หนุ่มหล่อโชว์พลังแขนยกลงจากรถหลายกล่อง ส้มแต่ละลูกเหลืองอร่ามน่ากิน น่านำมาคั้นเป็นน้ำส้มแท้ 100%
อาชวินลำเลียงยกมันนำมาวางบนแคร่เล็กหน้าบ้านไม้ทรงโบราณขนาดสองชั้น หน้าบ้านมีไม้ดอกไม้ประดับค่อนข้างร่มรื่น น่าอยู่อาศัย ส่วนหลังบ้านแม่ด้ายปลูกผักสวนครัวไว้หลายชนิด
ภรรยาพ่อผู้ใหญ่รับไหว้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส “ขอบใจมากนะจ๊ะ มาทีไรก็เอาของมาฝากแม่ทุกทีเลย เกรงใจจะแย่”
“ไม่ต้องเกรงใจนะครับ ผมเต็มใจเอามาฝากแม่ด้ายกับพ่อโย” สวมบทบาทตีเนียนเป็นลูกของบ้านนี้อีกคน
คราแรกเลยแม่ด้ายก็ไม่คล้อยตามหรอก แทนตัวเองว่าน้าหลายปีจนมาใจอ่อนช่วงหลัง ยอมแทนตัวเองว่าแม่ตามคำสรรพนามที่เขาเรียก
“ขอบใจจ้ะ พ่ออาร์มรีบไหม เข้ามาในบ้านก่อนสิ มากินข้าวกินปลาด้วยกัน ตอนนี้พ่อกับแม่กำลังทำมื้อเย็น ส่วนยัยหนูลงไปเก็บผักที่สวนหลังบ้าน แกเพิ่งมาจากกรุงเทพถึงบ้านเช้านี้เอง มาถึงก็บ่นอยากกินผักสดๆ จิ้มกับน้ำพริกฝีมือแม่ แม่ก็เลยโชว์ฝีมือทำมื้อเย็นชุดใหญ่เลี้ยงคนทั้งบ้าน” แม่ด้ายเป็นผู้ใหญ่ใจดี ใครอยู่ใกล้ก็เย็นตาเย็นใจตามไปด้วย
“ไม่รีบครับ ขอฝากท้องด้วยคนนะครับแม่ด้าย”
“จ้ะ เชิญเข้ามาในบ้านเลยนะ วางส้มไว้ตรงนี้แหละเดี๋ยวแม่ให้พ่อโยเขามายก”
“เอ่อ... แม่ด้ายครับ ผมขอไปช่วยน้องเอยเก็บผักได้ไหมครับ” เอ่ยความต้องการของตนเองออกมา กลัวอยู่เหมือนกันว่าแม่ด้ายจะไม่อนุญาตให้อยู่เพียงลำพังกับน้องสองต่อสอง แต่อย่างน้อยก็ได้ขอล่ะน่า ผลจะออกมาเป็นยังไงเขาไม่คิดมาก
“ดีเลย แม่กำลังอยากได้พริก ฝากเก็บมาด้วยสักสิบเม็ดหน่อยนะ” แม่ด้ายว่าพลางเดินไปหยิบถุงพลาสติกขนาดเล็กมาส่งให้ชายหนุ่ม เป็นการเปิดโอกาสให้อาชวินได้ใกล้ชิดลูกสาวสุดที่รัก
“ได้ครับ สิบ ยี่สิบ สามสิบ สี่สิบเม็ดก็เก็บไหวครับแม่ด้าย ผมขอตัวเลยนะครับ”
อาชวินรีบเดินตัวปลิวอ้อมไปทางสวนหลังบ้านทันที มีคูน้ำเล็กๆ คั่นกลาง เขาต้องเดินบนสะพานไม้เล็กๆ ข้ามไปยังสวน
พยายามมองหาน้องเอยจนเห็นน้องกำลังเก็บผักกาดขาวอยู่ทางด้านหลัง ไม่ไกลจากโซนต้นพริกเท่าไหร่นักจึงรีบเดินเข้าไป แต่รีบไปหน่อยและไม่ทันมองว่าน้องเอยเพิ่งรดน้ำผัก จึงลื่นล้มก้นกระแทกพื้น ร้องเสียงดังมาก กางเกงเขาเปียกและเลอะโคลนไปหมด
เสียงนั้นทำให้เจ้าของใบหน้าหวานรีบหันกลับมามองทว่าไม่เจอใคร อาทิตยานึกกลัวจึงจับตะกร้าผักเข้ามาใกล้ตัวค่อยๆ เดินไปข้างหน้า โผล่ใบหน้าข้ามไปมองอีกช่องมองหาต้นตอเสียง
แล้วก็ต้องกรีดร้องลั่นเมื่อคนแปลกหน้าลุกขึ้นนั่งพอดิบพอดี ตะกร้าผักใบเล็กลอยกลางอากาศกระทบใบหน้าชายคนนั้นเต็มๆ
“โอ๊ย!” มือหนึ่งจับสะโพกส่วนอีกมือยกขึ้นมาจับหน้า ตะกร้าหวายลอยมากระทบสันจมูกเขาเต็มๆ เจ็บไปหมดทั้งเนื้อทั้งตัว
“ว้าย! พี่อาร์ม! เอยขอโทษค่ะ” ทันทีที่เห็นว่าเป็นใคร สาวสวยก็รีบเดินอ้อมมาประคองเขา ยกมือไหว้ไปหลายครั้งเพราะไม่ได้ตั้งใจ “เจ็บมากไหมคะ เอยขอโทษนะคะ ไม่ได้ตั้งใจโยนตะกร้าผักใส่พี่อาร์ม”
“ไม่เป็นไรครับ พี่ผิดเองที่มาแบบเงียบๆ”
โอเค เขาโอเค เจ็บแค่นี้เองต้องอดทนให้ได้สิ อยู่ต่อหน้าสาวนะเว้ยอาร์ม แกจะให้อ่อนแอได้ยังไง
อาชวินส่งยิ้มมาให้ทั้งที่สันจมูกแดงจนเกือบจะช้ำเลือด ทางด้านอาทิตยานั้นส่งยิ้มแห้งๆ กลับคืนไปให้เขา ก่อนจะช่วยพยุงเขาให้ลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล
“ตัวเลอะหมดเลย กลับเข้าบ้านไปเปลี่ยนชุดนะคะ เอยจะไปดูเสื้อกับกางเกงของคุณพ่อมาให้ พี่อาร์มน่าจะพอใส่แก้ขัดได้”
“ขอบคุณมากครับ น้องเอยมาเก็บผักไม่ใช่เหรอ แต่... พี่ทำมันเปื้อนดินหมดแล้ว เสียดายจัง” ผักมันเลอะโคลนแถมบางส่วนมือเขายังกดจมกับดินสกปรกหมดแล้ว เขาก้มลงไปเก็บตะกร้ามาคืนหล่อน
“ไม่เป็นไรค่ะ เอยเก็บใหม่ก็ได้ ส่วนเศษพวกนี้เดี๋ยวเอยล้างแล้วเอาไปให้คุณพ่อผสมกับหัวอาหารให้น้องหมูกิน” ว่าพลางนำตะกร้ากับผักที่ตกพื้นไปช่วยกันล้างกับอาชวิน เขาตัวสูง ค่อนข้างเก้งๆ กังๆ แถมเนื้อตัวก็สกปรกเลอะโคลนไปหมด คอยเดินตามหลังหล่อนต้อยๆ เก็บผักใหม่อีกรอบ ที่บ้านของอาทิตยาทำเกษตรหลายอย่าง ทั้งปลูกผักปลอดสารพิษ และเลี้ยงสัตว์จำพวก หมู ไก่ เป็ด และนำไข่พวกมันไปขาย
กลับมาบ้านคราวนี้คงได้อยู่ยาวเพราะอาทิตยาเพิ่งจะลาออกจากงานที่กรุงเทพ อีกทั้งหล่อนต้องเลี้ยงดูเด็กน้อยตาดำๆ ที่ยังไม่รู้เดียงสา อาจจะมองหางานแถวนี้ทำพอมีเงินมาใช้จ่ายในบ้านให้ครอบครัว
“อ้อ แม่ด้ายฝากพี่มาเก็บพริกสิบเม็ดด้วยนะครับ”
“ค่ะ” อาทิตยาพยักหน้ารับก่อนจะไปเก็บพริกเป็นอย่างสุดท้าย
อาชวินคอยเดินตามหลังคอยลอบมองดวงหน้าสวย น้องสวยจนอยากจะหยิบมือถือออกมาแอบถ่ายรูป แต่ดันลืมหยิบมันมาจากรถนี่สิ
ได้สบตากับน้องเอยทีไรอาชวินส่งยิ้มให้ตลอด ยิ้มบ่อยเกินจนพักหลังน้องเขาไม่ยอมสบตาด้วยอีกเลย
“น้องเอยจะกลับกรุงเทพวันไหนเหรอครับ”
เริ่มชวนคุยพลางช่วยหล่อนเด็ดพริกลูกแดงสดจากต้น
“ไม่มีกำหนดค่ะ เอยเพิ่งลาออกจากงานที่กรุงเทพตั้งใจว่าจะกลับมาหางานทำแถวบ้าน เอยคิดถึงบ้านน่ะค่ะ แล้วก็มีปัญหาที่ทำงานนิดหน่อย” หยุดเด็ดพริกสด เดินไปเก็บผักสลัดใบเขียวขจีน่ากิน เก็บมาจำนวนหนึ่งพอกินสำหรับสี่คน
“มาทำงานในสำนักงานของพี่ไหม ใกล้บ้านนิดเดียวเดินทางไม่ลำบาก หรือถ้าลำบาก เดี๋ยวพี่มารับมาส่งน้องเอยทุกวันเอง”
“ขอบคุณนะคะ แต่อย่าเลยค่ะ เอยไม่อยากถูกใครนินทาว่าเป็นเด็กเส้น อีกอย่างเอยว่าจะไปสมัครทำงานในตัวอำเภอน่ะค่ะ”
“ไม่มีใครว่าหรอก น้องเอยก็เข้ามาสมัครด้วยตัวเองสิ พี่เรียกสัมภาษณ์ในวันนั้นแล้วเริ่มทำงานได้เลย”
“ถ้าอย่างนั้นขอเอยปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ก่อนนะคะ” ตอบแบ่งรับแบ่งสู้ไว้ก่อน รู้หรอกว่าเขาอยากเห็นหน้าหล่อนทุกวันแต่หล่อนไม่อยากเห็นหน้าเขาทุกวันนี่นา ผู้ชายอะไรหล่อรวยซะเปล่าแต่ช่างตื้อเป็นบ้า