ทั้งสองคนนั่งทานข้าวด้วยกันตลอดเวลาชายหนุ่มก็เอาอกเอาใจหญิงสาวเป็นอย่างมาก ตักนั่นนี่ให้ตลอดจนเธอรู้สึกเกรงใจ
“พี่ภาคินกินเถอะค่ะเดี๋ยวแสนดีตักเอง”
“ไม่เป็นไรครับให้พี่ดูแลดีกว่า เรานะทำงานหนักต้องดูแลผู้ป่วยทั้งวันพี่รู้ว่ามันเหนื่อยแค่ไหน”
เขาเอ่ยออกมาเสียงอ่อนโยนหยิบน้ำผมไม้ส่งไปให้เธอก่อนจะตักต้มจืดให้กินต่อ หญิงสาวยิ้มออกมาก่อนจะนั่งทานไปเรื่อยๆเพราะพูดอะไรไปเขาก็ไม่สนใจจะทำตามหรอก
“ขอบคุณนะคะที่พามากินของอร่อย”
“จะชวนมาอีกบ่อยๆหวังว่าคุณหมอคนสวยจะไม่ปฏิเสธนะ”
ทั้งสองคนมองสบตากันก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ กินไปคุยไปอย่างสนุกแต่ก็ต้องถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่ายเมื่อเจอกับนายโตคนดีคนเดิมที่เดินเข้ามาพร้อมที่จะหาเรื่องตลอดเวลา
“น้องแสนดีทำไม่ต้องมากินข้าวกับมันด้วย แบบนี้พี่ไม่ยอมนะเย็นนี้น้องแสนดีต้องมากินข้าวกับพี่บ้าง”
“เย็นนี้แสนดีไม่ว่างจ้ะนายโต พ่อกำนันจะมารับกลับบ้าน”
เธอปฏิเสธออกมาตามตรงอย่างไม่ลังเลใจจะคิดก่อนพูด เธอไม่มีความอยากสานสัมพันธ์กับชายตรงหน้าเลยสักนิด คงเพราะเขาเป็นคนอารมณ์ร้ายและชอบแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเธอมากจนเกินไปทั้งที่เราสองคนก็ไม่ได้เป็นอะไรกันเลย มันมีแต่ความรู้สึกอึดอัดอยู่ภายในนั้น
“น้องแสนดีทำร้ายจิตใจของพี่โตมาเลยนะ มานั่งทานข้าวกับผู้ชายคนอื่นพี่เจ็บ! เจ็บมากเลยด้วย”
“โอ๊ย! พ่อพระเอกลิเกเก่า พูดอะไรชวนให้อ้วกไปไกลๆป่ะรำคาญ”
สารวัตรภาคินเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงติดรำคาญ ไปไหนก็เจออำเภอก็ใช่ว่าจะเล็กทำไมถึงมาเจอกันตลอด เขาไม่ชอบที่หมอนี่ทำเหมือนเป็นเจ้าของนางฟ้าของเขา บอกเลยนะว่าใครที่มันคิดจะแย่งคุณหมอไปเขาจะจัดการมันแน่นอน
“นี่แกไอ้เจ้าหน้าที่อุทยานกระจอกๆ แกรู้มั้ยว่าฉันเป็นลูกนายกอบต.ดอนผักหวาน พ่อฉันใหญ่ขนาดไหนแกไม่รู้เหรอ”
“ไม่รู้อ่ะใหญ่ขนาดไหนล่ะ”
เขาทำหน้าเฉยก่อนจะตักอาหารกินต่อพร้อมกับมองไปทางนายโตอย่างกวนๆ นายโตกำมือแน่นอย่างโกรธจัดเกิดมายังไม่เคยมีใครกล้าทำแบบนี้กับเขาเลยเพราะเกรงใจพ่อของเขา แต่ตอนนี้มีแต่ไอ้หมอนี่ที่มันกล้าท้าทายเขาเป็นอย่างมาก
“ได้! แกจะเอาแบบนี้ใช่มั้ย ฝากไว้ก่อนเถอะฉันมาเอาคืนแกแน่นอน”
“อย่าลืมมาเอาคืนนะ รออยู่”
พูดจบก็เดินออกไปจากตรงนั้นทันที เขาจะไปคิดแผนเอาคืนมันให้เจ็บแสบโทษฐานที่มาท้าทายและมาแย่งคุณหมอคนสวยไปจากเขา
“ไอ้ลิงไอ้สิงตามมาข้าจะจัดการมันขั้นเด็ดขาด!”
เขาเรียกลูกน้องให้เดินตามมาเพื่อไปหาแผนการจัดการไอ้ภาคินที่มันท้าทายเขาคนนี้ คุณหมอแสนดีหันไปมองชายหนุ่มอย่างเป็นห่วง
“ทำไมไปท้าทายนายโตแบบนั้นคะ รายนั้นเขาทำจริงนะเพิ่งย้ายมาอย่าไปสร้างศัตรูเลยค่ะมันอันตราย”
“เป็นห่วงเหรอครับ”
เขาเท้าคางมองหญิงสาวด้วยความกวน เธอถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ พยายามแล้วนะที่จะเตือนเขาดีๆแต่ดูเหมือนว่ารายนี้จะไม่กลัวใครจริงๆ
“แสนดีเตือนแล้วนะคะ”
“ไม่ต้องห่วงหรอกนายโตไม่กล้าทำอะไรมากหรอก อาจจะแรงไปหน่อยแต่พี่จะพยายามระวังตัวเองนะ”
“ตามใจแล้วกันค่ะ เป็นอะไรขึ้นมาแสนดีก็ไม่รู้ด้วยแล้ว”
เธอบ่นออกมาก่อนจะหันไปกินข้าวตรงหน้าต่อ ในเมื่อเตือนไม่ฟังก็ปล่อยเลยตามเลยแล้วกัน ถ้าเขามั่นใจว่าตัวเองเอาตัวรอดได้ก็ตามใจเธอช่วยอะไรไม่ได้แล้ว
“ขอบคุณนะครับคุณหมอคนสวยที่เป็นห่วง”
“ไม่ได้ห่วงซะหน่อย”
เธอเอ่ยออกมาก่อนจะทำเป็นไม่สนใจเขาอีก ใช้เวลาทานข้าวด้วยกันต่ออีกสิบนาทีทั้งสองคนก็พากันเดินกลับที่โรงพยาบาล ชายหนุ่มมาส่งคุณหมอแสนดีถึงหน้าห้องก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงหวาน
“เอาไว้จะโทรหานะตอนนี้ต้องไปส่งเอกสารต่อแล้วครับ”
“ขอบคุณนะคะสำหรับอาหารมื้อกลางวัน อร่อยมากเลยค่ะเอาไว้แสนดีเลี้ยงบ้างนะคะ”
“แค่มาทานข้าวด้วยก็ดีมากแล้วครับ พี่ไม่ต้องการให้เลี้ยงขอแค่มาด้วยกันก็พอ”
เขายิ้มออกมาก่อนจะยื่นมือไปเกลี่ยปอยผมที่มันบดบังความสวยงามของเธอเอาไว้ เธอเงยหน้ามองชายหนุ่มก่อนจะหลบสายตาด้วยควาามเขินอาย
“ถ้าพ่อกำนันรู้ว่าแสนดีไปกินข้าวกับพี่ภาคินบ่อยๆต้องโดนดุแน่นอนเลยค่ะ”
“ก็ถ้าแสนดีไม่พูดพ่อกำนันไม่รู้หรอก พี่ไปก่อนนะครับเจอกันใหม่”
เธอพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะมองตามชายหนุ่มไปจนลับสายตา เธอชอบคุยกับเขานะดูเป็นผู้ชายที่ฉลาดและมีทัศนคติที่ดีแถมยังใจดีมากอีกด้วย
“ได้เวลาทำงานแล้ว…”
สารวัตรภาคินขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่งเอกสารต่อเขาเลือกไปสถานีตำรวจช่วงบ่ายเพราะจะได้ทำเนียนว่าไปส่งเอกสารและถือโอกาสไปทำงานด้วย
“มาส่งเอกสารครับ”
เขาส่งเอกสารไปให้ร้อยเวรหน้าสถานีตำรวจก่อนจะเดินไปโดยรอบอย่างสำรวจ ผู้หมวดดนัยเดินมาพอดีก็เลยเอ่ยทักทายเสียงใส
“สวัสดีครับผู้หมวดดนัย”
“คุณภาคินมานี่ก่อนสิผมจะฝากเอกสารไปให้หัวหน้าอุทยานหน่อย เชิญที่ห้องครับ”
ผู้หมวดดนัยกวักมือเรียกให้เขาตามไปที่ห้องและมีผู้กำกับรออยู่แล้ว ทั้งสามคนนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานโดนมีสารวัตรหยิบกล้องที่แอบถ่ายไว้เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์แล้วเอาคลิปที่แอบถ่ายออกมานั่งดูด้วยกัน
“นี่เป็นตอนที่พวกมันคุยกันครับ เสียงไม่ค่อยชัดแต่ว่าหน้าของคนที่หนีไปได้เห็นชัดอยู่”
เขาเลื่อนไปเรื่อยๆก่อนจะกดหยุดแล้วให้ทั้งสองคนลองดูว่าเคยเห็นรึเปล่า ผู้กำกับและผู้หมวดดนัยพิจารณาดูใบหน้าของชายในภาพก่อนจะนิ่วหน้าอย่างเครียดหนัก
“หน้าคุ้นมากเลยครับเหมือนผมเคยเห็น”
“นั่นสิเหมือนเคยเห็นที่ไหนนะ”
ทั้งสองคนทำหน้าคิดหนักก่อนจะร้องอ่อออกมาเมื่อรู้สึกคุ้นเคยเหมือนจะเป็นลูกน้องของใครสักคนในอำเภอเนี่ยแหละ
“ผมว่าคุ้นนะเหมือนลูกน้องของนายกอบต.ดอนผักหวาน”
“จริงด้วย! ผมก็ว่าทำไมคุ้น ทำไมลูกน้องของนายกอบต.ถึงได้ไปส่งไม้เถื่อนได้ หรือว่าเขามีส่วนรู้เห็นเรื่องนี้”
ผู้หมวดดนัยสันนิษฐานว่าน่าจะมีความเป็นไปได้ว่าเจ้านายอาจจะมีส่วนรู้เห็น แต่ในเมื่อหลักฐานไม่ชัดเจนก็ต้องตามสืบกันต่อไป
“เรายังไม่มีหลักฐานชี้ว่าหัวหน้าร่วมด้วยเพราะฉะนั้นยังปักปำใครไม่ได้ ผมจะสืบเรื่องนี้ต่อเองอย่างน้อยเราพอรู้แล้วว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนของใคร เรื่องนี้ผมจัดการต่อเอง”
“โอเคมีอะไรให้ช่วยบอกได้เลยนะสารวัตร”
“ครับท่าน ถ้างั้นผมไปก่อนดีกว่าเดี๋ยวคงสงสัย”
เขาขอตัวกลับก่อนเพราะต้องเอาเอกสารอีกหลายฉบับไปส่งให้หน่วยงานราชการที่อื่นต่อ ชายหนุ่มขับรถออกไปเพื่อจัดการงานที่ได้รับมอบหมายมาให้สำเร็จก่อนจะตาโตเมื่อรู้สึกว่าถนนมันลื่นผิดปกติ
“เห้ยๆๆ”
เขาร้องออกมาเสียงดังลั่นก่อนจะเบิกตากว้างอย่างตกใจ เสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้นจากทางด้านหลังและที่ถนนลื่นนั้นเป็นเพราะนายโตและลูกน้องราดทิ้งไว้เพื่อให้เขาลื่นล้มได้รับบาดเจ็บโดยไม่สนใจว่าคนอื่นจะได้รับผลกระทบไปด้วย
สารวัตรภาคินประคองรถให้นิ่งที่สุดเพื่อไม่ให้มันล้มก่อนจะเห็นหญ้าข้างทางรีบหักเข้าไปทันที จากนั้นก็กระโดดลงจากรถเพื่อให้ตัวเองเจ็บตัวน้อยที่สุด
โครม!
“ฮ่าๆสมน้ำหน้าวะ”
เสียงหัวเราะดังขึ้นไม่ขาดสาย เสียงรถมอเตอร์ไซค์ตกลงไปในป่าหญ้าข้างทางโดยที่สารวัตรภาคินปลอดภัยเพราะเขาได้รับการฝึกมาอย่างดี เขารีบวิ่งไปดักไม่ให้รถคันอื่นขับผ่านเข้ามาไม่อย่างนั้นจะได้รับอันตรายได้
“ทำไมมันไม่เจ็บตัววะ!”
นายโตบ่นออกมาก่อนจะรีบหาทางหนีทีไล่ สารวัตรภาคินมองไปโดยรอบก่อนจะตะโกนเรียกนายโตทันที
“ถ้าพวกนายไม่มาล้างถนนตอนนี้ฉันจะแจ้งตำรวจจับทันที รับรองว่าพ่ออบต.ของนายก็ช่วยไม่ได้”
เขาหันไปเอ่ยเสียงเย็นชาจนทั้งสามคนรู้สึกเสียวสันหลังวาบ ทำไมหมอนี่เวลาเอาจริงเอาจังถึงได้ดูน่ากลัวขนาดนี้
“พวกฉันไม่รู้เรื่องสักหน่อย”
“จะมาทำดีๆหรือว่าจะให้ฟ้องพ่ออบต.ของนาย ก็ลองดูนะถ้าคิดว่าฉันไม่เอาจริง”
เขามองจ้องหน้าพวกนั้นอย่างกดดัน พวกมันทั้งสามคนหันไปมองหน้ากันก่อนจะรีบหาน้ำมาล้างเพราะไม่อยากให้พ่อรู้ ถ้ารู้ขึ้นมาซวยกันหมดแน่นอน
“เออๆทำก็ทำ”