“รถเป็นอะไรเหรอหนูข้าว” “รถสตาร์ตไม่ติดค่ะลุง เมื่อเช้ายังขับมาดีๆ อยู่เลย” พาขวัญบอกหน้ามุ่ย “หนูข้าวลงมาก่อน เดี๋ยวลุงดูให้” พอลุงเสริมยื่นมือเข้ามาช่วย พาขวัญก็รีบลงจากรถ พร้อมกับภาวนาให้ลุงเสริมทำรถเธอให้ติด ก่อนที่ใครอีกคนจะลงลิฟต์มาเจอ “แบตฯ หมดน่ะหนูข้าว ดูไฟตรงนี้สิ” “แย่จัง” พาขวัญบ่นอย่างไม่สบอารมณ์ และเป็นเวลาเดียวกันกับเสียงของคนที่ก่อนหน้านี้ชวนเธอให้ไปรถคันเดียวกันดังขึ้นจากทางด้านหลัง “รถเป็นอะไรเหรอ” “รถเป็นยานพาหนะค่ะ” เธอรวนใส่เมื่อหันไปดูก็พบว่ามุมปากเขายกยิ้ม ประมาณว่ามีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น “แหม วันนี้คุณอารมณ์ดีทั้งวันเลยนะข้าว ตั้งแต่ได้ดอก...” หากไม่ทันที่เตชน์จะพูดจบ พาขวัญก็ชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน ด้วยกลัวว่าลุงเสริมรู้แล้วจะไปบอกป้าแหวน เมื่อป้าแหวนรู้ คนทั้งโลกก็รู้นั่นแหละ “พอดีรถฉันแบตฯ หมดน่ะค่ะ ถ้าไม่รบกวนจนเกินไป ฉันขอติดรถท่านรองฯ ไปลงที่สถา