บทที่3.หิมะกับผ้าห่ม......

1396 คำ
“ค่ะ...” เธอพยักหน้ารับหงอยๆ “โอ!! ฉันไม่อยากคิดเลยว่าเธอต้องเสียอะไรบ้าง ทำไมต้องเอาตัวเองไปแลกกับคนชั่วอย่างไอ้แก่ขี้เมานั่น” เธอรู้กิจติศัพท์ของดิมิทรี เบนิคอฟ ดี เขาเป็นนักล่าและเป็นพญาหมีขาวผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่มีคำว่า ‘เมตตา’ “ช่างมันเถอะค่ะ ไม่ใช่สิ่งสำคัญ” เสียงอ่อนๆ เอ่ยแย้ง แม้ในหัวใจจะชุ่มโชกไปด้วยน้ำตา “นีชา...เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะ อย่าเอาตัวเองไปเสี่ยงแบบนั้น พ่อเธอเขาไม่เห็นคุณค่าหรอก มันก็ตีปีกสบายแฮไปสิ ที่ไม่ต้องติดคุกเพราะความสนุกของตัวเอง แต่กลับทำให้เธอลำบาก” “ไม่เลยค่ะมิส นีชาเต็มใจ คุณดิมิทรีไม่ได้น่ากลัวเหมือนกับข่าวลือหรอกค่ะ” “ฉันคงไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของเธอได้ใช่ไหม? นีชา ก็ได้แต่อวยพรเธอนั่นแหละ โชคดีแล้วกัน” สาวใหญ่ถอนหายใจจนหน้าอกอวบๆ ของเธอกระเพื่อม ดวงตาอ่อนโยนทอดมองนีรนาท เธอเห็นใจและสงสาร แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก เมื่อมันเป็นปัญหาภายในครอบครัวของหล่อนซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคนนอก “นีชากลับก่อนนะคะ ป่านนี้แด๊ดน่าจะถึงบ้านแล้ว” “หืม...เขาปล่อยตัวเลยเหรอ ไวจริง” เธอกดมุมปากยิ้มแหยๆ ยิ่งเร็วผู้ชายคนนั้นก็ยิ่งได้รับผลตอบแทน ที่เธอต้องใช้เวลาทำใจพอสมควร ความอดสูกำลังจะตราบนร่างกาย และมันจะฝังแน่นอยู่ในหัวใจของเธอจนสิ้นลมหายใจ...ไม่อาจลบเลือนได้เลย “ระวังตัวด้วยนะ แล้วไอ้เสื้อโค๊ทตัวนี้ทิ้งได้หรือยังล่ะ เจียดเงินมาซื้อใหม่เถอะนีชา มันเก่าแล้วก็เปื่อย อย่าประหยัดนักเลย ใช้เงินเพื่อตัวเองบางนะ...” เธอได้แต่ยิ้มรับ ถึงมันจะเก่าแต่มันก็ยังใช้ได้ดี ถึงมันจะถูกใช้งานมานานปี แต่เธอก็รักษาความสะอาด ไม่ได้สกปรกอย่างที่ผู้ชายคนนั้นมองเหยียดๆ ทุกครั้งที่เจอกัน หญิงสาวยิ้มอ่อนๆ แต่ก็ไม่ได้แย้งหรือคัดค้าน เธอเสียดายสตางค์ที่จะต้องใช้จ่ายไปกับสิ่งฟุ่มเฟือย ทั้งๆ ที่มีของพอใช้ได้อยู่ เหมือนเดิมทุกๆ วันที่นีรนาทจะต้องเดินไปนั่งดูแสงไฟเหนือยอดตึกห้างสรรพสินค้า มันเป็นความเคยชินไม่ว่าจะดึกดื่นเพียงไหน หรืออากาศจะหนาวจับใจ เธอชอบมองแสงไฟหลากสี ที่ประดับประดาไว้อย่างสวยงาม มันเป็นแสงสว่างในคืนอันมืดมิดและหนาวเหน็บ แต่มันเป็นกำลังใจให้คนไร้หนทางได้ก้าวต่อไปเมื่อยังมีแสงสว่างนำทาง แม้จะไม่ใช่ของตัวเองโดยตรง “มิส!! พวกเราตามหามิสอยู่ คุณดิมิทรีให้มารับตามข้อตกลงครับ” รถยนต์สีดำสนิท จอดเทียบทางเท้า กลุ่มชายฉกรรจ์3 นาย เดินลงมาและเอ่ยปากพูดกับเธอโดยตรง นีรนาทแค่นยิ้ม เธอค่อยๆ พ่นลมหายใจออกมาช้าๆ ประตูนรกเปิดอ้า รอให้เธอเดินเข้าไปแล้วใช่ไหม? เกล็ดหิมะบางๆ โปรยหล่นมาจากฝากฟ้าเหมือนกับหัวใจของเธอในเวลานี้ ที่หนาวเหน็บและเย็นเฉียบ ถึงเวลาที่เธอต้องชดใช้ตอบแทนความเมตตา!! ที่ผู้ชายคนนั้นหยิบยื่นให้ ยอมก้มหน้าเดินเข้าไปในนรก และถูกจองจำด้วยความอดสู จากนี้และตลอดชีวิต... “ค่ะ” เธอรับคำเสียงเย็นยะเยือก จบๆ ไปก็ดีเหมือนกัน เธอจะได้ไม่ต้องมาคอยระแวง ว่าตัวเองจะต้องถูกปู้ยี่ปู้ยำแบบไหน? เมื่อไร? กลุ่มคนเดินนำหน้า เขาเปิดประตูรถยนต์ให้นีรนาทก้าวขึ้นไปนั่งตอนหลังตัวรถ เธอซุกตัวนั่งกับเบาะนุ่มนิ่ม ความโอ่อ่าของรถยนต์ที่ไม่คุ้นชิน เพราะความอัตคัดของตัวเอง หัวใจสั่นกราวเหมือนกระดิ่งน้อยๆ ยามต้องสายลมแรง มันสั่นไหวและปลิดปลิว ส่งเสียงสะท้อนก้อง ดังกรุ๊งกริ๊งยาวๆ เม็ดเหงื่อไหลซึมเต็มหน้าผากโหนกนูน แม้อากาศจะเย็นเฉียบแต่นีรนาทกลับรู้สึกว่าตัวเองร้อนวูบวาบเพราะความหวาดกลัว “ใจเย็นๆ นีชา ไม่ต้องกลัว ไม่ถึงตายหรอกแค่เสียตัวเอง” เธอกล่าวปลอบใจตัวเอง เป็นคำพูดหยามหยันที่ได้ยินได้ฟังยังเจ็บจี๊ดๆ แปลก!! รถยนต์จอดสนิทหน้าตึกสูงระฟ้า ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้า ‘เบนิคอฟมอลล์’ เท่าไร เธอแหงนมองตัวตึกสูงระฟ้า เกล็ดหิมะล่วงหล่นใสหน้าจนรู้สึกเย็นจับขั้วหัวใจ “เชิญครับมิส!! ทางนี้ครับ” ชายชุดดำที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่ม เขาผายมือบอกทางให้กับนีรนาท แล้วจึงเดินนำหน้า สายตาหลายคู่เหลือบมองผู้หญิงคนหนึ่งที่การแต่งตัวขัดกับสถานที่ เสื้อเก่าๆ ปอนๆ การแต่งกายที่ไม่เหมาะกับสถานที่โอ่อ่าและมันทำให้นีรนาทรู้สึกอาย หน้าเธอร้อนฉ่าด้วยความอายสุดขีด ประตูลิฟต์ปิดลง ช่วยให้เธอหายใจหายคอสะดวกขึ้น เธอเหม่อมองทิวทัศน์ผ่านกระจกใส ที่เคลื่อนที่ขึ้นไปยังจุดหมาย ทุกอย่างรอบตัวมีแต่ความเงียบและความเงียบ ผู้ชายที่นำเธอมาเหมือนหุ่นยนต์มากกว่าคนมีชีวิต เขาทำงานตามคำสั่งมหาอำนาจด้วยความแข็งขัน หน้าเย็นชาและไร้จิตใจแบบสิ้นเชิง “มิสต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าและทำความสะอาดร่างกายก่อนครับ ผมเตรียมทุกอย่างไว้ในห้อง มิสมีเวลา สามสิบนาที ก่อนที่ท่านจะมาถึง” นีรนาทฟังเงียบๆ เธอไม่ได้แย้งหรือทักท้วง หลังพูดจบ ชายผู้นั้นก็ถอยหลังออกจากห้องหรูๆ ที่เขาพาเธอมาทิ้งไว้รอเวลาถูกเชือด!! ปลายนิ้วเล็กๆ เกลี่ยไล้ไปตามผิวผ้านุ่มๆ ของชุดเดรสสีขาวมุก ที่วางพาดอยู่บนที่นอนหนานุ่มกว้างใหญ่ ขนาดคิงไซส์ สวย!! เธอยอมรับว่ามันสวยเท่าที่เธอเคยเห็น เพราะสิ่งจำเป็นของเธอไม่ใช่เสื้อผ้าแพรพรรณ เพราะในชีวิตของเธอต้องดิ้นรนปากกัดตีนถีบมาตั้งแต่เด็กๆ สิ่งของฟุ่มเฟือยจึงไม่เคยอยู่ในความต้องการ แม้บางครั้งนึกอยากได้อยากมีตามประสาผู้หญิงบ้าง ก็ต้องตัดใจเพราะสภาพคล่องทางการเงินของเธอไม่มี ต้องเก็บออมสตางค์ที่หามาด้วยความยากลำบากเก็บไว้ใช้จ่ายเกี่ยวกับการเรียน ยิ่งแม่มาด่วนจากไปด้วยแล้ว ภาระหนักๆ เหล่านั้นตกลงมาอยู่บนสองบ่าเธอแทบทรุด เลยต้องตัดความต้องการส่วนตัว เอาสตางค์เหล่านั้นมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และดูเหมือนว่าจะละลายหายไปในขวดเหล้าเป็นส่วนใหญ่ เธอเหลือบดูเวลา แล้วจึงก้มหน้าก้มตาปลดชุดที่มีแต่คนดูถูกกองไว้ข้างตัว พับเก็บและซุกไว้ เธอไม่คิดจะทิ้ง!! สายน้ำอุ่นซ่านโปรยหล่นมากจากฝักบัวขนาดใหญ่ เธอรีบอาบน้ำชำระล้างร่างกาย และเป็นการอาบน้ำครั้งแรกที่ตัวเองชุ่มฉ่ำและไม่ต้องประหยัดน้ำ เมื่อไม่ต้องเจียดเงินมาจ่ายค่าไฟและค่าน้ำ ผิวกายขาวผ่องเป็นประกาย หลังอาบน้ำล้างตัวอย่างชุ่มปอด เธอยกผ้าเช็ดผมสีดำนุ่มเนียน เหลือบสายตามองเวลา แล้วจึงถอนหายใจแรงๆ เหลืออีก 10 นาที...ก่อนที่เธอจะถูกเชือด... เวลากระชั้นและใกล้จะหมดลง มือที่กำลังวาดลิปสติกสีอ่อนๆ บนขอบปากสั่นจนเจ้าตัวยังรู้สึก แม้จะเตรียมใจกับการกระทำแบบนี้ของตัวเองมาบ้าง แต่เมื่อใกล้ถึงเวลาจริงๆ เธอนึกอย่างวิ่งหนีเหมือนกัน ทำไม? ต้องเป็นเธอที่ต้องมารับผิดชอบกับความผิดที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ทำไมคนที่ก่อเรื่องขยันสร้างเรื่องให้เธอต้องคอยตามแก้อยู่เรื่อย...ทำไมล่ะทำไม? เสียงถามที่ดังก้องอยู่ในหัว มันมีคำตอบชัดที่เธอเองก็รู้อยู่แก่ใจดี เพราะบุญคุณค้ำหัว เพราะเขาเป็นผู้ให้กำเนิด เธอไม่มีทางปฏิเสธความจริงข้อนี้ได้ เธอก็ต้องก้มหน้าทนต่อไป!! “แด๊ด...คงไม่ทำให้นีชาต้องสูญเสียอะไรอีกแล้วใช่ไหมคะ?” เป็นคำถามที่เธอก็รู้คำตอบดี ไม่มีทางที่อิวานจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เขาก็ยังคงทำตัวเช่นเดิม และเธอก็ต้องก้มหน้ารับกรรมต่อไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม