น้องหนึ่งกลายเป็นวัยรุ่นเซ็ง ปีนลงจากตักไปอ้อนแม่อินขอขนมไปนั่งกินข้างคุณยาย อ้อนคุณยายเสียจนผู้เป็นลุงอดหมั่นไส้ไม่ได้ เวลามีคนอยู่เยอะๆ ทีไรเคยสนใจเขาซะที่ไหนล่ะเจ้าหลานคนนี้
“วันหลังให้พ่อไฟพาไปขี่ม้าเลย ไม่ต้องมาหาลุงอาร์ม”
ผู้เป็นลุงประท้วงหลาน หมดกัน ภาพนายอาร์มสุดโหดและสุดจะหวงตัวแห่งไร่ส้มสัตตา ที่แท้ก็แค่ผู้ชายวัยเจริญพันธุ์ที่เหงาและขี้งอน อยากมีลูกแต่ก็ติดปัญหาใหญ่คือหาแม่ของลูกยังไม่ได้
อินทุอรหัวเราะคิกๆ ตลกหน้าพี่ชายตอนนี้มาก ตนเองแอบสบตากับสามีซึ่งพี่ไฟเองก็กำลังกลั้นหัวเราะอยู่เหมือนกัน อย่างนี้แหละหนาเขาถึงว่ากันว่าผู้ชายบางคนยังไม่ทันแก่ก็หัวล้านซะแล้ว
“งอนได้แม้กระทั่งกับหลานนะคะพี่อาร์ม”
“น้องอินก็ดูลูกตัวเองสิ”
ชิ อาชวินทำเสียงนั้นใส่เจ้าหลาน เปลี่ยนเรื่องมาคุยกับน้องเขยเรื่องที่ดินปล่อยเจ้าแสบให้น้องอินกับมารดาดูแล คุยไปได้พักใหญ่ได้ความว่าชาวบ้านจะขายให้คนอื่น อาชวินรู้จักจึงอาสาจะเข้าไปคุยให้ดังนั้นน้องเขยจึงสบายใจและขอบคุณเขา
แม่แสงหล้า แม่บ้านให้เอื้อยคำมาตามทุกคนบอกว่าตั้งโต๊ะอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว อาชวินให้ทุกคนไปรอที่ห้องอาหารก่อนส่วนตัวเองนั้นไปตามคุณย่า ท่านชอบกลับไปเอนหลังช่วงหัวค่ำก่อนออกมากินข้าวประจำ
คุณย่าของเขาอายุมากแล้วแต่ยังสามารถเดินเหินเองได้สะดวก มีบ้างที่ต้องจับโต๊ะจับราวซึ่งอาชวินก็ทำไว้ให้ตลอดเส้นทางในบ้าน
ท่านชอบบ่นเขาเรื่องไม่มีเมียสักที แถมยังเจ้าคิดเจ้าแผนการ แสบยิ่งกว่าเจ้าหนึ่ง แข็งแรงแบบนี้อยู่กับเขาได้อีกนานแน่นอน
อาหารมื้อเย็นอร่อยที่สุดในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาทุกคนได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา ขณะกำลังรับประทานก็มีจานแคปหมู น้ำพริกหนุ่มมาเพิ่ม อาชวินลดช้อนอาหารลงเล็กน้อยยังไม่ยอมตักเข้าปาก มองเอื้อยคำ
“บนโต๊ะนี่ก็กินไม่หมดแล้วนะ ป้าหล้ายังมีจานหลักมาตบท้ายอีกเหรอ เข้าทางเสือเขมือบอย่างเจ้าหนึ่งจริงๆ”
แซวหลาน เจ้าหนึ่งกำลังกินข้าวโดยมีพ่อไฟป้อน เขาล่ะหมั่นไส้ เจ้าหนูชอบกินอาหารเล่นๆ ไม่กินกับข้าว ต้องโดนบังคับถึงจะยอมกิน
“น้องหนึ่งไม่ได้กินจุสักหน่อย ลุงอาร์มแหละกินเยอะ”
“กินเข้าไปเลยปากจะได้ไม่ว่าง”
พ่อไฟจัดการป้อนแกงจืดตำลึงเข้าไป ตาหนูเคี้ยวกรุบๆ ทำหน้าตาเอร็ดอร่อย เจ้านายทั้งหลายหัวเราะเช่นเดียวกับเอื้อยคำที่รักและเอ็นดูคุณหนูตัวน้อยๆ ของตน แต่ก็ไม่ลืมจะตอบเจ้านายด้วยเสียงไพเราะ
“ป้าหล้าไม่ได้ทำหรอกค่ะคุณอาร์ม แต่เมื่อกี้คุณเอยเพิ่งจะเอามาให้ ยังมีแกงฮังเลอีกนะคะ ป้าหล้ากำลังยกออกมาค่ะ” ว่ายังไม่ทันขาดคำ ถ้วยแกงขนาดใหญ่ก็ถูกป้าแสงหล้ายกออกมา กำลังร้อนๆ เลย
“หนูเอยทำมาฝากค่ะ ป้าเอาเข้าไมโครเวฟมาให้” ป้าหล้ากล่าว
“แล้วกลับหรือยังล่ะ ทำไมไม่ชวนขึ้นเรือนมากินข้าวด้วยกัน” ย่าจันทร์ถามแม่บ้าน เด็กคนนั้นตนเห็นมาตั้งแต่สมัยแบเบาะ กระทั่งโตเป็นสาวไปเรียนกรุงเทพกลับมาบ้านก็ยังแวะมาสวัสดีตนเองบ่อยๆ โดยเลือกช่วงที่อาชวินไปทำงาน
“กลับไปแล้วค่ะคุณท่าน ดิฉันชวนขึ้นเรือนแต่หนูเอยเห็นว่ามีแขกก็เลยไม่อยากรบกวนค่ะ”
“รบกวนที่ไหน แล้วก็ใช่แขกที่ไหนกันคนกันเองทั้งนั้น วันหลังถ้าหนูเอยมาก็ชวนกินข้าวด้วยกัน ชวนมาหาฉันเลยนะแสงหล้า”
คุณเอื้องฟ้ามารดาของอาชวินพูดสบทบขึ้นมา เสียดายอยู่มากเพราะตั้งแต่ได้ข่าวว่ากลับจากเมืองกรุงมาอยู่บ้าน ท่านก็ยังไม่มีโอกาสได้เจอหน้าหญิงสาวเลย อยากถามเรื่องหน้าที่การงานแล้วก็เรื่องที่คนอื่นเขาลือกันว่าหอบลูกกลับมาด้วยว่าจริงหรือเปล่า
“พี่อาร์มคะ น้องเอยทำอาหารมาให้เรากินแบบนี้ พรุ่งนี้คงต้องหาอะไรกลับไปฝากบ้างแล้วมั้งนะ”
“พูดอะไรก็ไม่รู้ กินข้าวกันต่อดีกว่า”
ชักชวนและเริ่มต้นตักแกงฮังเลใส่ถ้วยเล็กมากินคนแรก กินไปก็ยิ้มไป มีความสุขยิ่งกว่าตอนกินในร้านอาหารหรูๆ ซะอีก
อินทุอรแอบยิ้มพอใจ หันหน้าไปสบตาคุณแม่ คุณย่า ซึ่งพวกท่านทั้งสองก็เข้าใจ
“น้องหนึ่งจะกินแคปหมู” ตาหนูพูดแทรกขึ้นมา
จานแคปหมูตั้งอยู่ใกล้ลุงอาร์มของตน ผู้เป็นลุงลีลานิดๆ ก็ยอมส่งมาให้ก่อนจะกินโชว์ จิ้มลงไปในถ้วยน้ำพริกหนุ่มแล้วนำเข้าปากเคี้ยวกรุบๆ ทำท่าทางอร่อยเสมือนได้ขึ้นสวรรค์ หนูน้อยเห็นดังนั้นจะทำตาม
แคปหมูกำลังจะจิ้มลงถ้วยอยู่แล้วอีกนิดเดียวเท่านั้น ทั้งพ่อไฟแม่อินและคนอื่นๆ รีบร้องห้ามกันยกบ้าน น้องหนึ่งถึงกับเซ็ง