ขณะนั้นเอง...
นุชนาฏลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วไม่พบคนนอนข้าง ๆ จึงเดินออกมานอกห้อง นางอยู่ในชุดนอนหรูราคาแพง แน่ล่ะ สำหรับนางแล้วแพงไปทุกส่วนนั่นแหละ
ภาพที่นางเห็นทำให้นางรู้สึกขัดใจ รีบก้าวยาว ๆ ลงมายังชั้นล่าง ยิ่งออกมาภายนอก ยิ่งได้ยินเสียงพูดคุยระหว่างรณภพผู้เป็นสามีกับคีตกานต์ ว่าที่ลูกสะใภ้
แต่แล้ว เสียงพูดคุยสนุกสนานดังกล่าวพลันเงียบลงเมื่อนางทัก
“สนุกสนานอะไรกันคนแก่กับเด็กสาว”
น้ำเสียงของนุชนาฏ เหมือนซ่อนนัยบางอย่างเอาไว้เสมอ เช่นเดียวกับสายตาของนาง มองทั้งคู่อย่างตำหนิ
“คุณแม่” หญิงสาวหลบสายตา
สีหน้าของรณภพเจื่อนลง ไม่ตอบโต้ใด ๆ ทั้งสิ้น
นางจะว่าอะไรก็เรื่องของนาง ปล่อยให้นางวางอำนาจอย่างที่นางคุ้นเคย ปกติก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว
ใจของรณภพอยากจะตอบโต้นุชนาฏอยู่เหมือนกัน แต่ก็แค่คิด เขาตกอยู่ในสถานะเป็นรอง หรือตกอยู่ในฐานะที่ไม่ต้องตอบโต้ใด ๆ มายาวนานเกินไป
“คุณเป็นบ้าอะไรถึงได้มานั่งดื่มนั่งคุยกับหนูกานต์”
นุชนาฏต่อว่า ระหว่างที่พากันเดินกลับเข้ามาภายในห้องนอน
“ผมผิดเอง”
รณภพกล่าวเสียงเบา การยอมรับผิดน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเขา เอาความผิดเข้าตัวทั้งหมด เป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด
“แก่แล้วแก่เลยนะคุณเนี่ย ทำอะไรไม่รู้จักคิด”
นุชนาฏตำหนิ น้ำเสียงยังคงวางอำนาจเหนือรณภพเช่นเดิม มันเป็นความคุ้นเคยของนางนั่นเอง
/////////////////
ในวันแต่งงานระหว่างปาพจน์กับคีตกานต์ ภาพที่เห็นภายนอกผ่านสื่อซุบซิบต้องเรียกว่าดูดีทีเดียว
ระดับลูกชายของท่านประธานผู้บริหารสายการบินนางฟ้าแอร์ ไหนเลยจะเป็นเรื่องเล็ก
มีแต่คนชมว่า นุชนาฏ โดดเด่นกว่าผู้เป็นเจ้าสาวเสียด้วยซ้ำ ทำเอานางหน้าบาน ชื่นชอบกับคำชมเหล่านั้น
นักธุรกิจ ข้าราชการระดับสูง นักการเมืองระดับชาติ ถูกเชื้อเชิญเข้ามาร่วมในงานฉลอง บนโรงแรมหรูมีระดับ
มันคงเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของครอบครัว
นี่เป็นอีกวันหนึ่งที่รณภพต้องฝืนตัวเองอีกครั้ง การได้ควงคู่นุชนาฏ สำหรับคนทั่วไปแล้ว ต้องเรียกว่าเป็นบุญวาสนาอย่างยิ่งยวดแล้ว จะมีใครรู้บ้างล่ะว่า ความงามของนุชนาฏ ก็แค่ชื่นชมได้แค่สายตาเท่านั้น ไม่อาจแตะต้องใด ๆ ได้อย่างที่ควรจะเป็น
มันจะมีความหมายอะไร