พี่ชายที่แสนดี 1.1

2076 คำ
ระยะทางราวยี่สิบเมตรจากห้องของนันท์นภัสมาถึงห้องของอูโก้ที่จัสตินเดินในวันนี้ มันช่างยาวไกลและเจ็บปวดเหลือเกิน เสมือนกับว่าเขาเดินอยู่บนหนามแหลมคม ย่ำเท้าเดินครั้งใดความเจ็บปวดมันพุ่งเข้ามาในจิตใจทันที มองประตูห้องนอนของเจ้านายหนุ่มก็ยิ่งปวดร้าวกับภาพของหญิงสาวที่ตนรักเดินออกมาจากห้องนั้น หากอูโก้ไม่มีบุญคุณกับเขา ไม่เคยช่วยเหลือเขาและมารดามาก่อนแล้วล่ะก็ เขาจะไม่รีรอที่จะฆ่าอูโก้ให้ตายคามือให้สมกับที่ทำไว้กับนันท์นภัส แต่อูโก้มีบุญคุณกับเขาเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเขาและมารดารอดพ้นจากความตายด้วยฝีมือของอันธพาล ในวันนั้น ยิ่งไปกว่านั้นอูโก้ยังช่วยพามารดาของเขาไปรักษาโรคที่รุมเร้ามารดาเขามาเป็นเวลานานในโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในอิตาลี จนมารดาของเขาหายดีจัสตินจึงสำนึกบุญคุณของอูโก้และตระกูลกัลเซลโลมาตลอด และสาบานว่าจะจงรักภักดีและซื่อสัตย์ต่อตระกูลนี้ไปตลอดชีวิต จัสตินเดินมาหยุดหน้าห้องของอูโก้ เขาสูดลมหายใจเข้าปอดหลายครั้งราวกับจะเรียกสติของตัวเองให้อยู่คงที่ ไม่เดือดพล่านทำในสิ่งที่ไม่สมควรทำ ก่อนที่เขาจะเคาะประตูห้อง และเมื่อได้ยินเสียงจากคนในห้องอนุญาต เขาก็เปิดประตูแล้วผลักมันเข้าไป             “นายเองเหรอจัส” อูโก้ทักคนที่เดินเข้ามา คราแรกนึกว่าสาวใช้นำอาหารขึ้นมาให้ “นายมาก็ดีแล้วมีเรื่องจะให้ทำพอดี”             “ผมเอาเอกสารด่วนมาให้คุณอูโก้เซ็นครับ” ผู้พูดยื่นเอกสารส่งให้เจ้านายที่รับมันไว้มาเปิดดูผ่านๆ ก่อนจะเดินกลับไปยังเตียงนอนหยิบปากกาที่วางอบู่บนตู้หัวเตียงมาเซ็นกำกับชื่อในเอกสารฉบับนั้น เสร็จสรรพจึงยื่นกลับคืนส่งให้ลูกน้องคู่ใจ “นายช่วยไปซื้อยาคุมฉุกเฉินมาให้ฉันด้วย แล้วก็ถุงยางอนามัยสักสองโหล” อูโก้สั่งลูกน้องขณะที่เอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาจากลิ้นชักหัวเตียง หยิบธนบัตรหลายใบออกมาก่อนจะส่งให้จัสตินที่ยื่นมือมารับแล้วรู้ด้วยว่า อูโก้ให้ตนเองซื้อทั้งสองอย่างมาทำไม “ได้ครับ” จัสตินรับคำสั้นๆ แต่หัวใจเจ็บมาก “นายจะไม่ถามฉันเหรอว่า ฉันซื้อไปทำไม” “มันเป็นเรื่องของเจ้านาย ผมคงก้าวก่ายไม่ได้ครับ” แม้ว่าอยากจะรู้คำตอบให้ชัดเจน แต่จัสตินก็เลือกที่จะไม่ถาม “แต่ฉันอยากบอก” อูโก้เอ่ยด้วยน้ำเสียงกวนๆ “นายซื้อยาคุมฉุกเฉินแล้วก็เอาไปให้แคทกินด้วยนะ เมื่อคืนฉันเริงรักกับแคทมากไปหน่อย กันไว้ดีกว่าแก้ ส่วนถุงยางอนามัยฉันก็จะเอาไว้ใช้ในครั้งต่อๆ ไป” ความสนิทสนมของจัสตินกับนันท์นภัสที่เขาเห็น มันทำให้เขารู้สึกหมั่นไส้ไม่น้อย แล้วไม่รู้ว่าทั้งสองมีความรู้สึกใดต่อกันมากไปกว่า พี่ชายกับน้องสาวตามที่จัสตินเคยพูดกับเขาหรือไม่ แต่พอได้เอ่ยออกไปอูโก้ก็รู้สึกดีไม่หยอก “ครับ ผมจะทำตามที่คุณอูโก้สั่งครับ” จัสตินรับคำเสียงเรียบ ใบหน้าไม่แสดงออกถึงความรู้สึกของตน เขาเก็บซ่อนมันไว้จนมิด “นายไม่รู้สึกอะไรบ้างเหรอที่ฉันนอนกับแคท” อูโก้เลิกคิ้วถาม “เรื่องนี้มันเป็นสิทธิส่วนบุคคลครับ ผมคงไปก้าวก่ายหรือยุ่งไมได้ครับ ถึงแม้ว่าผมจะเห็นแคทเป็นน้องสาวก็ตาม” น้ำเสียงของจัสตินยังคงราบเรียบ ไม่แสดงอาการใดออกมา “ถ้านายคิดว่าแคทเป็นแค่น้องสาวก็ดี” อูโก้พูดตอบกลับ “เพราะน้องสาวของแกรสชาติดีใช่ย่อย เห็นทีจะเป็นของเล่นของฉันอีกนานหวังว่าพี่ชายคงไม่ว่าอะไรนะ” “ครับ อย่างที่ผมบอกคุณอูโก้ไป เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคลผมคงไปยุ่งหรือก้าวก่ายไม่ได้ แล้วผมก็ยังยืนยันตามคำนั้นครับ” แม้ว่าอูโก้จะกวนโทสะจัสตินมากแค่ไหนก็ตาม แต่เขาก็ยังเก็บกับอารมณ์ไว้เต็มที่ เหยียบความโกรธให้อยู่ที่ปลายเท้า  “ผมขอตัวก่อนนะครับจะรีบไปจัดการตามที่คุณอูโก้สั่ง” จัสตินหมุนตัวแล้วเดินออกไปจากห้องของเจ้านายทันทีที่พูดจบ ในหัวใจของคนที่เดินออกจากห้องนับหนึ่งถึงร้อยแล้ว ระงับสติอารมณ์ของตนเองไว้เต็มกำลังไม่ให้ตะบันหน้าเจ้านายหนุ่มจอมกวนประสาท ที่ไม่รู้ว่าจะหาเรื่องหรือเพียงแค่บอกกล่าวให้รับรู้ แต่จัสตินคิดว่าน่าจะเป็นอย่างแรกมากกว่า “ขอให้เป็นอย่างที่พูดนะจัส เพราะไม่อย่างนั้นกูเอาเลือดออกจากหัวมึงแน่” อูโก้พูดขึ้นหลังจากที่ประตูห้องปิดลง เขาไม่รู้ว่าตนเองทำไมถึงเอ่ยประโยคนี้ขึ้นมา เขาไม่จำเป็นต้องสนใจไม่ใช่หรือว่าจัสตินจะมีความรู้สึกใดกับนันท์นภัส ถึงอย่างไรเสียสาวชาวไทยคนนั้นก็เป็นของเขาแล้วและจะเป็นเช่นนั้นไปจนกว่าเขาจะเบื่อ ต่อจากนั้นใครจะรับของเหลือเดนจากเขาก็เชิญตามสบาย คนอย่างอูโก้ไม่จำเป็นต้องสนใจความรู้สึกของใครโดยเฉพาะความรู้สึกของลูกแมวน้อย...นันท์นภัส               หนึ่งเดือนต่อมา             หลังจากที่เดินทางไปอังกฤษนานนับเดือน ในที่สุดซัคคาร์โด้กับมากาเร็ตก็เดินทางกลับกรุงโรม ประเทศอิตาลีจะว่าไปก็ไม่ใช่ว่าสองสามีภรรยาจะพักที่นี่ถาวร ทั้งคู่ไปๆ มาๆ ระหว่างสองประเทศนี้ แต่ละครั้งที่มาพักก็ไม่แน่นอน ระหว่างที่เดินทางกลับไปอังกฤษ สองสามีภรรยายังนึกหวั่นใจเรื่องวันครบรอบวันเลิกราของลูกชายว่า อูโก้จะเมาหัวราน้ำไม่สนใจโลกอีกหรือไม่ แล้วมันก็เป็นตามคาดลูกชายของทั้งคู่เป็นเช่นนั้นจริงๆ แต่ก็สามารถผ่านช่วงเวลาดังกล่าวมาได้เช่นเดิม             “มัมเป็นไงอูโก้ ดีขึ้นไหมลูก” มากาเร็ตเอ่ยถามลูกชายสุดที่รักที่นั่งอยู่ข้างๆ             “ก็โอเคครับ” อูโก้ทำใจเรื่องกานต์วิภาได้มากแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะตัดใจได้ตามที่เอ่ยออกไปเนื่องจากเธอเป็นรักแรกของเขา ซึ่งมันก็ต้องใช้เวลามากกว่านี้กว่าจะลืมรักแรกได้หมดใจ             “อย่างนี้อูโก้ก็ออกงานได้แล้วใช่ไหม” ซัคคาร์โด้ถามลูกชาย             “ครับ ได้แล้วครับ ปาเดรพูดอย่างนี้ต้องให้ผมไปงานไหนสักงานแน่ๆ” คนเป็นลูกคาดเดา แต่ก่อนที่ผู้เป็นพ่อจะตอบ ร่างของนันท์นภัสก็เดินเข้ามาในห้องรับแขกพร้อมกับเครื่องดื่มเย็นๆ “น้ำแอปเปิ้ลคะคุณลุงคุณป้า” นันท์นภัสวางแก้วเครื่องดื่มให้ซัคคาร์โด้กับมากาเร็ตคนละแก้ว ก่อนจะหยิบแก้วเครื่องดื่มอีกแก้วหนึ่งวางตรงโต๊ะตัวเตี้ยตรงหน้าลูกชายเจ้าของบ้าน “น้ำแอปเปิ้ลของคุณอูโก้ค่ะ” “ขอบใจจ้ะแคท” ซัคคาร์โด้ยกแก้วน้ำฝรั่งคั้นสดแช่เย็นชื่นใจขึ้นดื่ม พอดื่มเสร็จเขาก็พูดเรื่องที่ค้างคาต่อ “ค่ำนี้จะมีงานเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดของแทมมารี่ ออดิสปาเดรว่าจะชวนลูกไปด้วยกัน” “งานนี้ผมก็ถูกเชิญไปเหมือนกันครับ ถ้าปาเดรไปผมก็ไป” งานเปิดตัวรถยนต์ยี่ห้อหรูจากประเทศฝรั่งเศส อูโก้ก็ถูกเชิญให้ไปร่วมงานเช่นกันและงานนี้ก็จะเชิญแต่คนกระเป๋าหนักและนิยมรถซุปเปอร์คาร์มรรถนะสูง แน่นอนที่ว่าราคาของมันก็จะต้องสูงตามไปด้วย “ถ้าอย่างนั้นเราไปงานเปิดตัวรถพร้อมกันเลยนะ” ซัคคาร์โด้สรุป “แคทไปด้วยนะ” “ทำไมแคทต้องไปด้วยครับ ไม่เห็นจำเป็นเลย” น้ำเสียงของอูโก้คล้ายจะไม่พอใจที่บิดาเอ่ยชวนแมวพลัดถิ่นไปร่วมงานนี้ด้วย “มันจำเป็นจ้ะ” เสียงของมากาเร็ตเอ่ยแทรกขึ้น “เพราะงานนี้มัมกับปาเดรตั้งใจจะให้แคทไปงานนี้ด้วย แต่ลูกไม่ต้องถามว่าทำไมเพราะไปถึงงานลูกก็จะรู้เอง” มากาเร็ตพูดดักคอลูกชายและนั่นยิ่งทำให้อูโก้อยากรู้มากขึ้น เนื่องจากคำพูดของมารดาชวนสงสัยหลายอย่าง แต่คนที่ปากบอกว่าไม่สนใจนันท์นภัสก็ไม่อยากจะเอ่ยถามอะไรออกไป รอดูในงานค่ำนี้ดีกว่า “ผมก็ไม่อยากจะรู้หรอกครับแล้วก็ไม่รู้ว่าจะรู้ไปทำไมด้วย” “แคทค่ำนี้ไปงานเลี้ยงกับเรานะ ส่วนเรื่องเสื้อผ้าไม่ต้องห่วงป้าจัดการให้เรียบร้อยแล้ว อีกสักพักทางร้านซินเธียน่าก็จะเอาชุดมาส่งให้” งานนี้มากาเร็ตจัดการให้นันท์นภัสเสร็จสรรพ เพราะนางวาดหวังว่าค่ำคืนนี้ความสวยงามของนันท์นภัสจะต้องโดดเด่นที่สุด “ค่ะคุณป้า” นันท์นภัสไม่เคยเกี่ยงงอนในเรื่องที่ซัคคาร์โด้กับมากาเร็ตสั่ง “งานเลี้ยงค่ำนี้ แคทจะต้องสวยและเด่นที่สุด ป้ามั่นใจ” อูโก้เริ่มตงิดกับคำพูดของมารดาอีกรอบ เหตุใดงานค่ำนี้จะต้องให้นันท์นภัสโดดเด่นกว่าใครด้วย ทั้งที่หลายครั้งที่นันท์นภัสออกงานร่วมกับครอบครัวของตน มากาเร็ตไม่เคยเน้นย้ำเช่นนี้มาก่อนเลย เขารู้สึกแปลกๆ อย่างไรชอบกล “จะสวยจะเด่นไปทำไมครับ ทำยังไงก็คงไม่ดีไปกว่านี้หรอกครับ” อูโก้ยังคงปรามาสนันท์นภัสต่อหน้าบุพการีเช่นเดิม แสดงออกให้เห็นถึงความไม่ชอบหน้าสาวชาวไทยอย่างชัดเจน คนที่ถูกกล่าวถึงถึงกับหน้าถอดสี ดวงตาเศร้า ความเสียใจวิ่งเข้าไปในความรู้สึก “ลูกอาจจะมองไม่เห็นแต่แม่เชื่อว่า งานค่ำนี้ต้องมีคนหนึ่งที่เห็น” มากาเร็ตพูดกำกวม “เอาไว้งานค่ำนี้ลูกก็จะรู้คำตอบเอง” “ผมก็ไม่อยากรู้คำตอบหรอกครับ ไม่รู้ด้วยว่าจะรู้ไปทำไมให้มันหนักสมอง เอาเป็นว่าเจอกันที่งานนะครับ อยู่ตรงนี้นานๆ จะอ้วก” อูโก้ลุกเดินออกไปจากห้องรับแขกทันทีที่พูดจบ เพราะยิ่งฟังคำพูดของมารดาความสงสัยก็ยิ่งเต็มสมอง ครั้นจะเอ่ยถามก็ใช่เรื่อง ทำทีไม่ใส่ใจน่าจะดีกว่า อีกอย่าง เขาเองก็ไม่ได้อยากรู้เรื่องของเธอสักเท่าไหร่ “แคทอย่าไปสนใจคำพูดของอูโก้นะลูก รายนั้นก็พูดไปเรื่อยเปื่อย” มากาเร็ตรู้อยู่แก่ใจว่า ลูกชายของนางมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อนันท์นภัส แล้วทุกคำพูดของอูโก้ก็พูดให้อีกฝ่ายเสียใจเสมอ จนบางครั้งนางอยากจะเอามือไปตีปากลูกชายเป็นการสั่งสอน “ค่ะคุณป้า แคทไม่ถือสาคุณอูโก้ค่ะ” “ป้าขอไปหลับสักงีบนะ สักหนึ่งทุ่มเราจะไปงานเลี้ยงกัน” มากาเร็ตนัดหมาย “ค่ะคุณป้า” สองสามีภรรยาลุกขึ้นแล้วเดินขึ้นไปชั้นบนของบ้านเพื่อพักผ่อน ส่วนนันท์นภัสก็ไปทำตามหน้าที่ของตน อีกสักพักใหญ่ๆ ชุดราตรีของร้านซินเธียน่า ร้านเสื้อแบรนด์ดังของอิตาลีที่มากาเร็ตสั่งให้นันท์นภัสมาส่ง พอสาวชาวไทยเห็นชุดที่ตนเองต้องใส่ค่ำคืนนี้ถึงกับอ้าปากค้าง ไม่คิดว่าชุดจะออกมาแบบนี้ แต่ถึงอย่างไรเธอก็ต้องสวมใส่มันอยู่ดีเพราะมันเป็นคำสั่งของผู้มีพระคุณงานนี้สงสัยว่าเธอคงไม้กล้าขัดคำสั่งคงจะต้องรวบรวมความกล้าหาญทั้งหมดที่มีสวมใส่ชุดนี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม