EP 6

1130 คำ
“หนึ่งๆ ๆ ตื่นได้แล้วลูก จะเที่ยงแล้วนะ ทำไมต้องเป็นถึงขนาดนี้ด้วยกับอีแค่ผู้หญิงคนเดียว” ผู้แม่เข้าไปเขย่าร่างลูกชายแรงๆ หัวที่หนักอึ้งกับผมชี้โด่เด่จึงค่อยๆ ขยับอย่างยากเย็น แถมต้องตั้งสติเป็นนานกว่าจะรู้ว่าตัวเองอยู่ในห้องไม่ใช่ที่ผับแล้ว “คุณแม่! กี่โมงแล้วครับ ผมมานอนอยู่นี่ได้ยังไงกันครับ” เขายกสองมือกุมขมับเพราะปวดหัวตึบๆ “เพื่อนสามคนของเราหิ้วปีกมาส่งตามเคยน่ะสิ ถามได้! จะเที่ยงแล้วแม่ว่าตื่นเถอะ เดี๋ยวแม่จะให้น้อยยกกาแฟแก่ๆ มาให้สักกา จะได้สร่างสักที” ไม่นานสิ่งที่แม่บอก ก็มาวางอยู่บนปลายเตียงแล้ว นั่นช่วยให้อาการปวดหัวหนึบๆ จะหายเป็นปลิดเลยทีเดียว แต่เขาก็ยังไม่อยากพากายลุกไปไหน จึงยังคงทิ้งตัวลงนอนไปกับเตียงอย่างเบื่อหน่ายอยู่ดี “หนึ่ง! ทำไมจะต้องทำร้ายตัวเองแบบนี้ด้วยล่ะลูก มันยิ่งจะเป็นการตอกย้ำให้ฝ่ายโน้นรู้ว่าคิดไม่ผิดนะ ที่เลือกตาเป้ไปเป็นคู่ครอง ทำไมหนึ่งไม่ทำให้เขาเสียดายเราล่ะ หนึ่งไม่ได้มีอะไรด้อยกว่าตาเป้เลยนะ” แม่ทรุดกายลงนั่งกับเตียง แล้วเตือนสติด้วยวิธีนี้ เพราะรู้ดีว่าจะทำให้ลูกฮึดสู้ขึ้นมาได้ไม่ยากเย็น ด้วยชีวิตจะต้องเผชิญกับการแข่งขันมาตลอด โดยเฉพาะกับลูกชายบ้านน้อยวัยไล่เลี่ยกัน ต่างก็คอยฟาดฟันกันไม่หยุดหย่อน โดยมีผู้พ่อและลุงเป็นคนสร้างเงื่อนไข เพื่อให้ได้คนที่แกร่งจริงๆ ไปเป็นคนสานต่อกิจการในรุ่นต่อไป “ผมถึงได้ไม่เข้าใจไงครับคุณแม่ ว่าเอเลือกไอ้เป้ได้ยังไง ในเมื่อผมก็ไม่ได้ด้อยกว่ามันเลย” คนนอนอย่างอ่อนแรงอยู่กับเตียง ส่งเสียงเนือยๆ ไปหาแม่ เพราะยังงุนงงและหาคำตอบไม่ได้ ส่วนแม่ก็ไม่อาจจะบอกเหตุผลแท้ได้ว่าคืออะไร ด้วยไม่อยากให้ลูกเกลียดและไม่พอใจพ่อไปมากกว่าที่เป็นนัก จึงพยายามหาเรื่องอื่นขึ้นมาอ้างแทน “เรื่องหัวใจบังคับกันไม่ได้นะลูก คิดเสียว่าหนึ่งกับฝ่ายโน้นไม่ได้เกิดมาเป็นคู่กัน จะสบายใจกว่ามั้ย แม่ไม่อยากเห็นหนึ่งเมาแบบนี้เลย อย่าลืมว่าหนึ่งกำลังจะก้าวขึ้นไปทำหน้าที่สูงๆ รับผิดชอบชีวิตคนงานนับพันนะลูก ป่านนี้คู่แข่งลูกไม่ตีปีกพับๆ ด้วยความดีใจแล้วเหรอ ที่เห็นหนึ่งเป็นแบบนี้ กลางวันทำงาน กลางคืนเมาไปนานๆ ร่างกายจะย่ำแย่เอานะลูก ภาพพจน์เราก็จะเสียในสายตาผู้บริหารนะ ตัดใจซะเถอะ มีผู้หญิงมากมายรอมาเป็นคนรักของหนึ่ง รอให้หนึ่งเลือก จะเอาดีกว่าคนเดิมร้อยเท่าก็ยังได้ หรือถ้าหนึ่งขี้เกียจหา แม่จัดการให้ก็ได้ จะหามาให้เลือกวันละสิบคนยังได้เลย” เมื่อลูกไม่ขยับแม่เลยต้องกระตุ้นอีก “ไม่ครับคุณแม่ ผมยังไม่พร้อมจะมีใคร ผมต้องการเวลา ต้องการคนเหมาะสมสำหรับผมจริงๆ เท่านั้น ถ้าไม่มีหรือหาไม่ได้ ผมก็จะอยู่อย่างนี้ตลอดไปครับ” เพราะเขาไม่คิดว่าจะรักใคร เท่าผู้หญิงชื่อปิยธิดาได้อีกแล้วในชีวิต และเพียงแค่คิดถึงชื่อนี้ ก็ทำเอาหัวใจแทบจะแตกสลายลงให้ได้ จนต้องรีบดีดตัวลุกจากเตียงไปอาบน้ำอาบท่า เพื่อเตรียมตัวไปคุยธุระและกินมื้อเย็นกับว่าที่ลูกค้า ซึ่งจะปล่อยให้หลุดมือไม่ได้เด็ดขาด แม่ถึงกับยิ้มออกมาเมื่อเห็นลูกมีอาการเจ็บทางใจ แต่ก็ไม่ทิ้งงานอย่างที่หวาดกลัวไว้   ตอนสบช่องต้องเอาคืน   “คุณแม่คะ หนึ่งไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” ปราณปริยาวดีกระซิบบอกแม่ แล้วรีบพาร่างอรชรในชุดราตรียาวสีควันบุหรี่มันวาว เรียบหรู ด้านหน้าจับเดรปแนวตั้งจากเอวขึ้นไปหาอก ประดับด้วยผ้าลูกไม้ปักเลื่อม ด้านหลังเผยความเซ็กซี่ด้วยผ้าลูกไม้ซีทรูเห็นแผ่นหลังขาวนวลเนียน และมีสร้อยเพชรเม็ดเล็กๆ ประดับคอระหงไว้แต่พองาม ทว่าทั้งหมดนี้เจ้าตัวไม่ได้อยากจะใส่สักนิด เพราะกลัวจะสวยเกินหน้าเกินตาเจ้าของงาน ที่ปราณปริยาวดีไม่อยากมาสักนิด ถ้าไม่ติดที่แม่ลากมา กอบก็พลอยติดร่างแหมาด้วย แถมถูกออกคำสั่งว่าให้นั่งคู่กับเจ้านายห้ามหนีไปไหน เพราะในงานปานไม่ใคร่จะรู้สึกใครมากพอที่จะมานั่งร่วมโต๊ะและคุยกันอย่างถูกคอได้ ด้วยบ้านใหญ่มักจะปล่อยข่าวความร้ายของบ้านน้อยไปให้เพื่อนๆ และคนรู้จักรู้ทั่วกันแล้ว “รีบไปรีบมานะหนึ่ง เห็นหรือเปล่าไม่ยอมเชื่อที่แม่บอกให้เข้าห้องน้ำก่อน เป็นไงล่ะต้องแหวกผู้คนในงานไปอีก” ปราณปริยาวดีไม่ได้ว่าอะไรนอกจากถือกระเป๋าทรงรูปหัวใจที่ประดับมุกรอบเดินเบียดผู้คนออกไปอย่างยากลำบากอย่างแม่ว่า เพราะเจ้าภาพผู้หญิงใหญ่เชิญคนนับพัน ห้องน้ำที่ใกล้ห้องจัดเลี้ยงเกือบทั้งหมดล้วนแล้วแต่มีผู้คนรออยู่เต็ม จึงเลี่ยงเดินไปทางเข้าที่ติดกับผับ ซึ่งเห็นว่ามีห้องน้ำตั้งแต่ตอนเดินเข้าประตู ล็อบบี้มาแล้ว “อุ๊ย!!!” กระเป๋าในมือมีอันต้องกระเด็นตกไปอยู่กับพื้น เมื่อถูกร่างสูงใหญ่เดินมาชนอย่างจัง ปราณปริยาวดีรีบก้มเก็บของสำคัญ ที่ไม่ควรให้ใครเห็นอย่างยิ่งมากำไว้ ส่วนคู่กรณีก็รีบก้มลงเก็บของอื่นๆ ให้ “ขอโทษนะครับผมไม่ทันได้มอง” สายตาทั้งสองคู่ต่างจ้องมองกันและกันด้วยความคาดไม่ถึง ปราณปริยาวดีได้สติก่อน จึงรีบรับกระเป๋าและยัดของในมือใส่ก่อนอื่น แล้วรับของชิ้นอื่นๆ จากมือเขาอย่างเร่งรีบ และอยากจะหนีไปให้ไกลๆ คนตรงหน้าเหลือกำลัง “ไม่ยักรู้นะว่าคุณจะมางานนี้ด้วย บ้านใหญ่เชิญหรือหน้าด้านมากันเองล่ะ” พลาธิปละทิ้งคราบสุภาพบุรุษเมื่อครู่ออก หลงเหลือแต่ผู้ชายปากจัด ไร้มารยาทในความคิดของปราณปริยาวดีเอาไว้ พร้อมกับส่งประโยคที่ไม่ใคร่จะมีใครอยากได้ยินนัก ปราณปริยาวดีไม่คิดจะตอบโต้ เมื่อได้ข้าวของจากมือเขาหมดแล้วก็หันหลังกลับทันที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม