ชายใจดำกับหญิงใจงาม 1.2

2703 คำ
ทุกอย่างที่เขาทำเมื่อครู่เป็นการเสแสร้ง ยกเว้นคำละเมอที่กลั่นออกมาจากหัวใจของผู้ชายคนนี้ ผู้ชายที่ยังรักมั่นคงเพียงกานต์วิภาคนเดียว แล้วเขาคิดว่ามันจะยังคงเป็นเช่นนั้นตลอดไป ทุกอากัปกริยาที่เขาทำล้วนเป็นอุบายของเขาทั้งหมด ลำตัวหนาเลื่อนลงมานอนข้างร่างสวย แต่ยังใช้ลำขาพาดก่ายร่างของเธอเอาไว้ ในขณะที่มือใหญ่เริ่มปาดป่ายบนเรือนร่างของนันท์นภัส ก่อนจะเลื่อนมือใหญ่ของตนมาวางลงบนทรวงอกสาวนุ่มแน่นเนื้อ             “อื้อ...อื้อๆ” น้ำหนักมือของอูโก้ที่บีบเคล้นดอกบัวงามทำให้นันท์นภัสรู้สึกตัว สมองกลับมาทำงานอีกครั้ง เธอร้องห้ามในลำคอ ดิ้นรนไปมา มือเล็กผลักดันร่างใหญ่เพื่อให้ตนเองพ้นจากการถูกลวนลาม แต่ดูเหมือนมันจะไม่เป็นผลเพราะเขายังคงจูบและใช้มือจับต้องร่างกายเธอเช่นเดิม             อูโก้ไม่สนใจปฏิกิริยาของนันท์นภัส ไม่สนใจว่าเธอจะดิ้นรนหนีหรือว่าผลักไส เขายังจมอยู่กับการกวาดต้อนหารสชาติหอมหวานละมุนลิ้นอันยอดเยี่ยมในโพรงปากสาวต่อไป เช่นเดียวกับมือใหญ่ก็ยังคงเคล้นคลึงทรวงอกที่เด้งรับน้ำหนักมือยามบีบกระชับดีเหลือเกิน จนเขาอยากจะสัมผัสเนื้อแท้ของอวัยวะที่ตนกำลังจับต้อง             และเขาก็ทำตามความปรารถนาของตนเอง ฝ่ามือใหญ่ละห่างจากความนุ่มหยุ่น เลื่อนต่ำลงมายังชายเสื้อตัวสวยของนันท์นภัส ก่อนจะถลกมันขึ้นสูงเหนือทรวงอก สอดมือเข้าไปด้านหลังเพื่อปลดตะขอเสื้อในซึ่งมันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาเลย เมื่อจัดการกับตะขอเรียบร้อยเขาก็เลื่อนมือมาด้านหน้า เลิกกรวยสีหวานขึ้นสูงจนบงกชงามเป็นอิสระ อูโก้ไม่รั้งรอที่จะสัมผัสเนื้อแท้ของทรวงอกสาว ฝ่ามือใหญ่ประคองบีบ ขยำอย่างเมามันทันที             “อื้อ...อื้อ...อื้อ” นันท์นภัสพยายามเปล่งเสียงร้อง แต่ก็เช่นเคยที่เสียงของเธอจะไม่ดังผ่านปากเนื่องจากเขายังคงจุมพิตต่อเนื่อง แล้วความตกใจยามนี้ก็มีไม่น้อยที่รู้ว่าขณะนี้เขาจับต้องทรวงอกของตนแบบสัมผัสเนื้อแท้ มือเล็กจึงผลักมือใหญ่ที่ผลักเท่าไหร่ก็ยังคงอยู่ที่เดิม แถมยังออกแรงนวดเฟ้นมากขึ้น เธอรู้สึกตัวสั่น ช่องท้องวูบไหวแปลกๆ เมื่อเขาใช้ปลายนิ้วหมุนปลายถัน             ความรู้สึกที่นันท์นภัสรับรู้ได้เวลานี้นอกเหนือจากความตกใจและหวาดกลัวคือ ความเสียวกระสันที่ค่อยๆ ลุกลามไปทั่วทั้งกาย แล้วมันก็กำลังครอบคลุมจิตใจอันอ่อนไหวของเธอ อาการดิ้นรนต่อสู้ของเธอก็ลดลง             อูโก้ไม่ต้องการเพียงแค่จูบและจับต้องร่างกายบางส่วนของเธอ เขาปรารถนาจะทำมากกว่านั้น ไม่ใช่ว่าเขารักหรือสนใจนันท์นภัส หากเขาต้องการเธอมาเป็นนางบำเรอที่คอยตอบสนองเรื่องทางเพศให้กับเขาเท่านั้น ถือว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณของตระกูลกัลเซลโลและสนองความสะใจส่วนตัวของเขา             “ไม่...มะ...ไม่...ยะ...อย่าค่ะ” เป็นครั้งแรกในรอบหลายนาทีที่เสียงของเธอไหลผ่านปาก เป็นเพราะเรียวปากหนาได้รูปของอูโก้ได้ผละห่างปากนุ่ม ที่เวลานี้บวมเจ่อเล็กน้อยกับการบดจูบ แต่ทว่าเสียงนั้นก็ไม่อาจทำให้ความตั้งใจของอูโก้ยุติลง เขายังคงทำตามความปรารถนาที่เวลานี้มันลุกโชนท่วมกายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพียงแค่จูบและลูบคลำทรวงอกสาว ก็ทำให้เพลิงพิศวาสทุกโชติช่วง จนเขาไม่อยากจะคิดว่า หากทำมากกว่านี้เขาจะเป็นเช่นไร “ไม่...คุณอูโก้...ไม่ค่ะ อย่าทำแคท” สติของนันท์นภัสเริ่มมีมากขึ้น เมื่อมือใหญ่ถอยห่างทรวงอกสาว เธอจึงร้องห้ามและออกแรงดิ้น อีกทั้งยังใช้มือดันร่างหนาให้ออกห่าง แต่เขาก็ใช้ลำขาที่เกยก่ายลำขาเล็กเอาไว้มั่น ทำให้เธอดิ้นรนออกห่างร่างสูงใหญ่ไม่ได้ และตอนนี้ใบหน้าของเขาก็ลากไล้ไปตามแก้มเนียนหอม ละเรื่อยไปถึงใบหูที่เขาขบกัดหยอกเย้าสร้างความเสียวกระสันให้กับร่างแน่งน้อยที่ขนลุกซู่ขึ้นมาทันทีทันใด ไม่เพียงแค่นั้นมือใหญ่ยังเลื่อนไปยังจุดศูนย์กลางของร่างสาว เคล้นคลึงไปตามรูปทรงโค้งเว้า จากนั้นเขาก็เลื่อนมือมาขอบกางเกงผ้ายืดของเธอ ไม่นานนักมันก็เลื่อนต่ำลงไปตามเรียวขาสวยพร้อมกับกางเกงชั้นในที่ม้วนตัวตามไปด้วย “คุณอูโก้ อย่าคะ อย่าทำแคท” ตอนนี้เธอสามารถดิ้นได้มากกว่าเดิม เนื่องจากเขานำขาที่เกยก่ายขาของตนออกเพื่อที่จะถอดกางเกงของเธอ วินาทีนี้เธอจึงดิ้นและดิ้น มือก็ไม่หยุดนิ่งระดมทุบไปตามลำตัวหนาไม่เลือกที่ ปลายเล็บที่ยาวเล็กน้อยข่วนบริเวณลำคอ ท่อนแขนของอูโก้หลายจุด จนเขารู้สึกแสบ แล้วยังถีบเข้าที่ขาแข็งแรงหลายครั้ง หวังจะให้ตนเองรอดพ้นจากนาทีวิกฤตของชีวิตสาว “อย่าดิ้น อย่าให้ฉันต้องออกแรงนะแคท ไม่อย่างนั้นเธอกระอักแน่” เขาขู่คำรามเมื่อเห็นแมวเชื่องออกฤทธิ์ “อย่าทำแคทเลยนะคะ ปล่อยแคทไปเถอะคะ แคทไม่ได้มาอ่อยคุณอูโก้นะคะ” เธอพยายามร้องขอความเห็นใจและสงสาร น้ำตาสาวปริ่มขอบตาแล้วหยดไหลในเวลาต่อมา ความหวาดกลัวเข้าแทรกในจิตใจ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ หวังลึกๆ ว่าเขาจะปล่อยเธอไป “ถือว่าเป็นค่าตอบแทนที่ครอบครัวของฉันช่วยเธอก็แล้วกัน อย่าลืมสิว่าถ้าไม่ได้ครอบครัวของฉัน เธอจะมีวันนี้เหรอ” อูโก้กล่าวเสียงเข้ม “ไม่ใช่ พี่จัสต่างหากที่ช่วยแคทไว้” นันท์นภัสเถียงสู้ เพราะในความเป็นจริง จัสตินต่างหากที่เป็นคนช่วยเหลือเธอ จัสตินเป็นคนแรกที่ช่วยเธอหลบหนีมาจากซ่องนรก “แล้วถ้าไม่ได้ครอบครัวของฉันช่วยเธอไว้ ไอ้จัสมันจะมีปัญญาทำอะไรได้ ถ้ามันช่วยเธอได้จริงมันจะพาเธอพึ่งครอบครัวของฉันทำไม ที่มันพาเธอมาที่นี่เพราะมันไม่มีปัญญาช่วยเธอเหมือนกับที่ครอบครัวฉันช่วยเธอได้ยังไงล่ะ เป็นอย่างนี้แล้วเธอคิดว่าใครกันที่เป็นคนช่วยเธอทั้งเรื่องที่อยู่ที่กิน ไหนจะเรื่องพาสปอร์ตอีก ปัญญาของไอ้จัสมันมีเหรอ มันจะช่วยเธอได้เหรอ” เจอประโยคนี้เข้าไปนันท์นภัสถึงกับพูดไม่ออก มันจริงตามที่อูโก้พูดมา จัสตินช่วยเธอไว้ก็จริง แต่บุคคลที่สามารถช่วยให้เธอมีที่พักพิงที่พักอาศัยที่ปลอดภัย แล้วยังจะเรื่องเอกสารที่ยุ่งยากมากกลับง่ายในระยะเวลาอันสั้น ทุกสิ่งอย่างล้วนแล้วแต่เป็นความช่วยเหลือของตระกูลกัลเซลโลทั้งสิ้น หากไม่ได้พวกเขาเธอคงกลายเป็นคนต่างด้าวที่ต้องอยู่อย่างหลบซ่อน นันท์นภัสสำนึกบุญคุณเสมอแต่ทว่า การตอบแทนบุญคุณไม่ใช่วิธีนี้ “แต่มันไม่ใช่วิธีนี้ ได้โปรดอย่าทำแคทเลยนะคะ” เธอร้องขอเขาอีกครั้ง “ฉันจะทำ” อูโก้ไม่หยุดความตั้งใจของตน อย่างไรเสียวันนี้นันท์นภัสต้องเป็นนางบำเรอของเขา แม้ว่าเขาจะต้องขืนใจเธอก็ตาม จบคำพูด อูโก้ก็ใช้ปลายเท้าดันกางเกงและกางเกงชั้นในของเธอให้หลุดออกไปจากร่างงาม แม้ว่าเธอจะดิ้นรนมากแค่ไหนก็ตาม สุดท้ายอาภรณ์ทั้งสองตัวนั้นก็ไปกองอยู่ปลายเตียง เมื่อเธอดิ้นมากอูโก้จึงขึ้นทาบทับเธอทั้งตัว รวบข้อมือเล็กทั้งสองข้างด้วยมือเพียงมือเดียวก่อนจะนำไปตรึงไว้เหนือศีรษะ “ได้โปรดคุณอูโก้อย่าทำแคท อย่าทำแคท...ฮือ” เธอร้องไห้ออกมาอย่างสุดจะกลั้น นันท์นภัสไม่คิดเลยว่า ชายหนุ่มที่ตนแอบหลงรักตั้งแต่แรกเห็นจะหักหาญน้ำใจเช่นนี้ เขาช่างไร้หัวใจเหลือเกิน “น้ำตาของเธอหยุดฉันไม่ได้หรอก ฉันต้องการอะไรฉันต้องได้” อูโก้ไม่ยี่หระกับน้ำเม็ดใสที่เกลือกกลิ้งลงมาจากหางตาของสาวใต้ร่าง ความปรารถนาที่มีมากบวกกับความต้องการใครสักคนมาเป็นที่ระบายความรู้สึกต่างๆ ที่เกิดขึ้นในจิตใจ ซึ่งเขาก็เลือกแล้วว่า จะต้องเป็นเธอเท่านั้นที่เป็นคนสนองตัณหาให้กับเขาได้ดีที่สุด ไม่ต้องเสียเงิน ไม่ต้องแสวงหา อยู่ใกล้แค่มือเอื้อมจะคว้ามานอนเมื่อไหร่ก็ได้ แล้วชายใจดำก็ทำตามความคิดของตัวเอง เขาบดจูบริมฝีปากของคนที่กำลังร้องไห้ บดเคล้าอย่างไม่มีความปรานี กระแทกกระทั้นจนเธอเจ็บร้าวระบมปาก แต่ก็ร้องขอความเห็นใจหรือร้องเจ็บออกมาไม่ได้สักคำเดียว เสียงทุกเสียงมันก้องอยู่ในลำคอ เธอพยายามส่ายหน้าหนีแต่จะหนีไปได้อย่างไรเล่า แค่เขากดปากลงมา บดขยี้เรียวปากของตน เธอก็จำนนสิ้นเรี่ยวแรง ปลายลิ้นที่รุกเร้าอยู่ในปากก็แสนเอาแต่ใจ หาความนุ่มนวลไม่ได้สักนิดเดียว เขาบดเคล้าอย่างลงโทษที่ไม่ตามใจ ลิ้นใหญ่ต้อนลิ้นเล็กให้จนมุม กวาดชิมความหวานไม่สนใจเสียงใดทั้งสิ้น รวมทั้งน้ำตาของนันท์นภัส หญิงสาวผู้น่าสงสาร “โอ๊ย!” เสียงร้องเจ็บของเธอดังขึ้น เมื่อริมฝีปากใหญ่เคลื่อนตัวห่างกลีบปากนุ่มที่เขาลงโทษจนหนำใจ ใบหน้าคมเข้มเลื่อนไปยังทรวงอกสล้างทันที อ้าปากครอบงับปลายถันสีสวยดึงดูดแรงๆ เข้าไปในปากอย่างรวดเร็วแล้วใช้ฟันขบกัดซ้ำ แน่นอนที่ว่าความเจ็บต้องเกิดขึ้นกับนันท์นภัส แล้วเมื่อเจ็บเธอจึงดิ้นรน ส่ายสะบัดตัวไปมาอยู่ตลอดเวลาถึงแม้จะรู้ว่า ไม่อาจหนีเขาพ้นก็ตาม “หยุดดิ้นได้แล้วถ้าไม่อยากเจ็บตัว” เขาเงยหน้าจากดอกบัวคู่สวย คำรามเสียงใส่แมวตัวน้อย “คุณอูโก้ อย่าทำแคทเลยนะคะ แคทขอร้อง...ฮือ” เธอพยายามขอร้องเขา เว้าวอนเสียงสั่นเครือปะปนกับเสียงสะอื้น เป็นความหวังของเธออีกครั้ง หวังว่าอูโก้จะสงสารและเห็นใจแมวพลัดถิ่น แล้วปล่อยให้เป็นอิสระ “มันจะยากเย็นอะไรกับการนอนกับฉัน ฉันรับรองว่าถ้าเธอนอนกับฉัน เธอจะต้องติดใจ” อูโก้ยังคงไม่สนใจคำอ้อนวอนของนันท์นภัส เขาเลือกที่จะทำตามใจตัวเอง ตามอารมณ์สวาทที่เวลานี้มันลุกกระพือจนยากที่จะดับได้หากไม่ได้ขึ้นไประเริงบนสวรรค์ คำพูดประโยคนี้มันดูง่ายสำหรับเขา แต่สำหรับหญิงสาวที่ไม่เคยผ่านมือชายเช่นเธอเป็นเรื่องที่ยากเหลือเกิน แม้ว่าเธอจะรักเขาหมดหัวใจก็ตาม “ไม่ค่ะ ไม่...คุณอูโก้อย่าทำแคท...ฮือ...ได้โปรด” นันท์นภัสอ้อนวอนอูโก้ทั้งน้ำตา “ฉันบอกแล้วไงว่า น้ำตาของเธอมันหยุดความต้องการของฉันไม่ได้ ถือเสียว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ครอบครัวฉันเสียให้เธอก็แล้วกันนะ” อูโก้ยังคงไม่ในใจน้ำเสียงสั่นเครือ ไม่สนใจน้ำตาที่รินไหล ไม่สนใจแรงต่อต้านของเธอ สิ่งที่เขาสนใจมีเพียงอย่างเดียวก็คือการเผด็จศึกลูกแมวตัวน้อยที่น่ากินใช่หยอก ราวกับว่านันท์นภัสจะรู้ชะตาของตนเอง แต่ถึงกระนั้นเธอก็ส่ายตัวดิ้นหนีร่างหนาที่ทาบทับ แม้ว่าจะรู้เต็มอกว่าช่วยอะไรไม่ได้เลย ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เขาลดความรุนแรงลงเป็นความอ่อนโยนเพื่อให้เธอคล้อยตาม ทรวงอกสาวทั้งสองข้างถูกปากของเขาสลับกันเชยชิม ปลายลิ้นก็ทำหน้าที่ละเลงไม่หยุด พลิ้วสะบัดไปมา บางครั้งก็ปาดลิ้นไปรอบๆ ก่อนจะดูดดึงความสวยงามที่ตั้งชันผลุบหายเข้าไปในปาก กลืนกินเข้าและออกจนร่างสวยที่ขยับดิ้นปรับเลี่ยนเป็นส่ายตัวเบาๆ เสียงสะอื้นปะปนมากับเสียงครางผะแผ่ว เสียงครางที่มาจากความกระสันซ่านดังเล็ดลอดออกมาจากปากสาว หัวสมองของนันท์นภัสเริ่มหมุนคล้ายลูกข่าง เมื่อถูกความเสน่หาความรู้สึกที่ตนเองไม่ต้องการได้รับวิ่งเข้าจู่โจมในร่างกาย เธอต่อต้านมันไม่ได้เลย เฉกเช่นเดียวกับที่ห้ามปรามเขาไม่ได้ ร่างกายของนันท์นภัสไหลไปตามเคลื่อนอารมณ์ที่ถูกปลุกระดมด้วยปากและลิ้นของอูโก้ มือของเขาก็เป็นอีกอวัยวะหนึ่งที่ทำให้ปฏิกิริยาของนันท์นภัสอ่อนลง เขาขยับตัวลงมานอนตะแคงข้างร่างเล็ก ใช้ขาพาดเกี่ยวเรียวขางามที่ติดกับร่างของตนไว้กันเธอขยับตัวหนี ส่วนขาด้านนอกของเธอก็ถูกดันออกไปทางด้านข้าง เพื่อที่มือหนาจะได้สำรวจช่องทางเร้นลับใจกลางร่างสาวได้โดยสะดวก “มะ...ไม่...อืม...ไม่คะ...อา” เสียงที่เปล่งออกมาจากปากนุ่มมีทั้งเสียงร้องห้ามจากจิตใต้สำนึกที่ยังคงหลงเหลืออยู่ และเสียงครวญครางจากความกระสันเสียวที่แผ่กระจายเข้าสู่ร่างอีกระลอก ความสยิวที่เกิดจากนิ้วมือใหญ่บดขยี้หนักๆ หลายครั้งก่อนจะเปลี่ยนเป็นสะกิดระรัวตรงอัญมณีสีชมพูที่เวลานี้นูนเบ่งน่าสัมผัส แน่นอนที่ว่าเขาจะไม่สนใจเสียงของนันท์นภัส อูโก้กำลังเร่งมือสร้างความเสียวสยิวให้นันท์นภัสมากที่สุด เพื่อที่เกมสวาทจะได้เข้มข้นและเร่าร้อนแล้วเขาก็กำลังเปลี่ยนแรงทักท้วงเป็นความสมยอม ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยแม้แต่นิดเดียว “อืม...อา...คุณอูโก้” แล้วอูโก้ก็ทำสำเร็จ เวลานี้เธออ่อนปวกเปียกราวกับขี้ผึ้งถูกไฟลนเขากระตุ้นอารมณ์ของเธอตรงจุดอ่อนไหวของสตรี รุกเร้าหนักด้วยนิ้วใหญ่ที่ยังคงสะกิดถี่ไม่หยุด บางครั้งก็ผ่อนปรนเป็นบดบี้แล้วปรับเปลี่ยนเป็นระริกสั่นด้วยปลายนิ้วอีกครั้ง ในขณะที่ปากหนายังคงอ้าอมดูดกลืนและเลียไล้ยอดถันไม่ห่างหนี ประสานการทำงานทั้งอวัยวะด้านบนและใจกลางร่างสาว เรียกเสียงครางดังลอดผ่านปากจิ้มลิ้ม ร่างกายของเธอก็เช่นกัน สั่นไหวจนเขารู้สึกได้ “ดูสิ ปากเธอก็บอกว่าอย่าทำแต่ร่างกายเธอสิ มันตอบสนองฉันดีพิลึก” เสียงเข้มคล้ายเยาะเย้ยดังขึ้น แต่ยังไม่หยุดนิ้วมือที่ยังทำงานแข็งขัน เร่งเร้าอารมณ์สาวให้กระเจิดกระเจิง เปลี่ยนการขัดขืนเป็นยอม น้ำเสน่หาที่ไหลรินออกจากถ้ำสวาทเป็นสิ่งที่บอกให้เขารับรู้ “อืม...อืม...อา...คุณอูโก้” เธอต้องการเอ่ยคำร้องห้ามมากกว่า แต่ทว่าจิตใจของสาวไร้ประสบการณ์กลับมีแต่ความปรารถนาทุกพื้นที่ แม้จะพยายามปัดความรู้สึกนี้ออกไปมากเพียงใดก็หาเป็นผลสำเร็จ นันท์นภัสไม่รู้ตัวเลยว่า ขณะที่ตัวเองกำลังอยู่ในห้วงพิศวาส เวลานี้อูโก้กำลังปลดกางเกงของเขาออกจากร่างกาย ส่งผลให้ท่อนล่างของเขาเปล่าเปลือยเช่นเดียวกับเธอ หญิงสาวมารู้สึกตัวก็ตอนที่เขาดุนดันแก่นกายใหญ่ตรงสะโพกงามสวย เธอรู้สึกร้อนไปทั้งตัว ความร้อนที่มาพร้อมกับความตกใจและหวาดกลัว สติที่คิดว่าไม่อยู่กับตัว พุ่งเข้ามาในจิตใจทันควัน “ไม่...อย่า อย่าคะ อย่าทำแคท” เธอเอ่ยขอเขาเสียงเบาหวิว ออกแรงดิ้นหวังจะถอยห่างร่างหนา แต่นั่นเป็นเรื่องที่เธอคิดผิด หญิงสาวไม่อาจหลุดพ้นไปจากพันธนาการของอูโก้ได้เลย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม