“คุณพ่อคะ”
รณภพสะดุ้งเฮือก ใจเต้นรัว ยอมรับว่าหน้าไม่อายมาก ๆ ที่มาด้อม ๆ มอง ๆ แบบนี้ มันไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสมแม้แต่น้อย
ครั้นจะเดินหนีดื้อ ๆ ก็เสียฟอร์มอีก สุดท้ายจำต้องหันกลับไปทางต้นเสียง
หัวใจของรณภพเต้นรัวเร็วผิดจังหวะ เมื่อได้เห็นคีตกานต์เต็มสองสายตา รูปร่างของหญิงสาวผู้มีฐานะเป็นสะใภ้สมบูรณ์แบบอย่างผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เคยเห็นในชุดธรรมดาว่าเซ็กซี่แล้ว ในชุดนอนเนื้อผ้าบางเบาสุดเซ็กซี่ แม้ว่าเธอจะมีชุดคลุมเอาไว้ แต่ก็ไม่อาจปกปิดความหมิ่นเหม่เอาไว้ได้ นมเป็นลูก ๆ เอวคอดกิ่ว
“เหงาเหรอคะ”
เธอถาม น้ำเสียงอาจจะฟังดูธรรมดา มีเพียงแค่แววตาเท่านั้นที่เหมือนกับจะมองรณภพอย่างท้าทายมีความหมาย
มันมีประกายบางอย่างซุกซ่อนอย่างหมิ่นเหม่ หรือจงใจก็ไม่อาจรู้ได้
“อืม”
ในมือของหญิงสาวคีบก้านแก้วไวน์ เพิ่งสังเกตเห็นว่า ใบหน้าของหญิงสาวระเรื่อ อาจเป็นเพราะฤทธิ์ของไวน์ก็เป็นได้
“ถ้าไม่รังเกียจ ดื่มไวน์เป็นเพื่อนหนูได้ไหมคะ”
“ตาพจน์ล่ะ ไม่มาเหรอ”
“ไม่ค่ะ”
“อืมม”
รณภพพยักหน้า รู้สึกเกรงใจ ขณะที่แววตาของคีตกานต์เวลานี้เปล่งประกายท้าทาย เสื้อคลุมที่หล่อนสวมอยู่ชะเวิ้กชะว้าก จนสามารถมองเห็นร่องอกโนบราในชุดนอนเซ็กซี่ผ้าเนื้อบางเบา
แรงปรารถนาทางเพศของรณภพเหมือนพร้อมจะระเบิด แกนกลางลำตัวเริ่มพองโตขึ้น
“ในห้องคงไม่เหมาะนะ นั่งคุยข้างนอกดีกว่า”
“ได้สิคะ”
คีตกานต์เข้าใจสถานการณ์ กุลีกุจอหมุนร่างกลับเข้าไปในห้องแล้วกลับออกมาอีกครั้งพร้อมกับขวดไวน์และแก้วอีกใบ
มุมนั่งเล่นด้านนอกห้อง ไม่ใช่ที่ลับสายตา เป็นมุมที่คีตกานต์นั่งเล่นอยู่กับปาพจน์นั่นเอง สามารถมองออกไปยังภายนอกได้อย่างชัดเจน
สะใภ้สาวรินไวน์ส่งให้ผู้เป็นพ่อสามี
“ขอบใจมากนะ”
เพียงนิ้วได้สัมผัสนิ้วเหมือนจงใจจากฝ่ายหญิง ทำให้หนุ่มใหญ่ผู้ยังมีเลือดเนื้อความต้องการเหลือเฟือเกิดอาการวูบวาบจากข้างใน แกนกายถูกกดบีบเข้าหากัน ไม่อย่างนั้น คงผงาดตั้งชันเห็นชัด เพราะเขาไม่ได้นุ่งกางเกงใน
“หนูรู้ว่าคุณพ่อเหงา”
รณภพยกแก้วไวน์ดื่ม ก่อนตอบเสียงเบา “มาก”
“หนูเข้าใจคุณพ่อค่ะ ก็คงเหมือนคุณพ่อหนูนั่นแหละค่ะ น่าเสียดายที่ท่านเสียตั้งแต่หนูยังเล็ก”
รณภพไม่ได้ละลาบละล้วงถึงเรื่องส่วนตัวของคีตกานต์ รู้แค่คร่าว ๆ ว่าคุณแม่ของหล่อนแต่งงานใหม่ แต่ไม่รู้รายละเอียดมากกว่านั้น
“ท่านเป็นอะไรเสีย”
“ดื่มหนักค่ะ”
“เสียใจด้วยนะ”
“ท่านไปดีแล้วค่ะ”