Tulip 8

2376 คำ
Tulip 8 “คิกคิก สุดยอดเลยค่ะ พี่พิมพ์เท่มาก” รีบยกนิ้วโป้งเอ่ยชมพี่สาวทันที คนที่คอยเป็นครอบครัวและคอยปกป้องฉันอยู่ตลอดไม่ว่าจะจากเรื่องอะไรก็ตาม พี่พิมพ์คือคนที่ฉันรักมากที่สุดจริง ๆ ค่ะ “ทำหน้าซนอีกแล้ว ไปกันเถอะ พี่รู้สึกง่วงมากเลยอยากนอนเร็ว ๆ แล้วล่ะ” พี่พิมพ์เอ่ยบอก ฉันพยักหน้าเห็นด้วยเช่นเดียวกัน หลังจากที่เราสองคนพี่น้องช่วยกับล็อกประตูและหน้าต่างปิดผ้าม่านเสร็จก็เดินกลับขึ้นไปบนชั้นสองด้วยกันก่อนจะแยกย้ายกันกลับเข้าห้องนอนเพื่อพักผ่อน วันนี้ฉันเองก็รู้สึกง่วงมากจึงรีบนอนเร็วกว่าทุกวันไม่ตัดงานอย่างที่ทำทุกคืน ช่วงที่กำลังเคลิ้มหลับโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้าง ๆ มีข้อความและรูปถ่ายจากไข่มุกส่งเข้ามา เป็นรูปที่เจ้าตัวไปเที่ยวนั่นแหละ ฉันคุยกับเพื่อนเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจปิดไฟในห้องนอนแล้วพักผ่อนสำหรับค่ำคืนนี้ นอนเร็วในรอบหลายสัปดาห์ เก็บชั่วโมงนอนกันไปแล้วกัน ได้แต่คิดกับตัวเองอย่างขบขันแล้วหลับไปในที่สุด “เด็กจะไปแล้วเหรอ พี่เสียใจอะ” ฉันนั่งงอแงกับน้องเหมยเหมยที่วันนี้จะมาทำงานวันสุดท้ายแล้ว เพราะน้องจะต้องออกฝึกงานก่อนเรียนจบและพอจบก็คงจะไปทำงานที่อื่น “หนูเองก็เสียใจเหมือนกันค่ะ” เด็กเล็กเอ่ยตอบกลับมาพร้อมกับทำหน้างอแง “ไปแล้วก็อย่าลืมพวกพี่นะ กลับมาเล่นด้วยกันได้นะ” เอ่ยย้ำกับเหมยเหมยอย่างใจหาย ก็อยู่ด้วยกันมาตั้งนานพอถึงวันที่น้องจะต้องแยกไปเติบโตก็รู้สึกใจหายอยู่ไม่น้อยเลยล่ะ “หนูไม่ลืม ถ้าว่างแล้วหนูจะแวะมาหาพวกพี่บ่อย ๆ เลยค่ะ” เด็กเล็กตอบกลับมาอ้อน ๆ ฉันเองก็พยักหน้าส่งให้น้องอย่างยอมรับการตัดสินใจของน้อง “เย็นนี้นะ สามทุ่มเจอกันที่ร้านโอเชี่ยนบลู พี่จองโต๊ะไว้แล้ว” ไม่ลืมที่จะเอ่ยย้ำกับเหมยเหมย รวมถึงบอกพี่ ๆ ทุกคนด้วยทั้งพี่พิมพ์ พี่มายด์และพี่มาลี วันนี้เราจะไปเลี้ยงส่งน้องเหมยเหมยที่ร้านเหล้าซึ่งฉันจองโต๊ะไว้แล้วเรียบร้อยค่ะ “ถ้าอย่างนั้นวันนี้ก็เลิกงานกันเร็วหน่อยจะได้กลับไปเตรียมตัวดีไหม?” พี่พิมพ์เสนอ “ดี ๆ อยากแต่งตัวสวย ๆ แล้วล่ะ” พี่มายด์รีบตอบกลับ ตั้งแต่ครั้งนั้นที่มีเพื่อนพี่มายด์มาที่ร้านแล้วน้องลมเข้าใจผิด พี่มายด์กับเพื่อนคนนั้นก็เหมือนจะทะเลาะกันหรือเปล่า เพราะฉันเห็นพี่เขามาที่ร้านเพื่อเฝ้าพี่มายด์อยู่บ่อย ๆ ถึงแม้พี่มายด์จะไม่สนใจเลยก็เถอะ แต่เมื่อก่อนฉันขอพูดหน่อยเถอะ พี่คนนั้นน่ะเหมือนจะจับปลาสองมือเลยเพราะนอกจากจะดูแลพี่มายด์เหมือนคนพิเศษแล้วยังดูแลและเหมือนจะชอบพี่พิมพ์ด้วย ฉันไม่ชอบพี่เขาเท่าไหร่เลย แต่ตอนนี้ดีแล้วที่เขาไม่ได้มีท่าทีสนใจพี่พิมพ์เท่าไหร่แล้วเพราะพี่พิมพ์และน้องลมน่ะ ไม่ว่าใครที่ได้เห็นเวลาทั้งคู่อยู่ด้วยกันต้องเข้าใจอยู่แล้วว่าทั้งคู่นั้นพิเศษต่อกันมากแค่ไหน หวานเวอร์เลยล่ะ “ยังไม่คุยกันเหรอ?” เสียงพี่พิมพ์เอ่ยถามพี่มายด์ “ก็ไม่มีอะไรต้องคุยนี่นา” พี่มายด์บอกปฏิเสธ ฉันหยุดสนใจพี่ ๆ ทั้งสองคนก่อนจะเตรียมออกไปส่งดอกไม้ วันนี้แปลกไปเล็กน้อยเพราะไม่มีรายการส่งที่คอนโดแห่งนั้น ลูกค้าประจำหายไปแล้ว ฉันคิดอย่างตลกกับตัวเอง ฉันยังคงส่งดอกไม้จนครบทุกรายการก่อนจะกลับมาอาบน้ำแล้วเปลี่ยนชุดที่บ้านเตรียมออกไปเลี้ยงส่งน้องเหมยเหมย วันนี้เรามีพลขับด้วยนะก็น้องลมนั่นแหละที่อาสาขับรถไปรับไปส่งให้ ฉันนั่งที่เบาะด้านหลังโดยมีพี่พิมพ์นั่งที่เบาะด้านหน้าข้างคนขับรถอย่างน้องลม ระหว่างการเดินทางฉันก็ไม่ได้พูดอะไรนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยนั่นแหละ เมื่อรถหยุดจอดที่ลานจอดรถของร้านเราก็เดินลงจากรถและเดินเข้าไปภายในร้านด้วยกัน เสียงเพลงดังสนั่นลั่นร้านเป็นไปตามจังหวะและสไตล์ของที่ร้าน ฉันแจ้งพนักงานที่ออกมารับว่าจองโต๊ะไว้แล้วจากนั้นพนักงานก็เดินนำไปที่โต๊ะมุมด้านหนึ่งทันที “สั่งอะไรก่อนเลยไหมคะ?” เอียงหน้าเข้าไปกระซิบถามพี่สาว “สั่งมาก่อนก็ได้ ทุกคนมาคงจะมาเสิร์ฟพอดี” พี่พิมพ์กระซิบตอบกลับมา ฉันพยักหน้าเข้าใจและเรียกพนักงานเข้ามาสั่งเครื่องดื่มและของกินฉันจำได้หมดนั่นแหละว่าใครดื่มอะไรบ้าง ส่วนน้องลมบอกว่าไม่อยากดื่มเดี๋ยวจะขับรถให้ฉันเลยสั่งน้ำอัดลมและน้ำเปล่ามาให้น้องด้วย “ยังไม่ทันดื่มพี่ก็เวียนหัวละ” พี่พิมพ์บอกฉันด้วยใบหน้าที่ติดจะงอแงเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะอย่างสนุก ก็แสงสีในร้านมีน้อยเสียเมื่อไหร่ ไหนจะจังหวะเพลงที่ดีเจมิกซ์เพลงอยู่นั่นอีก “ว้าว ดีเจหล่อ” ฉันที่หันไปเจอดีเจที่กำลังเปิดเพลงอยู่ถึงกับรีบหันกลับไปบอกพี่สาวด้วยท่าทีซุกซน คนเป็นพี่ที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะลั่นเพราะฉันน่ะนาน ๆ ถึงจะเอ่ยเล่นแบบนี้ แต่คนนั้นน่ะหล่อจริง ๆ นะและคุ้นอยู่เหมือนกันแต่ก็นึกไม่ออกจริง ๆ “เกินไป ๆ” พี่พิมพ์แกล้งแซว มือก็เทเครื่องดื่มให้น้องที่ตอนนี้เรียกได้ว่าแทบจะนั่งชิดจนพี่พิมพ์จะเกยตักเจ้าตัวไปแล้ว คิกคิก หวงสินะแบบนี้น่ะ ก็ตั้งแต่มาถึงมีหนุ่ม ๆ มองพี่พิมพ์น้อยเสียเมื่อไหร่กันล่ะ “มาแล้ว ๆ ๆ” พี่มายด์เดินเข้ามาใกล้พร้อมกับสวมกอดรอบคอฉัน ด้านหลังมีพี่มาลีและน้องเหมยเหมยเดินตามมาด้วย นอกจากนี้ยังมีพี่คนนั้นคนที่ตามง้อพี่มายด์เดินมาด้วย หลังจากที่ทุกคนนั่งลงที่เก้าอี้ไม่นานทั้งอาหารและเครื่องดื่มก็ถูกทยอยยกมาเสิร์ฟราวกับนัดเวลามาของทุกคน “ขอโทษนะครับลูกค้าโต๊ะนั้นฝากเครื่องดื่มมาให้ครับ” พนักงานของที่ร้านเดินมาใกล้พร้อมกับยื่นแก้วเครื่องดื่มให้พี่มายด์ พี่มายด์รับมาอย่างน่ารักไม่ลืมหันไปส่งยิ้มให้โน้มขอบคุณเจ้าของเครื่องดื่ม และพี่คนนั้นที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ใบหน้าก็ตึงยิ่งขึ้นทั้งยังขยับเก้าอี้พี่มายด์ไปชิดกับตัวเองทันที หึงไหมน่ะ อาการแบบนั้น “น้องเหมยมากับใครคะเนี่ย” “มากับพี่ชายค่ะ นั่งอยู่โต๊ะตรงนู้น” น้องเหมยชี้ไปยังโต๊ะมุมด้านหนึ่ง พอได้มองตามปลายนิ้วเรียวก็เห็นว่ามีพี่ชายของน้องนั่งอยู่สองคนและจ้องน้องอยู่ตลอด ก็คงจะหวงน้องสาวนั่นแหละ น้องน่ารักมากขนาดนี้พี่ชายก็ต้องหวงเป็นธรรมดา “น้องเหมย ออกไปแล้วก็กลับมาหาพวกพี่บ้างนะ คิดถึงก็กลับมาเล่นด้วยกัน” พี่พิมพ์บอกน้องเหมยเหมยที่วันนี้นั่งข้างฉัน ถัดไปเป็นพี่มาลีที่นั่งดื่มอยู่ “ค่ะพี่พิมพ์ หนูจะแวะไปหาบ่อย ๆ เลย หนูเองก็ต้องคิดถึงพี่ ๆ มากแน่เลยค่ะ” น้องเหมยเหมยเอ่ยตอบ มือก็ยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นชนกับแก้วของพี่พิมพ์รวมถึงทยอยชนกับแก้วของเราทุกคนจนครบ เสียงเพลงในยามค่ำคืนสนุกยิ่งขึ้น ทั้งนักน้องที่ขึ้นแสดงสดสลับหมุนเวียนไปกับดีเจที่เปิดเพลงมิกซ์เพลง ยิ่งดึกยิ่งสนุกและดื่มเยอะขึ้นแต่ยังไม่ได้เมามากขนาดนั้น คิดว่านะ “ไปเข้าห้องน้ำนะคะ” กระซิบบอกพี่สาวที่หันมามองเมื่อเห็นว่าฉันลุกขึ้นยืน พี่พิมพ์พยักหน้าส่งให้ ฉันจึงค่อย ๆ เดินผ่านนักท่องเที่ยวที่กำลังโยกกายไปตามจังหวะเพลงสนุก ๆ กว่าจะถึงทางเข้าห้องน้ำก็เหนื่อยเล็กน้อย ฉันเดินเข้าไปทำธุระส่วนตัวจนเรียบร้อยแต่ก็ต้องยืนเรียกสติให้ตัวเอง เพราะเมื่อได้ลุกขึ้นเดินแล้วรู้สึกว่าตัวเองนั้นเวียนหัวอยู่ไม่น้อยเลยล่ะ แต่สนุกมากจริง ๆ นะได้นั่งดื่มนั่งฟังเพลงกับพี่ ๆ และน้องเหมยแบบนี้น่ะ เหมือนได้ผ่อนคลายด้วยกันเลยล่ะ “โอ๊ะ ขอโทษค่ะ” จังหวะที่เดินออกจากห้องน้ำฉันเองก็เผลอเดินชนใครสักคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า “ไม่เป็นอะไร” ฉันไม่ได้ตอบอะไรและขยับออกห่างเงยหน้ามองคนตรงหน้าเล็กน้อยและเพิ่งเห็นชัด ๆ ว่าเขาคือดีเจที่มิกซ์เพลงอยู่บนเวที และเหมือนฉันจะเคยเห็นที่ไหนมาก่อนเพียงแต่ฉันจำไม่ได้ คุ้นหน้ามาก ๆ เลยล่ะ “...” ฉันไม่ตอบแต่โค้งให้คนตรงหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินเลี่ยงออกมาที่โต๊ะเหมือนเดิม ตอนนี้ทุกคนเหมือนจะกรึ่ม ๆ แล้วล่ะ มองดูนาฬิกาที่ข้อมือก็พบว่าตอนนี้ตีหนึ่งแล้วฉันนั่งดื่มต่อไปอีกสักพักใหญ่และที่ผิดจากช่วงแรก ๆ เห็นจะเป็นเจ้าของสายตาคมเข้มที่คอยจ้องมองอยู่ตลอดตั้งแต่ที่ฉันกลับมาที่โต๊ะ และมีบ่อยครั้งที่เผลอหันไปสบตากับอีกฝ่ายอย่างไม่ตั้งใจ ทำไมถึงรู้สึกว่าเขาจ้องไม่ละสายตาไปทางไหนเลยล่ะ “ยังไม่ผสมเลย” พี่พิมพ์เอ่ยบอกเมื่อเห็นฉันยกแก้วเครื่องดื่มตรงหน้าตัวเองขึ้นดื่ม “หนูลืม” หันไปส่งยิ้มตาหยีให้พี่สาว ก็เริ่มเบลอแล้วอะ หูอื้อตามัวไปหมดแล้ว “ไหวไหมเนี่ย” พี่พิมพ์ถามย้ำด้วยความเป็นห่วง “ไหวค่ะ สบายมาก” ตอบพี่สาวเสร็จก็รู้สึกอยากจะเข้าห้องน้ำอีกสักหน่อย เนี่ย พอได้เข้าห้องน้ำหนึ่งครั้งเราจะต้องเข้าตลอดไป ครั้งนี้ฉันยืนมึน ๆ หัวอยู่ภายในห้องน้ำหลังจากที่ทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วเรียบร้อย แต่เมื่อเดินออกจากห้องน้ำฉันก็เจอกับคนตัวสูงคนเดินที่กำลังยืนรออยู่ตรงหน้า อีกฝ่ายค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้และมองฉันอย่างชั่งใจ “จะชวนวันไนท์เหรอ?” และเป็นฉันที่เอ่ยถามคนตรงหน้าก่อน ฉันเที่ยวบ่อยและมีคนมาชวนทำเรื่องอย่างว่าก็เยอะ แต่เชื่อไหมทุกครั้งฉันมักจะปฏิเสธเพราะไม่ได้รู้สึกอย่างทำถึงแม้คนตรงหน้าที่เอ่ยขอจะหน้าตาดีมากแค่ไหนฉันก็ยังคงเลือกที่จะปฏิเสธ แต่ความรู้สึกในตอนนี้ความรู้สึกฉันมันสนุกมากจนอย่างจะลองทำ ยิ่งเห็นสายตาของอีกฝ่ายที่จ้องมองแม้จะไม่มีความหยาบคายและมองเหมือนเห็นห่วงแต่ฉันกลับรู้สึกว่าอยากถูกมองด้วยสายตาคู่นี้ไปอีกสักหน่อย “ถ้าอยากก็ได้” อีกฝ่ายตอบกลับมาอย่างไว้ท่าที “ป้องกัน” “ครับ” อีกฝ่ายรับปาก ฉันพยักหน้าตกลงก่อนจะกดส่งข้อความหาพี่สาวบอกว่าเจอเพื่อนจะไปเที่ยวต่อ เมื่อเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้าอีกครั้งก็เห็นว่าเขายังคงจ้องฉันอยู่ดังเดิม คนตรงหน้ายื่นมือข้างหนึ่งของเขามาให้ฉันจับ ฉันมองอย่างชั่งใจคิดก่อนจะยื่นมือตัวเองไปวางลงบนมือใหญ่ข้างนั้นที่ถูกยื่นออกมาตรงหน้า ก่อนจะถูกดึงมือให้เดินออกจากทางหลังร้านพร้อมกับเขา และเหมือนคนที่ร้านจะไม่ตกใจเลยที่เห็นเขาเดินออกทางนี้ รถหรูที่มีราคาไม่ต่ำกว่าห้าล้านเป็นยานพาหนะที่จะพาเราทั้งสองคนมุ่งไปยังโรงแรมหรูแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากร้านเหล้า ระหว่างการเดินทางมีเพียงความเงียบเท่านั้น คนที่ขับรถอยู่ใช้มือข้างหนึ่งวางบนต้นขาฉันและออกแรงลูบไปมาอย่างเบามือ ทันทีที่ติดต่อห้องพักได้และเราเข้ามาถึงห้อง คนตรงหน้าก็เริ่มรุกจูบอย่างรุนแรงท่ามกลางแสงไฟสลัวภายในห้องพัก เสียงลมหายใจหอบถี่ดังคลอเคล้ากับเสียงครวญคราแผ่วเบาจากฉัน “อือ อยากอาบน้ำก่อนไหม?” เจ้าของริมฝีปากร้อนที่ซุกจูบที่ซอกคอกระซิบถามเสียงสั่น ทั้งยังบดเบียดร่างเข้าหาไม่หยุดหย่อน “อืม ค่ะ” สิ้นเสียงขานรับเรือนร่างของเราทั้งสองก็โป๊เปลือยและเป็นฉันที่ถูกอุ้มเข้าไปภายในห้องน้ำกว้างขวางของห้องพัก ระหว่างที่อาบน้ำเราทั้งสองก็จูบกันอย่างร้อนแรง สายน้ำเย็น ๆ ที่ถูกเปิดชโลมร่างเรานั้นไม่สามารถลดความร้อนภายในกายได้เลยสักนิด บทรักที่เริ่มจากความกระหายเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จวบจนถูกเปลี่ยนที่ร่วมรักไปทุกมุมของห้องความร้อนแรงนั้นก็ยังไม่จางหายไป ครั้นแต่จะเพิ่มขึ้น สัมผัสร้อนที่อีกฝ่ายพร่ำสอนและปรนเปรอให้ฉันตลอดทั้งคืน มันทั้งเร่าร้อนและร้อนแรงเจียนจะขาดใจ ทั้งความอบอุ่นที่อีกฝ่ายมอบให้ฉันยังสัมผัสได้แม้เพียงตอนตื่นนอนขึ้นมาจะมีเพียงฉันอยู่ภายในห้องพัก ถือว่าเป็นเซ็กซ์ที่น่าจดจำสำหรับเซ็กซ์ครั้งแรกของฉัน...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม