารักช้อนมองอีกคนอย่างออดอ้อน ทางอินทัชที่มองอีกคนตรงๆเองก็ถึงกับใจเต้นผิดจังหวะเช่นกัน
"จะเป็นอะไรมั้ยถ้าพู่จะขอเลี้ยงข้าวเป็นการตอบแทน"
คนตัวเล็กว่าด้วยน้ำเสียงนิ่มนวล แน่นอนว่าโหมดนี้ของเขาไม่ได้ถูกหยิบยกมาใช้กับทุกคน
ทางอินทัชตอนนี้งงเป็นไก่ตาแตก พู่กันที่เขาได้เห็นตอนนี้กับคนหน้าคือคนเดียวกันจริงๆใช่มั้ย แล้วคนที่ปากแซ่บด่าพวกนักเลงเย้วๆนั่นใครกัน ร่างทรงองค์แม่ปากพริกแกงหรอ
"อะ..อ่อ ได้สิ"
เหมือนปากจะไปไวกว่าความคิด อินทัชตอบกลับไปแบบงงๆ เจ้าของใบหน้าหวานหยาดเยิ้มจึงได้คลี่ยิ้มออกมาอย่างพอใจ
"งั้นไปกันเถอะ"
ร่างเล็กออกแรงดึงอีกคนออกจากพื้นที่ตรงนี้ไปยังโรงอาหารใกล้ๆ เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลจึงได้เดินตามอีกคนไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ความจริงคือพู่กันแค่พยายามจะลากอินทัชออกจากที่ตรงนี้ เพราะถ้าหากไอ่พวกนั้นมันลุกขึ้นมาอีก นางฟ้าของเขาอาจจะได้เห็นโหมดซุปเปอร์แมนพู่กันก็ได้
"คุณอยู่ปีอะไร ชื่ออะไรหรอ พู่จะได้เรียกถูก"
เจ้าของใบหน้าสวยถามกับอินทัชหลังจากที่เจ้าตัวอาสาไปซื้อข้าวให้แล้วกลับมานั่งที่โต๊ะ คนที่ถูกถามจึงตอบกลับ
"ชื่ออินทัช อยู่ปี3วะศวะ" อินทัชตอบเสียงเรียบตามฉบับ คนตัวเล็กกว่าจึงได้พูดต่อพร้อมกับยิ้มบาง
"บังเอิญจัง เราก็อยู่ปี3 ชื่อพู่กันนะอยู่คณะคหกรรม"
พู่กันว่าเสียงใสอย่างร่าเริง เมื่อยามที่เจ้าตัววาดยิ้มอย่างกับว่ารอบตัวมีดอกไม้ผลิบานขึ้นมายังไงอย่างงั้น นี่คือออร่านายเอกสินะ กระแทกตาแทบบอด
อินทัชพยักหน้าตอบ จริงๆเขาเองก็ไม่รู้จะถามอะไรอีกคนเหมือนกัน เพราะประวัติโดยย่อของเจ้าตัวเขาดันรู้อยู่ก่อนแล้วนี่สิ
ระหว่างมื้ออาหารเป็นไปอย่างเรียบง่าย ทั้งคู่คุยถามไถ่กันเพียงไม่กี่คำตามมารยาท แต่ดูเหมือนว่าพู่กันจะค่อนข้างสนใจอินทัชพอสมควร
ดวงตาสีนิลคู่สวยมองตรงไปยังคู่สนทนาตลอดเวลา เรียกได้ว่าถ้าอินทัชเป็นปลากัดคงคลอดลูกให้พู่กันได้หลายตัว(?)แล้ว ก็เล่นนั่งมองหน้าเขาแล้วยิ้ม จะไม่ให้เขารู้สึกแปลกๆได้ยังไง
ดวงตาคู่คมสีปีกกาเสมองไปโดยรอบ เพื่อหลบสายตาร้อนระอุของพู่กัน ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดเข้ากับร่างสูงคุ้นตา
นั่นมันพระเอกนี่นา
ภายในโรงอาหารกลางมีคนเดินไปมาพลุพล่านไม่น้อย แต่ด้วยออร่าของพระเอก ทั้งเรื่องความสูงและหน้าตาที่โดดเด่น แม้แต่มองจากดาวยูเรนัสลงมาก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะสังเกตเห็น
จะว่าไปแล้วถ้าคิดดูดีๆ ฉากที่นายเอกอย่างพู่กันถูกพวกนักเลงรังแกมันก็คุ้นๆจริงๆ คุ้นมาก คุ้นว่าคนที่มาช่วยเป็นพระเอกนี่แหละ
อินทัชถึงกับยกมือขึ้นกุมขมับ นี่เขาแย่งบทพระเอกมาอย่างงั้นหรอ ดวงตาคู่สวยเหลือบมองร่างสูงสะดุดตา พลางกล่าวขอโทษในใจที่ไปแย่งซีนหล่อๆของพ่อพระเอกมาจนพระนายไม่ได้เจอกัน
ทางพู่กันที่จ้องหน้าอินทัชอยู่ เมื่อเห็นว่าอีกคนมองไปทิศทางหนึ่งอย่างไม่ละสายตาก็หันไปมองตามบ้าง แน่นอนว่าความโดดเด่นของพระเอกคือสิ่งที่สะดุดตาตั้งแต่แรกพบ
ร่างเล็กถึงกับขมวดคิ้วง่วนมองตรงไปยังอีกฝ่าย นางฟ้าของเขาสนใจอะไรเจ้าตัวสูงนั่นกัน สายตาที่มองไปเขาคาดเดาไม่ออกสักนิด แต่พู่กันคงไม่ปล่อยให้อะไรที่ติดค้างในใจไร้คำตอบ คนตัวเล็กปรับโทนเสียงให้อ่อนนุ่มอีกครั้งก่อนจะถามข้อสงสัยที่ติดค้างในใจ
"นี่ๆ อินชอบคนนั้นหรอ"
พู่กันถามอีกคนอย่างใสซื่อ เหมือนกับว่าถามเรื่องลมฟ้าอากาศอย่างไม่คิดอะไร ทั้งๆที่ในใจมีไฟบางอย่างปะทุคลุกกรุ่นออกมาแล้ว
"ห้ะ หมายถึง นั่นหรอ"
อินทัชถามพลางชี้นิ้วแอบๆไปที่ฉลาม คนน่ารักจึงได้พยักหน้าหงึกๆให้เป็นคำตอบ
"อ๋อ ไม่หรอก ถึงจะชอบคนหล่อก็เถอะ แต่นายคนนั้นขอเป็นข้อยกเว้นละกัน"
เพราะนายฉลามคนนั้นเป็นถึงพระเอกตัวละครโครตแมรี่ซู*ยังไงล่ะ ไกลเกินเอื้อมขนาดนั้นพระรองอย่างเขาขอผ่านไปป้ายหน้าไกลๆเลย
พู่กันเมื่อได้ฟังคำตอบก็ถึงกับตาลุกวาว นางฟ้าของเขาชอบผู้ชายหรอ งั้นเขาจะมีสิทธ์เข้าไปอยู่ในใจอีกฝ่ายมั้ยนะ
"อินทัชชอบผู้ชายหรอ"
"อื่อ เป็นเกย์น่ะ รังเกียจมั้ย" แน่นอนว่าเขารู้อยู่แล้วเรื่องที่พู่กันก็ชอบผู้ชายแต่ก็ถามไปอย่างนั้นแหละ
ตัดภาพไปที่พู่กันที่ส่ายหัวคอแทบเคล็ดเพราะกลัวอีกฝ่ายจะเข้าใจผิด
"ไม่ใช่ๆ เราไม่ได้รังเกียจเลยนะ" จริงๆคือชอบเหมือนกันด้วยซ้ำ..
อินทัชลอบยิ้มให้ความน่าเอ็นดูของอีกฝ่าย ดวงตาคู่สวยหรี่ลงโค้งเป็นพระจันทร์เซี้ยว มือเรียวยกขึ้นจับผมข้างหน้าม้าที่เกลี่ยงข้างแก้มซ้ายทัดหู จนเผยให้เห็นขี้แมลงวันสองจุดน้อยๆที่ข้างดวงตา
พู่กันตอนนี้เหมือนโดนแมวข่วนที่หัวใจ นางฟ้า มองยังไงนี่ก็นางฟ้า เขาคงดูไม่ผิดจริงๆ!
ถึงจะไม่ได้สวยโดดเด่น แต่อินทัชมีเสน่ห์มากๆ ไม่ว่าจะตอนทำหน้าปกติหรือตอนที่วาดยิ้ม ใบหน้าทุกรูปแบบของอีกคนล้วนถูกใจพู่กันคนนี้ทั้งสิ้น
พู่เล็งแล้วแม่ พู่จะเคลมนางฟ้า!
คนนึงก็บอกว่าแมว คนนึงก็บอกว่านางฟ้า
โอเค ลูกฉันเป็นทุกอย่างยกเว้นคน