“งานมีเข้ามาเรื่อยๆ นะตั้งแต่เราโปรโมททางเฟสบุ้คทางเวปน่ะ เสียแต่ไม่มีคนทำงานหลัก”
“เราจะเป็นหลักให้ก็ได้หนึ่ง ถ้ารายได้ดีพอๆ กับรำที่ร้านอาหาร เราจะลาออกมาทำจริงๆ จังๆ เลย ถ้าเรามีงานป้อนให้พวกรำเสม่ำเสมอ ปัญหาเรื่องคนก็หมดไป ส่วนหนึ่งก็ทำเรื่องพีอาร์แล้วกัน แล้วค่อยมาดูกันอีกที ว่ามันมีแนวโน้มไปทางดีขึ้นหรือเปล่า”
“อื้ม! เอางั้นก็ได้ เราจะได้รับงานเต็มที่เลย”
ปราณปริยาวดีดีใจไม่น้อย ที่จะไม่ต้องเสียลูกค้าเมื่อเพื่อนอาสาแข็งขังขนาดนี้
“หรือว่าเราจะมาลงหุ้นกันดีล่ะดา แบ่งกันทำคนล่ะหน้าที่ อันไหนใครไม่ไหว ไม่ทันก็ค่อยช่วยกัน ถ้าดาสนเราก็มานั่งคิดรายละเอียดลึกๆ ว่าจะต้องแบ่งจ่ายอะไรยังไง คิดไว้ให้รอบคอบแต่แรก
ใครชอบตรงไหนไม่ชอบตรงไหน รับได้รับไม่ได้ก็บอกมาตอนนี้ จะได้ไม่มีปัญหาทีหลังไง หนึ่งก็จะได้สบายใจด้วย ถ้าดามีรายได้เป็นกอบเป็นกำ”
เพราะเพิ่งจะคิดขึ้นได้ในเรื่องนี้ ดาริกาหันมาหาเพื่อนแล้วครุ่นคิดนิดหนึ่งก่อนจะตอบออกไปตรงๆ
“ก็น่าสนนะ แต่เราจะมีปัญหาเรื่องเงินน่ะสิหนึ่ง ห้องเรียนนี่หนึ่งก็ลงทุนตั้งหลายแสน กว่าจะคืนทุนก็คงจะอีกนาน เรามาหุ้นโดยไม่ได้มีเงินก้อนมาร่วมด้วย ก็ไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่”
“โธ่เอ้ย! เรื่องแค่นี้เอง เราก็ทำเป็นเช่าห้องเอาสิ ราคาก็ตามปกติทั่วไป แล้วมาหารกันคนละครึ่ง เหมือนค่าใช้จ่ายอื่นๆ ไงล่ะ ถ้าสนใจเราลองลิสดูก่อนว่ามีอะไรบ้าง”
แต่ปราณปริยาวดีกลับเห็นเป็นเรื่องน้อยนิด และนั่นทำให้ดาริกายิ้มออกมาได้ไม่ยากนัก
รถหรูถูกแก้วควบเข้ามาจอดหน้าบันไดของคฤหาสน์หลังโต ปราณปริยาวดีกับสุดาลงจากรถได้ ก็รีบอ้อมไปช่วยแก้วหิ้วถุงสารพัดเข้าไปในครัว หลังจากใช้เวลาทั้งบ่ายให้กับการจับจ่ายของเข้าบ้าน
ปราณปริยาวดีแยกของใช้ของตัวเองและสามีออก แล้วก็อดลำบากใจไม่ได้ หากจะต้องเอาเข้าไปเก็บในห้อง ที่มีร่องรอยของเขากับคู่รักนอนกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันแทบจะทุกค่ำคืน
“ป้าสุคะ หนึ่งฝากช่วยเอาของพวกนี้ขึ้นไป เอ่อ...”
ปราณปริยาวดีเข้ามากระซิบเบาๆ ข้างสุดา พร้อมกับยกถุงขึ้นให้ดู สุดายิ้มออกมาด้วยความเข้าใจและเห็นใจ เพราะถ้าเป็นตัวเองอย่าว่าแต่ไม่อยากจะเข้าไปในห้องนั้นเลย
แค่ได้เห็นแม่คู่นอนของผัวมาเดินเชิดหน้าลอยตาอยู่ร่วมบ้านสุดาก็ไม่คิดว่าจะทานทนได้แล้ว
“ป้าจัดการให้เองค่ะ คุณหนึ่งไม่ต้องห่วง”
“จัดการอะไรกันจ๊ะแม่สุ มาก็ดีแล้ว จะได้ออกไปดูผลไม้ให้ฉันหน่อย ยังไม่ได้ไปจ่ายตลาดใช่ไหมล่ะ”
พิไลพรรณเดินเข้ามาในครัวแล้วคุยกับแม่บ้านแต่ไม่ได้หันไปหาสะใภ้แม้แต่หางตา
“ค่ะคุณผู้หญิง กะว่าเก็บของเสร็จก็จะไปค่ะ”
“รีบไปรีบมาด้วยนะ ตาหนึ่งนัดเพื่อนมาคุยงานอีกแล้ว จะกินมื้อเย็นด้วย ใครจะกินอะไรแม่สุโทรไปถามกันเองก็แล้วกัน ส่วนของฉันทำเมนูปลาให้สักอย่างเหมือนเดิมก็ได้ ไปตอนนี้เลยสิ จะได้ไม่เสียเวลา ใครอยู่ก็เก็บไปสิ หรือจะแห่กันไปจนเต็มตลาดอีก”
สิ้นคำประชดประชันใส่ ผู้เป็นแม่สามีก็ออกไป สะใภ้ได้แต่ถอนหายใจน้อยๆ ออกมาด้วยความหนักอก สุดาดึงมือบางมาตบเบาๆ สองสามครั้งเพื่อให้กำลังใจ
แล้วก็รีบปลีกไปเรียกแก้ว ปราณปริยาวดีจึงเก็บข้าวของในถุงเข้าตู้อยู่เงียบๆ แล้วหิ้วถุงของใช้เดินขึ้นชั้นบนเงียบๆ เช่นกัน
แทนที่จะเอาของสามีไปเก็บ แต่หญิงสาวก็ยืดเวลาออกอีกด้วยการเดินเข้าห้องตัวเอง อาบน้ำท่าเปลี่ยนผ้าชุดใหม่ จัดของใช้ใส่ตู้อย่างไม่รีบร้อนเพราะยังไงก็ต้องรอสุดากลับจากตลาด
ถึงจะรู้ว่าต้องทำเมนูอะไรต้อนรับเพื่อนสามีอยู่ดี สุดท้ายถุงที่วางอยู่บนเตียงก็ถูกมือบางหิ้วไป เพราะคงจะเลี่ยงต่อไปไม่ได้แล้ว
สภาพห้องเรียบร้อย ด้วยน้ำมือการเก็บกวาดของน้อยเมื่อเข้ามา ร่างบางรีบเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า เปิดลิ้นชักเอาถุงเท้าสองโหลไปจัดเก็บไว้อย่างเป็นระเบียบ
ของใช้ที่ต้องจัดไว้ตู้เครื่องแป้ง ก็วางไว้รวมกับของเดิม ที่ใกล้จะหมด แล้วก็เดินไปวางของที่จะต้องใช้ในห้องน้ำ
“เป็นเมียน่ะ เราต้องทำหน้าที่ให้ครบถ้วน ของใช้ผัวตั้งแต่หัวจรดเท้า ต้องจัดหาไว้ให้อย่าขาด ผ้าเช็ดเนื้อเช็ดตัวหรือเสื้อผ้า ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรง ก็จัดมาวางไว้ให้เขาที่เตียง ตัวเองอาบน้ำก่อนก็มีน้ำใจบีบยาสีฟันใส่แปรงไว้ให้ผัวด้วย เรื่องเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ล่ะ จะทำให้ผัวรักผัวหลง และเขาจะได้ไม่ตำหนิเราว่าไม่ดูแลผัวเขาจะหาว่ายายไม่สอน”
คำบอกของยายเมื่อวันสองวันลอยมาตอกย้ำ ประหนึ่งยายล่วงรู้ว่าหลานกำลังมีปัญหาในชีวิตคู่ก็ไม่ปาน อยากจะเมินเฉยต่อคำสอนยายเหลือกำลัง เมื่อวาดภาพว่าสามีบำรุงบำเรอคู่นอนยังไงบ้าง มุมไหนของห้องบ้าง
แต่ด้วยความเป็นคนว่านอนสอนง่าย และไม่อยากให้ใครมาตำหนิได้ โดยเฉพาะแม่ผัวที่รู้อยู่แก่ใจว่าสะใภ้กับลูกชายนอนคนละห้อง
มือบางจึงตัดสินใจจะหยิบแปรงกับยาสีฟันมา หมายจะบีบใส่เอาไว้ให้ ครั้นก็ถามตัวเองว่า แล้วอันไหนเป็นของสามีและอันไหนเป็นของแม่คู่นอนกันล่ะ ไวเท่าความคิดมือบางวางทุกอย่างลงที่เดิม
แล้วเดินออกจากห้องน้ำทันควัน ว่าจะออกจากห้องแล้วเชียว แต่ก็เดินไปเปิดตู้แล้วคว้าผ้าขนหนู กับชุดที่คิดว่าเขาจะใส่ตอนเย็นมาวางไว้ปลายเตียงให้ แล้วเดินกลับไปคว้าชุดนอนมาวางไว้อีก
“อุ๊ย!!!”
ร่างบางสะดุ้งสุดตัว เมื่อหันมาแล้วเห็นเจ้าของห้องเปิดประตูพอดี ตั้งสะติได้ก็รีบเดินเลี่ยงเขา เพื่อจะออกจากห้อง แต่ร่างสูงก็ขยับไปขวางไว้พร้อมส่งยิ้มเยาะเย้ยให้ก่อนจะเอ่ยด้วยประโยคกวนๆ