พอเสร็จในครัว ถึงได้ตรงเข้าห้องนอน จัดการเอาเสื้อผ้าสารพัดที่เขายกแผงมาให้ จับยัดใส่ในตู้แบบยังไม่คิดจะซักก่อน เพราะมันเยอะแยะจนดูเหมือนจะซักไม่ไหว
เลยคิดว่าจะใส่ตัวไหนก็ค่อยเอามาซักที ง่ายกว่าทำครั้งเดียว อีกอย่างก็ไม่คิดว่าจะได้ใส่อะไรมากมายนัก เพราะคงไม่ได้ออกไปไหนบ่อยๆ อยู่แล้ว นอกจากไปหาพ่อเท่านั้น
นานเป็นชั่วโมงกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจพิชิตเสื้อผ้าเข้าตู้ จากนั้นก็จัดการเปิดมือถือ เพื่อดูเมนูอาหารที่ตั้งใจจะทำในอินเตอร์เน็ต เพราะไม่ค่อยได้ทำสักเท่าไหร่
เลยต้องหาโพยบ้างกันพลาด พอได้ครบตามต้องการแล้ว ก็ออกมาตระเตรียมของเอาไว้ หันไปมองอีกคน
ก็ยังคงนั่งทำงานหน้าดำคร่ำเคร่งอยู่ ผิดกับตอนพาเดินช้อปปิ้งเขามักจะยิ้มบ่อยๆ
พอเตรียมของเสร็จรอแค่ลงมือปรุง ก็เดินไปเก็บของตรงระเบียงห้อง เอาไปไว้ในตู้ของตัวเอง แล้วเดินเข้าห้องของเขา จัดผ้าเช็ดตัว กับชุดนอนเอาไว้ให้
เพราะยังไงๆ เขาก็จะต้องเรียกร้องให้ทำหน้าที่อยู่ดี แถมมีน้ำใจบีบยาสีฟันไว้บนแปรงให้ด้วย กรณีเขาจะร้องขอเพิ่มเติม
พอใกล้หกโมงเย็นถึงได้ลงมือทำอาหาร และกลิ่นหอมๆ ช่างรบกวนจมูกคนอยู่ห้องนั่งเล่นไม่น้อย พยายามสนใจกับงาน ไม่หันมาหาแม่ครัวกับชุดสุดแสนจะเซ็กซี่ แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหว ต้องทิ้งทุกอย่างเดินตรงมาชะโงกดูจานแรก มีควันโชยมาเมื่อเขาเปิดฝาออกดู
“กุ้งอบวุ้นเส้น! แน่ใจนะว่าผมจะไม่ท้องเสีย”
ใบหน้าหล่อเหลายิ้มน้อยๆ เมื่อแหย่แม่ครัวที่วุ่นอยู่หน้าเตากับการผัดอะไรสักอย่าง ที่ไม่คิดจะหันมาหาเขาสักนิด จนเขาต้องเดินไปชะโงกดูใกล้ๆ ก็เห็นผักสีเขียวอยู่ในกระทะ
ไม่นานก็มานอนอยู่ในจานใบใหญ่ ที่เขาไม่เคยรู้ว่ามันมีอยู่ในห้องครัวเลย เพราะผู้หญิงที่เขาหิ้วมาอยู่ด้วย ส่วนใหญ่จะเป็นแม่บ้านออนไลน์ คือโทรสั่งตามร้านต่างๆ มากกว่า
“นั่นคุณจะทำอะไร”
เขาจ้องมองดูมือบางกำลังหั่นหอมหัวใหญ่ทิ้งไว้บนเขียงเป็นกอง
“ยำรวมมิตรทะเลค่ะ คุณกินเผ็ดมากหรือเปล่าคะ”
ดูเหมือนนี่จะเป็นครั้งแรก ที่เขารู้สึกว่าเธอพูดด้วยแบบไม่มีอคติใดๆ
“มีพริกเท่าไหร่ใส่ไปเลยอย่าได้ยั้ง คุณไม่รู้เหรอว่าผมน่ะ ชายไทยแท้และทั้งแท่งนะ จะกลัวอะไรกับอาหารเผ็ด”
เพียงเท่านั้น!
พริกหนึ่งกำมือก็ถูกหว่านลงไปในครก แล้วโขลกๆไปสักพักก่อนจะปรุงมะนาว น้ำปลาน้ำตาล แล้วเอาไปคลุกเคล้ากับกุ้ง หมึก ปลา และหอยแมลงภู่ที่ลวกไว้ในชามกระเบื้องใบใหญ่ ใส่หัวหอม คื่นฉ่ายผักชีลงไป
คนไปมาสองสามครั้งแล้วเทใส่จาน ยกทุกอย่างไปวางไว้บนโต๊ะ น้ำเย็นรินไปไว้ข้างๆ ให้ทั้งเขาและตัวเองเรียบร้อย
“ผมจำเป็นจะต้องโทรบอกไอ้ขวดก่อนมั้ย ว่าท้องไส้กำลังจะเสียในอีกชั่วโมงข้างหน้า”
คฑาธรไม่วายแหย่ แม้จะมั่นใจฝีมือคนทำ เพียงแค่ได้เห็นท่าทางการปรุงหรือการหยิบจับนั่นนี่แค่นั้น ก็เดาได้ว่าคงจะออกมาอร่อยเป็นแน่
จริงอย่างคาดไว้ แถมอร่อยกว่าร้านอาหารหลายร้านที่เขาไปกินอีก เพราะทำเสร็จใหม่ๆ ก็เทใส่จานกินเลย มันได้ความสดและยังร้อนๆ ช่วยเพิ่มรสชาติให้ดีขึ้น
“คืนนี้ผมคงไม่ต้องพึ่งชุดนอนที่ซื้อให้คุณหรอก รู้มั้ย” พออิ่มเขาก็ตบพุงแปะ แต่ปากยังแซวคนข้างๆ ที่รับมุขไม่ทันเลยนั่งมองเขานิ่งๆ ไม่เอ่ยอะไรออกมา
“ก็คุณเล่นเอาพริกมาปลุกต่อมเซ็กส์ผมซะกำมือขนาดนี้ ผมจะอดใจไหวยังไงล่ะ และไม่ใช่แค่ครั้งเดียวด้วยนะ คงไม่หนีสามหรอก บวกเช้าอีกสักหนึ่งหรือสอง เฮ้อ! ฟ้าเหลืองแน่ๆ ไอ้เบียร์เอ๊ย!”
พิมพ์ภิษาลุกหนีจากเจ้าของใบหน้าหล่อเหลา ที่ดูจะทะเล้น ขี้เล่นชนิดไม่เคยเห็นมาก่อนทันที มือบางก็รวบจานบนโต๊ะไปด้วย จะได้รีบล้างรีบเก็บ
รีบหนีเข้าห้องนอน จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนพลีกายให้เขาใช้หลายๆ ครั้งอย่างที่คาดหวังเอาไว้
“อย่าคิดว่าจะหนีผมได้ คุณต้องมาห้องนี้อาบน้ำด้วยกัน เพราะผมต้องการคนถูหลังตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”
แต่พอล้างเก็บเสร็จสรรพ คนเฝ้ารอโอกาสก็ตรงเข้ามา ช้อนเอาตัวแม่ครัวหัวป่าก์ไว้ในอ้อมแขนทันที เพราะถ้าขืนปล่อยไว้เพียงแค่นาทีเดียว ก็ต้องเดือดร้อนหากุญแจไปไขห้องให้วุ่นวายเหมือนเมื่อคืนอีกแน่ๆ
“นี่คุณ! ปล่อยฉันลงสิ!”
“ไม่ปล่อย!”
คฑาธรไม่สนใจกับสองขาและสองแขนกวัดแกว่งไปมา เพื่อดิ้นรนเอาตัวรอดสักนิด นอกจากก้าวยาวๆ ตรงไปหาห้องนอนของเขา ที่เปิดประตูอ้าเอาไว้ก่อนหน้าแล้ว และใช้ส้นเท้าสะกิดเบาๆ มันก็ปิดให้เรียบร้อย
“ฉันต้องไปเอาของใช้ส่วนตัวก่อนนะคะ”
“ใช้กับผมก็ได้ เราใช้อะไรๆ ด้วยกันมาแล้วจำได้มั้ย”
“ไม่ๆ ปล่อยก่อนสิคะ ฉันจะไปเอาที่ห้อง” พิมพ์ภิษายังคงดิ้นรนเพื่อจะหาทางหนี
“ถ้าขืนคุณยังดิ้นไม่หยุดแบบนี้ ผมจะพาคุณไปที่เตียง แล้วมีอะไรกันสักรอบก่อนค่อยไปอาบน้ำ และต่อด้วยรอบสองในนั้น ออกมาก็มีอีกรอบ รวมตอนเช้าด้วยก็เป็นหก จะเอาอย่างนั้นมั้ยล่ะ”
เพียงเท่านั้น!
ทั้งเท้า ทั้งแขนต่างก็หยุดกึกลงแทบจะทันที ทำเอาคนอุ้มชอบใจไม่น้อย เลยอุ้มร่างนุ่มนิ่มแบบไม่ดิ้นตรงเข้าห้องน้ำ ใช้มือที่ยังคงช้อนอยู่ใต้เข่า
เปิดก๊อกแทนการเข้าไปอาบในจากุซชี่ เขาเห็นว่าจะใช้เวลานานกว่า เพราะบางอย่างในร่างกายดูเหมือนจะไปก่อนใจเรียบร้อยแล้ว