"เจ้าพูดถึงข้าว่าอย่างไรกัน"
เจียวหยูย่อกายก้าวขาออกห้องไป เฉิงอู๋อ๋องย่างสามขุมเข้าหาอ้ายฉิงกรุ่นกลิ่นบุปผาในอ่างน้ำอุ่นที่เพิ่งแช่หอมละมุน ใบหน้าสะอาดสะอ้านหล่อเหลาไร้ที่ติ ผมยาวสลวยกับปล่อยให้ร่วงหลุดลงมาข้างใบหน้าคมนั้นน่ามองเหลือเกิน
"ขะ ข้า"ถอยไปด้วยหาทางแก้ตัวไปด้วย ไม่เคยต้องมือชายไม่เคยเข้าใกล้ใครจึงเขินอายเพียงนี้
ยกมือขึ้นกางกั้นไว้ทั้งซ้ายและขวาอ้ายฉิงตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับกายกลิ่นหอมอ่อน ของบุรุษกับใบหน้าที่เกือบจะชิดติดกันอ้ายฉิงก้มหน้าหลบตา
"ฮึฮึ คิดว่าข้าพิศวาสเจ้านักหรือไร ก็เพียงแค่ไม่อยากให้ใครครหาเรื่องที่เจ้าคบชู้สู่ชายพาชู้รักเข้ามาสวมเขาให้ข้าถึงในจวน รู้ถึงไหนอายไปถึงนั่น แล้วจะบอกไว้ก่อนที่ไม่ลงโทษเจ้าเรื่องนี้ ไม่ได้เป็นเพราะปาหวางอ๋อง เจ้าอย่าได้ใจว่าเขาปกป้องเจ้าได้ ข้ากับปาหวางอ๋องแต่ไหนแต่ไร ล้วนขัดแย้งกันมาตลอดที่ข้าทำแบบนี้ส่วนหนึ่งก็เพราะเขา เขาจะได้เลิกยุ่งเกี่ยวกับชายรองข้าเสียที"
"นั่นก็แล้วแต่ท่านอ๋อง อ้ายฉิงบอกแล้วว่าอ้ายฉิงแต่งเป็นชายารองจะตายหรืออยู่ก็เป็นชายารอง"
"ช่างเข้าใจพูดให้ข้าเมตตา น้ำเสียงอ่อนหวานไพเราะอย่างนี้อย่าคิดว่าข้าจะหลงใหลได้ปลื้มไปกับเจ้าในเมื่อใบหน้าอัปลักษ์เพียงนี้ใครกันจะทำใจได้"อ้ายฉิงยิ้ม
"เช่นนั้น ก็ไปเสียหรือไม่ก็หย่าให้ข้าเสีย"
"555หย่า หย่าให้เจ้าเพื่อที่จะให้ปาหยางอ๋องได้สมหวัง...ความจริงข้าก็อยากจะรู้ว่าปาหยางอ๋องชอบของแปลก หรือเป็นผู้มีตาข้างเดียวมองเห็นแต่ใบหน้าด้านที่งดงามของเจ้า"อ้ายฉิงผลักร่างใหญ่อย่างแรงจนเซถลาโมโหกับคำดูถูกนั้น
“กล้าทำร้ายข้าหรือ”
ดึงร่างบางมากระแทกอกกว้าง ลมหายใจรินรดที่ใบหน้า เฉิงอู๋อ๋องกลับรู้สึกว่าร่างบางใบหน้าอัปลักษณ์ตรงหน้ากลับมีกลิ่นกายหอมกรุ่นเป็นกลิ่นหอมเหมือนดอกไม้ นานาชนิด แต่ทว่ากลับรู้สึกทำให้เคลิ้บเคลิ้ม นางมีเวทมนตร์หรือไรจ้องตากลมโตด้วยความรู้สึกว่าพลั้งเผลอ ครองสติไม่ได้เหมือนไม่ใช่เฉิงอู๋อ๋อง ก้มลงช้าๆ ริมฝีปากอุ่นแตะลงที่ริมฝีปากของอ้ายฉิงที่เบือนหน้าหนีเสีย แต่เขาก็ไม่เปิดโอกาสให้นางได้ปฏิเสธริมฝีปากอุ่นประกบเข้าที่ริมฝีปากบางเบาๆ อ่อนละมุนดุจปุยนุ่นบดเบียดนุ่มนวลดูดกลืนความหวานจากสัมผัสอ่อนโยน
ทำไมเขาต้องรู้สึกว่าต้องทะนุถนอมนางเพียงนี้ ดันร่างบางออกช้าๆ หันหลังก้าวขาจากไป อ้ายฉิงทรุดกายลงกับพื้นรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเพราะรสจูบที่หวานล้ำ
เฉิงอู๋อ๋องยกมือขึ้นเช็ดริมฝีปากด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจนัก ทำไมเขาต้องจูบนางหวานเพียงนั้น ทำไมต้องทะนุถนอมหญิงอัปลักษณ์เช่นนาง นางใช้เวทมนตร์ใดกันให้เขาพลั้งเผลออย่างไม่น่าให้อภัย
เจิ้งอ้ายฉิงยกมือขึ้นลูบที่ริมฝีปากตัวเองเบาๆ ความรู้สึกบางอย่าง ซ่านไปทั่วร่างจูบแรกจูบเดียวจากคนที่คำก็อัปลักษณ์สองคำก็อัปลักษณ์
ก่อนหน้านั้น
“แล้วเมื่อไหร่ข้าจึงจะเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงได้”คุณหนูท่านเซียนบอกแค่พียงว่า เมื่อดอกไม่เบ่งบาน คุณหนูจึงจะเปิดเผยใบหน้าได้”
“ดอกไม้เบ่งบาน หมายความว่าอย่างไร”รำพึงรำพันเบาๆ
“คุณหนู ท่านเซียนก็คงหมายถึงเมื่อวันที่ทุกอย่างดูสวยงามหรือวันของคุณหนูมาถึง คุณหนูจึงจะทำตามใจได้”ป้าเป่ยเองก็ยังไม่ให้ความกระจ่าง
“ตอนนี้คุณหนูจะต้องอดทนให้มาก"
“เมื่อโอกาสมาถึง คุณหนูไม่อยากตามหารักแท้หรือไร ป้าเป่ยอยากเห็นหน้าคนที่รักคุณหนูด้วยใจจริงไม่รังเกียจใบหน้าที่เราเสกสรรให้ดูน่าเกลียด แล้วเมื่อเขาเห็นใบหน้าที่แท้จริงแสนจะงดงามของคุณหนู เขาจะเท่ากับได้ของล้ำค่าไว้ในอุ้งมือ”
“คงจะไม่มีคนคนนั้น ใครกันที่จะเห็นใบหน้าอัปลักษณ์แล้วจะชื่นชม”
“จะต้องมีสักคน ที่ไม่ได้มองคุณหนูแค่เพียงใบหน้า”
“ข้าไม่อยากหวัง”น้ำเสียงเศร้าสร้อย
“คุณหนูต้องเชื่อว่าคนคนนั้นจะต้องอยู่จริง”
หวงเฉิงอู๋ ยกมือขึ้นก่ายหน้าผากทำไมไม่ว่าจะข่มตาลงครั้งใดเขาก็ รับรู้ได้ถึงรสจูบที่หวานล้ำเมื่อครู่ กับใบหน้าอัปลักษณ์ของนางทำไมเขาจึงมองข้ามมันไปเสีย
“บัดซบ นางตั้งใจใช้เวทมนตร์กับข้า และก็คงเช่นเดียวกันนางคงใช้เวทมนตร์กับปาหวางอ๋องเรื่องเล่าขานนั้นที่ผู้คนพูดถึง เป็นเรื่องจริงหรือไร ไม่มีทางเวทมนตร์นั้นใช้กับข้าไม่ได้ข้าจะไม่มีทางให้นางครอบงำข้า”
ข่มตาหลับแม้จะฝืนใจเพราะเมื่อหลับตาครั้งใดก็เห็นแต่ บทจูบบทเดิมช้ำๆ
เช้าสดใสเจิ้งอ้ายฉิงยกถังไม้ใส่น้ำตั้งใจรดน้ำต้นไม้รอบๆ ห้องพักวางถังไม้ไว้ จ้วงตักน้ำ
“ชายารองบอนไซเหล่านี้ท่านพี่หวงแหนยิ่งนักเจ้าถือดีอย่างไรจึงกล้ามายุ่มย่าม”เจียวหยูก้มหน้า
“อ้ายฉิงเพียงแค่อยากจะทำประโยชน์เสียบ้าง”
“ได้ อยากทำประโยชน์ข้าจะสงเคราะห์ให้เจ้าเอง”ยื้อเอากระบวยที่มีน้ำสาดเข้าที่ใบน้าของอ้ายฉิง
เจียวหยูรีบเข้าขวาง
“ไปได้แล้ว เจ้าทำประโยชน์แล้วอย่างน้อยก็ให้ข้ารู้สึกว่าวันแย่ๆ วันนี้กลายเป็นวันดีดี ได้จัดการเจ้าให้หายขุ่นมัว”
อ้ายฉิงยกถังไม้ที่มีน้ำอยู่เกือบเต็มสาดเข้าใส่ ฟางหลินทั้งตัว
“กรี๊ดดดด”อาภรณ์เปียกปอน ทั้งหัวหูดูไม่ได้ ชี้มือสั่นเทามาที่อ้ายฉิง
“เจ้าๆๆ เจ้าบังอาจนัก”เงื้อมือขึ้นสุดแรงฟาดลงบนใบหน้าข้างซ้ายของอ้ายฉิงเต็มแรง อ้ายฉิงโมโหลุกขึ้นเงื้อมือเข้าใส่ฟางหลินบ้าง
“หยุด ..นอกจากใบหน้าที่อัปลักษณ์แล้วจิตใจยังต่ำทราม ช่างกล้าลงไม้ลงมือ”
“ท่านพี่ นางเอาน้ำสาดใส่ฟางหลิน พอข้าเอาคืนนางกลับจะลงไม่ลงมือตบตีข้า”อ้ายฉิงยิ้มด้วยความรู้สึกว่าคิดไว้แล้วต้องเป็นแบบนี้
“คุกเข่า ข้าบอกให้คุกเข่า”อ้ายฉิงทรุดกายลงคุกเข่ากับพื้น
“ท่านอ๋อง นายหญิงไม่ใช่คนลงมือก่อนเป็นนายหญิงชายาเอกที่ เอาน้ำมาสาดใส่นายหญิงชายารองก่อนจนเปียกปอน”
“หุบปากของเจ้าเจียวหยู”ฟางหลินตวาดดังๆ
“เจียวหยูกลับไปที่ห้อง เรื่องนี้เป็นข้าที่รับผิดเอง”อ้ายฉิง สั่งเบาๆ
“นายหญิงมันไม่ถูกต้อง”
“บอกให้ไป ไปเดี่ยวนี้เจียวหยู” เจียวก้มหน้าจากไป
“ข้าว่าข้าพูดกับเจ้ารู้เรื่องแล้วที่ให้มาอยู่ที่นี่หาใช่ด้วยความรัก แต่เพราะข้าไม่ไว้ใจเจ้า แล้วยังกล้าถือดีทำร้ายหวางเฟย”
“ข้าใบหน้าอัปลักษณ์ แต่พวกท่านจิตใจกับอัปลักษณ์ไร้ซึ่งความผิดชอบชั่วดี”
“เจิ้งอ้ายฉิงอย่าคิดว่ามีฮองเฮาคอยหนุนหลัง จึงไม่เกรงกลัวใครเช่นนี้”
“ข้าไม่เคยกล่าวอ้างใคร จะลงทัณฑ์ก็เชิญ แต่ใจของพระชายาก็จะรู้สึกผิดอยู่ตลอดไปที่ใส่ร้ายข้า และจงจำใส่ใจไว้ว่าหากข้าไม่ผิด ข้าก็จะไม่มีทางอ่อนข้อให้ใครเช่นกัน”หวงเฉิงอู๋ ดึงร่างบางให้ มาเผชิญหน้า
“ผิดแล้วยังโทษคนอื่นอาฆาตมาดร้ายแค้นเคืองไม่มีสิ้นสุด ข้าคงจะต้องสั่งสอนเจ้าเสียบ้าง”ดึงร่างบางติดมือ พาเข้าไปในห้องก่อนที่เจียวหยูจะถูกไล่ออกมา ด้วยใบหน้าที่ตื่นตกใจ