“ค่ะ...แต่นีชาคงอยู่เฉยๆ ไม่ได้ แด๊ดแก่แล้วค่ะ มันอาจทำให้ท่านไม่สบายหากต้องเขาไปอยู่ในที่แบบนั้น” เธอเลี่ยงที่จะใช้คำว่า ‘คุก’ เมื่อมันทำให้รู้สึกหดหู่สิ้นดี
“คนอย่างอิวานเป็นไม้แก่ดัดยาก เขาควรถูกคนที่เหนือกว่าสั่งสอน ฉันคิดว่านี่เป็นเรื่องที่ดีเชียวแหละ”
“แต่...”
“เอาเถอะอยากทำอะไรก็ตามใจ ฉันขอโทษที่ซ้ำเติมพ่อเธอ มันทนไม่ไหวจริงๆ”
“ขอบคุณค่ะ”
“อืม...ถ้าไม่ไหวยังไง มีอะไรที่ฉันช่วยได้ฉันก็อยากช่วยนะนีชา” หล่อนพ่นลมหายใจแรงๆ พระเจ้าไม่ยุติธรรมเลย คนดีๆ ตายจากแต่คนที่สมควรตายยังคงหยัดยืนอยู่ เธอรู้จักกับชมนาดดี ผู้หญิงน่าสงสารที่อยากมีชีวิตดีขึ้น จนต้องยอมแต่งงานกันคนในพื้นที่ เพื่อจะได้ทำมาหากินได้โดยไม่ถูกเจ้าหน้าที่จับตัวส่งกลับภูมิลำเนาเดิม แต่เผอิญโชคร้าย ไปคว้าเอาอิวานมาเป็นสามี เขาออกลายทันทีที่แต่งงาน ผู้หญิงไทยคนนั้นจึงต้องก้มหน้าก้มตาหาเลี้ยงสามี และเจียดเงินส่วนหนึ่งส่งกลับไปให้คนทางบ้านเกิด สุขภาพทรุดโทรมลงทุกๆ วันเพราะต้องทำงานเพิ่มอีกเป็นเท่าตัวเพื่อให้มีเงินพอจะเจือจานคนทางบ้านและตัวเอง หล่อนเจ็บออดๆ แอดๆ และเสียชีวิตตอนที่ลูกสาวยังไม่โตเต็มที่ สองแม่ลูกที่เธอเห็นมาเกือบๆ ยี่สิบปี ช่างน่าสงสารและน่าเห็นใจ ผู้หญิงหวังพึ่งสามี และหวังว่าเขาจะทำให้ตัวเองมีการเป็นอยู่ดีขึ้น แต่สามีหรือพ่ออย่างอิวาน สมควรอย่างยิ่งที่จะถูกกำจัด เธอแอบเยาะเย้ยซ้ำด้วย ตอนที่รู้ข่าว แล้วก็เป็นอย่างที่คาดไว้ นีรนาทคงไม่ปล่อยให้บิดาต้องทรมาน เธอเป็นเด็กดี...
“ขอบคุณอีกครั้งค่ะ”
“โชคดีจ้ะนีชา ขอพระองค์คุ้มครอง” สาวใหญ่อวยพรให้หญิงสาวผู้น่าสงสารแล้วก็ได้แต่กังวล เพราะรู้ดีว่าตระกูลใหญ่ๆ อย่าง ‘เบนิคอฟ’ คงไม่มีทางยอมเพราะอิวานทำให้ธุรกิจของเขาเสียหายและเสียชื่อเสียงด้วย มันเป็นการเขียนเสือให้วัวที่คิดจะกล้าลองดีอีกหลายๆ ตัวกลัว
หญิงสาวแหงนมองยอดหอยคอยที่อยู่สูงสุดของตัวคฤหาสน์ เธอวิงวอนร้องขอความเมตตาจากเบื้องบนด้วยหัวใจที่แสนจะรันทด มีแต่ความฝันและความหวัง เมื่อประตูชัยชนะดูเหมือนจะปิดสนิท...
เธอทรุดตัวลงนั่งที่ขอบปูนซีเมนต์ ที่กั้นระหว่างพื้นถนนคอนกรีตกับกระถางต้นไม้ มือเล็กๆ ใต้ถุงมือเก่าๆ ยกขึ้นอังความร้อนที่เป่าออกมาจากอุ้งปาก ควันสีขาวๆ ลอยฟุ้ง!!
แกร๊ก...เสียงประตูเหล็กครูดกับพื้น ดังขึ้นในเวลาเช้าตรู่ นีรนาทเหลือบมองและเธอร่ำร้องขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าในใจเสียงอื้ออึง....มีคนออกมาจากบ้านหลังนั้น เขาอยู่ในชุดวอร์มหนาๆ และกำลังวิ่งเหยาะๆ ตรงมายังทิศที่นั่งซุกตัวอยู่
ดิมิททรีผงะหลบ จู่ๆ ก็มีใครบางคนวิ่งมายืนขวางหน้าเขา ชายหนุ่มขมวดคิ้วแน่น และรอดูทีท่าจากฝ่ายตรงข้าม ที่เขาประเมินท่าทางแล้วไม่เท่าไร เมื่อคนๆ นั้นรูปร่างผอม!! แม้จะอยู่ในเสื้อโค๊ทขนาดใหญ่
“ต้องการอะไร? คิดจะปล้นเหรอ” เขาถามเมื่ออดใจไม่ได้ นัยน์ตาคมหรี่ลงและเริ่มหงุดหงิดเมื่ออีกฝ่ายยังนิ่งเฉย
“คิดดีแล้วเหรอไอ้หนู? งานสุจริตมีเยอะแยะทำไมไม่คิดทำ” เสียงฉุนๆ เอ่ยออกมาจากปากสีแดงสด
“เปล่า!! ไม่ได้คิดจะปล้น แค่อยากขอร้องค่ะ” เสียงอ่อนๆ มันแสดงให้เห็นว่าเขาเข้าใจผิด ไม่ใช่ ‘ไอ้หนู’ แต่เป็น ‘อีหนู’
“แล้วต้องการอะไร? มายืนขวางทางทำไมแต่เช้า ถ้าเจตนาดีก็น่าจะแจ้งผ่านเลขาฯ ของฉันนะ” มันอดไม่ได้ที่จะตำหนิเมื่อเจ้าตัวทำอุกอาจเหมือนคนที่ประสงค์ร้าย
“นีชาไม่คิดว่าคุณจะอนุญาตให้พบหรอกค่ะ นีชาก็เลยมารอ”
“รอ...อย่าบอกนะว่าเธอมารอฉันอยู่ตรงนี้!! แล้วถ้าฉันไม่ออกมาล่ะเธอจะทำยังไง” ดิมิทรีไม่ได้เป็นห่วงผู้หญิงคนนี้สักนิด เขาแค่ไม่อยากให้เกิดเรื่องร้ายๆ ที่หน้าบ้าน เพราะมันจะทำให้ทัศนวิสัยของคฤหาสน์เสียหาย หากมีคนจรจัดหนาวตายหน้าคฤหาสน์ เบนิคอฟ!!
“ค่ะ นีชามีเรื่องต้องเจรจากับคุณดิมิทรีอย่างเร่งด่วน”
“เห้อ!! เรื่องอะไร อย่าบอกนะว่ามาขอสตางค์” ชายหนุ่มพ่นลมหายใจแรง เขาหมดอารมณ์ที่จะออกไปวิ่งเรียกเหงื่อเมื่อมีคนกวนใจและกำลังทำให้เขาเริ่มรำคาญ
“เปล่าค่ะ นีชาอยากคุยเรื่องทีมีคนขู่วางระเบิดห้างสรพสินค้าของคุณ”
“อ๋อ!! เรื่องนั้น มันจบแล้วนี่ จับคนร้ายได้แล้วไอ้หมอนั่นกำลังจะได้รับผลของการกระทำ คงนอนคุกยาวเชียวแหละ” ชายหนุ่มพูดจบ เขาก็หมุนตัวกลับเพราะไม่อยากต่อปากต่อคำกับคนแปลกหน้า
นีชาพุ่งพรวดเธอวางมือบนแขนแข็งแรงและวิงวอนเสียงสั่นพร่า “เขาเป็นพ่อนีชาค่ะ ได้โปรดอย่าเอาเรื่องท่านเลยนะคะ ท่านทำไปเพราะคาดไม่ถึงว่าจะได้รับโทษทัณฑ์หนักขนาดนี้”
“พ่อ!! ไอ้ขี้เมาอ้วนๆ นั่นมีลูกสาวด้วยหรือ?” เป็นคำเปรยๆ ที่ไม่ได้รอคำตอบ
“ได้โปรดนะคะ คุณตำรวจบอกว่าหากเจ้าทุกข์ไม่เอาเรื่องพ่อก็จะถูกปล่อยตัว เพราะเป็นแค่คำขู่ไม่ได้ลงมือจริง”
“คงไม่ได้หรอกนะเด็กน้อย ผิดก็ต้องว่าตามผิด พ่อของเธอล้ำเส้นเกินไปหน่อย ไม่อย่างนั้นจะมีคนเอาเยี่ยงอย่าง หากวันหลังมีการข่มขู่แบบนี้ขึ้นจริงๆ แล้วคนของฉันคิดว่าพ่อเธอทำล่ะ เขาไม่สนใจจะตรวจสอบ เกิดระเบิดขึ้นมาจริงๆ ใครจะเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้” ชายหนุ่มสะบัดแขน เขารังเกียจความสกปรกที่เกาะติดตามเนื้อตัวของอีกฝ่าย ก่อนจะกระเทิบถอยหลังหนี
“แต่...พ่อไม่ได้ตั้งใจ”
“ใครก็อ้างได้ว่าไม่ได้ตั้งใจ หากฉันอนุโลมให้ มันก็จะต้องมีครั้งต่อไปแน่ๆ ฉันรู้สันดานคนอย่างพวกเธอดี!!” ชายหนุ่มส่ายศีรษะ เขาพูดช้าๆ ชัดๆ มุมปากได้รูปเหยียดยิ้มหมิ่นๆ และหวังว่าเจ้าหล่อนจะเข้าใจ
“นีชาจะดูแลแด๊ดเอง จะไม่ให้แด๊ดมาวุ่นวายที่ห้างสรรพสินค้าของคุณอีก”
“หากเธอดูแลเขาดี มันคงไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้หรอก พอเถอะ อย่าพยายามอีกเลย กฎต้องเป็นกฎ”
“แต่...”
“ไม่มีแต่!! พอแค่นี้ล่ะ ฉันขอตัว”
“คุณอยากให้นีชาทำอะไรให้ นีชายอมทุกอย่าง ขอร้องเถอะค่ะ...ได้โปรดปล่อยแด๊ดนีชานะคะ อย่าให้เขาต้องเข้าไปอยู่ในที่แบบนั้นเลย” ร่างผอมบางรูดลงไปกองที่พื้น เธอวิงวอนขายหนุ่มเสียงสั่นพร่า หยดน้ำตาไหลปร่าอาบผิวแก้ม และแหงนหน้ามองชายหนุ่ม
แสงอ่อนๆ ของพระอาทิตย์ยามเช้าแม้จะหม่นมัวเพราะก้อนเมฆบดบัง แต่มันก็สว่างพอจะมองเห็น ยัยเด็กนี่นัยน์ตาสวย ผิวแก้มอมสีชมพูระเรื่อ ขนตายาวเป็นแพเหมือนปีกผีเสื้อ รวมๆ แล้วก็หน้าตาดีไม่ใช่เล่น แต่...ที่สำคัญเธอทำให้เลือดลมเขาพุ่งพล่านและรู้สึกเป็นผู้ชนะกำลังกุมอำนาจล้นเหลืออยู่ในมือ
“คนอย่างเธอจะมาทำอะไรให้ฉันได้ ฉันมีทุกอย่างเพียบพร้อม ไม่เคยต้องการอะไรจากคนอื่นๆ” ชายหนุ่มยกยิ้มหมิ่นๆ มุมปาก เขาหมุนตัวกลับเตรียมจะเดินหนี แม้จะติดใจหน้างดงามปานนางฟ้าของเจ้าหล่อนก็ตาม
“ขอร้องเถอะค่ะ!! จะเอานีชาไปต้มยำทำแกงที่ไหนเมื่อไรก็ได้ ขอแค่คุณปล่อยแด๊ดนีชา” เสียงวิงวอนแหบพร่า เรือนกายสั่นระริกไม่ใช่เพราะความหนาวแต่เป็นเพราะกำลังร่ำไห้อย่างหนัก
ที่ไหน? เมื่อไร ยังไงก็ได้รึ? ความจริงผู้หญิงที่อยู่รายรอบตัวของเขาก็มีไม่ใช่น้อย ไม่จำเป็นต้องมาคว้าผู้หญิงข้างทางขึ้นมาเป็นนางบำเรอนี่นะ แต่มันก็น่าสนใจไม่ใช่น้อยไม่ใช่รึ ผู้หญิงตรงหน้านี่ดูท่าจะยังสดสะอาด แม้จะดูสกปรกมอมแมมแต่หลังเปลื้องผ้าเก่าๆ ปอนๆ นั้นออก เธอคงงดงามไม่ใช่เล่น...
“ตามมา... เข้าไปคุยข้างในดีกว่า ของนอกนี่มันหนาว อีกอย่างฉันยังไม่อยากเป็นข่าว” ชายหนุ่มพูดเสียงนิ่ง เขาเดินนำหน้านีรนาทไปช้าๆ หญิงสาวคลี่ยิ้มจนริมฝีปากอิ่มสั่นระริก แม้จะเป็นแค่ความหวังอันน้อยนิดเธอก็พร้อมและเต็มใจที่จะรับ เขาจะทำอย่างไรกับเธอก็ได้ จะใช้เธอเยี่ยงทาสก็จะน้อมรับเพื่อตอบแทนพระคุณผู้ให้กำเนิด