“แน่ใจเหรอว่าที่พูดมาเป็นเรื่องจริง ฉันเห็นเธอหัวเราะร่า ให้ท่ามันสารพัดอย่างนี้จะเรียกว่าฉันเขาใจผิดได้ยังไง เพราะสิ่งที่ฉันเห็นคือความร่านของเธอ”
ไม่ว่าเธอจะมีคำตอบใดให้เขา อูโก้ก็หาได้รับฟัง เขาเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น เชื่อในความคิดของตน แล้วเวลานี้ความไม่พอใจที่มีคนมายุ่งของของตนก็มีมากเกินกว่าจะเชื่อคำพูดใดๆ
“ไม่ค่ะ ไม่ใช่ ไม่ใช่ค่ะ แคทไม่ได้เป็นแบบนั้น”
เวลานี้หัวใจของเธอเต้นแรง จิตใจอาบไปด้วยความกลัว นันท์นภัสรู้ดีว่าคนอย่างอูโก้ทำได้ทุกอย่างในยามโกรธและไม่พอใจ แล้วบริเวณนี้ก็มีความมืดโรยตัวอยู่ จะมีเพียงแสงไฟจากตรงประตูทางเข้าเท่านั้น นันท์นภัสจึงกลัวว่าเขาจะทำในเรื่องที่ไม่เหมาะสมตรงนี้
“ไม่เหรอ ไม่จริงมั้งเพราะฉันเห็นว่าเธอร่านจริงๆ ถ้าเธอร่านนักฉันจะก็จะสนองให้ ตรงนี้เลยเป็นไงได้บรรยากาศดีชะมัด”
ปากเขาพูดแต่มือลูบไปตามเรียวขางามผ่านชุดราตรี ก่อนจะดึงรั้งชายกระโปรงให้ถลกขึ้นสูงเพื่อให้มือสัมผัสผิวเนื้อนุ่มของเธอ อีกมือหนึ่งก็ประคองบีบทรวงอกสาวหนักๆ จนเจ้าของทรวงอกรู้สึกเจ็บ
“อย่าค่ะ อย่าทำแคทแบบนี้ แคทขอร้อง อย่าคะ”
นันท์นภัสทั้งดิ้น ทั้งผลักไส ทั้งร้องขอความเห็นใจ แต่ดูเหมือนกว่าเขาจะไม่สนใจอะไร ใบหน้าคมซุกอยู่บนลำคอระหง ตั้งใจว่าจะฝากรอยจารึกให้เธออับอาย แล้วคนที่เห็นรอยนี้ก็ต้องคิดไปในทางเดียวกันว่ามันคือรอยดูด งานนี้สะใจเขาเหลือเกิน
แต่ทว่าความตั้งใจของอูโก้เป็นหมัน เมื่อเสียงหนึ่งดังขึ้น
“คุณอูโก้ครับ อย่าทำแคทนะครับ” อูโก้ชะงัก หันมามองต้นเสียงดวงตาแข็งกระด้างและเย็นชา
“มึงมาเสือกห่าอะไรไอ้จัส” เขาตวาดใส่ลูกน้อง “อย่ายุ่งเรื่องของกู”
“คุณท่านถามหาแคทครับ คุณอูโก้ปล่อยแคทเถอะครับ ถ้าแคทกลับเข้าไปในงานในสภาพที่ไม่เรียบร้อยอาจถูกคุณท่านสงสัยได้นะครับ คราวนี้เรื่องแดงแน่ๆ”
จัสตินทำใจดีสู้เสือขี้โมโหและกำลังหิวในรสสวาท เขาต้องรีบห้ามปรามเจ้านายก่อนที่จะทำอะไรที่มีผลกระทบต่อนันท์นภัสที่ยืนร้องไห้ตัวโยน
“ช่างแคทสิ ไม่ใช่เรื่องของฉันซะหน่อย หาทางแก้ตัวเอาเอง” อูโก้ไม่สนใจคำเตือนของจัสติน คนอย่างอูโก้คิดจะทำอะไรก็ต้องทำให้ได้ ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
“อย่าทำแคทเลยนะครับคุณอูโก้ ผมขอร้อง”
“กูจะทำ” ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ หลังจากจบคำพูดอูโก้ก็ซุกใบหน้าตรงลำคอระหง เขาใช้ปากดูดคอขาวๆ ของเธอจนเกิดรอยแดงดวงใหญ่แล้วผละห่างทันที ท่ามกลางความตกใจและคาดไม่ถึงของนันท์นภัสและจัสตินว่าอูโก้จะทำเช่นนี้ พออูโก้ทำในสิ่งที่ตั้งใจเสร็จก็ผลักร่างเล็กราวกับเธอเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจทำให้ร่างกระเด็นไปปะทะกับร่างของจัสตินที่โผเข้ามาประคอง “หาข้อแก้ตัวเอาเอง”
อูโก้เดินจากไปอย่างไม่ทุกข์ร้อนการกระทำของตน เขาเดินผิวปากอย่างอารมณ์ดีเดินไปยังห้องจัดงาน ไม่สนใจความรู้สึกของนันท์นภัสว่าจะเป็นเช่นไร
“ฮือ...ฮือ” นันท์นภัสร้องไห้แนบอกของจัสติน ในอ้อมแขนอันแสนอบอุ่น
“ไหวไหมคนดีของพี่” จัสตินเอ่ยถามหญิงสาวที่เขาโอบกอด “ไม่ไหวก็บอกพี่นะ”
แม้จะรู้ว่าตนเองไม่ไหว ไม่ไหวในที่นี้หมายถึงถูกอูโก้ย่ำยีร่างกาย หัวใจของเธอก็ถูกเขาทำร้ายอย่างแสนสาหัส แต่ถึงกระนั้นเธอก็จะยินดีจะเจ็บปวด ทนทุกข์ทรมานเพียงเพราะคำว่ารัก คำเดียว
“วะ...ไหวค่ะ” เธอดันตัวออกห่างร่างใหญ่ ใช้ฝ่ามือปาดน้ำตาทิ้ง “คุณท่านเรียกหาแคท แคทกลับเข้าไปในงานก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวครับ” เขารั้งเธอไว้ด้วยคำพูด ล้วงหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่ของตนออกมาจากกระเป๋ากางเกง ก่อนจะพับผ้าเช็ดหน้าทบๆ ให้คล้ายไม้บรรทัด แล้วนำผ้าเช็ดหน้าที่พับเรียบร้อยมาพันรอบลำคอของนันท์นภัส ปกปิดรอยที่ไม่น่ามอง “ถ้ามีใครถามว่าทำไมถึงเอาผ้าเช็ดหน้ามาพันรอบคอ แคทบอกเขานะว่ารู้สึกระคายคอเลยหาผ้ามาพันกันเอาไว้ก่อน บอกกับคนที่ถามอย่างนี้นะ”
ขณะที่ปากของจัสตินพูด มือของเขาก็บรรจงผูกปมผ้าเช็ดหน้าให้ดูสวยงาม ให้สมกับชุดที่เธอสวมใส่ ในขณะที่ทำทุกอย่างให้เธอนั้น ดวงตาของเขามองรอยจ้ำแดงที่เกิดขึ้นหมาดๆ ด้วยความเสียใจและชอกช้ำ เขารู้ดีว่าเหตุผลที่นันท์นภัสทนทุกอย่างเพราะอะไร ก็คงเหมือนตัวเขาที่ทนเจ็บ ทนเห็นคนที่ตัวเองรักเป็นของคนอื่น ขอเพียงอยู่ใกล้ เพียงแค่นั้นก็มีความสุขจัสตินเข้าใจความรู้สึกของนันท์นภัส เสมือนกับที่เข้าใจตัวเองว่าเหตุใดต้องทนและทน
ความอ่อนโยนและความเอาใจใส่ของจัสตินที่มีต่อนันท์นภัส เรียกต่อมน้ำตาของเธอให้ระเบิดออกมาอีกรอบ ในบ้านกัลเซลโลนอกเหนือจากซัคคาร์โด้กับมากาเร็ตที่ดีต่อเธอ ยังคงมีจัสตินอีกคนหนึ่งที่ยืนเคียงข้างตนเสมอ ไม่ว่าจะยามทุกข์หรือสุข เขาจะดูแลเธอด้วยหัวใจที่แท้จริง ด้วยหัวใจของพี่ชายที่มีต่อน้องสาวนอกสายเลือดคนนี้ หากหญิงสาวเลือกที่จะรักใครก็ได้ นันท์นภัสจะไม่ขอรักอูโก้ เธอจะรักจัสติน แต่ทว่ามันคงเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว หัวใจดวงนี้และร่างกายมอบให้ชายใจดำ ใจร้ายนามว่าอูโก้จนหมดใจ เผื่อแผ่ให้ใครไม่ได้ทั้งสิ้น
แม้จะตระหนักถึงความดีของจัสติน แต่เธอก็มอบความรักให้เขาได้แค่ พี่ชายเท่านั้น
“ขอบคุณค่ะพี่จัส” เธอเอ่ยขอบคุณเขาเสียงสั่น
“ดูสิ ร้องไห้เหมือนเด็กเลย นิ่งซะนะเดี๋ยวเข้าไปในงานคนจะสงสัย พี่ว่าไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำก่อนดีกว่าแล้วค่อยเข้าไปในงาน” เขาเอ่ยบอกเสียงนุ่ม ปลายนิ้วใหญ่กรีดน้ำตาของเธอให้พ้นไปจากใบหน้านวลเนียน
“ค่ะพี่จัส” เธอทำตามที่เขาบอก
“ไป พี่จะพาไปห้องน้ำนะ” จัมตินกุมมือนุ่มของนันท์นภัส จากนั้นก็พาเธอเดินไปยังห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกล หัวใจของจัสตินกลัดหนอง สงสารหญิงสาวที่ตนรักหมดใจอย่างมากมาย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรเธอได้ เขาทำได้เพียงแค่ดูแลยามเธอทุกข์และเสียใจ คอยปลอบประโลมให้คลายความหมองเศร้า ทำหน้าที่พี่ชายให้ดีที่สุด และจะอยู่เคียงข้างนันท์นภัสไปตลอดกาล