เมื่อรับประทานอาหารอิ่ม อิงดาวก็เตรียมพร้อมสำหรับการตามจิณณ์ไปทำงานในไร่ หญิงสาวเปลี่ยนมาสวมเสื้อยืดสีขาวทับด้วยเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายตารางตัวเก่ง ทาครีมกันแดดสวมหมวกแก๊ปเรียบร้อย ท่าทางทะมัดทะแมงจนจิณณ์รู้สึกแปลกใจ เขาพบเจอแต่ผู้หญิงกรีดกรายงานหนักไม่เคยทำ ถนัดแต่แต่งตัวเสริมสวยไปวันๆ อรนิภาเองก็ร่างกายไม่แข็งแรง ไม่เคยทำงานหนักในไร่ เขาทะนุถนอมเธอราวกับตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ ไม่เคยให้ทำงานอะไรนอกจากคอยดูแลเขาหลังจากกลับมาจากทำงาน
“พร้อมแล้วก็ตามมาสิ ขับรถเป็นไหม ถ้าเป็นก็ไปขับให้ฉันนั่ง”
จิณณ์ไม่คิดให้หญิงสาวนั่งสบายเป็นตุ๊กตาหน้ารถ จึงใช้ให้เธอเป็นสารถี อิงดาวเดินไปยังตำแหน่งคนขับนำรถกระบะคันใหญ่ ออกแล่นไปตามทางมุ่งตรงสู่ไร่ ตามเส้นทางที่นางนิ่มเคยพามาเมื่อวันก่อน
“ขับรถใช้ได้นี่ ดีแล้วต่อไปฉันจะให้เธอขับรถให้ฉัน”
จิณณ์หาหน้าที่ใหม่ให้อิงดาวทำ นอกจากทำงานบ้าน ทำงานเอกสาร งานในไร่ แล้วยังควบตำแหน่งคนขับรถอีกตำแหน่ง เป็นการใช้งานที่คุ้มค่ามาก
“ค่ะ แล้วแต่เจ้านายจะบัญชาเถอะค่ะ”
อิงดาวตอบรับแกมประชด สงบใจที่กำลังเดือดปุดๆ ให้ตั้งใจขับรถ
“ถ้าไม่ไหวก็ลาออกได้นะ ฉันไม่ห้าม”
จิณณ์บอกอย่างเป็นต่อ กระตุกยิ้มร้ายเมื่อคิดถึงงานในไร่ที่เขาจะให้เธอทำ
“ฉันจะอยู่ให้ครบสามเดือน ฉันไม่ยอมแพ้หรอกนะ”
อิงดาวหันมาตอบก่อนจะตั้งใจขับรถอย่างมุ่งมั่น ทำเอาคนที่อยู่ข้างนั่งยิ้มขำ รู้สึกสนุกที่จะแกล้งหญิงสาวขึ้นมา
“ดี ขับไปที่คอกม้านะ ฉันต้องไปดูเจ้าสายฟ้าสักหน่อย”
อิงดาวขับรถไปยังคอกม้าตามคำสั่ง หญิงสาวนำรถมาจอดหน้าคอก แล้วลงไปเปิดประตูให้จิณณ์ทำหน้าอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
“นายชม เจ้าสายฟ้าเป็นยังไงบ้าง”
จิณณ์เอ่ยถามคนดูแลม้า เขาเดินมายังคอกของเจ้าสายฟ้าม้าตัวโปรด เจ้าม้าสีนิลยื่นหน้ามาซบหลังมือของเจ้านายที่ยื่นให้ ท่าทางไม่ต่างจากลูกหมาเชื่องๆ ตัวหนึ่ง
“มันหงุดหงิดครับ ตอนนี้สายลมกำลังฮีต ม้าตัวผู้มันได้กลิ่นเลยอยากทับครับ”
นายชมอธิบายอาการของเจ้าม้าให้ผู้เป็นนายฟัง ม้าสาวมีอาการพร้อมสำหรับการผสมพันธุ์ ปกติที่ม้าตัวผู้จะเกิดคลุ้มคลั่งอยากทับ
“อ้อนพ่อแบบนี้ อยากมีเมียรึไงสายฟ้า”
จิณณ์ตบแผงคอเจ้าม้าหนุ่มอย่างเอ็นดู เขาหันไปมองตรงคอกของม้าสาว พบอิงดาวกำลังเล่นกับเจ้าสายลมอยู่ จึงเดินไปหา
“ชอบม้าเหมือนกันรึ”
“ชอบมากเลยค่ะ อยากขี่ม้าด้วย”
อิงดาวหันมาตอบพร้อมกับยิ้มประจบอย่างลืมตัว ก่อนจะนึกได้รีบหุบยิ้มสำรวมอาการ
“ขี่ม้าเป็นด้วย แบบนี้คงดูแลม้าเป็น”
จิณณ์พยักหน้ารับ เขามองหน้าหญิงสาวแล้วยิ้มมุมปาก ขณะเอ่ยว่า
“ช่วงนี้เจ้าสายลมกำลังเป็นฮีต ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ฉันจะให้เธอดูแลเจ้าสายลม ดูสิคอกของมันไม่ค่อยสะอาดเท่าไหร่ วานเธอช่วยทำความสะอาดด้วยนะ”
จิณณ์มอบหมายหน้าที่ใหม่ให้อิงดาว ก่อนจะเดินไปบอกนายชม ให้สอนการทำงานให้หญิงสาว ตัวเขาเอาเก้าอี้มานั่งข้างคอกของเจ้าสายฟ้า มองดูหญิงสาวทำงาน
“ฉันให้เวลาเธอหนึ่งชั่วโมง ทำให้เรียบร้อยนะ”
“ค่า... เจ้านาย”
อิงดาวตอบรับเสียงแหลม พยายามหักห้ามความเคืองขุ่นไว้ในใจ ตั้งหน้าตั้งตาทำความสะอาดคอกม้าให้เสร็จทันเวลาที่เขากำหนด ร่างเล็กๆ แบกไม้กวาดไปกวาดขี้ม้าใส่ที่ตักไปเทหลังคอกเพื่อเป็นปุ๋ย ลากสายยางมาล้างพื้นทำความสะอาด ใช้แปรงขัดคราบสกปรกออก แล้วกวาดน้ำจนแห้ง จากนั้นไปขนฟางแห้งมาปูไว้ จิณณ์ห้ามไม่ให้นายชมช่วยให้เพียงแนะนำได้เท่านั้น
“ฉันทำเสร็จแล้วค่ะ”
อิงดาวปาดเหงื่อแล้วเดินมารายงาน ใบหน้าแดงก่ำจากความเหนื่อย
“อืม... ทำได้ดี ฉันต้องไปดูแปลงผักออแกนิกต่อ ไปขับรถสิ”
ไม่ทันพักให้หายเหนื่อย จิณณ์ก็หาเรื่องใช้งานอิงดาวต่อ ราวกับต้องการแกล้งให้หญิงสาวถอดใจ
“ค่า... เจ้านาย”
อิงดาววิ่งไปยังรถ ไม่ยอมให้เขาดูถูกเธอได้ เธอไม่ใช่คนหนักไม่เอาเบาไม่สู้ งานแค่นี้ไม่ทำให้เธอยอมถอดใจง่ายๆ หรอก หญิงสาวขับรถไปจอดหน้าโรงเรือน แล้วลงมาเปิดประตูให้เขา
“เมื่อวานป้านิ่มพามาทัวร์ทั่วไร่แล้วค่ะ ฉันเลยจำทางได้” อิงดาวบอก
“ดี จะได้ไม่เสียเวลาบอก”
จิณณ์เดินนำเข้าไปในโรงเรือน เขายกมือทักทายผู้จัดการไร่ อีกฝ่ายรีบเดินแกมวิ่งมาหา
“นึกว่าวันนี้คุณจิณณ์ไม่มาแล้ว ผมเพิ่งสั่งให้เปลี่ยนรางน้ำใหม่ อันเก่ามีรั่วอยู่หลายจุด”
วิทยาผู้จัดการไร่ธารดาว รายงานผู้เป็นนาย เขามองอิงดาวด้วยสายตาเป็นมิตร แต่เมื่อยินเจ้านายพูดก็รีบหันมาสนใจฟัง
“ตรวจดูให้ทั่วนะว่ามีจุดอื่นอีกหรือเปล่า แล้วสวนกล้วยไม้เป็นยังไงบ้าง”
“เราเพาะเนื้อเยื่อสายพันธุ์ใหม่ได้สำเร็จแล้วครับ คุณจิณณ์จะเข้าไปดูไหมครับ”
“ไว้วันอื่นก็แล้วกัน ออ ฉันลืมแนะนำ นี่อิงดาวเป็นผู้ช่วยของฉัน”
จิณณ์แนะนำหญิงสาวให้อีกฝ่ายรู้จัก พร้อมมอบตำแหน่งผู้ช่วยให้เธอเสร็จสรรพ
“ผมชื่อวิทยาครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณอิงดาว”
วิทยาแนะนำตัวเองกับหญิงสาว พลางยื่นมือไปหมายจับมือทักทาย แต่ก็เก้อเมื่ออีกฝ่ายยกมือขึ้นไหว้ เขาจึงเปลี่ยนมารับไหว้แทบไม่ทัน
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
อิงดาวตอบตามมารยาท แต่ก็ส่งยิ้มผูกไมตรีให้ผู้จัดการไร่หนุ่ม โดยไม่รู้ว่าเจ้านายตัวโตทำหน้าขรึมตาววาววับอยู่ด้านหลัง
“ฉันมีงานเอกสารค้างไว้ กลับก่อนนะ”
จิณณ์เห็นสายตาผู้จัดการไร่หนุ่มมองอิงดาวแล้วรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา เขาจับข้อมืออิงดาวดึงให้เดินตามออกมา ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของวิทยา หัวใจของคนมองหล่นแตกกระจายตรงพื้น เมื่อเห็นอาการของผู้เป็นนายที่แสดงออกกับผู้ช่วยสาว
“ฉันเดินเองได้ค่ะ ทำไมต้องลากด้วย”
อิงดาวสะบดมือออกเมื่อเดินมาพ้นสายตาของวิทยาและคนงานในโรงเรือน ไม่เข้าใจอารมณ์แปรปรวนของจิณณ์ เมื่อครู่ยังดีอยู่แท้ๆ ตอนนี้ทำท่าเหมือนจะขบหัวเธอเสียแล้ว
“กลับบ้าน ฉันเหนื่อยแล้วอยากพัก”
จิณณ์ขึ้นไปนั่งรอบนรถ ออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเข้มจัด ใบหน้าบึ้งตึงไร้รอยยิ้ม ทำเอาอิงดาวต้องรีบขึ้นรถขับออกไปทันที
“ฉันว่าคุณควรไปหาหมอบ้างนะ อารมณ์สวิงขึ้นลงเหมือนคนวัยทองแบบนี้ มันต้องหาทางรักษา”
หญิงสาวแนะนำด้วยความหวังดี แต่คนฟังรู้สึกเหมือนโดนด่าว่าแก่
“ฉันเพิ่งอายุสามสิบสองยังไม่ถึงวัยทอง”
“อาการของคุณมันเหมือนคนเป็นวัยทองเลย อายุยังไม่ถึง แต่ร่างกายอาจจะเสื่อมสภาพก่อนวัย ฮอร์โมนส์อาจจะบกพร่องก็ได้นะคะ”
อิงดาวยังตอกย้ำไม่เลิกรา ทำเอาจิณณ์เคืองจัดอยากจะบีบคอสวยๆ นั้น ให้หยุดพูด
“หุบปาก แล้วขับรถดีๆ”
จิณณ์ตวาดอย่างเหลืออด มองหน้าคนปากดีด้วยสายตาวาววับ อีกฝ่ายห่อไหล่ยิ้มแห้ง รีบตั้งใจขับรถพาคนเจ้าอารมณ์ไปให้ถึงบ้านให้เร็วที่สุด พอรถจอดคนตัวโตก็เดินกระแทกเท้าขึ้นไปยังชั้นบน ใบหน้าบูดบึ้ง
“อะไรกันอีก ทำไมคุณจิณณ์ทำหน้าเหมือนอยากหักคอใครแบบนั้น”
นางนิ่มรีบมาจับแขนอิงดาวเอ่ยถามด้วยความห่วงใย หญิงสาวหัวเราะคิกเฉลยให้ฟังว่า
“คุณจิณณ์ของป้านิ่ม เขาไม่ยอมรับว่าเป็นวัยทองค่ะป้า แนะนำให้ไปหาหมอก็โกรธ อารมณ์สวิงขึ้นลงแบบนี้มันอาการคนวัยทองชัดๆ ฉันไปอาบน้ำก่อนนะคะ”
อิงดาวพูดจบก็เดินเข้าไปในบ้าน นางนิ่มได้แต่ส่ายหน้าด้วยความระอา คนหนึ่งก็เจ้าอารมณ์อีกคนก็ยั่วโมโหเก่ง แบบนี้จะตีกันบ้านแตกก่อนไหม ความหวังของท่านเจ้าสัวดูเหมือนจะริบหรี่ลงไปทุกที
คนแก่ลืมนึกว่าเจ้านายของตนกำลังมีความเปลี่ยนแปลง คนที่ทำตัวชืดชากลับถูกหญิงสาวตัวเล็กยั่วอารมณ์ได้ อิงดาวเข้ามาทำให้ชีวิตของจิณณ์มีสีสันแตกต่างจากเดิม