Ur & Care
1
ผมมองนาฬิกาที่ข้อมือตอนนี้บ่งบอกเวลาเกือบจะบ่ายโมงกว่าแล้ว ซึ่งผมกำลังนั่งอยู่ที่สนามบินเนื่องมาจากได้รับคำสั่งจากคุณครอปให้มารอรับแขกคนสำคัญ แถมยังฝากให้ผมดูแลแขกของเขาให้ดีที่สุดในระหว่างที่เขากับจิลภรรยาและลูกสาวของเขาไปเที่ยวรอบโลก และแน่นอนคุณซีโร่และน้ำก็ไปด้วย... น้ำคนที่ผมไม่สามารถเอื้อมมือไปรักคนอย่างเธอได้ ตอนนี้เธอมีความสุขดีและผมก็ได้แต่เฝ้ามองดูเธออยู่แบบนั้น แต่ตอนนี้สิมันเลยเวลามาเกือบสามชั่วโมงแล้ว คุณครอปบอกว่าเครื่องที่มาจากอังกฤษมาลงตั้งแต่สิบโมงแล้วแต่นี้ทำไมถึงไม่เห็นวี่แววของแขกคุณครอปเลยล่ะ ผมเสยผมตัวเองขึ้นอย่างนิ่งๆ ถึงแม้จะต้องนั่งรอทั้งวันทั้งคืนก็ต้องรอ อีกอย่างงานที่คาสิโนของคุณซีโร่ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเพราะตอนนี้ผมได้ย้ายออกมาอยู่ที่คอนโดส่วนตัวของตัวเองแล้ว สายตาคมมองหาคนที่คุณครอปเอารูปให้ดูก็พลันไปเห็นร่างเล็กที่เหมือนในรูป ใบหน้าคมสวยถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางจนจัด หุ่นเพรียวและดูดีมาก สวมแค่กางเกงยีนขาสั้นกับเสื้อกล้ามสีขาวบางๆ ที่เนินอกล้นทะลักออกมาเกินวัย สวมรองเท้าส้นสูงสีน้ำเงินเดินมาพร้อมกับผู้หญิงอีกสองคนที่เขาไม่รู้จัก ผมสีดำรวบขึ้นไปเป็นม้วยจนเห็นคอระหงที่ขาวเนียน แต่คนที่เขากำลังจับจ้องอยู่ เขารู้จักดีเลยล่ะ ร่างเล็กถอดแว่นกันแดดออกพร้อมกับปากที่กำลังดูดอมยิ้มอยู่อย่างไม่พอใจ จนกระทั่งสายตาคมเฉียบจะหันมาเห็นเขา
“ไฮ พี่ยู!!”
“น้องแคร์...”
หมับ!!
“พี่ยูจริงๆ ด้วย คิดจังเลย จุ๊บ!!”
“คะ แคร์ทำอะไรครับ?”
“ทำไมล่ะ ก็หอมแก้มไง แคร์คิดถึงพี่ยูจังเลย อิอิ” ผมลืมแนะนำตัวไปชื่อของผม ‘ยูอา’ ส่วนเด็กผู้หญิงอายุสิบแปดคนนี้คือน้องสาวสุดแสบของคุณครอปที่ฝากผมให้ดูแล เพราะแคร์อยากมาอยู่ที่นี่แต่คุณครอปดันไม่อยู่ก็เลยฝากให้ผมดูแล อีกอย่างที่ฝากให้ผมดูแลก็ไม่ใช่เพราะอะไร ถึงแม้เชค ลูกพี่ลูกน้องของคุณครอปและแคร์จะอยู่ แต่ว่าทั้งสองคนมักจะทะเลาะกันบ่อยๆ เพื่อตัดความรำคาญคุณครอปเลยเลือกให้ผมดูแลแคร์แทน อีกอย่างผมกับแคร์เราก็เคยเจอกันสมัยที่แคร์ยังอายุได้แค่สิบขวบ ดังนั้นเธอก็เปรียบเสมือนน้องสาวตัวน้อยๆ ของผมเสมอ
“เฮียครอปนะเฮียครอป น้องสาวมาแทนที่จะอยู่... ดันพาเจ้จิลกับเคธไปเที่ยวซะนี้ เฮียซีอีก เหอะ”
“ไม่เอาสิครับแคร์ คุณครอปก็อยากพาครอบครัวไปเที่ยว อีกอย่างเราเองไม่ใช่เหรอ? ที่รู้ว่าคุณครอปกับคุณซีไม่อยู่ดื้อรั้นจะมาเอง”
“นี่พี่ยูว่าแคร์เหรอ เชอะไม่มีใครเข้าข้างแคร์สักคนเลย” แคร์ทำหน้าบูดๆ ก่อนจะดูดอมยิ้มอย่างอารมณ์ไม่ดีจนผมได้แต่ยกมือลูบหัวคนตัวเล็กที่สูงแค่ระดับหัวไหล่ผมเอง แต่ก็เพราะมีรองเท้าส้นสูงช่วยถ้ายืนเทียบกันจริงๆ แคร์สูงแค่ระดับหน้าอกผมก็เท่านั้น ใบหน้าสวยคมเงยหน้ามองผมแล้วหันไปยิ้มให้กับเพื่อนสาว
“พี่ยู แคร์ลืมแนะนำ... นี่แซนกับลิ เพื่อนของแคร์เอง”
“อ่อครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะพี่ชื่อยูอาครับ เรียกยูก็ได้”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะพี่ยู พี่น่ารักจัง... แซนชอบอ่ะ”
“เออ...”
“ลิก็ชอบพี่นะคะ อิอิ” ผมขมวดคิ้วทันทีกับสองคนนี้ที่ทำหน้าเขินอาย เออ... เด็กนอกนี่ทำไมดูแรงและไม่ปิดบังความรู้สึกกันเลยนะ แคร์ที่เห็นผมนิ่งไปก็เลยยิ้มให้อย่างสดใส
“ชอบเพื่อนแคร์หรือเปล่า?”
“หือ? ไม่นี่ เอาเป็นว่าพวกเรายังเด็กกันอยู่นะตั้งใจเรียนดีกว่า”
“โหหนีแม่มาหาเฮียครอป คิดว่าจะไม่โดนเทศซะอีก... ส่งพี่ยูมาเทศแทนใช่ไหมเนี้ย?” ผมมองแคร์ที่กอดแขนผมแน่นจนผมได้แต่ส่ายหน้าไปมาแล้วลากกระเป๋าแคร์เดินออกจากสนามบิน
“แคร์ต้องไปอยู่ที่บ้านเฮียครอปใช่ไหม? ไม่เอานะ เบื่อเฮียเชคชอบหาเรื่องแคร์”
“ไม่ได้ไปแน่นอนครับ คุณครอปบอกให้แคร์ไปอยู่คอนโดเดียวกับพี่แต่คนละห้องนะ... ห้องติดกันเท่านั้น”
“จริงเหรอ เฮียครอปรอบคอบจริงๆ ได้อยู่กับพี่ยูด้วย” แคร์กอดแขนผมแน่นก่อนจะมาถึงรถปอร์เช่สี่ประตูที่ผมเลือกมาเพราะรู้จากคุณครอปว่าแคร์จะมีเพื่อนมาด้วย
“ให้พี่ไปส่งน้องแซนกับน้องลิที่ไหนครับ?”
“ที่บ้านเลยค่ะ รบกวนด้วยนะคะพี่ยูสุดหล่อ” ผมได้แต่ยิ้มให้อย่างนิ่งๆ กับท่าทีของเพื่อนแคร์ ความจริงผมเข้าใจนะว่าเด็กวัยนี้กำลังเป็นวัยที่กำลังแสบ และยิ่งเป็นที่เด็กที่มาจากเมืองนอก อยู่แต่เมืองนอกแบบแคร์ผมก็ยิ่งเข้าใจว่าทำไมเด็กรุ่นนี้ถึงได้แรง แต่ผมก็ได้สนใจ... เพราะผมคงไม่คิดจะชอบใครอีกแล้วล่ะ อยู่มันแบบนี้ดีกว่า จะได้ไม่เจ็บอีก ผมมาส่งเพื่อนของแคร์ที่บ้านเสร็จก็ขับรถมาถึงคอนโดหรูในกลางเมืองที่ผมซื้อไว้นานแล้วแต่ไม่ค่อยได้มาอยู่เท่าไหร่เพราะต้องไปอยู่ที่บ้านของคุณซี แต่ตอนนี้คงต้องอยู่ที่นี่ไปสักพักจนกว่าทั้งคู่จะกลับมา ผมพาแคร์มาถึงชั้นที่สิบห้าก่อนจะพามาที่ห้องของแคร์ที่ผมได้จองไว้หลังจากที่ห้องนี้ว่างมานานอีกอย่างอยู่ข้างๆ ห้องผมด้วย
“โอ้โห สวยจังเลยพี่ยู...” แคร์วิ่งไปเปิดผ้าม่านมองวิวที่เห็นตึกจากสูงเป็นเตี้ยและแม่น้ำที่ไหลผ่านไปมา ผมวางกระเป๋าของแคร์แล้วเดินไปเปิดห้องนอนให้แคร์ดูก่อนที่ร่างเล็กจะกระโดดขึ้นเตียงทันทีแล้วเดินลงมาหาผม
“ขอบคุณนะพี่ยู น่ารักที่สุดเลย จุ๊บ!!”
“แคร์...”
“ทำไมล่ะ ก็แค่อยากขอบคุณพี่ยูนี่น่า” ผมถอนหายใจออกมาแล้วจูงมือแคร์ออกมานั่งที่โซฟาทันที ก่อนจะจับมือตัวเองแน่นเพื่อบอกธรรมเนียมของเมืองไทยให้แคร์ฟัง
“ที่นี่ไม่ใช่เมืองนอก ถ้าแคร์อยากตอบแทนพี่ก็แค่ยกมือไหว้และขอบคุณเท่านั้น ไม่ต้องหอมแก้มแบบฝรั่ง”
“อาหะ...”
“ห้ามกอด ห้ามหอมในที่ที่มีคนผ่านไปมาหรือข้างนอก เพราะแคร์จะดูเป็นเด็กไม่ดี เข้าใจที่พี่พูดไหม?”
“โอเค งั้นอยู่ในห้องแคร์ก็ทำได้นะสิ... ฮึบ”
“อ่ะ แคร์...”
“ทำไมล่ะ แต่ก่อนตอนเด็กๆ แคร์ก็นั่งตักพี่ยูบ่อยๆ หรือแคร์ตัวหนัก ไม่จริงนะ... แคร์ลดน้ำหนักตลอด” แคร์มองตัวเองก่อนจะหันมามองผมที่ทำหน้านิ่งๆ ก่อนจะจับเอวบางให้ลุกออกจากตัก แต่แคร์ก็ไม่ยอมกอดคอผมแน่นแถมยังซบหน้าลงกับไหล่ผมอีกต่างหาก
“แคร์ พี่พูดอะไรฟังพี่บ้างได้ไหม?”
“ก็ฟังไง แต่เราอยู่ในห้อง... ไม่มีใครเห็น ไม่มีใครมาว่าแคร์ อิอิ”
“แคร์...”
“โหยพี่ยูอ่ะ โดนเฮียครอปล้างสมองหรือไง? หรือเฮียซีสั่งไม่ให้เข้าใกล้แคร์ ใช่สิ แคร์มันเด็กไม่ดีนี่น่า หนีแม่มาอยู่กับเฮียครอป... เฮียก็ทิ้งไม่อยู่กับแคร์ ไม่มีใครรักแคร์สักคนอ่ะ ฮึก ฮือๆ” ผมมองแคร์ที่ตอนนี้กำลังเอามือปิดหน้าตัวเองอยู่แบบนั้นพร้อมกับร้องไห้ออกมาทันทีจนผมต้องเอื้อมมือไปดึงมือบางออกทันที
“ไม่ร้องสิครับแคร์ เอาเป็นว่าพี่ขอโทษแล้วกัน...”
“ฮึก จริงนะ”
“ครับ ไม่ร้องนะ” แคร์เงยหน้ามองสบตากับผมทันที ดวงตาคมมีน้ำตาคลอใสอยู่ก่อนที่มันจะไหลลงมาอาบแก้ม ผมเอื้อมมือไปลูบแก้มเธอเบาๆ ทันทีจนแคร์มองผมด้วยสีหน้ายิ้มๆ
“งั้นแคร์จะฟังพี่ยู แต่ถ้าอยู่ในห้องแคร์จะกอดพี่ยูนะ”
“อะ เออ...”
“ฮึก เนี้ยพี่ยูรังเกียจแคร์อ่ะ ฮือๆ”
“โอเคๆ ครับ... ไม่ร้อง สัญญาแล้วนะว่าถ้าอยู่ข้างนอกจะไม่ทำอะไรแบบนั้น โอเคไหม?” ผมมองแคร์ที่พยักหน้าแล้วซบหน้าลงกับอกผมทันที แคร์เป็นเด็กที่เอาแต่ใจมากที่สุด... เพราะคุณครอปตามใจน้องสาวคนนี้มาก และยิ่งเธอโดนขัดใจทีไรก็มักจะเรียกร้องด้วยการงอนและร้องไห้ ซึ่งใช่มันได้ผลไงล่ะ ผมเองก็พลอยใจอ่อนไปด้วย แต่ถึงยังไงแคร์ก็ยังเด็ก ยังคงมีความงี่เง่าในตัวอยู่
“อืม แคร์อยากออกไปข้างนอก... หิวแล้ว”
“ครับ งั้นไปล้างหน้าล้างตาก่อน พี่จะพาไปกินข้าวนะคนดี” แคร์ยิ้มให้ผมก่อนจะโน้มหน้ามาหอมแก้มผมอีกครั้ง จนผมได้แต่ส่ายหน้าไปมา เฮ้อ... ผมนั่งรอแคร์สักพักร่างเล็กก็ออกมาจากห้องแถมยังแต่งตัวเซ็กซี่จนผมขมวดคิ้วทันที
“ทำไมถึงแต่งตัวแบบนี้?”
“ก็ แคร์ชอบนี่น่า สวยดีออก” ผมลุกขึ้นเท้าเอวมองแคร์ตั้งแต่หัวจรดเท้า ร่างเล็กตรงหน้าผมสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวบางๆ จนเห็นชั้นในสีดำ ก่อนจะผูกปลายเสื้อจนทำให้เห็นเอวที่เว้าโค้งอย่างสวยงาม สวมกางเกงยีนขาสั้นกุดที่ผมเห็นแล้วถึงกับกุมหัวตัวเองทันทีอย่างเหนื่อยใจ
“แคร์ฟังพี่นะ... ที่นี่เมืองไทย ไม่ใช่เมืองนอกที่แคร์อยู่”
“อืม แคร์รู้แล้ว... ทำไมเหรอ?”
“ก็มันไม่เหมาะสมที่แคร์จะแต่งตัวแบบนี้ มันโป๊ไป”
“โป๊? พี่ยู... นี่โป๊เหรอ แคร์ว่าปกตินะ แคร์ใส่ออกบ่อยไม่เห็นมีใครว่า”
“ใช่ไม่มีใครว่าหรอกถ้าแคร์อยู่เมืองนอก แต่ที่นี่เมืองไทย... แคร์ควรแต่งตัวให้สำรวมกว่านี้” แคร์เอียงคอมองผมแล้วมองตัวเองก่อนจะยักไหล่เดินสวนผมไปสวมรองเท้าส้นสูงของตัวเองทันที
“พี่ยูไม่ใช่พ่อแคร์นะ อย่ามาสั่งแคร์...”
“แคร์ พี่เตือนแคร์ด้วยความหวังดีนะ มัน...”
“พี่ยูหัวโบราณ แบร่!!” ผมมองร่างเล็กที่แลบลิ้นให้ผมก่อนจะเดินออกจากห้องไปทันที เสียงลมหายใจของผมถึงกับดังไปทั่วห้องกับความดื้อของแคร์ ขัดใจก็ไม่ได้ ห้ามก็ไม่ได้... นี่ถ้าคุณครอปอยู่ คงจะไม่กล้าแม้แต่จะหือด้วยซ้ำ ผมส่ายหน้าไปมาแล้วเดินตามร่างเล็กไปทันทีก่อนจะพาแคร์ไปกินข้าวที่ห้าง ซึ่งแน่นอน... คนมองแคร์กันไม่วางตาสักคน แต่มีเหรอว่าแคร์จะสนเดินควงแขนผมแล้วยิ้มแย้มอย่างมีความสุขด้วยซ้ำ
“พี่ยู กินอะไรกันดี?”
“แล้วแต่แคร์เลย... อยากกินอะไรล่ะ”
“อืม แคร์อยากกินสลัด สเต็ก” ว่าแล้วแคร์ก็จูงมือผมเข้าไปในร้านอาหารที่เป็นแบบคาเฟ่ก่อนจะสั่งอาหารมากินทันทีอย่างหิวๆ
“ทำไมคนมองแคร์เยอะจัง แคร์ทำอะไรผิดเหรอ?”
“ไม่นี่ครับ...”
“แล้วทำไมเขาถึงมองแคร์แบบนั้นล่ะ พี่ยูดูสิ...” แคร์ชี้นิ้วไปด้านข้างโต๊ะก่อนที่ผมจะมองไปตามที่แคร์ชี้ก็เห็นคนแก่สองคนที่กำลังทำหน้าหื่นกระหายที่มองแคร์แต่งตัวโป๊ แต่พอผมหันไปก็รีบก้มหน้าก้มตากินอาหารต่อ
“ก็แคร์แต่งตัวโป๊ พี่บอกแล้วไง”
“ไม่เห็นจะเกี่ยวเลย... แคร์อยู่ที่อังกฤษไม่เห็นมีใครมองแคร์แบบนั้นเลยนะ”
“พี่บอกว่ายังไงที่นี่เมืองไทย...”
“ไม่ใช่เมืองนอก แคร์ฟังจนจำได้แล้วนะพี่ยู... เลิกบ่นแคร์ได้แล้วนะ เหอะ” ผมมองแคร์ที่สะบัดหน้าหนีผมทันที ให้ตายเหอะเป็นน้องเป็นนุ่งแท้ๆ นะจะตีให้ก้นลายเลย แต่งตัวอะไรแบบนี้ล่ะ? มันไม่เหมาะเลยจริงๆ หลังจากกินข้าวเสร็จแคร์ก็พาผมไปเดินดูของอะไรของเขาก็ไม่รู้ แต่ผมก็ขัดไม่ได้... ต้องตามใจกันไป
“พี่ยู กิ๊ฟสองอันนี้อันสวยกว่ากัน?”
“พี่ไม่รู้”
“โห พี่ยูดูดีๆ สิ... อ่ะเนี้ยแคร์เอาเทียบกับหน้าแคร์แล้วนะ อันไหนเหมาะกับแคร์ พี่ยูเลือกเลย ซ้ายหรือขวา” แคร์พยักหน้าให้ผมทันที จนผมได้แต่กอดอกมองกิ๊ฟสองตัวที่อยู่ในมือของแคร์ ข้างขวาเป็นกิ๊ฟรูปหัวใจฝังพลอยหลากสี กับข้างซ้ายที่เป็นกิ๊ฟติดผมธรรมดาแต่เรียบหรูสีเงิน สายตาผมมองไปที่ใบหน้าสวยคมทันที
“ซ้าย...”
“โหใจไม่ตรงกับแคร์เลย แคร์ชอบขวานะ”
“งั้นแคร์จะให้พี่เลือกทำไม ถ้าแคร์ชอบฝั่งขวา...”
“ก็ผู้ชายมักจะเห็นอะไรที่มันเหมาะสมมากกว่าผู้หญิงไงคะ ที่พี่ยูเลือกกิ๊ฟอีกอันให้แคร์แสดงว่าในสายตาของพี่ยู กิ๊ฟตัวนี้เหมาะกับแคร์... เพราะฉะนั้น แคร์จะเอากิ๊ฟที่พี่ยูเลือกให้ อิอิ” แคร์ยิ้มแล้วยื่นกิ๊ฟตัวที่ผมเลือกให้กับพนักงานก่อนที่ผมจะเป็นคนจ่ายเงินเองจนแคร์งงทันที
“เอาเป็นว่า... พี่ซื้อให้ต้อนรับแคร์กลับมาแล้วกันนะ”
“เอ๋? จริงเหรอพี่ยู เย้...”
“อ่ะ สัญญากันว่าไงฮึ?” ผมมองแคร์ที่ชะงักตัวเองทันทีก่อนจะทำหน้าบูดๆ ลดแขนที่กำลังจะกอดคอผมลงทันที ใบหน้าสวยคมมองผมนิ่งแล้วยกมือไหว้ผมทันที
“ขอบคุณนะพี่ยู...”
“ดีมากครับที่ทำตามสัญ... อ่ะ!!”
จุ๊บ!!
“แคร์!!”
“ก็มันอดไม่ได้อ่ะ เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ค่อยเริ่มทำตามสัญญานะ” แคร์ยิ้มให้ผมอย่างสดใสที่ได้กระโดดกอดคอผมแล้วหอมแก้มผมจนพนักงานมองกันตาเป็นวาว ผมมองร่างเล็กที่มองกิ๊ฟในมือก็ได้แต่เหนื่อยหน่ายกับเด็กที่เอาแต่ใจอย่างแคร์ ผมมาถึงคอนโดกับแคร์ในช่วงค่ำเพราะแคร์มัวแต่เดินเที่ยวอย่างสนุก จนลืมไปว่าตัวเองเพิ่งลงเครื่องมาและเพลียมากแค่ไหนแต่ก็ยังฝืนตัวเองให้ร่าเริงสดใส แล้วไงล่ะ? ตอนนี้กำลังหลับอยู่ที่เบาะข้างๆ ผมลงจากรถแล้วหยิบถุงของที่แคร์ซื้อมาไว้ในมือก่อนจะช้อนตัวร่างเล็กที่หลับสนิทเดินเข้าไปในคอนโด มาถึงห้องแคร์ผมก็ค่อยๆ วางร่างเล็กลงบนเตียง พร้อมกับดึงผ้ามาห่มให้ทันทีก่อนจะยิ้มออกมาที่เห็นแคร์หลับแบบนี้
“หมดฤทธิ์สักทีนะแคร์...”
“อือ ใครว่าแคร์หลับ”
“!!!”
“แคร์กำลังจะไปกินไอศกรีม... ต่าง... หาก” ผมมองร่างเล็กที่ชูมือขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มจะผุดขึ้นที่ใบหน้าสวยคม เสียงหัวเราะของผมดังออกมาทันทีที่แคร์ละเมอแบบนี้ ก่อนจะลูบผมบางเบาๆ
“ฝันดีนะครับ... น้องแคร์” ผมลุกจากเตียงแล้วเดินไปปิดไฟก่อนจะเดินออกจากห้องของแคร์และไม่ลืมที่จะล๊อคห้องจากด้านใน หมุนตัวมาที่ห้องตัวเองทันที... ผมถอดเสื้อออกก่อนจะออกไปยืนที่นอกระเบียงเพื่อรับลมที่พัดผ่านใบหน้าของผมไป รอยยิ้มของผมที่ผุดขึ้นมาพร้อมกับสิ่งที่กำลังนึกถึงอยู่ตอนนี้
“เธอ... มีความสุขฉันก็ดีใจแล้วล่ะน้ำ ต่อให้ฉันต้องเจ็บที่ไม่ได้ยืนเคียงข้างเธอ แต่ฉันขอจดจำเธอไปตลอด ตราบใดที่ฉันยังตัดใจจากเธอไม่ได้ ฉันก็จะไม่มีวันชอบใครหรือรักใครอีก” ใช่... ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าทำไมผมถึงได้ลืมน้ำไม่ได้ ทั้งๆ ที่มันก็ผ่านมานานแล้ว น้ำคือความทรงจำที่ดีสำหรับผม เธอคือความทรงจำที่ผมจะไม่มีวันลืมออกไปจากหัวใจ ทุกวันนี้มีผู้หญิงมากมายต่างพากันเข้ามาทำความรู้จักกับผม แต่ละคนที่เข้ามาก็ไม่ได้ทำให้ผมเลือกที่จะคบจริงจัง... ความรักของผมมันไม่มีให้ใครแล้วล่ะ ผมขออยู่แบบนี้แล้วกัน... ไม่อยากเจ็บไปมากกว่านี้แล้วล่ะ
“กะ กรี๊ดดดดด!!” เสียงดังออกมาจากระเบียงด้านข้างทำให้ผมตกใจทันทีกับเสียงกรี๊ดร้อง...?
“คะ แคร์...”