เขาไม่ใช่ปัญหาจริงเหรอ? อลิเซียน่าอยากจะหัวเราะอีกครั้ง เขาสามารถเข้าไปข้างในบ้านของแด๊ดและออกไปจากที่นั่นอย่างปลอดภัย มิหนำซ้ำเขายังทำให้คนพวกนี้หัวหมุนจนต้องมารวมตัวกันเพื่อหาทางออก
นี่ยังไม่เรียกว่าปัญหา?
“ก่อนการสนทนา...” ดวงตาของทุกคนมองไปที่ตัวแทนของตระกูลมาโลน “เขาเป็นใคร ทำไมเขาถึงอยู่ที่นี่?” ชายคนดังกล่าวชี้ไปที่ลูก้า
เธอรู้สึกชื่นชมกับคำถามของเขา ในที่สุดเธอก็จะได้รู้เช่นกัน เธอนึกขอบคุณเขาเป็นการส่วนตัว
“ทำไมคุณไม่ถามฉันเองล่ะ” ลูก้าพูดอย่างใจเย็น
อลิเซียน่ารู้สึกถึงรัศมีแห่งพลังอันเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจที่แผ่กระจายออกมาจากร่างกายของชายหนุ่ม
“โอเค! อะไรทำให้คุณมานั่งอยู่ที่นี่ในตอนนี้!?” ผู้ชายคนเดิมถามด้วยน้ำเสียงข่มขู่กึ่งถากถาง
ลูก้าไม่ตอบแต่สอดมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ส่งผลให้ชายคนนั้นจ้องมองเขาอย่างสงสัย
เขานำวัตถุเล็ก ๆ ที่เปล่งประกายออกมา จากนั้นสวมมันลงบนนิ้ว เห็นได้ชัดว่ามันเป็นแหวน เขาสวมมันแล้ววางฝ่ามือลงบนโต๊ะ ก่อนจะยื่นมันไปข้างหน้าทำให้ดวงตาของทุกคนเบิกโพลง
อลิเซียน่ายื่นหน้าเข้าไปมองอย่างใกล้ชิด สิ่งที่เห็นทำให้เธอถึงกับอ้าปากกว้าง ก่อนที่จะเบนสายตาจ้องมองใบหน้าของเขาสลับกับแหวนอีกหน แหวนที่มีรูปหมาป่าขนาดเล็กกำลังขดตัวอยู่ด้านบน มันเป็นแหวนผู้นำของตระกูลกริมมี่
เขาเป็นคนของกริมมี่ใช่ไหม? ทันใดนั้นความคิดของเธอก็หมุนวนอย่างบ้าคลั่งและเต็มไปด้วยคำถาม มันเป็นไปได้อย่างไร?
แล้วแด๊ดของเธอรู้หรือเปล่า? อลิเซียน่าเหลือบมองไปทางบิลลี่ เขามีท่าทีปกติ ทั้งยังดูสบายใจ แสดงว่าเขารู้!
ดังนั้นลูก้าจึงเป็นผู้นำของกริมมี่ใช่ไหม?
เธอปิดปากพลางเอนหลังพิงพนักเก้าอี้พร้อมหายใจเข้าลึก ๆ นั่นคือเหตุผลที่เขาเปล่งประกายและมีพลังมาก แต่เกิดอะไรขึ้นกับตระกูลกริมมี่? มีคำถามมากมายเกิดขึ้นในหัว
“นี่สามารถตอบคำถามของคุณได้หรือยัง?” ลูก้าดึงมือกลับมาพร้อมจ้องมองผู้ชายคนนั้น
“กริมมี่!” เบทริคดูสับสนเหมือนอลิเซียน่า อย่างน้อยก็มีคนคิดเหมือนเธอ แต่เขาทำให้เธอประหลาดใจเพราะเขากลับยิ้มเยาะยามหันไปหาลูก้า
“คุณยังมีชีวิตอยู่เหรอ?” เบทริคส่งเสียงเย้ยหยัน
“ฉันดูเหมือนคนตายไปแล้วไหมล่ะ!?” ลูก้าแดกดันกลับไป ทำให้อลิเซียน่าต้องกัดริมฝีปากล่างเพื่อกลั้นยิ้ม
“เราควรพูดคุยกันเรื่องปัญหาก่อนดีไหม เราสามารถพูดคุยเรื่องเหล่านี้ในภายหลัง” บิลลี่เสนอ ทุกคนจึงหันมาให้ความสนใจกับเขา
“เราต้องตามหาซีโม่และฆ่าเขา!” ผู้ชายที่มาจากตระกูลมาโลนเอ่ยด้วยเสียงอันดัง ส่งผลให้อลิเซียน่ารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย จากนั้นสายตาของเธอก็หันไปจับจ้องสังเกตนัยน์ตาอันว่างเปล่าของลูก้าอีกครั้ง
“เขากำลังจะโจมตีตระกูลร็อคโกในเร็ว ๆ นี้” แดนนี่พูดขัดจังหวะ ทุกคนจึงหันมามองว่าเขากำลังพูดถึงอะไร?
“คุณรู้ได้อย่างไร?” เบทริคลุกขึ้นยืนพรวดด้วยความตระหนก ท่าทางเช่นนั้นทำให้อลิเซียน่ายกยิ้ม ก่อนหน้านี้พวกเขาพูดว่าซีโม่ไม่ได้เป็นตัวปัญหา แต่พวกเขาทั้งหมดดันกลัวซีโม่มาก
“มีข่าวว่าอีกสามวันเขาจะโจมตีบ้านของคุณ” บิลลี่พูดทิ้งระเบิดกลางวง ทุกคนเลยมองหน้ากันไปมา
“คุณแน่ใจใช่ไหม?” เบทริคทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ของตัวเองพลางถามบิลลี่อีกครั้ง
“เขาเป็นศัตรูของพวกเราทุกคน” ผู้ชายที่มาจากมาโลนประกาศ จากนั้นทุกคนก็พยักหน้ารับยกเว้นลูก้ากับอลิเซียน่า
“เราจะทำอย่างไร” เบทริคถามเพิ่มเติมด้วยรู้ดีว่าบิลลี่มีการวางแผนมาแล้ว
“อีกสามวันหลังจากนี้ เราจะจัดงานปาร์ตี้ที่บ้านของฉัน” บิลลี่กล่าว เหล่าผู้เข้าร่วมการประชุมถึงกับขมวดคิ้วรวมทั้งอลิเซียน่าด้วย
“งานสังสรรค์?” เบทริคถาม
“ใช่! …พวกคุณทุกคนจะต้องไปที่งานเลี้ยง และเราทุกคนจะส่งคนของเราจำนวนมากไปฆ่าเขากับคนของเขา” จบประโยค บิลลี่ก็ส่งสัญญาณมือให้แดนนี่อธิบายแผนการ
“แล้วทำไมต้องจัดปาร์ตี้?” ลูก้าสงสัย
“เราต้องการเฉลิมฉลองการตายของเขา นอกจากนี้ฉันต้องการประกาศเรื่องสำคัญในงานปาร์ตี้!”
บิลลี่มองไปทางลูก้าก่อนเลื่อนสายตาไปมองอลิเซียน่า
ประกาศอะไร… อีกครั้ง? อลิเซียน่าบ่นในใจ เธอดึงแขนเสื้อขึ้นอย่างไม่สบายใจ เมื่อดวงตาของเธอสบกับลูก้า ก็เห็นแววตาสื่อความนัยอันน่าประหลาดจนทำให้เกิดความสงสัย มีอะไรผิดปกติกับเธออย่างนั้นเหรอ?
“ถ้างั้นตกลงตามนี้” เบทริครวมถึงทุกคนต่างเห็นด้วยกับบิลลี่
ขณะที่พวกเขากำลังจะลุกขึ้นและออกไป บอดีการ์ดก็วิ่งเข้ามาในห้องด้วยท่าทางเป็นกังวลและสับสนมาก
“เกิดอะไรขึ้น?” แดนนี่ถามอย่างใจเย็น
“ซีโม่โจมตีโกดังเก็บยาเสพติดของเรา คนของเขาทำลายทุกอย่างและฆ่าคนของเราทุกคนอย่างไร้ความปรานี” ผู้พูดก้มศีรษะลงพลางกล่าวรายงาน
“กลับบ้านเซียน่า!” บิลลี่ออกคำสั่งโดยไม่หันมามองแล้วเดินออกไป ตามด้วยคนอื่น ๆ
อลิเซียน่าจ้องที่ประตูเพราะรู้สึกว่ามีใครอยู่ด้านหลัง วินาทีต่อมาเธอก็รู้ว่าเป็นลูก้าซึ่งขยับมายืนอยู่ในระยะประชิด เป็นสาเหตุให้ความรู้สึกในอกปั่นป่วนแปลกประหลาดขึ้นมาอย่างยากระงับ
เธอกลั้นหายใจพยายามทำใจให้สงบลงอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นก็รู้สึกว่านิ้วของชายหนุ่มกำลังลากไปตามแขนเสื้อ ก่อนจะลากขึ้นไปจนเห็นผ้าพันแผลของเธอ
“หายดีแล้วใช่ไหม?” เขากระซิบถามด้วยเสียงแหบพร่า พลางก้าวเข้ามาใกล้มากกว่าเดิมทำให้เธอรู้สึกเข่าอ่อน
ความรู้สึกนี้คุ้นเคยมาก ยามเขายืนอยู่ข้างหลังเธอ จิตใจของหญิงสาวจะวุ่นวายอย่างหาสาเหตุไม่ได้ นอกจากนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่ซีโม่ยืนอยู่ข้างหลัง เขามักชอบสัมผัสร่างกายของเธอ
อลิเซียน่าส่ายศีรษะ ดึงแขนออกพร้อมเร่งฝีเท้าขยับตัวออกห่างอย่างปฏิเสธที่จะหันกลับไปมอง เขากำลังเล่นกับความรู้สึกของเธอ และยิ่งนึกเกลียดเพราะเธอชอบมันโดยไม่รู้ตัว
หญิงสาวเดินผ่านทางเดินที่ว่างเปล่า และรู้ว่าเขากำลังเดินตามอยู่ข้างหลัง ซึ่งทำให้เธอต้องเดินเร็วมากขึ้นจนมาหยุดตรงทางออก อลิเซียน่ามองไปทางบอดีการ์ดที่เก็บปืนของเธอไว้
บิลลี่ทิ้งรถไว้สองคันพร้อมบอดีการ์ดห้าคนที่จะพาเธอกลับบ้านอย่างปลอดภัย
บอดีการ์ดหยิบปืนออกมา แต่ก่อนที่เขาจะมอบมันให้เธอ ก็มีมือหนึ่งหยิบมันไป
“คุณต้องการอะไรลูก้า!?” อลิเซียน่าถามด้วยน้ำเสียงติดรำคาญ ก่อนที่จะหันไปมองรอบ ๆ ขณะที่หญิงสาวหันหลังกลับ ใจของเธอก็หยุดทำงานเมื่อเห็นเขาจ้องมองเธออยู่
“คุณ!” เขาตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ดวงตาของเธอเบิกกว้าง และหัวใจก็เต้นแรงอีกครั้ง
“อะ… อะไรนะ?” หญิงสาวสั่นศีรษะอย่างสับสน ก่อนที่จะหลบตาเขา
“คุณรู้วิธีใช้มันหรือเปล่า” ลูก้าเพิกเฉยต่อคำถามของอีกฝ่ายแต่เลือกที่จะส่งคำถามเยาะเย้ยกลับไปเสียแทน
อลิเซียน่านึกเกลียดที่ผู้คนประเมินเธอต่ำไป หญิงสาวคว้าปืนไปจากมือเขา แต่กลับต้องครางออกมาเพราะเจ็บแผลที่แขน เธอยกปืนขึ้นและยิงยางรถยนต์ของเขาที่จอดอยู่ระยะไกล ในขณะที่บอดีการ์ดของเขาไม่ได้สะดุ้งสะเทือน
“ว้าว ผมชอบมัน!” เขาขยับกระซิบใกล้หู ซึ่งทำให้เธอถึงกับขนลุกชัน