EP 2 พยาบาลสาวคนนั้น

1201 คำ
“สวัสดีคับคุณยาย” อิสรภาพยกมือไหว้นอบน้อม ก่อนปล่อยให้คนเป็นพ่อออกไปส่ง คุณยายที่หน้าบ้าน ซึ่งคนขับรถยืนคอยอยู่ข้างเมอร์เซเดสเบนซ์คันใหม่เอี่ยมเพิ่งถอดป้ายแดงไปได้ไม่นาน ก่อนที่เด็กชายจะเดินไปหยิบหนังสือการ์ตูนมาอ่านเล่นตามประสา โดยไม่ทันคิดเลยว่าผู้หญิงที่ชื่อ ‘มนตรา’ นั้น จะก้าวเข้ามาเปลี่ยนชีวิตเขาและบิดา... ไปตลอดกาล! 16.30 นาฬิกา... มนตราแอบทำหน้าปั้นยากขณะก้าวลงจากรถคันหรูของคุณหญิงผู้มีพระคุณหางานใหม่ให้ ในช่วงจังหวะที่เธอเพิ่งออกจากงานเก่ามาอย่าง ไม่สู้ดีนัก เมื่อวานนี้เพ็ญพรไปเยี่ยมเยียนถึงบ้านเพื่ออวยพรวันเกิดให้แม่ และทราบว่าเธอกำลังตกงาน ท่านก็เสนองานใหม่ให้มนตราทันทีอย่างใจดี เป็นงานดูแลหลานชายวัยหกขวบซึ่งป่วยเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่วแต่กำเนิดและใกล้จะถึงกำหนดผ่าตัดเต็มทีแล้ว หนแรกหญิงสาวเข้าใจไปว่าหลานชายที่กล่าวถึงคือบุตรชายของ ลูกสาวคนโตของคุณหญิง และอาศัยอยู่ในอาณาเขตคฤหาสน์ ครอบครัวนั้นอยู่ด้วยกันสี่ชีวิต พ่อ แม่ ลูกสาวคนโต และลูกชายคนเล็ก อบอุ่นคึกคักและน่าไว้วางใจ... ผิดกับที่นี่! หญิงสาวทอดสายตามองบ้านสองชั้นสีขาวขนาดกลางที่ออกแบบและตกแต่งสไตล์วินเทจอย่างน่ารัก ก่อนเลื่อนสายตามองไปโดยรอบที่กอปรด้วยสวนสวยรื่นตาและสนามเด็กเล่นย่อมๆ รวมถึงบริเวณแห้งแล้งที่น่าจะเป็นแปลงดอกไม้เก่า หากแต่ขาดการใส่ใจดูแลมาช้านาน มนตราถอนหายใจเบาๆ เธอรู้จักคฤหาสน์ของคุณหญิง รู้ดีว่ารถจะพาเธอไปทางไหน ดังนั้นเมื่อรถพาออกนอกเส้นทาง เธอจึงอดสอบถามเพ็ญพรที่นั่งมาด้วยกันไม่ได้ จำได้ว่าเธอรู้สึกเหมือนทำหัวใจหล่นหายเมื่อได้ยินคุณหญิงอุทานอย่างตกใจเช่นกันว่าตนไม่ได้บอกเธอก่อนหรือว่าหลานชายที่เอ่ยถึงคือหลานที่เกิดจากแพรธารา บุตรสาวของคุณหญิงที่หายสาบสูญไปในทะเลยุโรปเมื่อสี่ปีก่อน และเด็กชายอาศัยอยู่กับพ่อเพียงสองคนที่บ้านเดี่ยวหลังเล็กตรงชานเมือง บิดาของเด็กชายที่ถือเป็นเจ้านายเธอนั้นมีอาชีพเป็นศัลยแพทย์ประจำที่โรงพยาบาลเอกชนไม่ไกลจากบ้านหลังนี้นัก และรับงานเสริมจากโรงพยาบาลในพื้นที่เดียวกันอีกสองแห่ง การต้องอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกับหมอหนุ่มพ่อม่ายและลูกชายอายุน้อยเพียงลำพัง ทำให้เธออดกลัวไม่ได้... ถ้า... ถ้าเขาเหมือนคนอื่นๆ... “หนูมนจ๊ะ” ไหล่บางกระตุกวูบเมื่อถูกมือเหี่ยวย่นแตะอย่างปรานีจากทางด้านหลัง หญิงสาวหันกลับไปมองสบตาคุณหญิงราวกวางน้อยระวังภัย เสียจนเพ็ญพรอดสงสัยไม่ได้ มนตรากำลังกลัว... แต่กลัวอะไร? “เป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะ” เสียงถามอย่างมีเมตตาและรอยยิ้มอ่อนโยนจากผู้สูงวัยทำให้หญิงสาวผ่อนคลายลงได้มาก เธอรับปากคุณหญิงแล้วว่าจะขอรับงานที่ท่านกรุณามอบให้ด้วยความเต็มใจยิ่ง หากจะปฏิเสธตอนนี้ เธอคงกลายเป็นเด็กอกตัญญูอย่างน่าละอาย “มนเหม่อนิดหน่อยค่ะคุณป้า ไม่เป็นไรค่ะ” มนตราตอบอย่างนอบน้อม ก่อนกระชับหูกระเป๋าแน่นและก้าวเดินพร้อมท่านเมื่อถูกมือนั้นดันหลังไปยังหน้าประตูบ้าน กดกริ่งเรียกไม่นาน ประตูตรงหน้าก็เปิดผางด้วยฝีมือเด็กชายร่างผอมบางที่กำลังฉีกยิ้มอย่างยินดี “คุณยายมาแล้ว” อิสรภาพตะโกนเย้วพร้อมกับโถมเข้ากอดคุณหญิงอย่างแรง ขณะที่หญิงวัยกลางคนร่างอ้วนกลมในชุดผ้ากันเปื้อนอีกคนวิ่งหอบแฮกตามเขามาอย่างเหน็ดเหนื่อย “คุณอิฐ ถ้าคุณพ่อรู้ว่าคุณอิฐวิ่งแบบนี้ป้าจะถูกตำหนิได้นะคะ” มนตราลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก ดีเสียจริง บ้านนี้มีแม่บ้าน... ถ้าเช่นนั้นเธอคงอยู่รอดปลอดภัยและมีเพื่อนคุยคลายเหงายามอิสรภาพไปโรงเรียนเมื่อถึงเวลาเปิดเทอม “วิ่งมาจริงหรือ ตาอิฐ” เด็กชายก้มหน้ามุ่ยลงหลบตาคุณยายเมื่อถูกคาดคั้นถาม ก่อนเอ่ยตอบอ้อมแอ้ม “คับ...” เพ็ญพรถอนหายใจยาว ก่อนทิ้งตัวลงนั่งและกอดหลานชายไว้แนบอกอย่างห่วงใย โรคหัวใจของอิสรภาพเคยกำเริบครั้งหนึ่งตอนเขาเรียน ชั้นอนุบาลเพราะออกไปวิ่งเล่นกับเพื่อนๆ จากนั้นมาเด็กชายก็ขลาดกลัวการวิ่งมาตลอดเพราะไม่อยากนอนโรงพยาบาลนานๆ อีก มีบางครั้งที่เผลอก็แค่ช่วงระยะสั้นๆ อย่างเช่นครั้งนี้ที่อิสรภาพไม่มีอาการหอบสักนิด หากแต่สิ่งใดก็ตามที่มีผลกระทบต่ออัตราการเต้นของหัวใจหลานชาย เพ็ญพรก็ไม่สบายใจทั้งนั้น “อย่าทำอะไรเสี่ยงๆ อีกนะลูก รู้ใช่ไหมว่ายายเป็นห่วง” นางดันตัวหลานออกมองสบตา ขณะที่เด็กน้อยพยักหน้าลงหงึกหงักและเอ่ยบอกอ้อมแอ้ม “ขอโทษคับคุณยาย” คนมีศักดิ์เป็นยายถอนหายใจนิดหนึ่ง ก่อนลุกขึ้นแนะนำให้มนตรารู้จักหนุ่มน้อยร่างผอมกับคุณป้าร่างอวบในบ้าน “หนูมนจ๊ะ นี่คุณผกาเป็นแม่บ้านให้ที่นี่แบบมาเช้าเย็นกลับ อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่บ้านเพิ่งสร้างเสร็จโน่นแน่ะ มีอะไรก็เรียกใช้ได้นะจ๊ะ ส่วนนี่ตาอิฐ เด็กดื้อที่หนูต้องปราบให้อยู่หมัดจ้ะ และนี่คุณมนตรา พยาบาลประจำตัวของตาอิฐค่ะคุณผกา จะมาอาศัยอยู่ที่นี่ด้วยวันนี้ เอ้า อิสรภาพ ไหว้พี่มนเขาสิจ๊ะ” เด็กชายอิสรภาพเงยหน้าขึ้นมองมนตราอย่างเขินอายจนแก้มแดงปลั่ง ก่อนยกมือขึ้นไหว้ตามคำสั่ง ขณะที่คนถูกไหว้คลี่รอยยิ้มพิมพ์ใจรับ รวมถึงเผื่อแผ่ไปให้คุณผกาที่ยิ้มแผล่รับอีกคนด้วย แม้จะอดรู้สึกวูบในใจอีกรอบไม่ได้ที่ทราบว่าคุณผกาไม่ได้นอนค้างที่บ้างหลังนี้เหมือนเธอ แต่หญิงสาวก็ได้แต่หวังว่าบิดาของอิสรภาพจะน่ารักน่าชังเหมือนบุตรชายของเขา... “คุณพันของเราไปไหนเสียล่ะ” คุณหญิงจูงมือหลานชายเดินเข้ามาภายในบ้านและเหลียวมองไปโดยรอบ ขณะเอ่ยถามผกาที่กำลังกระวีกระวาดช่วยพยาบาลสาวถือกระเป๋าเสื้อผ้าใบย่อมโดยไม่ฟังที่เธอพยายามปฏิเสธความช่วยเหลือนั้นเลย “ไปโรงพยาบาลค่ะคุณหญิง คุณพันฝากขอโทษคุณหญิงด้วยที่อยู่รับประทานอาหารเย็นด้วยไม่ได้ มีเคสผ่าตัดกะทันหันค่ะ” เอ่ยบอกเจื้อยแจ้วเมื่อยื้อแย่งกระเป๋าจากสาวน้อยมาถือไว้จนได้ด้วยรอยยิ้มแป้นแล้นอย่างภูมิอกภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่แม่บ้านที่ดี “คุณพันฝากงานอิฉันไว้ก่อนไปค่ะ คุณหญิงขาฝากคุณอิฐด้วยนะคะ ขออนุญาตให้อิฉันพาคุณมนขึ้นไปเก็บของบนห้องก่อน”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม